บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 384 เม็ดยาหมื่นวาจา
เด็กแดงยังดีใจได้ไม่เท่าไร ก็ได้ยินฟางเจิ้งเอ่ยอย่างราบเรียบ “แต่ว่าการโกหกเป็นบาปหนัก! จิ้งซิน จากนี้ตักน้ำเพิ่มเป็นเท่าตัว!”
“เอ่อ…” เด็กแดงตะลึงค้าง ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกเขาจะโกหกทำไม แค่สารภาพผิดก็รอดแล้ว…จะร้องไห้!
กระรอกได้ยินดังนั้นก็ร้องแย่แล้วในใจ คิดจะหลบหลีกไป
แต่ฟางเจิ้งจับหางเล็กๆ ของมันไว้ก่อนหิ้วขึ้นมา
กระรอกยิ้มแหยๆ ให้ฟางเจิ้ง ทำหน้าอ้อนวอน
“จิ้งควน นายช่วยศิษย์น้องของตัวเอง นี่เป็นเรื่องดี” ฟางเจิ้งกล่าว
กระรอกพลันถอนหายใจโล่งอก…
ทว่าฟางเจิ้งเอ่ยต่อในฉับพลัน “แต่ว่านายรับสินบน ถึงจะช่วย นี่ก็เป็นความผิดร้ายแรง!”
พูดจบ ฟางเจิ้งหยิบชามมาใบหนึ่ง “นายลงเขาไปตักน้ำกับศิษย์น้อง เขาทำเสร็จเมื่อไร นายก็พอเมื่อนั้น”
กระรอกเห็นชามใหญ่ที่เกือบจะเท่าตัวมันแล้ว ตาก็เหลือกแทบจะเป็นลมหมดสติไป
ฟางเจิ้งไม่สนใจ เขารู้ดีจากหมาป่าเดียวดายว่าน้ำบริสุทธิ์และข้าวผลึกเปลี่ยนคุณสมบัติร่างกายสิ่งมีชีวิตได้ ความเร็วหรือพละกำลังของหมาป่าเดียวดายเป็นต้นนั้นเหนือกว่าขอบเขตหมาป่าไปนานแล้ว แม้ปกติกระรอกจะขี้เกียจ แต่เมื่อก่อนเจ้านี่เคยเอาเมล็ดสนกลับมาทีหนึ่งห้าหกเมล็ด เร็วๆ นี้ก็มีครั้งหนึ่ง ฟางเจิ้งเห็นว่ามันหิ้วถุงผ้าลากกลับมาได้ แถมยังปีนต้นไม้ได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าพละกำลังของมันมีไม่น้อยเช่นกัน เขากังวลแค่ว่าน้ำชามนี้จะหนักพอหรือไม่…
เมื่อลงโทษเสร็จแล้ว ฟางเจิ้งพูด “เอาล่ะ อย่ามัวแต่ยืน รีบไปทำกับข้าว”
สองวันที่อยู่ข้างนอกก็ไม่ได้หิวอะไร แค่กินข้าวและกับข้าวปกติแล้ว ฟางเจิ้งรู้สึกว่าริมฝีปากใกล้จะไร้รสชาติ เมื่อไม่มีการเปรียบเทียบก็ไม่เจ็บปวด ถึงจะกินข้าวผลึกบนภูเขามานานจนชิน แต่พอเทียบกันแล้วนั่นคืออาหารเลิศรส! แม้จะบอกว่าเป็นนักบวชควรละความละโมบเหล่านี้ แต่เขาก็ไม่เคยมองตัวเองเป็นนักบวชที่สมบูรณ์แบบเลย เป้าหมายสุดท้ายของเขาไม่เคยเปลี่ยนเพราะการย่างกรายของระบบ ‘พยายามสั่งสมบุญกุศล ช่วยคนอย่างสุดความสามารถ จากนั้นสึก!’
ฟางเจิ้งรอกินข้าวอยู่ข้างๆ ส่วนหมาป่าเดียวดายถูกลิงกับกระรอกลากเข้าไปในห้องครัว
“ศิษย์พี่ ลงเขาไปแล้วรู้สึกว่าโลกข้างนอกเป็นยังไงบ้าง?” กระรอกถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เด็กแดงเข้าใจความหมายของเจ้าพวกนี้ที่เข้ามาเช่นกัน ก็แค่จะหาล่ามไม่ใช่หรือ เดิมทีเด็กแดงไม่สนใจเรื่องนี้ แต่พอคิดๆ ดูแล้ว ถ้าไม่สนใจ จากนี้ไปเดาว่าคงจะถูกขายอนาถายิ่งกว่าเดิม ศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมมือกันเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นเลยเป็นล่ามให้
หมาป่าเดียวดายนึกถึงความรู้สึกหิวในตอนแรก ก่อนส่ายหัวด้วยความเศร้า “ไม่มีอะไรหรอก แย่มาก ถ้าไม่ใช่เพราะศิษย์พี่ฉลาดหลักแหลม ฉันกับอาจารย์คงหิวตายอยู่ข้างนอกแล้ว”
“อนาถขนาดนั้นเลย?” ลิงกับกระรอกตกใจ
หมาป่าเดียวดายนั่งลงพูดด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม “อนาถกว่านั้นอีก แต่ว่าโลกข้างนอกมหัศจรรย์จริงๆ ถ้ามีโอกาสพวกนายก็ออกไปดู”
ลิงกับกระรอกถามอีกสักครู่ เด็กแดงแปลไม่ไหวแล้วเลยไล่เจ้าสามตัวนี้ออกไป
เจ้าสามตัวถามในสิ่งที่ควรถามแล้วย่อมไม่บ่นว่า
แต่ขณะนี้เองฟางเจิ้งกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ถามระบบว่า “ระบบ ครั้งนี้ฉันได้จับรางวัลไหม?”
“ช่วยให้หวังคุนเข้าใจในตัวเอง ไม่สับสนอีก เพิ่มบุญกุศลหนึ่ง พลังในการส่งต่อความดี ใช้พลังของทุกคนช่วยหลู่เจิ้งเดินออกมาจากปราการจิตวิญญาณ ได้เกิดใหม่ บุญกุศลบวกยี่สิบสอง เป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่จริงๆ จับรางวัลไม่ใช่ปัญหา แต่ว่านายจะจับรางวัลตอนนี้จริงๆ เหรอ?” ระบบถาม
ฟางเจิ้งตรึกตรองแล้วตอบ “รวมแต้มที่ฉันสะสมมาก่อนหน้านี้ แล้วจับครั้งนี้ได้ไหม”
“ได้” ระบบตอบอย่างใจกว้าง
ฟางเจิ้งวางใจแล้ว จึงเอ่ยทันใด “ถ้าอย่างนั้นก็จับ”
ไม่ได้จับรางวัลมานาน ฟางเจิ้งเองก็คันมือแล้ว
“ติ๊ง! ยินดีด้วยนายได้รับเม็ดยาหมื่นวาจาหนึ่งขวด” ระบบว่า
“เม็ดยาหมื่นวาจา?” ฟางเจิ้งอึ้งงัน นี่มันของอะไรกัน?
ระบบตอบ “เม็ดยาหมื่นวาจาก็ตามชื่อมัน กินแล้วจะมีความสามารถหมื่นวาจา พูดให้เข้าใจคือกินยานี่แล้ว ไม่ว่าใคร ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใด จะมีความสามารถด้านวิชาภาษาสัตว์เหมือนกับนาย”
“เอ่อ…แล้วมันมีประโยชน์กับฉันยังไง” ฟางเจิ้งพูดไม่ออก เดิมทีคิดว่าจะจับได้ของดี แต่จับได้ของแบบนี้มา จะบอกว่าเม็ดยาหมื่นวาจาไม่ดี? นั่นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เม็ดยาหมื่นวาจาหนึ่งเม็ดเท่ากับอภินิหารภาษาสัตว์ เป็นของดีอย่างยิ่ง แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเลย!
ตอนนี้เอง ฟางเจิ้งได้ยินว่าหมาป่าเดียวดายหาวอีกแล้ว ดวงตาเขาพลันเปล่งประกาย เขาใช้ไม่ได้ แต่ศิษย์พวกนี้ใช้ได้! ดังนั้นจากนี้ไปเจ้าสามตัวนี้จะสื่อสารกันได้ นี่เป็นเรื่องดี
ในเมื่อได้มาแล้วก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ ในเมื่อได้สิ่งนี้มาแล้วแถมยังคืนสินค้าไม่ได้ เช่นนั้นก็ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้วกัน
ฟางเจิ้งเลือกรับไว้ ต่อมามียาขวดหนึ่งเพิ่มมาในมือ พอเปิดดูเขาพลันตาเป็นประกาย! ข้างในไม่ได้มียาหมื่นวาจาเพียงเม็ดเดียว แต่มีถึงห้าเม็ด!
“ฮ่าๆ…ว่าแล้วเชียว ครั้งนี้มีบุญกุศลเยอะแบบนี้ อย่างน้อยก็ต้องให้ของชิ้นใหญ่! เม็ดยาหมื่นวาจาห้าเม็ด กำไร!” ฟางเจิ้งพูดงึมงำพลางยิ้มมีความสุข ถึงที่เกินมาจะยังไม่รู้ว่าให้ใครใช้ แต่ถ้าจากนี้ไปมีประโยชน์ล่ะ?
“จิ้งฝ่า จิ้งเจิน จิ้งควน พวกนายมานี่” ฟางเจิ้งตะโกนเรียก หมาป่าเดียวดาย กระรอกและลิงพลันวิ่งเข้ามา
กระรอกพูดขึ้น “อาจารย์ เรียกพวกเรามาทำไม?”
ฟางเจิ้งตรึกตรองชั่วครู่ เขาไม่ได้หยิบเม็ดยาออกมาในทันที แต่ตอบไปว่า “พวกนายมาวัดเอกดรรชนีก็นานแล้ว จิ้งฝ่าเป็นผู้ปกปักหมายเลขหนึ่งของวัด เมื่อก่อนรับผิดชอบเรื่องน้ำทุกคืนวัน แถมยังรับผิดชอบงานด้านความปลอดภัย มีคุณูปการ จิ้งควน ถึงนายจะตัวเล็ก แต่ตอนอาจารย์ไม่อยู่ก็มีผลงานคอยตรวจตราวัด ถือว่ามีคุณความดี จิ้งเจิน ถึงจะมาช้า แต่กวาดลานวัดทุกวัน ต้อนรับญาติโยม ปัดกวาดอุโบสถ ก็มีคุณความดีกับวัดเช่นกัน วันนี้อาจารย์จะให้รางวัลตามคุณความดี!”
พอได้ยินว่าจะได้รางวัลตามคุณความดี เจ้าสามตัวนี้พลันกระปรี้กระเปร่า
หมาป่าเดียวดายถามด้วยความแปลกใจ “อาจารย์ ท่านจะให้ของดีอะไรกับพวกเรา?”
ลิงเลิกเปลือกตาขึ้น ไม่ได้ขยับอะไรมากนัก ทว่าลมหายใจกระชั้นขึ้นอย่างชัดเจน
กระรอกตาเป็นประกายวาววับ ดูแปลกใจ แปลกใจอย่างยิ่ง ทั้งยังเฝ้ารอคอย!
ตอนนี้เอง เด็กแดงพุ่งเข้ามา “อาจารย์ ท่านจะลำเอียงไม่ได้ ข้าก็มีคุณความดีเหมือนกัน!”
เด็กแดงไม่สนใจว่าฟางเจิ้งจะให้อะไร เขาคือมหาราชาปีศาจ กำลังทรัพย์ครอบครัวตนมีมากพออยู่แล้วจึงไม่สนใจของเล็กน้อยจากฟางเจิ้ง ทว่าก็ต้องการรางวัล เพราะนี่ไม่ได้หมายถึงรางวัลอย่างเดียว แต่ยังเป็นเกียรติยศด้วย! ไม่อย่างนั้นพวกศิษย์พี่ได้รางวัลกันหมด แต่เขาไม่ได้ นี่มันน่าขายหน้าเพียงใด!
ฟางเจิ้งมองเด็กแดงที่รีบวิ่งเข้ามาพลางพูดยิ้มๆ “จิ้งซิน นายไปยืนข้างๆ ก่อน อีกเดี๋ยวจะมีรางวัลของนายแน่”