[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 44 [2] ตายแล้วยังเหลือหนัง (& เนื้อ) [Part 4]
- Home
- [นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่
- ตอนที่ 44 [2] ตายแล้วยังเหลือหนัง (& เนื้อ) [Part 4]
“แล้วจากวันนี้ คุณจะเริ่มทำเตาไฟพลังเวทแล้วเหรอคะ?”
“นั่นสินะ แต่ก็ ถ้าเกิดวัตถุดิบอย่างแผ่นเหล็กพร้อมแล้วล่ะนะ”
“จะตั้งตารอเลยนะคะ! เตาอบพลังเวท… จะทำอะไรดีน้า…”
พวกคุณไอริสพากันมองดูโลเรียจังกันอย่างงงๆ
วันนี้ ทุกคนหยุดพักงานกัน―――หรือพูดให้ถูกกว่าก็คือ ฉันให้ทุกคนหยุดงานมาอยู่ที่บ้านกันมากกว่า
ที่จริง พวกเธอไปทะเลป่าใหญ่แทบทุกวันเลย เพื่อจะได้ปลดหนี้ได้เร็วๆ แต่มันกลายเป็นการพังร่างกายของตัวเอง แล้วพวกเธอจะได้รับบาดเจ็บกันเอา
เพราะงั้น ฉันก็เลยใช้อำนาจของเจ้าหนี้สั่งกำชับให้พวกเธอได้มีวันหยุดพักผ่อนอย่างเหมาะสมด้วย
ถ้าอีกฝ่ายชอบกดขี่ เขาก็คงจะเร่งให้พวกเธอกลับเข้าไปแล้วล่ะ แต่ดูเหมือนพวกเธอก็จะไม่ได้เกี่ยงอะไรกับเรื่องนั้นนะ
“โลเรียใช้เตาอบทำอาหารเป็นด้วยเหรอ? ―――ไม่สิ เคยใช้เตาอบมาก่อนหรือเปล่า?”
กับคำถามนั้นของคุณไอริส คุณเคทเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสินะคะ ฉันเองนอกจากอบขนมปังแล้ว ก็แทบจะไม่ได้ใช้เตาอบทำอาหารอะไรเลย”
“อูว… จริงๆ ก็แค่เรื่องใฝ่ฝันเองค่ะ ไม่ได้ขนาดนั้น… ขอโทษค่ะ”
ตอนที่บอกว่า ‘ฉันจะทำอาหารเองค่ะ!’ โลเรียจังก็ยิ้มออกมาแบบเขินหน่อยๆ พลางแลบลิ้นออกมา
“ฉันไม่ว่าอะไรหรอก ดีแล้วล่ะ แค่ว่า… พอมาคิดๆ ดูแล้ว ตอนที่ฉันคุยกับอาจารย์เรื่องจะทำเตาอบ อาจารย์ก็ส่งเจ้านี่มาด้วยน่ะ เออ…”
เมื่อวันก่อนนี่เอง มีหนังสือเล่มนึงส่งมาทางวงเคลื่อนย้าย
ส่งของราคาแพงอย่างหนังสือมาแบบนี้เนี่ย สมกับเป็นอาจารย์เลย
ถึงจะไม่ได้มีจดหมายแนบมาด้วย แต่ฉันก็พอเดาวัตถุประสงค์ได้อยู่นะ
―――เพราะชื่อของหนังสือมันคือ [รวมมิตร อาหารจากเตาอบ]
“โลเรียจัง อยากอ่านหน่อยมั้ย?”
“เอ๋!? จะดีเหรอคะ?”
“อื้อ ถ้าเธอจะเอาไปใช้งานต่อนะ”
“แน่นอนค่ะ! ฉันจะต้องทำของอร่อยๆ ให้คุณซาราสะให้ได้เลยค่ะ!”
“ฉันจะตั้งตารอนะ”
พอฉันยื่นหนังสือสูตรอาหารที่วางอยู่บนชั้นไปให้โลเรียจัง เธอก็ดีใจจนยิ้มกว้าง แล้วก็เอาหนังสือเล่มนั้นไปกอดเลย
ตอนนี้ ฉันอยากตั้งสมาธิไปที่การเล่นแร่แปรธาตุด้วย ถ้าโลเรียจังสามารถเอามันไปใช้ได้ ฉันก็ดีใจมากเลยล่ะ
“แต่ สำหรับวันนี้ พวกเราออกไปทานมื้อกลางวันกันข้างนอกก่อนนะคะ”
“ได้เลยค่ะ”
““ค่ะ””
ตอนนี้เธอมีเงินค่าจ้างแล้ว อาจจะเพราะใกล้จะเป็นผู้ใหญ่ด้วยล่ะมั้ง ช่วงนี้ โลเรียจังก็ออกมาทานอาหารกับพวกเราบ่อยกว่ากลับไปทานที่บ้านแล้ว
มีบางครั้งที่โลเรียจังเอาอาหารมาฝากด้วยเหมือนกัน แต่ว่าวันนี้พวกเราไม่มี เพราะงั้น เราทุกคนก็ไปที่ร้านของคุณดีรัลกัน―――เหมือนอย่างเคย
“เดี๋ยวแวะไปที่ร้านของคุณจิสด์หน่อยนะคะ? บางที แผ่นเหล็กอาจจะเสร็จแล้วก็ได้”
ฉันเดินแวะเข้าข้างทางไปที่ถนนเส้นเล็ก แล้วก็ไปที่ร้านของคุณจิสด์ แต่ว่า…
“ขอโทษด้วยนะ ยังได้ไม่ครบเลย”
คุณจิสด์ให้ฉันดูแผ่นเหล็ก 7-8 แผ่นที่วางอยู่ ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
จากเสียงค้อนตอกที่ดังมาจากด้านหลัง ดูท่าคุณจิสด์จะยังอยู่ระหว่างกระบวนการผลิตอยู่เลย
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มีปัญหาเลย ถ้างั้นตอนนี้ ฉันเอาแค่ 2 แผ่นกลับบ้านก่อนแล้วกันนะคะ”
เตาไฟพลังเวท 1 เตาต้องใช้แผ่นเหล็ก 2 แผ่น
ถ้าทำเสร็จ ก็สามารถทำอาหารทั่วๆ ไปได้แล้ว ส่วนเตาอบเนี่ย ไว้ค่อยทำทีหลังก็ยังไม่เป็นไร
“ไม่เป็นไรแน่นะ? มันหนักพอควรเลย แต่ก็นะ…”
“เอ๋ แค่นี้เอง―――”
“นายท่านผู้จัดการคะ ให้ฉันช่วยนะคะ”
ตอนที่ฉันกำลังจะบอกว่าไม่มีปัญหาหรอก คุณไอริสที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันก็ชี้ไปแผ่นเหล็ก 2 แผ่นที่อยู่บนสุดของกอง พลางถามว่า ‘อันนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ?’
“อา ไม่ใช่ค่ะ อันที่ต้องใช้คือขนาดเท่ากับ 2 แผ่นล่าง แต่ว่า ยกไหวใช่มั้ยคะ?”
มันหนักพอควรเลย แต่ก็ไม่ใช่ถึงกับยกไม่ไหวหรอก
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ติดหนี้นายท่านผู้จัดการอยู่ด้วย เพื่อสภาพจิตใจของฉันเอง ขอให้ฉันทำเถอะนะคะ… อีกอย่าง ถ้าเกิดนายท่านผู้จัดการแบกแผ่นเหล็กพวกนี้ ในขณะที่ฉันเดินตัวเปล่าๆ ชาวบ้านจะมองฉันกันแบบไหนล่ะคะ?”
พอคุณไอริสพูดออกมาแบบนั้น ทุกคนก็ยิ้มออกมาแห้งๆ กัน ยกเว้นแค่ฉันคนเดียว
“อา พอนึกถึงร่างกายของคุณซาราสะแล้ว…”
“ทุกคนในหมู่บ้านก็รู้แล้วล่ะว่า มันไม่ใช่อย่างที่ตาเห็นน่ะ…”
“ที่จริงแล้ว เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านเลยนี่”
“โธ่… ถึงยังไง ฉันก็ไม่ใช่เด็กนะคะ”
แต่ ถ้าถามถึง ‘ความจำเป็น’ เนี่ย ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ปฏิเสธนะ
ฉันขอให้คุณไอริสช่วยยกแผ่นเหล็ก 2 แผ่นมาด้วย แล้วก็ตรงไปที่เรียวกังควบโรงอาหารของคุณดีรัลต่อ
โชคดีจังที่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น จำนวนนักเก็บสะสมก็เลยลดลงไปเยอะ ก็เลยมีโต๊ะให้พวกเรา 4 คนนั่งกันได้หมดเลย ขนาดตอนนี้ก็เที่ยงตรงแล้ว
คุณไอริสวางแผ่นเหล็กลงบนโต๊ะ พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่เสียงดัง ‘ฟู่ว…’ เลย
ทุกคนนั่งลง แล้วก็เรียกคุณดีรัล
“คุณดีรัลคะ! อาหารกลางวัน 4 ที่ค่ะ!”
“ได้เลย! ―――โห แผ่นเหล็กนั่นอะไรน่ะ?”
คุณดีรัลที่มองมาที่พวกเรา ก็จ้องเขม็งไปที่แผ่นเหล็กที่วางตระหง่านอยู่กลางโต๊ะ ก่อนจะถามออกมาอย่างสงสัย
ก็ไม่แปลกหรอกนะ มันไม่ใช่อะไรที่คนทั่วๆ ไปจะถือเดินไปเดินมานี่นา
“นี่เหรอคะ? เป็นวัตถุดิบสำหรับเตาไฟพลังเวท ฉันอยากจะเอามาตั้งที่บ้านของฉันน่ะค่ะ”
“เห เตาไฟพลังเวท ซาราสะจังจะทำกินเองที่บ้านแล้วสินะ?”
“ค่ะ แต่คนทำเป็นโลเรียจังนะคะ”
“โหๆ โลเรียเหรอ ถ้างั้น ต่อไปก็จะมาใช้ที่นี่น้อยลงแล้วงั้นสิ”
“อืม ก็น่าจะเป็นแบบนั้นมั้งคะ? ถ้าโลเรียจังไม่ได้อยู่ด้วย ฉันคิดว่าก็คงมาที่นี่อยู่นะคะ ฉัน ทำอาหารไม่เก่งน่ะค่ะ”
ทักษะการทำอาหารของฉันไม่ได้พัฒนาขึ้นเลยตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียน หรือก็ตั้งแต่ยังไม่ 10 ขวบเลยด้วยซ้ำ
อาหารที่ฉันทำเองเนี่ย ต่อให้มองด้วยสายตาเป็นบวกด้วยแล้ว ก็ดูไม่น่าอร่อยเลยซักนิด
ฉันอยากจะค่อยๆ เรียนรู้การทำอาหารไปทีละนิดๆ อยู่นะ แต่… การเรียนรู้ด้วยตัวเองเนี่ยมันใช้เวลาเยอะมาก แถมถ้าต้องเปิดร้านแบบนี้ด้วย ก็หาเวลาขนาดนั้นไม่ได้ด้วย
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องคิดมากแบบนั้นหรอกนะ ถ้านักเก็บสะสมเพิ่มขึ้น ที่นี่ก็จะกลับมาคนแน่นขึ้นเหมือนกัน แต่ว่า น่าอิจฉาจังนะ เตาไฟพลังเวทเหรอ ชั้นก็อยากมีไว้ใช้ที่นี่เหมือนกันนะ แต่มันแพงเนี่ยสิ…”
“ก็ อย่างต่ำๆ ก็ 120,000 แรร์นะคะ ไม่ได้ซื้อได้ง่ายๆ เลย”
อย่างน้อย ก็ไม่ใช่ราคาที่ครัวเรือนทั่วไปจะซื้อกันได้ล่ะนะ
ต่อให้ช่วยประหยัดราคาไม้ฟืนไปได้แค่ไหน ก็ยังไม่คุ้มอยู่ดี
ยิ่งเป็นชนบทแบบนี้ด้วย ไม่เหมือนกับในตัวเมืองที่ราคาไม้ฟืนแพงกว่ากันพอควรเลย
“โอ๊ะ! ซื้อในราคา 120,000 ได้เหรอ? ก่อนหน้านี้ที่ชั้นเคยถามดาร์นา เขาบอกว่าอันถูกสุดก็ราคา 200,000 แล้วนี่? บางเจ้าก็ 300,000 เลยด้วยซ้ำ”
“อา อันนี้เป็นแบบที่ใช้ตามครัวเรือนค่ะ หม้อที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้งานอยู่ที่นี่ขนาดประมาณไหนเหรอคะ?”
“อืม ซัก 50 เซนได้อยู่นะ”
สมกับเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์เลยแฮะ หม้อขนาดใหญ่เลย
เตาไฟพลังเวทที่ฉันจะทำครั้งนี้ขนาดก็อยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ก็ใหญ่กว่านั้นเกือบ 2 เท่าสินะ
“งั้น… ซัก 150,000 เป็นยังไงคะ?”
“ก็ยังถูกอยู่ดี! แล้วไหงดาร์นาถึงได้ราคาแบบนั้นมาล่ะเนี่ย?”
กับคุณดีรัลที่พูดออกมาอย่างไม่พอใจ โลเรียจะร้อง ‘เอ๋!?’ ออกมา แถมหน้าเสียไปเลย ก่อนจะมองที่หน้าของฉัน สลับไปมากับหน้าของคุณดีรัล―――ไม่ใช่ว่าคุณดาร์นาพยายามจะขูดรีดหรอกนะ จริงมั้ย?
“เพราะเป็นราคาที่รวมค่าขนส่งไปด้วยค่ะ เตาที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ จะหนักเกิน 100 กิโลกรัมเลย แถมถ้าร่วงตกก็แตกเสียหายด้วยนะคะ?”
เพื่อไม่ให้เกิดข่าวลือที่เสียหายแปลกๆ นี้กระจายไป ฉันก็เลยต้องอธิบายให้เรียบร้อย
ยิ่งถ้าฉันเป็นสาเหตุของเรื่องร้าวรานในหมู่บ้านด้วยอีก น่ากลัวจัง
ฉันรู้สึกแย่กับลูกสาวของเขาอย่างโลเรียจังด้วย
เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ ตัวแผ่นเหล็กจะใหญ่กว่า แล้วก็หนากว่าอีกนิดหน่อย จะหนักก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
เรื่องเวลากับการลงแรงน่ะไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ที่ยากก็คือการขนส่งนี่แหละ
เพราะแบบนี้แหละ การกะราคาโดยประมาณของคุณดาร์นาก็ไม่ได้สูงเกินไปเลย
“ดูแผ่นเหล็กนี่ดูสิคะ อันนี้คือวัตถุดิบสำหรับใช้ทำเตาไฟพลังเวทแบบที่ใช้ในครัวเรือนค่ะ พอนึกภาพออกแล้วใช่มั้ยคะ ถ้ามันหนักกว่านี้อีกซักสองสามเท่า?”
“ที่ของซาราสะจังถูกกว่าก็เพราะไม่มีค่าขนส่งงั้นสินะ?”
“แบบนั้นเลยค่ะ แต่ถ้าจะตัดสินใจซื้อเนี่ย เรื่องพลังเวทไม่มีปัญหาใช่มั้ยคะ?”
“อ่า ชั้นกับผัว 2 คนแค่นี้ก็เอาอยู่แล้ว ไม่ได้มีใครมาใช้หรอก”
เตาไฟพลังเวทใช้เชื้อเพลิงจากพลังเวทของผู้ใช้งาน
แล้วก็เป็นไปตามสัดส่วนของขนาดเลย ถ้าเป็นเตาขนาด 50 เซนติเมตรสำหรับใช้งานในทางธุรกิจ ก็จะต้องใช้พลังเวทมากกว่าเตาแบบใช้ในครัวเรือนเกือบ 2 เท่าเลย
แถม จุดที่ต่างจากเตาที่ใช้ในครัวเรือนเลย ก็คือเตาจะถูกใช้ในห้องอาหารแทบตลอดทั้งวัน
ถ้าเป็นคนมีพลังเวทน้อยล่ะก็ มันจะหมดไปเร็วมากเลยล่ะ
ถ้าลองคิดแบบนี้ดูแล้วเนี่ย แสดงว่าพวกคุณดีรัลจะต้องมีพลังเวทอยู่ประมาณนึงแน่เลย
“150,000 งั้นเหรอ ถ้าพยายามก็… อืม”
“ฉันพร้อมรับคำสั่งซื้อเสมอเลยค่า~ เตาไฟพลังเวทเนี่ย~ ทั้งสะดวกทั้งประหยัดเลยนะค้า~ ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงเลย ความร้อนก็เปิดขึ้นได้อย่างอิสระ แล้วมันก็ไม่ได้จุดไฟขึ้นมา ในฤดูร้อนก็จะได้ไม่ร้อนด้วยนะคะ”
ฉันแอบลองพูดขายของกันซักหน่อย
ฉันไม่ได้บังคับให้ซื้อนี่นา แค่ (แอบวางแผน) มัดใจลูกค้าเอาไว้เท่านั้นเอง เนอะ?
คนทั่วๆ ไปที่ไม่ได้มีอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) ก็ไม่ได้มีช่องทางอื่นที่เอาพลังเวทไปใช้อยู่แล้ว เพราะงั้น ถ้าเกิดพวกเขาสามารถประหยัดเรื่องค่าเชื้อเพลิงไปได้แบบนี้ จะซื้อช้าซื้อเร็ว ยังไงก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาดแน่นอน
อาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย
“อื~~ม ชั้นก็อยากซื้ออยู่หรอก แต่ก็น้า… ซาราสะจัง ลดหน่อยไม่ได้เหรอ?”
คุณดีรัลพูดแบบนั้น พลางยื่นมือมากุมมือของฉันเอาไว้ แต่ก็นะ ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุแล้ว มันมีเหตุผลที่ทำให้ฉันลดราคาไม่ได้ง่ายๆ ด้วยน่ะสิ…
“เออ คือ ถ้าเกิดทำให้ราคาตลาดปั่นป่วนเกินไป มันจะทำให้เกิดปัญหานะคะ”
“อ่า จริงด้วย มีเรื่องแบบนั้นอยู่ด้วยนี่นะคะ”
คุณไอริสพยักหน้าด้วยท่าทางเข้าใจถึงปัญหาที่ฉันกำลังหมายถึงอยู่
“ไม่ว่าจะไปที่ร้านไหน ราคาก็จะไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกค่ะ―――ถึง ในแง่ของผลลัพธ์นี่ อาจจะต่างกันไปก็ได้”
“อะฮะฮะ… ส่วนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุแล้วล่ะค่ะ มันมีราคามาตรฐานกลางอยู่… แน่นอนว่า ความแตกต่างที่เล็กน้อยตามแต่ละท้องที่ก็จะขึ้นอยู่กับการเข้าถึงวัตถุดิบค่ะ”
เมื่อกี้นี้ ฉันใช้สีหน้า ‘จับตามอง’ แต่ก็เพราะนโยบายของประเทศแห่งนี้ พวกเขาทำเรื่องหลายๆ อย่างโดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักเล่นแร่แปรธาตุมีคุณภาพให้เพิ่มมากขึ้นล่ะนะ
ไม่ว่าจะวิทยาลัยฝึกสอนนักเล่นแร่แปรธาตุ ทุนการศึกษา หรือสิทธิประโยชน์ของนักเล่นแร่แปรธาตุ
ถ้าทำอะไรสวนทางขัดกับพวกเขาแล้วล่ะก็ มันจะไม่จบแค่ถูก ‘จับตามอง’ แล้วล่ะ
อีกฝ่ายนึงเป็นอำนาจรัฐเลยนะ ฉันพูดไม่ได้แบบชัดๆ หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกันแน่
“ถ้ามีเรื่องแบบนั้นอยู่ ก็คงจะบอกว่าไม่มีเหตุผลไม่ได้หรอกนะ… ถ้างั้น ถ้าชั้นซื้อ 2 เตาล่ะ?”
“เอ๊ะ? 2 เตา? ถ้าต้องการจะซื้อจริงๆ ฉันก็ให้ส่วนลดได้นะคะ แต่ว่า…”
ถ้าประมาณนั้น ก็พอจะอะลุ่มอล่วยได้อยู่นะ――
“เอาแบบนั้นเลย! ชั้นขอซื้อ 2 เตานะ!”
TN: อย่าโดนป้าย [SALE] หลอกเอาสิป้า 555