บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 307 ฝุ่นกลบไปหมด
ฟางเจิ้งไม่นึกเลยว่าจะเป็นแบบนี้ ในใจค่อนข้างผิดหวัง ไม่รู้อะไรเลย เขาจะช่วยชายชราเพื่อสำเร็จภารกิจได้อย่างไร?
ตอนนี้เองหวงซิ่งหวาเข้ามาแล้ว ได้ยินคำพูดหวงเจิ้นหวาเลยคาดเดาได้ว่าสองคนกำลังคุยอะไรกัน เลยเอ่ยขึ้นว่า “พ่อเราเป็นคนไม่ชอบพูด มีอะไรจะเก็บไว้ในใจ โดยเฉพาะเรื่องนี้ เขาไม่เคยพูดเลย ผมว่าเขาน่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จด้วยตัวเอง ถึงเขาไม่พูด แต่พวกเราก็รู้ว่าเขากำลังหาคน เพียงแต่หาใคร…พวกเราเองก็ไม่แน่ใจ”
ฟางเจิ้งประนมสองมือ “อมิตาพุทธ ที่แท้ก็เช่นนี้เอง”
ฟางเจิ้งมองชายชราข้างในผ่านหน้าต่างพลางว่า “อาตมาเข้าไปดูข้างในได้ไหม?”
ถึงฟางเจิ้งจะทำตัวแปลกๆ ไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรสองครั้งก่อนก็ทำให้หวงซิ่งหวามองเขาในมุมใหม่แล้ว อีกอย่างไม่เหมือนคนที่คิดร้ายกับชายชรา ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้คงไม่พูดเตือนให้พวกเขาเอากล่องเข้าไปข้างใน ดังนั้นแล้วหวงซิ่งหวาจึงพยักหน้าตกลงต่อคำขอนี้
ทว่าหวงเจิ้นหวากลับพูด “เข้าไปได้ แต่อย่ารบกวนพ่อพักผ่อน”
ฟางเจิ้งพยักหน้า “ประสกวางใจ อาตมาแค่ดูเท่านั้น จะไม่รบกวนเด็ดขาด”
สองคนถึงตกลง ฟางเจิ้งเข้าไปในห้องผู้ป่วย มองชายชราที่นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วย แต่กลับลืมตาจ้องมองกล่อง เขาปลงอนิจจังอยู่ในใจ คิดไม่ออกเลยว่าชายชราคนนี้มีความยึดมั่นอะไรกับกล่องขนาดนี้ และยิ่งคิดไม่ออกว่าชายชราผ่านอะไรมากันแน่ เคยทำอะไรมาบ้าง ในตัวถึงมีบุญกุศลมากแบบนี้!
เด็กแดงข้างๆ พูดเสียงเบา “อาจารย์ ถ้าท่านอยากเข้าใจเขา ก็เข้าไปดูในฝันสิ? ถึงเขาจะสติเลอะเลือน แต่ในหัวกำลังคิดอยู่ตลอดเวลา”
ฟางเจิ้งตะลึงงัน เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย! จึงเคลื่อนจิตใจ ความฝันยามต้มข้าวฟ่าง!
“หนึ่ง! สอง! หนึ่ง!”
“หนึ่ง! สอง! หนึ่ง!”
“พี่ใหญ่ พวกเราฝึกแบบนี้เหรอ? แจกปืนเลยไม่ได้เหรอ?” ชายหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งเดินตามกองทหารไปพลาง บ่นด้วยความไม่พอใจไปพลาง
“นายจะเข้าใจอะไร นี่เรียกว่าการจัดระเบียบวินัย อย่าคิดเยอะ ทำตามไปก็พอ” ผู้ชายตัวค่อนข้างสูงข้างๆ ตอบ
แต่ห่างไปไม่ไกล ฟางเจิ้งพาเด็กแดงมายืนอยู่ข้างกองทหารนี้
“อาจารย์ เหตุใดท่านพาข้าเข้าฝันมาด้วย?” เด็กแดงถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไร มาดูด้วยกันเถอะ” ฟางเจิ้งว่า
เด็กแดงเบะปาก “มีอะไรน่าดูกัน ดูจากเครื่องแบบพวกเขาก็รู้ว่าต้องไม่ใช่คนเก่งกาจอะไร สวมเสื้อผ้าก็เก่า แต่ละคนผอมกันขนาดนี้เลย…”
ฟางเจิ้งเคาะหัวเด็กแดงไปทีหนึ่ง “แต่ว่าคนเหล่านี้ปกป้องแผ่นดินบรรพบุรุษเก้าร้อยหกสิบล้านตารางกิโลเมตร!”
เด็กแดงพูดด้วยความตกใจ “จะเป็นไปได้อย่างไร? ศัตรูพวกนั้นต้องเป็นขยะมากแน่ๆ…”
ฟางเจิ้งไม่โต้ตอบแล้ว แต่พูดว่า “คอยดูเงียบๆ เถอะ นายจะได้เห็นศัตรูพวกเขา”
นี่คือส่วนลึกของภูเขาใหญ่ มีเพียงบ้านชั้นเดียวจำนวนหนึ่ง โดยรอบเป็นสิ่งทรุดโทรม พวกทหารสวมเครื่องแบบไม่เรียบร้อย มีความยุ่งเหยิงนิดๆ แต่กำลังวังชาของคนกลับสูงอย่างยิ่ง ดวงตาแต่ละคนวาววับราวกับดาราในคืนหน้าหนาว แวววาวสดใส เหมือนกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่างด้วยความกระตือรือร้น
กองทหารนี้มีคนยี่สิบกว่าคน ข้างๆ เป็นนายทหารสวมเสื้อผ้าสีฟ้าอ่อนที่มีรอยปะจำนวนมากกำลังยืนตะโกนออกคำสั่ง จะพูดถึงเป้าหมายของการฝึกในวันนี้ตลอดเวลา “ไอ้พวกทหารใหม่ทั้งหลาย ไม่มีความเป็นระเบียบวินัยเอาซะเลย ยังไม่มีเสียงสัญญาณบุก ใครให้พวกแกบุก? อีกอย่าง หวงเหริน แกมันไม่ได้เรื่อง แอบหนีคาบเรียนทุกครั้ง!”
“รายงานครับ!” หวงเหรินพูด
“พูด!”
“ผมไม่ได้แอบหนีครับ แต่ไม่เข้าใจว่าฝึกพวกนี้มีประโยชน์อะไร! ผมมารบกับผู้รุกราน ท่านแจกปืนก็จบแล้วไม่ใช่หรือครับ?”
“แจกปืน? แล้วก็บุกเข้าไปมั่วๆ อย่างแกก่อนหน้านี้เหรอ? จะให้ปืนแกทำไม ส่งไปตายรึไง?”
“ผมไม่กลัวตาย! ตอนผมออกมาแม่ก็บอกแล้วว่าคนกลัวตายไม่ใช่ลูกบ้านสกุลเซียง! กลัวตายก็อย่าเป็นทหาร! ขอแค่ไล่พวกผู้รุกรานไปได้ ตายก็ตายเถอะ ผมไม่กลัว!”
“เฮ้ ไอ้เด็กเวร ปากเก่งจังเลยนะ แต่ที่ฉันจะบอกแกคือมาเป็นทหารก็เพื่อฆ่าผู้รุกราน ไม่ใช่ส่งแกไปตาย! ชีวิตพวกแกล้ำค่า ฉันจะให้พวกแกรอด มีชีวิตอยู่ต่อไป มีชีวิตต่างหากถึงจะฆ่าศัตรูได้มากกว่านี้! เข้าใจไหม?” เจิ้งเหว่ยพูด
“เข้าใจครับ!” หวงเหรินขานรับ
“เฉินต้าซาน!” เจิ้งเหว่ยเรียก
“ครับ!” ผู้ชายตัวสูงที่ยืนข้างหวงเหรินเชิดอกขึ้นขานรับ เขาดูเหมือนทหารมากกว่าหวงเหรินอย่างเห็นได้ชัด
เจิ้งเหว่ยกล่าว “แกเคยเป็นทหารประจำการมาก่อน มีความรู้ในระดับหนึ่ง จากนี้สอนหวงเหรินให้ดีด้วย”
“ครับ!” เฉินต้าซานขานรับ
“เอาล่ะ ฝึกต่อ!” เจิ้งเหว่ยพูด
ภาพเปลี่ยนไป หวงเหรินกับเฉินต้าซานนอนหมอบอยู่ใต้เพิงฟาง ข้างนอกฝนตกหนักดังซ่าๆ ทว่าสองคนกลับไม่ได้สนใจฝนตกเลย
เฉินต้าซานนั่งยองบนพื้น ใช้ท่อนไม้เขียนเป็นสองตัวอักษร
หวงเหรินเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “นี่ชื่อผม? พี่ต้าซาน จริงเหรอ? ชื่อผมสวยขนาดนี้เลย?”
“ใช่ นี่ชื่อนาย หวงเหริน นี่คือคำที่ฉันสอนนายในวันนี้ นายฝึกเขียนชื่อตัวเองก่อน เดี๋ยวฉันจะสอนคำอื่นให้เรื่อยๆ เป็นไง?” เฉินต้าซานหัวเราะ
“ครับ ดีเลยครับ ฮ่าๆ…” หวงเหรินหัวเราะมีความสุขมาก
ต่อมาเฉินต้าซานเขียนต่อ สอนหวงเหรินเขียนชื่อของตัวเขาเอง หวงเหรินฉลาดจริงๆ ในวันเดียวไม่เพียงแต่เขียนชื่อตัวเองได้ แต่ยังมีชื่อของกองทหารพวกเขา หน่วยย่อยหมู่บ้านมหามงคล
ยามเย็น หวงเหรินพัวพันอยู่กับเฉินต้าซาน อยากจะเรียนอักษรอีก เฉินต้าซานคิดแล้วก็สอนหวงเหรินเขียนคำหนึ่ง…ผู้ชาย!
ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง หวงเหรินตะลึงค้างอยู่กับที่…
ภาพเปลี่ยนไป เห็นได้ว่าเวลาผ่านไปนานมาก หวงเหรินตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เฉินต้าซานยังคงเหมือนผ่านไปครึ่งหนึ่ง เหมือนดั่งพี่ใหญ่ ยืนอยู่ข้างหวงเหรินราวกับภูเขาใหญ่และปราการ ประหนึ่งว่ากำลังปกป้องน้องชายข้างกายตลอดเวลา
สองคนนอนหมอบอยู่บนสะพาน คลุมด้วยวัชพืชและกิ่งไม้บนตัว เห็นได้ว่าพวกเขากำลังซุ่มโจมตี
ผ่านไปไม่นาน กองทหารประเทศรัสเซียหน่วยหนึ่งถอยมาจากข้างล่างด้วยสภาพอนาถา ระหว่างทางดูลนลานตลอด รู้ได้เลยว่านี่คือทหารแตกพ่ายกำลังหนีตาย
ตามด้วยเสียงหนึ่ง บุก!
แต่มันไม่ได้เหมือนในจินตนาการแบบเสียงปืนปังๆๆ อย่างบ้าคลั่งแบบในหนัง กลับกันมีคนจุดประทัดโยนเข้าไปในถังเหล็กให้เกิดเป็นเสียงปืน ส่วนพวกหวงเหรินพยายามเล็งเป้า เล็งเป้า เล็งอีกก่อนยิง! ช่วยไม่ได้ กระสุนในมือทุกคนมีไม่มากจริงๆ จะยิงมั่วไม่ได้ และก็จะสู้ไม่ได้ด้วย
ปัง!
เสียงปืนกังวานดังขึ้น ทหารรัสเซียนายหนึ่งล้มในกองเลือดพลางร้องโอดครวญ หวงเหรินเห็นดังนั้นจึงพูดด้วยความตื่นเต้น “ยิงโดนแล้ว!”
เฉินต้าซานข้างๆ กดหัวหวงเหรินไว้กับพื้น แทบเป็นขณะเดียวกันหวงเหรินรู้สึกว่ามีกระสุนสองนัดเฉี่ยวผ่านหัว เกือบจะเอาชีวิตเขา!
…………………….