บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 326 มีน้ำ
เห็นภาพนี้ เฮ่อหมิงพูดได้แต่ขอบคุณ แต่ก็แลกกลับมาเป็นคำขอบคุณที่มากกว่า
ฟางเจิ้งเห็นถึงตรงนี้นอกจากปลงอนิจจังแล้วก็ปลงอนิจจัง ความจริงใจและความจริงใจ เฮ่อหมิงได้รับผลแบบนี้ก็ไม่แปลก
ทว่าสิ่งที่ฟางเจิ้งตกใจคือตอนเย็นมีคนมาหมู่บ้านอีกคน!
“หลิวเอวี่ยน?” เฮ่อหมิงตะลึงค้าง
ผู้หญิงสวมกางเกงยีน เสื้อคลุมนอกสีฟ้า สวมหมอกกันแดดคนหนึ่งยืนตรงปากประตูบ้านใหม่ของเฮ่อหมิง เธอสุภาพเรียบร้อย ยิ้มอ่อนหวานมาก
“คุณมาได้ยังไง?” เฮ่อหมิงถามด้วยความไม่เข้าใจ
หลิวเอวี่ยนยิ้มเล็กน้อย “คุณก็รู้นี่ว่าฉันเรียนอักษรศาสตร์ภาษาจีน หลังเรียนจบมาแล้วก็เตรียมเป็นอาจารย์ ตอนนี้แรงกดดันเรื่องงานสูงมาก เด็กที่นี่ก็ขาดอาจารย์อีก ฉันเลยตัดสินใจมาเป็นอาจารย์ที่นี่ค่ะ”
“อะไรนะ?” เฮ่อหมิง ฟางเจิ้ง เด็กแดงและผู้ใหญ่บ้านเหลยตกใจสะดุ้ง! ไม่ว่ามองอย่างไรหลิวเอวี่ยนก็ควรเป็นพวกคนอยู่ในเมือง นั่งดื่มกาแฟในสำนักงาน เป็นคนนั่งโต๊ะทำงาน สร้างผลงานยอดเยี่ยมในอนาคต แต่เธอกลับมาที่กันดารยากจนแบบนี้ มาเป็นอาจารย์ในที่ที่นกไม่ขี้นกไม่วางไข่ นี่มัน…น่าเหลือเชื่อ!
ฟางเจิ้งมองหลิวเอวี่ยนก่อนมองเฮ่อหมิง เฮ่อหมิงอึ้งงัน หลิวเอวี่ยนมีท่าทีอ่อนโยนลึกๆ ฟางเจิ้งถอนหายใจ ตบหัวเด็กแดงพลางว่า “ไปเถอะ”
“อาจารย์ จะไปที่ใด? ข้ายังอยากรู้ว่าเหตุใดพี่หลิวถึงจะอยู่ที่นี่” เด็กแดงโวยด้วยความไม่พอใจ
“จะดูอะไร ไป” ฟางเจิ้งใช้มือข้างหนึ่งคว้าผมจุกของเด็กแดงแล้วลากไป เด็กแดงร้องโวยด้วยความไม่ยอมตลอดทาง “จะทำอะไรๆ ข้ายังอยากดูก่อน”
“เป็นเด็กจะดูอะไร ตามอาจารย์ไปสวดมนต์” ถึงฟางเจิ้งจะไม่เคยมีความรัก แต่เคยอ่านในนิยาย เคยดูในภาพยนตร์ เจ้าทึ่มเฮ่อหมิงอาจจะมองไม่ออก แต่แววตาของหลิวเอวี่ยนอธิบายทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ไม่ควรมีก้างขวางคอมากเกินไป ความจริงแล้วเขาถือว่าเป็นก้างขวางคอระดับเหนือชั้นเลยล่ะ!
เพียงแต่ว่าหลังจากศิษย์และอาจารย์คู่นี้ออกจากลานบ้านมา ฟางเจิ้งปิดปากเด็กแดงไว้ ก่อนพูดเบาๆ “อยากดูต่อๆ จริงๆ เหรอ?”
เด็กแดงพยักหน้า
ฟางเจิ้งพูด “ถ้าอย่างนั้นอีกเดี๋ยวไม่ว่าเห็นอะไรก็ห้ามส่งเสียง!”
เด็กแดงพยักหน้าต่อ
จากนั้นอาจารย์และศิษย์ชั่วร้ายก็เริ่มปีนสันกำแพง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามสันกำแพงก็มีคนเช่นกัน พอมองดีๆ นั่นคือผู้ใหญ่บ้านเหลยที่ออกไปก่อน! สามคนจ้องตากัน ยิ้มรู้กันเล็กน้อย ต่างไม่มีใครส่งเสียง
ภายในลาน เฮ่อหมิงเกาหัว ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
หลิวเอวี่ยนกลับเดินเข้ามาด้วยท่าทีสง่า ก่อนมองไปรอบๆ พิจารณาในลาน เอ่ยอย่างพอใจว่า “บ้านนี้ไม่เลว ดีมาก”
ฟางเจิ้งได้ยินเข้าก็รู้ว่านี่มีหวังจริงๆ แล้ว!
สรุปเจ้าทึ่มเฮ่อหมิงกลับพูดว่า “พอได้ครับ สกปรกนิดๆ เอ่อคือ คุณเป็นอาจารย์ที่นี่แล้วพักที่ไหนครับ?”
ฟางเจิ้งได้ยินแบบนั้นก็มองบน อยากจะขว้างอิฐใส่หัวเฮ่อหมิงจริงๆ เป็นการช่วยเปิดสมองให้โล่ง
หลิวเอวี่ยนพูดไม่ออกอยู่นิดๆ เช่นกัน ก่อนพูดไปว่า “ยังไม่มีที่พักเลยค่ะ คุณมีที่ไหมคะ?”
เฮ่อหมิงตอบ “มีก็มีแหละครับ แต่ไม่มีเตียงเหลือ”
ครั้งนี้ฟางเจิ้งยังไม่โต้ตอบ เด็กแดงก็เริ่มกัดฟันด่าทอ “โง่จริงๆ”
ฟางเจิ้งใช้มือเคาะหัวไปทีหนึ่ง “เด็กน้อย นายจะรู้อะไร?”
เด็กแดงเบะปาก “ข้าอายุสองร้อยกว่าปีแล้ว ท่านว่าใครเด็กน้อย? ก็แค่หาคู่รักมิใช่รึ? ข้าเข้าใจ! แม่ข้าเคยบอกข้าแล้ว เพียงแค่ไม่เคยผ่านสนามจริง”
“ยินดีด้วย จากนี้ไปนายไม่มีโอกาสแล้ว” ฟางเจิ้งเอ่ยด้วยมาดขรึม
เด็กแดงอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา ทว่าพอนึกถึงผู้หญิงอย่างเหยาอวี่ซิน พริบตาเดียวก็หมดรักต่อผู้หญิงไป…
สรุปหลิวเอวี่ยนหมดคำจะพูดอย่างยิ่งเพราะเฮ่อหมิง จึงกัดฟันถาม “คุณไม่คิดจะไปจริงๆ เหรอคะ?”
“ไม่รู้สิครับ อย่างน้อยก็ต้องทำในสิ่งที่ควรทำ ซ่อมบันไดฟ้าเสร็จแล้วจะต้องมีคนไปๆ มาๆ คอยตรวจซ่อมแซม ก่อนหน้านี้อาหลู่ตกลงมาเสียไปแล้ว ผมไม่อยากให้มีใครโชคร้ายแบบนั้นอีก” พูดถึงตรงนี้ เฮ่อหมิงพลันเปลี่ยนเป็นหัวหน้าเฮ่อที่คิดรอบคอบคนนั้นอีกครั้ง แต่เมื่อเอ่ยถึงความรักพลันเปลี่ยนเป็นคนทึ่มทื่อ ถามหลิวเอวี่ยนว่า “คุณล่ะ? คุณน่าจะยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยนี่ครับ? มาที่นี่ตอนนี้ไม่ค่อยดีนะครับ”
หลิวเอวี่ยนเงยหน้ามองฟ้า “ฉันเหรอ…ฉันมาหาของ ถ้าหาของที่ต้องการไม่ได้ก็จะหาที่นี่ไปตลอดชีวิต” พูดจบ หลิวเอวี่ยนมองเฮ่อหมิง
พอเฮ่อหมิงได้ยินว่าหลิวเอวี่ยนจะหาของจึงกระตือรือร้นขึ้นมา “คุณจะหาอะไร? บอกผมมาได้เลยผมจะช่วยหาเอง อย่างอื่นไม่ว่า คนในหมู่บ้านนี้ดีมาก บอกกับพวกเขาเดี๋ยวก็ช่วยคุณเอง ขอแค่อยู่ที่นี่จะต้องหาเจอแน่!”
ฟางเจิ้งกับเด็กแดงมองตากัน เริ่มกัดฟันพร้อมกันแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านเหลยด้านตรงข้ามกลอกตาไปมา เห็นได้ชัดใกล้จะรับกับอีคิวของเฮ่อหมิงไม่ไหวแล้ว!
หลิวเอวี่ยนมองเฮ่อหมิงตรงหน้า เธอพบว่าเจ้านี่โง่จริงๆ! ดังนั้นจึงพูดไปด้วยความโกรธ “ช่างเถอะ วันหลังค่อยหา ฉันจะไปหาผู้ใหญ่บ้านดูว่าพักที่ไหน”
เฮ่อหมิงพูด “ได้ครับ ผู้ใหญ่บ้านอัธยาศัยดี จะต้องหาบ้านดีๆ ให้คุณได้แน่ เหอะๆ…”
ฟางเจิ้งมองต่อไปไม่ได้จริงๆ เฮ่อหมิงเป็นคนดี แต่อีคิวต่ำเกินไป! จึงกัดฟัน ประสานมุทรากดไปยังเฮ่อหมิง เฮ่อหมิงรู้สึกเพียงว่าร่างกายพลันแข็งทื่อ ขยับไม่ได้ ตอนที่เขาเริ่มตระหนกนิดๆ นั้นก็พบว่าร่างกายขยับปากเอง ตะโกนใส่เงาแผ่นหลังหลิวเอวี่ยนว่า “อย่าไป หลิวเอวี่ยน ผมรักคุณ!”
ตะโกนทีเดียวใช้พละกำลังทั้งหมด สะเทือนฟ้าดิน เดาว่าคงได้ยินไปครึ่งหมู่บ้าน!
สิ้นเสียงตะโกน เฮ่อหมิงพบว่าร่างกายตนกลับมาเป็นปกติ เพียงแต่เขายังทึ่มทื่อ ตะลึงค้าง ทำไมเขาถึงตะโกนคำพูดน่าอายแบบนั้นได้? หลิวเอวี่ยนจะคิดกับเขาอย่างไร? ถ้าปฏิเสธ จากนี้พวกเขาจะมองหน้ากันอย่างไร?
ตอนนี้เองหลิวเอวี่ยนหันหน้ากลับมามองเฮ่อหมิง เม้มปากพูดยิ้มๆ “เจ้าโง่ ในที่สุดก็ฉลาดสักที”
เฮ่อหมิงตะลึงงัน เขาไม่ได้โง่จริงๆ เพียงแต่มีความละอายใจในตัวเองนิดๆ เลยจงใจมองข้ามบางสิ่งไป ไม่ให้ตนคิดไปเอง กลัวว่าถ้ามองแต่ในมุมของตัวเองแล้วจะเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายผิดไป จากนี้ไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อน แต่ว่า…การตะโกนอย่างมหัศจรรย์ครั้งนี้เหมือนว่าจะ…สำเร็จ!
หลิวเอวี่ยนรู้นิสัยของเฮ่อหมิง ในเมื่อเฮ่อหมิงตะโกนมาแล้ว เธอยังต้องอายอะไรอีก? เลยเดินมาข้างเฮ่อหมิง จับมือเฮ่อหมิงเป็นครั้งแรก “ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ คุณจะอยู่เป็นเพื่อนฉันไหม?”
เฮ่อหมิงยิ้ม ยิ้มแบบซื่อๆ…
เห็นถึงตรงนี้ ฟางเจิ้งกับเด็กแดงส่ายหน้าพร้อมกัน สิ้นหวังกับเจ้าทึ่มคนนี้แล้ว ก่อนหดหัวกลับไปจากสันกำแพง หัวเล็กและใหญ่ส่ายไปมาพลางเดินจากไป
ถึงจะแก้ปัญหาเรื่องที่นี่ได้ชั่วคราวแล้ว แต่ที่นี่แห้งแล้งตลอดปี เรื่องที่เจอในวันนี้ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
ตอนนี้เองเด็กแดงพูดเสียงต่ำ “อาจารย์ ความจริงแล้วที่นี่มีน้ำ”
……………………..