บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 254 อภินิหารใหม่
ฟางเจิ้งเงยหน้าขึ้นมองฟ้า “จากนี้นายแทนขาโต๊ะไปก่อน จนกว่าวัดจะมีโต๊ะตัวใหม่!”
หมาป่าเดียวดายตาเหลือก นอนหมอบกับพื้นแกล้งเป็นหมาตาย
ลิงหัวเราะที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์ ฟางเจิ้งหันหน้าไปตบหัวมันทีหนึ่ง “นายกับเจ้าหมาป่าเดียวดายเป็นคนวัดนี้ เป็นญาติกัน นายทับถมคนอื่น เห็นคนอื่นทุกข์แล้วมีความสุขแบบนี้ หึๆ…”
ลิงเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี
“พรุ่งนี้เริ่มไปตักน้ำกับเจ้าหมาป่าเดียวดาย” ฟางเจิ้งพูดจบก็เรียกกระรอกกลับไปพักในกุฏิ
ด้านนอก หมาป่าเดียวดายถลึงตาโตมองตาเล็กๆ ของลิง สุดท้ายลิงทำหน้าเศร้า หมาป่าเดียวดายกลับดีใจจนกลิ้งไปกับพื้น เห็นได้ว่าตัวมันซวยจริงๆ แต่เจ้านี่ที่อยากหัวเราะเยาะมันซวยไปด้วย ความรู้สึกนี้ก็ไม่เลว…
“ระบบ ภารกิจเป็นยังไงบ้าง?” ฟางเจิ้งกลับกุฏิ ถามโดยไม่สบายใจเล็กน้อย
“สำเร็จแล้ว แจกบุญกุศลแล้ว เหลือแค่จับรางวัล” ระบบตอบ
“เอ่อ…สำเร็จแล้วนายไม่แจ้งหน่อยล่ะ?” ในใจฟางเจิ้งมีตัววรนุชวิ่งผ่านแสนตัว เขาพบว่าระบบยิ่งพึ่งพาไม่ได้ขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าระบบไม่เหมือนระบบที่ได้มาตรฐาน แปดส่วนเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์! หรือว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นสวนมะเขือเทศ?
“ไม่ได้แจ้งเหรอ? เอาล่ะ ตอนนี้จะแจ้งนายอย่างเป็นทางการ ภารกิจสำเร็จแล้ว ในช่วงเวลาภารกิจทำได้…นายทำหน้าแบบนี้อยากโดนหักคะแนะเหรอ?” ระบบลากเสียงยาว
ฟางเจิ้งเก็บแววตามองค้อนไป เอาสองมือฉีกมุมปากขึ้น ทำท่าว่าฉันกำลังยิ้มอยู่ “เป็นไง?”
“ทำได้ดี ดังนั้นเลยได้คะแนนเต็ม ให้บุญกุศลหนึ่งพันแล้ว ตอนนี้เริ่มจับรางวัลไหม?” ระบบถาม
“จับ!” ฟางเจิ้งตอบในฉับพลัน
“ติ๊ง! ยินดีด้วย ได้รับอิทธิวิถีที่ไม่สมบูรณ์ของอภิญญาหก[1] ทุกครั้งที่แสดงอภินิหารจะลดบุญกุศลลงตามอภินิหาร ลดน้อยสุดหนึ่งแต้ม หมายเหตุ เพราะเดิมทีอภินิหารไม่สมบูรณ์ ดังนั้นใช้อภินิหารทุกครั้งจึงกำหนดไม่ได้ว่าจะเป็นอภินิหารอะไร ผลของอภินิหารจะทำการสุ่ม ได้แค่เลือกความเล็กหรือใหญ่ของอภินิหารเท่านั้น”
‘เอือก!’ ฟางเจิ้งแทบกระอักเลือด เขารู้จักอภิญญาหกอย่างดี มีอิทธิวิถี ทิพยจักขุ ทิพยโสต เจโตปรยญาณ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ อาสวักขยญาณ อภิญญาหกต่างมีความปาฏิหาริย์เหนือคนธรรมดา แต่อิทธิวิถีไม่ใช่อภินิหารธรรม แต่เป็นการรวมอภินิหาร เช่นโปรยถั่วเสกเป็นทหาร สะบัดเหงื่อเป็นฝน ย้ายภูผาเคลื่อนแม่น้ำ เดิมทีได้อภินิหารนี้เป็นเรื่องดี แต่จะสุ่มผลอภินิหารนี้มันบ้าอะไร? ควบคุมการใช้งานไม่ได้เลยจะมีประโยชน์อะไร?
หิวอยากจะเปลี่ยนเป็นผักจานหนึ่ง แต่พอโบกมือกลับออกมาเป็นอุจจาระเต็มโต๊ะ มันจะทำอะไรได้?
และที่หนักหนากว่านั้นคือใช้อภินิหารแล้วบุญกุศลลด! เขาสะสมบุญกุศลง่ายหรือ? ถึงตอนนี้เขามีบุญกุศลแค่ 1204 เท่านั้น! ถ้าไม่ระวังใช้อภินิหารใหญ่ ดีไม่ดีฟางเจิ้งที่จะหลุดจากความยากจนได้กลับไปก่อนปลดแอกแน่นอน ดีที่เขายังควบคุมขนาดของอภินิหารได้ แบบนี้เท่ากับควบคุมการลดบุญกุศลได้ทางอ้อม
ทว่าพอนึกถึงระดับความยากของการได้บุญกุศลมา ‘โน้มน้าวให้เป็นคนดี เติมเต็มความปรารถนาทั่วไปของคนดีได้บุญกุศลหนึ่งแต้ม ช่วยคนได้บุญกุศลสองแต้ม พาคนชั่วกลับใจได้บุญกุศลสี่แต้ม’ ฟางเจิ้งพลันรู้สึกว่าอภินิหารนี้หรูหราเกินไป ใช้ไม่ลง!
“ระบบ อภินิหารที่ไม่สมบูรณ์นี่จะเติมให้มันสมบูรณ์ได้รึเปล่า?” ฟางเจิ้งถาม
“ได้” ระบบตอบ
“เติมยังไง?” ฟางเจิ้งถาม
“ยกระดับ แต่การเติมอภินิหารกับยกระดับอภินิหารต่างกัน มันต้องใช้บุญกุศลหนึ่งหมื่น เงินค่าธูปหนึ่งแสนจะยกระดับได้หนึ่งระดับ ทุกการยกระดับบุญกุศลกับเงินค่าธูปจะเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า ยกระดับสิบครั้งเต็มจะเติมอภินิหารให้สมบูรณ์ได้ เป็นยังไง? ถูกมากเลยใช่ไหม?”
“ถูก? หึๆ…ฉันล่ะอยากทุบนายให้ตาย!” ถึงฟางเจิ้งจะเรียนคณิตไม่ค่อยเก่ง แต่นับนิ้วคำนวณบุญกุศลที่ต้องเสียไปแล้ว เพียงแค่เงินค่าธูปก็ต้องจ่ายสิบล้านกว่าๆ! บุญกุศลก็ล้านขึ้นไป! มีบุญกุศลแบบนี้เขาจะยกระดับอภินิหารทำบ้าอะไร เก็บไว้สึกไม่ดีกว่าหรือ? ขณะเดียวกันฟางเจิ้งเข้าใจแล้ว การจะสึก ถ้าไม่มีความแน่วแน่ในการปฏิเสธการล่อลวงและกับดักต่างๆ ของระบบล่ะก็ ชาตินี้อย่าหวังได้สึกเลย
ไม่ว่าจะพูดอย่าง แม้อภินิหารนี้จะไม่ดีอยู่บ้าง แต่สรุปแล้วก็ไม่ถือว่าแย่มากนัก ดังนั้นจึงพูดว่า “ช่างเถอะ ระบบ เอาอภินิหารให้ฉัน”
ต่อมาแสงแห่งพุทธส่องเข้าไปในหัวฟางเจิ้ง เขารู้สึกว่ามีของประหลาดมากมายเข้าไปในหัว ขณะเดียวกันเกิดการตระหนักในใจขึ้น นั่นคือความเข้าใจต่ออภินิหาร อิทธิวิถี คนดั่งเทพ เทพดั่งคน หนึ่งความคิดเป็นเทพ ยันฟ้าควบคุมปฐพี! น่าเสียดายเขาเป็นเทพที่ไม่สมบูรณ์…
แต่สิ่งที่ฟางเจิ้งตกใจระคนดีใจคือทุกครั้งที่เขาแสดงอภินิหารจะเห็นอภินิหารที่จะสุ่มได้ว่าเป็นอะไร อาจพูดได้ว่าหากเขาขยันเปลี่ยน ก็ใช่ว่าจะเลือกอภินิหารที่ตนต้องการไม่ได้ เขาพลันหัวเราะ แบบนี้ไม่ถือว่าเสียหายมาก
ตอนนี้เองหมาป่าเดียวดายเดินแกว่งไกวเข้ามา ฟางเจิ้งยิ้มเล็กน้อย เดินเข้าไป “เจ้าหมาป่าเดียวดาย ซ่อมโต๊ะเสร็จยัง?”
หมาป่าเดียวดายได้ยินดังนั้นจึงนอนหมอบกับพื้น เอากรงเล็บปิดหน้า ทำท่าทางเหมือนรอถูกทุบตี
ฟางเจิ้งพูดไม่ออกเล็กน้อย ตอนแรกเจ้านี่ดุร้ายจนคนตกใจกลัวไปหมด แต่ดันมาแสดงแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“เอาเถอะ เห็นแก่ว่านายทำตัวดี ไปเถอะ ตามอาตมาไปดูโต๊ะนั่นกัน” ฟางเจิ้งหัวเราะพลางเดินมาถึงหน้าโต๊ะ
“เจ้าอาวาส คิดจะทำอะไรน่ะ?” หมาป่าเดียวดายมองฟางเจิ้งด้วยความไม่เข้าใจ
ฟางเจิ้งทำมือว่าอย่าส่งเสียง ก่อนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอยู่กับที่…
พอได้ยินเสียงจากข้างหลังลานวัด ลิงกับกระรอกเข้ามาดู เห็นฟางเจิ้งกระโดดเหมือนโดนผีเข้าจึงมองตากัน ทำหน้างงๆ ‘นี่มันอะไรกัน?’
ฟางเจิ้งเห็นสัตว์สามตัวมองมา ทำหน้าเหมือนมองคนปัญญาอ่อนจึงหยุดกระทำการต่อไปอย่างเด็ดขาด แล้วกระแอมไอทีหนึ่ง “อาตมาร้อนข้างล่างน่ะ” ไม่ผิด เจ้านี่คิดว่าการแสดงอภินิหารที่ใช้แค่ความคิดก็สำเร็จยังไม่เจ๋งพอ เลยกระโดดไปมาเหมือนที่เห็นในการ์ตูน ทว่าท่าทางในการ์ตูนเท่มาก แต่พอเอามาใช้จริงๆ ดูโง่ชะมัด…
“เอาล่ะ สงบจิตใจรวมสมาธิ เคลื่อนความคิดถึง อภินิหารถึง อิทธิวิถี เปิด!” ฟางเจิ้งพึมพำ ดวงตาขยับประกายวาว มีอักษรใหญ่หลายตัวลอยมาจากส่วนลึกความคิด ‘ผักสดงอกบนหัว!’
“แม่มันเถอะ อภินิหารอะไรวะ” ฟางเจิ้งด่าไปโดยจิตใต้สำนึก
โครม!
ฟ้าผ่าลงตรงหน้าฟางเจิ้ง ทำเอาเขากับหมาป่าเดียวดายตกใจจนกระโดดไปข้างๆ ฟางเจิ้งรีบหุบปาก ก่อนชำเลืองตามองหมาป่าเดียวดายแวบหนึ่งแล้วหัวเราะเบาๆ
หมาป่าเดียวดายเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีแล้ว…
“เจ้าหมาป่าเดียวดาย โต๊ะยังไม่ซ่อม นายเป็นขายันไว้ก่อนไป” ฟางเจิ้งยิ้มหยีตา
หมาป่าเดียวดายมองฟางเจิ้งด้วยความสงสัย มันมักจะรู้สึกว่าในนี้มีแผนการร้ายครั้งใหญ่อยู่ ไม่ใช่แค่เป็นขายันอย่างแน่นอน
………………..
[1] อภิญญาหก อภิญญาหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่างคือ
อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหน เหาะ ดำดิน
ทิพพโสต มีหูทิพย์
เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
ทิพยจักขุ มีตาทิพย์
อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป มีเฉพาะในพระอริยบุคคล