[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 4 เรียนจบแล้ว!
“เอาล่ะ เรื่องออกไปซื้อน่ะไม่มีปัญหาแล้ว แต่แล้วเธอจะขนกลับมาที่บ้านยังไงล่ะ?”
“เอ๊ะ? ใส่ในนี้ไงคะ”
พอพูดแบบนั้น ฉันก็หมุนตัว โชว์ให้อาจารย์เห็นกระเป๋าที่ฉันสะพายเอาไว้อยู่
ข้างในนั้นก็มีแค่เสื้อผ้าใช้เปลี่ยนนิดหน่อย นอกนั้นก็เป็นอุปกรณ์การเรียนกับเงินนั่นแหละ
นั่นคือเงินเก็บทั้งหมดของฉัน ไมได้ซื้ออะไรเลยนอกจากของที่จำเป็นเท่านั้นเลย
เพราะว่าฐานะทางการเงินของฉันที่ยากจน ฉันก็เลยเลือกกระเป๋าที่ไม่ได้ดูสวยอะไร แต่ก็ใบใหญ่แถมทนทานดีด้วย ก็เลยยังมีที่เหลืออยู่ข้างในเยอะเลย ใส่หนังสือที่หนักซักหน่อยได้สบายอยู่แล้ว!
ฉันคิดยังงั้น และก็โชว์ให้อาจารย์เห็นอย่างมั่นใจ แต่อาจารย์ดูจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเลย
“เฮ้อ… มานี่หน่อยสิ”
“อะ ค่ะ”
ฉันถูกอาจารย์ที่ดูแปลกใจนิดหน่อยพาไปที่ห้องที่ชั้น 2 ที่ฉันไม่ค่อยได้ขึ้นไปเท่าไหร่เลย
ข้างบนมีหนังสือเรียงอยู่เต็มไปหมด แล้วห้องก็ดูมืดๆ ด้วย
ตรงกลางห้องมีโต๊ะตัวใหญ่อยู่ตัวนึง แต่มันก็มีของวางรกเต็มไปหมด จนดูไม่ค่อยสะอาดเลย
“รอฉันแป๊บนึงนะ”
หลังจากที่ถูกบอกไว้แบบนั้น ฉันก็ยืนรออยู่ซักพักอย่างว่าง่าย
“นี่คือสารานุกรมแปรธาตุบทที่ 3 ถึง 10 ไงล่ะ เธอเคยเห็นบทที่ 1 กับบทที่ 2 ไปแล้วสินะ?”
พอพูดแบบนั้น อาจารย์ก็เอาหนังสือ 8 เล่มมาวางตั้งให้ดูบนโต๊ะ
“…โห? มันหนาขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
…8 เล่ม? นี่น่ะเหรอ?
สารานุกรมแปรธาตุบทที่ 1 กับ 2 ที่ฉันเคยอ่านที่ร้านของอาจารย์น่ะ มันหนาอยู่แค่ประมาณ 2 เซนเอง
แต่ว่า ความสูงของหนังสือที่ตั้งเรียงขึ้นไปนี่น่ะ มันสูงเกือบ 50 เซนเลย
“เจ้านี่น่ะ ยิ่งเลขบทเพิ่มขึ้น เล่มก็ยิ่งหนาขึ้นๆ เลยนะ ลองยกไว้ซักพักสิ”
“อะ ค่ะ”
ฉันก็ยกหอคอยหนังสือนั่นขึ้นมาตามที่อาจารย์บอกให้ทำ
“อุ- ฮึบ-บ-บ-บ น- หนักจังเลย”
“เห็นมั้ย?”
แขนเล็กๆ ของฉันก็จะพอยกมันได้อยู่นะ
ฉันลองใส่พวกมันในกระเป๋าดู… ฉันคิดว่าอาจจะทำได้นะ
แต่ว่า หลังจากนี้ ฉันก็ต้องหาที่ฝึกงาน แล้วย้ายที่นั่นสินะ
แล้วที่นั่นก็อาจจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงด้วยก็ได้
จะทนการเดินทางระหว่างนั้นได้หรือเปล่าน้า…
“เป็นไงบ้าง? ยังอยากทำงานที่นี่อยู่หรือเปล่า? เธอไม่จำเป็นต้องซื้อสารานุกรมครบทุกบท แล้วก็ไม่จำเป็นต้องหาที่สำหรับฝึกงานด้วย คิดว่ายังไงล่ะ?”
“อึมมมม… ร- เรื่องนั้น… ไม่ล่ะค่ะ! อย่าทำแบบนั้นเลยนะคะ!”
ฉันส่ายหัวอย่างสลดใจให้อาจารย์ที่เชิญชวนฉันพร้อมกับแสยะยิ้มอยู่
ว่าตามตรงนะ โอกาสที่จะฝากตัวเป็นเด็กฝึกงานของนักเล่นแร่แปรธาตุฝีมือระดับอาจารย์เนี่ยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แถมถ้าฉันเรียนรู้อยู่ที่นี่ ก็แทบจะเป็นที่แน่นอนเลยล่ะว่าฉันจะได้พัฒนาความสามารถของตัวเองได้อย่างต่อเนื่องเลยด้วย
ดูเหมือนอาจารย์จะให้ค่าฉันมากพอควรเลย ตั้งแต่ที่อาจารย์ชวนฉันมาทำงานพิเศษแล้ว
แต่ว่า เหตุผลที่ฉันส่ายหัวไปก็เพราะฉันรู้ดีว่าโลกของฉันมันเล็กมากๆ เลย
ฉันต้องอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก แล้วหลังจากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุให้ได้
ขนาดหลังจากเข้าไปในโรงเรียนได้แล้ว ทั้งหมดที่ฉันทำก็คือมีแต่เรียนกับทำงานพิเศษเอง
กิจกรรมที่ฉันทำ ตีกรอบไว้แค่ในโรงเรียน ที่ร้านของอาจารย์ แล้วก็งานพิเศษอื่นๆ
ฉันสัมผัสได้ถึงอันตรายว่า ถ้าเกิดฉันเข้าไปในร้านของอาจารย์ทั้งๆ อย่างนี้ มีหวังฉันคงโตไปโดยไม่สนโลกเลยแหงๆ
พอคิดยังงั้น ฉันคิดว่าตัวเองก็ควรจะเดินด้วยเท้าของตัวเองให้ได้อย่างน้อยก็ซักครั้งนึง
“หึม ยังงั้นเหรอ น่าเสียดายจัง แต่เอาเถอะ การออกไปโลกภายนอกก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเหมือนกัน ยินดีด้วยนะที่เธอเรียนจบแล้ว”
เพราะฉันเคยปฏิเสธไปแล้ว 2-3 ครั้งก่อนหน้านี้ อาจารย์ก็เลยพอจะคาดการณ์คำตอบของฉันเอาไว้แล้ว อาจารย์พยักหน้าให้ฉันนิดๆ ก่อนจะยื่นเป้สะพายหลังใบนึงมาให้
เป้ใบนั้นเล็กกว่าที่กระเป๋าที่ฉันมีอยู่เพื่อประโยชน์ในการใช้งานล้วนๆ ประมาณครึ่งนึง รูปร่างของมันก็ดูทันสมัยนิดนึง
ย้อมเป็นสีแดงสวยเลยด้วย น่ารักจังเลย
มันดูใช้ได้เลยกับการออกนอกบ้านไปไม่ไกลในเมือง แต่ความจุมันดูจะไม่พอสำหรับการเดินทางไกลนะ
ไปนอนรอฉันหยิบมาใช้อยู่ในกระเป๋าของฉันไปก่อนแล้วกัน ล่ะมั้ง?
“บอกไว้ก่อนแล้วกันนะ กระเป๋านั่นมีความสามารถอย่างขยายพื้นที่ความจุ แล้วก็ลดทอนน้ำหนักด้วย ถ้าใช้มันล่ะก็ จะเดินทางไปพร้อมกับสารานุกรมเลยก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ”
“…เอ๊ะ!? จริงเหรอคะ? จะดีเหรอคะ? แพงมากเลยมั้ยคะเนี่ย?”
“ถ้าต้องซื้อก็ใช่นะ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะฉันเป็นคนทำเองเลยไงล่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะ!”
ฉันนึกว่ามันเป็นแค่เป้สวยๆ ซะอีก ที่แท้ก็เป็นอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) หรอกเหรอเนี่ย
ด้วยสถานการณ์ของฉันตอนนี้ ฉันดีใจกับเป้ใบนี้มากๆ เลยล่ะ
หรือที่จริง ถ้าฉันไม่มีเป้ใบนี้ อาจจะแบกสารานุกรมแปรธาตุไม่ไหวก็ได้นะ
…ฉันขอเลือกจะไม่คิดแล้วกันนะว่าเป้ใบนี้ที่นักแปรธาตุระดับปรมาจารย์เป็นคนทำจะราคาขนาดไหนกันแน่ เพราะฉันว่า แค่คิดถึงมัน ฉันก็กลัวแล้วล่ะ
“อ๊ะ แล้วก็มีการป้องกันการถูกขโมยด้วยนะ ไม่ว่าใครก็ใช้มันไม่ได้นอกจากเธอ เพราะงั้น ถ้าเกิดอยากจะเอากระเป๋าใบนั้นให้ใครล่ะก็ พยายามให้เต็มที่จนกว่าเธอจะแก้ส่วนนี้ได้แล้วกันนะ”
“ไม่นะ! ฉันไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วค่ะ! นี่ของขวัญอำลาจากอาจารย์เลยนะคะ!”
ฉันยิ้มกว้าง ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในสายสะพายของเป้
“ว้าว~~~”
ดูเหมือนมันจะขนาดพอดีกับหลังของฉันเลย แต่แขนของฉันก็สะพายได้พอดีเป๊ะเลยด้วย
ต่อให้ใส่กระเป๋าของฉันลงไปด้วยก็ยังมีที่เหลืออยู่เลย
ทั้งๆ ที่ถ้าดูแค่จากภายนอกล่ะก็ กระเป๋าของฉันก็ใหญ่กว่าชัดๆ
“สมกับเป็นอาจารย์เลยค่ะ! สุดยอดไปเลย!”
“น่า แค่นี่น่ะไม่เท่าไหร่หรอก ยังมีของต้องซื้อเพิ่มอีกหรือเปล่าล่ะ? ถ้าสายเกินไป ร้านเขาจะปิดแล้วน้า?”
พอฉันมองกลับไปด้วยตาเป็นประกาย อาจารย์ก็หลบสายตาด้วยสีหน้าเรียบๆ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนากัน
“อะ จริงสิ ฉันต้องไปซื้อก่อนหมดวัน แล้วก็ต้องหาที่ฝึกงานระหว่างที่ฉันยังมีเวลาด้วย! ฉันจะอยู่ที่หอพักต่อก็ไม่ได้แล้วน่ะสิคะ”
ฉันมักจะแวะไปที่บ้านเด็กกำพร้าที่ฉันจากมาอยู่เป็นระยะ แล้วฉันก็ว่าจะไปบอกทุกคนเรื่องที่เรียนจบแล้วด้วย แต่ก็นะ จะให้พูดว่า ‘ขอพักที่นี่หน่อยนะคะ’ มันก็ออกจะยากไปหน่อย
ถ้างั้น คงต้องอยู่ห้องพักไปก่อนซักพักนึง แล้วเริ่มหางานแล้วสิ
แต่ว่า ห้องพักในโรงแรมนี่ก็ค่อนข้างแพงเลยด้วย
แน่นอนล่ะว่ามันก็ขึ้นกับสถานที่ด้วย ที่ที่ถูกกว่ามันก็มี แต่มันก็อันตรายเหมือนกับที่เด็กผู้หญิงอย่างฉันจะไปอยู่ในที่แบบนั้น… มั้งนะ เท่าที่ฉันเคยได้ยินมาน่ะ
“จะพักอยู่ที่นี่ซักพักนึงไปก่อนมั้ยล่ะ?”
“ไม่ค่ะ! ฉันต้องรับผิดชอบแก้ปัญหาเองให้ได้ค่ะ!”
ตั้งแต่ตอนนี้ไป ปีนี้ฉันก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ฉันต้องยืนบนลำแข้งตัวเองให้ได้สิ!
ถ้าทำไม่ดีพอล่ะก็ ฉันก็ต้องลำบาก แต่ถ้าเอาแต่ขี้เกียจล่ะก็… ต้องกลายเป็นคนแบบนั้นแน่ๆ
ฉันเร่งอาจารย์ ก่อนจะรีบไปที่ร้านขายของของโรงเรียน
ถึงมันอาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่กับการมาที่โรงเรียนอีกหลังจากที่เพิ่งจะเรียนจบไปเมื่อกี้นี้เองก็เถอะ แต่จริงๆ มันก็เป็นที่ที่เดียวที่ฉันสามารถซื้ออาร์ติแฟกต์นี่นา
ตอนแรกที่ฉันเข้าเรียน ฉันก็ยังไม่รู้หรอก แต่ตามปกติแล้ว อาร์ติแฟกต์จะเป็นแบบสั่งทำ และลูกค้าที่ต้องการเป็นพิเศษ ―― หรือก็คือนักเล่นแร่แปรธาตุนี่แหละ ―― มีไม่เพียงพอด้วย
ผลก็คือ ทุกอย่างก็เลยจัดการที่ร้านขายของในโรงเรียนซะเลย
TN: ไม่รู้เลยแฮะว่าการเลือกไม่รับข้อเสนอนี้จะดีหรือไม่ดีกันแน่…