บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 332 ตีนเขา
ลานเล็กๆ แห่งหนึ่ง ข้างหลังเป็นห้องเล็กโบราณและเรียบง่าย หลวงจีนรูปหนึ่งกำลังกินอาหารเลิศรสดั่งเพรชในมืออย่างมีความสุข ภาพวาดสวยงามมาก จากนั้นเลนส์กล้องหันไปอีกทาง บรรยากาศภาพพลันเปลี่ยนไป…
ลิงเปิดห่อใบบ๊ะจ่างแล้วยัดใส่ปากคำหนึ่ง กินโดยไม่มีรสชาติอะไรเลย ก่อนมองอีกสองตัวข้างๆ อย่างมีเลศนัย
หมาป่าเดียวดายส่ายก้นให้มัน ก่อนพบเรื่องที่น่าเศร้าคือใช้กรงเล็บลำบากจริงๆ เปิดห่อบ๊ะจ่างไม่ได้! ต่อมาด้วยความโมโหจึงยัดเข้าใส่ปากไปทั้งหมด เคี้ยวเนื้อข้าวผลึกกับใบบ๊ะจ่างเต็มปาก ใบบ๊ะจ่างกัดไม่ค่อยขาด กลืนไม่ลงด้วย จะคายก็ทำใจไม่ได้ อยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา!
กระรอกเปิดใบบ๊ะจ่างแล้วพบว่าเจ้านี่เหนียวเกินไป กรงเล็บเล็กติดอยู่ด้านบน เหนียวหนึบๆ ดึงออกมาก็ยืดขึ้นไป! สุดท้ายกัดฟันกินทั้งอย่างนั้น คิดอยู่ว่ากินไปแล้วคงไม่เหนียวหรอก? แต่ว่ามันประเมินความอยากอาหารของมันสูงเกินไป! สุดท้ายดึงดันจนขยับไม่ได้ ตามตัวมีบ๊ะจ่างติดอยู่ หน้าตาแปลกๆ ก็ไม่เท่าไร ที่สำคัญคือมันกินไม่ได้ ได้แต่มองศิษย์พี่ศิษย์น้องตนเพื่อขอความช่วยเหลือ
ลิงเห็นแบบนั้นก็แสยะปากยิ้ม ชี้ไปที่บ๊ะจ่างก่อนชี้ที่ปากตน ความหมายชัดเจนมาก ฉันช่วยนายแก้บ๊ะจ่างได้ แต่ที่เหลือต้องเป็นของฉัน
ถึงกระรอกจะมีนิสัยชอบเก็บอาหาร แต่มันจัดการเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้จริงๆ ไม่มีที่เก็บด้วย ดังนั้นจึงตกลงอย่างไม่ลังเล ลิงจึงได้กินไปอีกมากกว่าครึ่งอย่างมีความสุข
เด็กแดงมองเหล่าศิษย์พี่อย่างดูถูก ส่ายศีรษะเล็กราวกับผู้ใหญ่ “ดิน ดิน ดิน…กินบ๊ะจ่างยังเป็นแบบนี้ได้ เฮ้อ” จากนั้นเปิดบ๊ะจ่าง นั่นกินช้าๆ เลียนแบบท่าทางฟางเจิ้ง กินไปพลางทำปากขมุบขมิบไปพลาง “ยิ่งชิมยิ่งหอมจริงๆ อร่อย…”
หมาป่าเดียวดายกลืนไม่ได้ กระรอกกินอิ่มแล้ว ลิงกินเสร็จแล้วยังมีความสุขอยู่ ดังนั้นเจ้าสามตัวนี้จึงจ้องเด็กแดง ดวงตาแดงแล้ว เด็กดื้อนี่จงใจชัดๆ!
ฟางเจิ้งส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา ตัวตลกพวกนี้อยู่ด้วยกันแล้วจะต้องมีเรื่องขบขันทุกวัน อันดับแรกเขาช่วยดึงใบบ๊ะจ่างออกมาจากในปากหมาป่าเดียวดายก่อน จากนั้นแจกให้อีกสองอันกับคนที่ยังกินไม่อิ่ม ทุกคนเลยได้กินอิ่ม เด็กแดงแบกถังน้ำใหญ่บรรจุบ๊ะจ่างไว้เต็ม ปิดประตูใหญ่วัด ก่อนเดินลงเขาไปเป็นกลุ่ม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเดือนห้ามีแดดแรง สายลมบริสุทธิ์พัดผ่านมาพร้อมกับความเย็น
เมื่อลงเขามา ฟางเจิ้งเห็นเหมิงเหมิงถือบ๊ะจ่างใหญ่เดินมาทางนี้
“เหมิงเหมิง กำลังจะไปไหนน่ะ?” ฟางเจิ้งถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เหมิงเหมิงวิ่งมาทันที ยัดบ๊ะจ่างใส่มือฟางเจิ้งก่อนพูดอย่างลึกลับว่า “พี่ฟางเจิ้ง ให้ เหมิงเหมิงแอบขโมยมาให้พี่ อย่าให้ใครรู้นะ”
ฟางเจิ้งอึ้งไป ก่อนพูดยิ้มๆ “เหมิงเหมิง ทำไมต้องให้บ๊ะจ่างอาตมาล่ะ?”
“เพราะว่าพี่ฟางเจิ้งช่วยเหมิงเหมิง” ดวงตาโตของเหมิงเหมิงขยับแวววาว ดูน่ารักแถมยังมีความปราดเปรียวหลายส่วน
ฟางเจิ้งชะงักงัน ไม่นึกเลยว่าตอนนั้นเด็กคนนี้จะไม่ได้สลบจนไม่รู้สึกตัว จึงขยี้หัวเหมิงเหมิงพลางว่า “แล้วเหมิงเหมิงไม่ได้บอกกับใครใช่ไหม?”
เหมิงเหมิง “ต้องบอกคนอื่นด้วยเหรอคะ?”
ฟางเจิ้งพลันถอนหายใจโล่งอก นั่งยองลง พูดขึ้น “เหมิงเหมิง นี่คือความลับของเราสองคน ห้ามบอกคนอื่นรู้ไหม?”
พอเหมิงเหมิงได้ยินว่าเป็นความลับก็ดูคึกคักขึ้นมา พยักหน้าแรงๆ ว่า “อืม เหมิงเหมิงไม่พูด ก็ไม่มีใครพูด” ต่อมาจมูกเล็กดมกลิ่นฟุดฟิด มองบ๊ะจ่างในถังน้ำใหญ่ที่เด็กแดงถือพลางกลืนน้ำลาย แต่ไม่ได้พูดอะไร
ฟางเจิ้งหัวเราะ หันมือกลับไปหยิบบ๊ะจ่างสองอันมาวางใส่มือเหมิงเหมิง “พี่ให้ อืม ถือเป็นของขวัญวันไหว้บ๊ะจ่างดีไหม?”
เหมิงเหมิงดีใจใหญ่ เอาจมูกแนบข้างๆ แล้วดมแรงๆ ก่อนร้องขึ้น “หอมมาก หนูจะให้พ่อกับแม่ลอง แล้วเจอกันนะคะพี่ฟางเจิ้ง”
พูดจบเด็กน้อยก็กระโดดโลดเต้นวิ่งไป
ฟางเจิ้งหัวเราะเงียบๆ มองเงาแผ่นหลังเด็กน้อยพลางพูดปลงอนิจจัง “เด็กหนอเด็ก เฮ้อ…จิ้งซิน ทำไมนายถึงไม่เชื่อฟังแบบนั้นบ้าง”
เด็กแดงมองบนทีหนึ่ง “งานข้าเป็นคนทำ ความผิดข้าเป็นคนรับ ทำไมถูกด่าถึงเป็นข้าอีก?”
ฟางเจิ้งพูดยิ้มๆ “เพราะนายอายุเยอะที่สุดแล้ว หรือว่าจะให้อาจารย์ดุว่าพวกเขา?”
เด็กแดงหัวเราะแห้งๆ สองที อดกลั้นไว้!
เข้าหมู่บ้านไป ฟางเจิ้งมอบบ๊ะจ่างให้กับทุกครอบครัว พวกชาวบ้านต่างรู้จักอาหารชนิดนี้ดี ภายนอกบ๊ะจ่างดูดีขนาดนี้ มองแวบแรกก็ชอบแล้ว และรู้ด้วยว่าทำมาจากไผ่บนเขา รสชาติจะต้องไม่แย่แน่ๆ
แต่วันนี้เป็นวันไหว้บ๊ะจ่าง ทุกครอบครัวทำบ๊ะจ่าง ฟางเจิ้งให้ครอบครัวละสิบอัน จำนวนนี้มากไปหน่อย คนมากมายกลัดกลุ้มแล้ว นี่จะกินยังไงไหว! แต่ไม่นานพวกเขาก็ไม่กังวลเรื่องนี้อีก แต่กลับ…
ถึงบ้านหวังโอ้วกุ้ย ถานจวี่กั๋วและหยางผิงก็เกิดปัญหาเล็กน้อย
หวังโอ้วกุ้ยหน้าแดง ดึงฟางเจิ้งไว้พลางพูดอย่างหน้าด้าน “เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง ถ้ายังเหลือ จำไว้ว่าเอามาให้ฉันด้วย เหอะๆ…”
ถานจวี่กั๋วมองบ๊ะจ่างในมือ เอ่ยด้วยมาดจริงจัง “ครั้งหน้าทำให้มากกว่านี้หน่อยนะ”
หยางผิงดึงเด็กแดงไว้ “หลวงจีนจิ้งซิน ท่านแอบขโมยมาให้ผมสักสองอันสิ ครั้งหน้าถ้าขึ้นเขาไปผมจะเอาลูกอมไปให้ดีไหม?”·
เป็นแบบนี้ฟางเจิ้งจะพูดอะไรได้? เขารู้ว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นจึงทำมากเป็นพิเศษ ให้พวกเขาไปมากหน่อย
จนฟางเจิ้งส่งบ๊ะจ่างทั้งหมดครบรอบแล้วถึงยืนอยู่หน้าปากหมู่บ้าน คาดเดาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้กลับไป แต่เดินออกไปนอกหมู่บ้าน
เด็กแดงถามด้วยความแปลกใจ “อาจารย์ เราจะไปที่ใด?”
ฟางเจิ้งยิ้ม “วันนี้วันไหว้บ๊ะจ่าง ปีก่อนๆ มีแข่งเรือมังกร ไม่รู้ว่าปีนี้มีไหม ถึงยังไงวันนี้ก็ว่าง ไปดูด้วยกันเถอะ ไม่ไกลหรอก”
เด็กแดง ลิง กระรอกกับหมาป่าเดียวได้ยินแบบนั้นพลันดีใจ เจ้าพวกนี้อัดอั้นอยู่บนเขาจนแย่แล้ว ในที่สุดก็ได้ออกไป! จึงเดินตามมาอย่างมีความสุข สรุปเดินครั้งนี้กินเวลาไปสามชั่วโมง!
ลิงมองแม่น้ำข้างหน้าพลางพูดเศร้าๆ “อาจารย์ ไหนท่านบอกว่าไม่ไกล?”
ฟางเจิ้งยิ้มเก้ๆ กังๆ “ครั้งก่อนนั่งรถมาก็ไม่ไกลจริงๆ…”
ทุกคน “…”
ฟางเจิ้งวิ่งไปที่ริมแม่น้ำ เด็ดต้นเฮาจื่อมา จุ่มไปในแม่น้ำแล้วพรมบนตัว
ลิงถามด้วยความแปลกใจ “อาจารย์ ทำอะไรอีก?”
ฟางเจิ้งตอบ “นี่คือประเพณีของพวกเรา ใช้น้ำจากต้นเฮาจื่อล้างหน้า ทำให้สดชื่น ใช้น้ำจากต้นเฮาจื่อพรมบนตัวจะชะล้างเคราะห์ร้ายได้ หวังให้อนาคตอยู่เย็นเป็นสุข ทุกอย่างราบรื่น”
ลิงกระโดดขึ้นมาบนหัวหมาป่าเดียวดายทันที “อาจารย์ ศิษย์ก็จะเอาด้วย!”
ลิงกับหมาป่าเดียวดายพูดตาม ฟางเจิ้งหัวเราะเบาๆ พรมน้ำให้เจ้าพวกนี้เล็กน้อย
เด็กแดงมองบน เอ่ยด้วยสีหน้ารังเกียจว่า “ไปหลอกผีเถอะ…”
……………………