บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 455 จับฉลาก
“ศิษย์…คือว่า…ศิษย์…” กระรอกลังเล ดวงตาเล็กๆ กลอกไปมา ศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนยอมศิโรราบแล้ว มันจึงตัดใจละทิ้งความมุ่งมั่น เอ่ยมาประโยคหนึ่งว่า “ศิษย์อยากจะบอกว่าอาจารย์พูด ถูก!”
“เด็กดี จิ้งฝ่า นายไม่มีความเห็นเหรอ?” ฟางเจิ้งถาม
หมาป่าเดียวดายหัวเราะ “ตอนลงเขาพวกท่านจะทรมานหมา ศิษย์เตรียมใจไว้แล้ว ศิษย์ยังไงก็ได้!” หมาป่าเดียวดายเชิดหน้าขึ้นอย่างโอหัง มีท่าทีไม่บ่ายเบี่ยงโดยไม่หวั่นเกรงอันตราย
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ฟางเจิ้งจึงโบกมือ กลับขึ้นภูเขา!
“เอ่อ อาจารย์ กลับแล้วรึ?” กระรอกถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย ไม่ต้องถูกรังแกแล้วย่อมดีใจ
ฟางเจิ้งหัวเราะเบาๆ “ใช่ กลับแล้ว เมื่อกี้แค่ตื่นนอนมาเดินเล่นตามกิจวัตรประจำวัน ให้พวกนายได้สัมผัสบรรยากาศในหมู่บ้านบ้าง ต่อไป…”
“ต่อไปอะไร” กระรอกถาม “จะกินข้าวใช่ไหม?”
“กินข้าว? เหอะๆ…”
ไม่นานนัก กลุ่มพวกเขายืนอยู่หน้าประตูใหญ่ หมาป่าเดียวดายพูดเสียงสะอื้น “อาจารย์ ศิษย์ว่าพวกเราเตรียมเสบียงอาหารไปให้พอก่อนค่อยเข้าไปดีไหม?”
หลังผ่านประสบการณ์นั่งยองหิวตรงริมฟุตบาทมา หมาป่าเดียวดายกลัวจริงๆ
“พูดอะไรน่ะ? มีอาจารย์อยู่ทั้งคน นายไม่ได้หิวหรอก?” ฟางเจิ้งตอบ
“ไม่ใช่ ศิษย์กลัวหิวตายต่างหาก…” หมาป่าเดียวดายพูดเสียงเบา
โป๊ก!
“เอ๋งๆ…”
สุดท้ายฟางเจิ้งพาลูกศิษย์ที่ประท้วงกลุ่มนี้เข้าไปในประตูไร้ลักษณ์
แต่ว่า…
“ติ๊ง! ทุกครั้งประตูไร้ลักษณ์จะเข้าไปได้มากสุดสองร่างสิ่งมีชีวิต นายมีคนเกิน ประตูไร้ลักษณ์จะต่อต้าน” ระบบพลันกล่าวขึ้น
ฟางเจิ้งอึ้งงัน ก่อนเอ่ยอย่างจนปัญญา “ความหมายคือพวกเราไปเที่ยวด้วยกันทั้งหมดไม่ได้?”
“นายยกระดับประตูไร้ลักษณ์ได้ แต่ว่าตรงนี้…ต้องการเงินนิดหน่อย” ระบบตอบ
“เท่าไร?” ฟางเจิ้งถาม
“อย่างต่ำสุดหนึ่งล้าน หนึ่งล้านนายก็ซื้อประตูเคลื่อนย้ายพริบตาที่โดยสารได้สามคน เป็นไง? สมน้้ำสมเนื้อมากเลยใช่ไหม? นายก็รู้นี่ มีคนมากมายยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านล้านเพื่อซื้ อสิ่งนี้” ระบบทำท่าเหมือนซื้อขายอย่างยุติธรรม
ฟางเจิ้งหัวเราะ “ไม่มีเงิน!”
ดังนั้น…
“อาจารย์ ถ้าอย่างนั้นข้าว่าข้าเฝ้าวัดดีกว่า” เด็กแดงชิงพูดก่อนคนแรก
“อาจารย์ ท่านว่านะ ออกไปครั้งนี้ก็ไม่รู้กี่วัน วัดต้องมีคนทำความสะอาด ให้ศิษย์อยู่นี่เถอะ…” เจ้าลิงพูด
“อาจารย์ ตอนนี้วัดเรามีข้าวของบ้างแล้ว ต้องระวังโจรใช่ไหม? ศิษย์เป็นผู้ปกปัดวัดหมายเลขหนึ่ง นี่คือภาระที่ศิษย์ควรรับผิดชอบ ไม่อาจปัดไปให้ผู้อื่นได้” หมาป่าเดียวดายบอก
“อาจารย์…” กระรอกตอบสนองช้า พบว่าถูกศิษย์พี่ศิษย์น้องตนแย่งไปก่อนแล้วจึงร้อนใจทันที ยังไม่ทันคิดให้ดีก็ตะโกนขึ้นมา จากนั้นต้องเศร้าใจเมื่อพบว่ามันไม่รู้จะพูดอะไร!
ฟางเจิ้งมองกระรอกที่ลนลานพลางส่ายหน้าด้วยความจำใจ “ช่างเถอะ นายไม่ต้องพูด ทุกคนจับฉลากเอา ใครได้สั้นที่สุดตามอาจารย์ไป”
ทุกคนได้ยินดังนั้นต่างตึงเครียดโดยพลัน แต่พอนึกถึงว่าอัตราที่ต้องออกไปคือหนึ่งส่วนสี่ จิตใจก็พลันสั่นคลอนอีกครั้ง
ฟางเจิ้งเอาเชือกเส้นเล็กๆ มาสี่เส้น ดึงให้ขาด จากนั้นกำไว้ในมือ โผล่มาเพียงส่วนหัว “เอาละ จับได้”
กระรอกมองอันนี้ มองอันนั้น ไม่รู้ควรจับอันไหน
เด็กแดงกลอกตาไปมา เมื่อครู่เขาจับตามองอากัปกิริยาของฟางเจิ้ง ในใจมีแผนการไว้แล้ว จึงคว้าเชือกเส้นหนึ่งไว้แล้วบอก “อาจารย์ ข้าเอาอันนี้!”
ฟางเจิ้งพยักหน้า ให้เขาดึงออกไป ทุกคนมองดู เจ้านี่ได้ขนาดยาวเท่าสองฝ่ามือ!
เด็กแดงพลันหัวเราะเสียงดัง “ยาวขนาดนี้ ดูท่าข้าคงไม่ต้องไปแล้ว พวกศิษย์พี่ พวกท่านเดินทางปลอดภัยล่ะ เห็นอะไรอย่าร้องไห้ ฮี่ๆ…”
เห็นเจ้าเด็กนี่ทำท่าคล้ายประสบความสำเร็จในชีวิต ลิง กระรอก และหมาป่าเดียวดายทำหน้าเศร้า เชือกยาวขนาดนี้ จบเห่แล้ว อัตราที่พวกมันต้องออกไปสูงขึ้นเป็นหนึ่งในสามแน่นอน!
ลิงสวดบทหนึ่ง “อมิตาพุทธ พระพุทธองค์ปกปัก ตามแต่วาสนาเถอะ”
เด็กแดงหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ศิษย์พี่ ขอพระพุทธองค์ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญคือในนี้ต่างหาก” เด็กแดงพูดจบก็ชี้ศีรษะ ความหมายคือข้าฉลาดมาก ข้ารู้จักแอบมอง พวกท่านไม่ฉลาด โง่เขลานัก
ลิงไม่โต้ตอบอะไร แต่ดึงเชือกต่อ สรุปยิ่งดึงยิ่งยาว สุดท้ายยาวถึงหนึ่งเมตร!
“อะไรกัน?!” คางของเด็กแดงแทบจะตกถึงพื้น มองเชือกเส้นเล็กในมือตนก่อนมองเส้นในมือเจ้าลิง…
ลิงหัวเราะคิกคัก “ศิษย์น้อง ความจริงพิสูจน์แล้ว ขอพระพุทธองค์ยังมีประโยชน์ อมิตาพุทธ ขอบคุณที่พระพุทธองค์ปกปัก”
เด็กแดงทำปากงึมงำ “นั่นมันดวงต่างหาก…”
“พระพุทธองค์ปกปักให้ศิษย์จับได้ยาวๆ ด้วยเถอะ! ศิษย์จะโขกหัวให้ท่าน!” ตอนนี้เอง เจ้ากระรอกกลอกตา ตั้งสติได้ก็คุกเข่าลงกับพื้น โขกหัวไปทางอุโบสถสามครั้ง
เด็กแดงเบะปาก “โง่เขลา…เชื่อจริงๆ รึว่าพระพุทธองค์จะปกป้อง พวกท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าวัดเราพุทธองค์ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นคนต่างหาก!”
กระรอกหลับตาเลือกหนึ่งหัวเส้น พอดึงออกมา…
“ยาวหนึ่งฝ่ามือ ยาวสองฝ่ามือ…สวรรค์ หนึ่งเมตรแล้ว! ยังมาอีก! สองเมตร! บัดซบ! สามเมตรแล้ว!” เด็กแดงตาแทบถลนออกมา!
กระรอกดึงเชือกออกมาสามเมตร! กระรอกเองยังงงงวย จากนั้นดีใจยกใหญ่ “ขอบคุณพระพุทธองค์ ศิษย์จะจุดธูปทุกวันแน่นอน จะทำความสะอาดให้ท่านทุกวันเลย ฮ่าๆ…”
เด็กแดงหน้าแดงแล้ว โดนลิงตบหน้าไปทีหนึ่ง กระรอกอีกทีหนึ่ง เจ็บชะมัดยาด!
เด็กแดงมองหมาป่าเดียวดายอย่างน่าสงสาร บอกว่า “ศิษย์พี่ ตาท่านแล้ว”
หมาป่าเดียวดายตอบ “ฉันจับเสร็จแล้วแหละ”
“เอ๊ะ ท่านจับเมื่อไร?” เด็กแดงถาม
“ตอนที่ศิษย์น้องจับ ศิษย์พี่ก็จับมาแล้ว พวกนายมองแต่เขา ไม่มีใครมองฉัน” หมาป่าเดียวดายตอบ
“ของท่านยาวเท่าไร?” เด็กแดงถาม
หมาป่าเดียวดายแสยะปากยิ้มทันที
เด็กแดงเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง ผลคือ…
หมาป่าเดียวดายอ้าปากพ่นเชือกออกมาก้อนหนึ่ง “ไม่ยาว สั้นกว่าจิ้งควนเล็กน้อย แต่ว่าน่าจะยาวกว่าของนาย!”
‘อั่ก!’
เด็กแดงแทบจะกระอักเลือด หน้าแดงก่ำ อยากตบปากตัวเองใจจะขาดสักทีสองที โดนตบหลายทีคราวนี้เจ็บชะมัด! ทว่าที่เจ็บกว่านั้นคือความจริงอันโหดร้ายที่ต้องออกไป!
“เอาละ ศิษย์ ไปกันเถอะ อาจารย์จะพานายไปดูโลก” ฟางเจิ้งหัวเราะชั่วร้าย เด็กแดงได้ยินเสียงแล้ว ไม่ว่าฟังอย่างไรก็น่าขนลุก…
แต่พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ยังต้องถูกฟางเจิ้งลากเข้าประตูไร้ลักษณ์อยู่ดี!
ฟางเจิ้งพูดเสียงเบา “เจ้าโง่ ภารกิจของประตูไร้ลักษณ์คือการช่วยคนดีจากความทุกข์ยาก เป็นได้มากว่านายอาจจะไม่โดนรังแก แต่อยู่บนเขาก็พูดยาก…”
เด็กแดงอึ้งงัน พอตรึกตรองดีๆ เหมือนจะเป็นแบบนี้จริงๆ! ต่อมาจึงลิงโลด “ที่แท้ก็แบบนี้เอง ฮ่าๆ!”
วินาทีที่สองคนเดินเข้าประตูไร้ลักษณ์ไป พวกเขาได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วๆ “ผมยาวสำคัญขนาดนั้นเลยรึไง?”
ผมยาว?
“หมายความว่ายังไง?” ฟางเจิ้งกับเด็กแดงยืนอยู่ริมถนน ต่างหันมองหน้ากัน ไม่เข้าใจอะไรเลย!