บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 272 กลอุบายของมหาราชา
‘ตึงๆๆ…’ เด็กแดงกวัดแกว่งตะเกียบ กินข้าวผลึกชามใหญ่หมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นวางลงบนโต๊ะ เอ่ยขึ้น “เอามาอีกชาม!”
ฟางเจิ้ง ลิง หมาป่าเดียวดายและกระรอกมองเด็กแดงตาค้างอ้าปากกว้าง ถ้ามองไม่ผิด เจ้านี่กินไปสิบแปดชามแล้ว! ฟางเจิ้งกลับไปดูโอ่งข้าวของตนก็อยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา! เดิมทีคิดว่าหมาป่าเดียวดายเป็นราชากินจุแล้ว แต่เด็กนี่โหดกว่า เรียกได้ว่าเป็นถ้ำไร้ก้น!
“อาจารย์ ท่านรับข้าเป็นศิษย์แล้ว จะไม่ให้ข้ากินอิ่มได้หรือ?” เด็กแดงแสยะยิ้ม เขาอยู่ร่างปีศาจ เข้าสู่ทะเลใต้ หลังถูกพาข้ามฟากกลับใจแล้วก็เป็นดั่งเทพเซียน กินอาหาร ย่อยอาหาร สำหรับเขาแล้วมันคือข้าวจานเล็กๆ แค่เคลื่อนอภินิหาร อาหารทุกอย่างจะถูกอัคคีฌานเผาเกลี้ยง จะไปกินอิ่มได้อย่างไร? เด็กแดงตั้งใจไว้แล้วว่าจะกินจนไอ้หัวโล้นสารเลวถังแตก ให้ดีที่สุดคืออีกฝ่ายปล่อยเขาไปเอง เขาจะได้ลดปัญหาลงด้วย
ฟางเจิ้งเห็นท่าทียั่วยุของเด็กแดงพลางเลิกคิ้วขึ้น พูดยิ้มๆ “นั่นมันแน่นอน ในเมื่อนายอยู่กับอาตมา อาตมาก็ต้องทุบไหขายเหล็กมาให้นายกิน นายกินได้แค่ไหน? อาตมาจะทำให้เท่านั้น!”
“ฮ่าๆ…อาจารย์ดีจริงๆ” เด็กแดงฝืนใจพูด แล้วเอ่ยต่อ “หุงอีกหม้อมาเปิดกระเพาะก่อนเถอะ”
กระรอกได้ยินแบบนั้นก็ตาเหลือกหมดสติไป
หมาป่าเดียวดายจ้องเด็กแดงด้วยความโมโห หรือเจ้านี่ไม่รู้ว่าข้าวผลึกล้ำค่าแค่ไหน? จะกินทีหนึ่งหม้อ? นี่มัน…จะเกินไปแล้ว! นั่นคืออาหารของมัน! กินหมดแล้วมันจะกินอะไร?
ลิงร้อนใจเช่นกัน ช่วยไม่ได้ เด็กนี่โหดไป สู้ไม่ไหว เพียงแต่มันไม่เข้าใจว่าเจ้าอาวาสที่ปกติจะหลักแหลมมาก ทำไมวันนี้ถึงพูดจาไม่สมควร?
ฟางเจิ้งกล่าว “กินได้ แต่กฎของวัดเอกดรรชนีคือห้ามสิ้นเปลืองอาหาร นายจะกินหนึ่งหม้ออาตมาจะทำให้หนึ่งหม้อ แต่นายต้องกินให้หมด ถ้ากินไม่หมดละก็…”
“ถ้ากินไม่หมด ศิษย์จะยอมถูกลงโทษ อาจารย์ว่าอย่างไร ศิษย์จะทำอย่างนั้น” เด็กแดงตอบในทันที เขาไม่กลัวการเดิมพันกับฟางเจิ้ง อย่าว่าแต่ข้าวหนึ่งหม้อเลย ต่อให้ข้าวหนึ่งภูเขา เขาก็ใช้ไฟเผาเกลี้ยงได้?
ฟางเจิ้งพยักหน้าแล้วจุดไฟทำอาหาร
เด็กแดงเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าใคร่ครวญ “อาจารย์ ให้ช่วยหรือไม่?” เขาพูดไปอย่างนั้น แค่หยอกล้อฟางเจิ้ง
ทว่าฟางเจิ้งตอบด้วยมาดขรึม “ศิษย์เห็นใจอาจารย์แบบนี้เป็นเรื่องดี ถ้าอย่างนั้นนายมาทำข้าวเถอะ จากนี้หน้าที่หุงข้าวของวัดเอกดรรชนีจะเป็นของนาย อืม…จากนี้ไปนายดูแลส่วนนี้!”
เด็กแดงได้ยินแบบนั้นก็แทบจะกระอักเลือดเก่า เขาคือมหาราชาเซิ่งอิงผู้ผ่าเผย คือสุธนกุมาร ก่อนออกบวชเป็นบุตรผู้มั่งคั่งสุดยอด! หลังออกบวชก็เป็นพี่ใหญ่ที่มีเงิน อำนาจและผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พอมาที่นี่ทำไมต้องเป็นนักบวชจุดไฟ? ที่เหลือเกินกว่านั้นคือฟางเจิ้งพูดจบก็โยนทุกอย่าง สื่อว่ามอบงานทุกอย่างให้นายแล้ว ไม่สนใจว่าจะยินยอมหรือไม่!
เด็กแดงกัดฟันพูดในใจ ‘เจ้ารอข้าก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะกะซวกเจ้าให้ตาย! วันนี้จะให้เจ้าเจ็บใจไปก่อน! หึๆ ข้าวผลึก ของที่มีเพียงเขาคุนหลุน ในโลกมนุษย์จะมีเท่าไรเชียว? จะกินให้เจ้าปวดใจ กินจนสำรอกโลหิต!’
ดังนั้นเด็กแดงจึงขานรับทีหนึ่งแล้วก้มหน้าเริ่มหุงข้าว ข้าวผลึกหุงไม่ยาก ถึงเด็กแดงจะมีฐานะสูงส่งชีวิตสุขสบาย แต่ฟางเจิ้งจุดไฟแล้ว ใส่ข้าวน้ำแล้ว เขาเพียงแค่เติมฟืนนิดหน่อยให้เหมาะสม รอข้าวสุกก็เท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นหอมข้าวผลึกโชยเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หมาป่าเดียวดาย กระรอกและลิงกระทั่งฟางเจิ้งข้างนอกเริ่มท้องร้อง เมื่อครู่เด็กแดงกินเร็วเกินไปจริงๆ พวกเขากินคนละชามยังตามไม่ทัน
หมาป่าเดียวดาย ลิงและกระรอกถลึงตาโตสดใสแวววาวมองฟางเจิ้ง ความหมายชัดเจนมาก จะให้พวกมันกินด้วยไหม?
ฟางเจิ้งยิ้ม แต่กลับไม่พูดอะไร เจ้าสามตัวนี้เหงื่อแตก ไม่เข้าใจว่าเจ้าอาวาสจะทำอะไร? หรือว่าคนกับสัตว์ได้รับการดูแลต่างกัน? คนกินอิ่ม สัตว์ต้องหิว?
ขณะเจ้าสามตัวนี้กำลังไม่สบายท้องอยู่นั้น อีกด้านเปิดฝาหม้อแล้ว กลิ่นหอมข้าวผลึกอบอวล ลวงให้เกิดเสียงร้องจ๊อก
เด็กแดงได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้ม กระโดดขึ้นไปบนฐานเตา สูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยลากเสียงยาว “จึ๊ๆ…สมกับเป็นข้าวผลึกจากเขาคุนหลุน กลิ่นไม่เลว ฮ่าๆ”
หมาป่าเดียวดาย ลิงและกระรอกมองฟางเจิ้ง พวกมันหิวจริงๆ!
ช่วยไม่ได้ ฟางเจิ้งยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่พูดกับเด็กแดงว่า “ศิษย์ ถ้านายชอบก็รีบกินเถอะ อาตมาอยากรู้ว่านายจะกินข้าวผลึกนี่หมดไหม ถ้ากินไม่หมด เย็นนี้นายคงไม่ได้นอน อาตมาจะมอบบทสวดห่อใหญ่ให้หนึ่งวัน!”
เด็กแดงได้ยินดังว่าก็ตกใจจนตัวสั่น แต่เขาไม่กลัว ในมุมมองเขาตนถือไพ่เหนือกว่า! กับอีแค่ข้าวผลึกหม้อเดียว ง่าย!
ฉะนั้นเด็กแดงจึงว่า “ขอเพียงอาจารย์ไม่โทษที่ข้ากินเยอะก็พอ อีกอย่างหม้อเดียวคงไม่พอ”
“ไม่เป็นไร หม้อเดียวไม่พอ ในโอ่งยังมี รับรองว่านายได้กินอิ่ม” ฟางเจิ้งหัวเราะเบาๆ ยิ้มเหมือนอาจารย์ห่วงใยลูกศิษย์
เด็กแดงกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ดี ศิษย์จะเริ่มกินแล้ว! อาจารย์จะได้เห็นฝีมือของศิษย์ ข้าวมา!”
เด็กแดงโบกมือเตรียมจะใช้อภินิหารคว้าข้าวผลึกทั้งหมดไว้กลางอากาศ ก่อนจะกินในคำเดียว! ให้ไอ้สารเลวหัวโล้นได้เห็นความเก่งกาจของเขา! จะต้องให้ไอ้สารเลวหัวโล้นกระอักเลือดปวดใจ คุกเข่าอ้อนวอนขอให้ปล่อย!
เด็กแดงเหมือนเห็นภาพแบบนั้นแล้ว จึงนึกลำพองใจเป็นพิเศษ ‘พระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านให้นักพรตน้อยแบบนี้มาพามหาราชาข้ามฟากหรือ? หึๆ มหาราชาจะช่วยท่านพาเขาข้ามฟากเอง!’
ในใจคิดแบบนี้ ทว่าไม่นานเด็กแดงพบสิ่งผิดปกติ เขากวักมือตั้งนาน ไม่เห็นข้าวผลึกออกมาจากหม้อ!
“เอ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เด็กแดงตะลึงงัน
ฟางเจิ้งหัวเราะ “ศิษย์ว่าง่าย รีบใช้กลอุบายของนายสิ อาจารย์ยังไม่เห็นอภินิหารของนายเลย วันนี้จะได้เปิดหูเปิดตา”
เด็กแดงหน้าแดงก่ำ ชำเลืองตามองปราดหนึ่ง เห็นฟางเจิ้งยิ้มสบายๆ ดูเหมือนไม่รู้ว่าเขาใช้อภินิหารล้มเหลวจึงถอนหายใจโล่งอก “ข้ายังไม่ได้ใช้ จะใช้ตอนนี้แหละ ข้าวผลึก ขึ้นมา!”
เด็กแดงงัดพลังออกมาทั้งหมด แต่พบเรื่องผิดปกติ ภายในร่างกายว่างเปล่า อิทธิ์ฤทธิ์ที่มีแต่เดิมหายไปหมด! ไม่มีพลังค้ำยันจะใช้อภินิหารอย่างไร? เด็กแดงทำมือเรียกข้าวหลายครั้ง แต่ข้าวผลึกไม่ขยับเลย
ฟางเจิ้งยิ้มร่าเริงในใจ ถึงเขาจะมองกลอุบายเด็กแดงไม่ออก แต่ก็เข้าใจว่าซึงหงอคงกับตือโป๊ยก่ายในไซอิ๋วต้องกินข้าว ไม่กินก็หิวแย่ ถ้าเป็นราชากินจุ อย่างว่าแต่พระถังซัมจั๋งจะไปเอาพระไตรปิฎกที่แดนตะวันตกเลย คงถูกศิษย์พวกนี้กินจนต้องขายกางเกงแน่ เด็กแดงกินได้แบบนี้เห็นได้ว่าไม่ปกติ แม้จะไม่เข้าใจวิธีของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่เป็นไร แค่ห้ามอภินิหารเขาไว้ ฟางเจิ้งอยากรู้นักว่าเขาจะมาไม้ไหนได้อีก
……………………