บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 465 ได้สติ
“หวังหลุน วันนี้ขอบคุณนายจริงๆ วันนี้ฉันมีความสุขมาก” เซ่าซินซิวเสยผมขึ้น
หวังหลุนพูดด้วยความดีใจ “ผมก็มีความสุขมากเหมือนกัน ทุกอย่างกำลังดีขึ้น ความรู้สึกนี้ดีจริงๆ” หวังหลุนพูดพลางขยับไปใกล้กองท่อนไม้มากขึ้นเรื่อยๆ
“หวังหลุน นายมีอะไรอยากจะพูดรึเปล่า?” เซ่าซินซิวถาม
หวังหลุนพลันผงะ ก่อนจะหน้าแดง ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ตอนนี้เองสายลมหอบหนึ่งพัดมา กระดาษแผ่นหนึ่งแปะเข้าที่หน้าเขา หวังหลุนดึงลงมาดูก็ต้องพบสิ่งที่ทำให้เขาตะลึงงัน ไม่นึก เลยว่าเขาจะเห็นอักษรบนกระดาษในคืนมืดอย่างชัดเจน! อีกทั้งเพียงแค่มองแวบแรก อักษรด้านบนก็ราวกับประทับในสมอง เนื้อหาส่วนนั้นไม่ยาว แต่บันทึกเรื่องราวในวัยเด็กของเขาไว้ เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน แต่มองปราดเดียวก็อ่านจบทั้งหมด อ่านเข้าใจ!
‘ข้างบ้านมีพี่ชายตัวน้อยย้ายมา ยิ้มดูดีมาก…’
“นี่มันลายมือของเด็กโง่นั่นนี่” หวังหลุนพูดตามจิตใต้สำนึก
“หือ?” เซ่าซินซิวมองหวังหลุนอย่างแปลกใจ
“ไม่มีอะไร เมื่อกี้เก็บ…” หวังหลุนเพิ่งพูดก็มีกระดาษอีกใบปลิวมา ครั้งนี้หวังหลุนเตรียมพร้อมรอ คว้าเอาไว้
‘มัธยมสาม…’
เนื้อหาบนกระดาษบันทึกเรื่องราวช่วงมัธยมต้นของสองคนไว้มากมาย โดดเรียน ปีนกำแพง ท่องเน็ต ขโมยปลา…ในหัวนึกถึงทุกรายละเอียดในตอนแรกอย่างควบคุมไม่ได้ เด็กผู้หญิงที่ไว้ผมสั้น นเสมอ หยาบคายเล็กน้อย แต่กลับซักเสื้อผ้าให้เขา เดินออกมาจากส่วนลึกสุดในใจของเขา เขาพลันพบว่าตนมีความทรงจำที่ลึกซึ้งกับเธอมาก! ลึกถึงขั้นเวลาเธอเศร้าหรือสุขล้วนชัดเจน!
“เด็กโง่นั่น…” พอนึกถึงติงหนิง หวังหลุนอดยิ้มไม่ได้
“นายว่าฉันเหรอ?” เซ่าซินซิวถาม
หวังหลุนรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่ แค่นึกถึงเด็กโง่คนหนึ่งเท่านั้น อ้อ ซินซิว จะว่ายังไงถ้าผมแสดงมายากลให้คุณดู?”
“นายเล่นมายากลเป็นด้วย?” เซ่าซินซิวถามด้วยความประหลาดใจ
“เป็นมายากลควบคุมไฟ” หวังหลุนพูดอย่างมั่นใจในตนเอง เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมั่นใจขนาดนี้ ถึงอย่างไร…ติงหนิงก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง
เมื่อนึกถึงติงหนิง รอยยิ้มหวังหลุนแข็งค้างเล็กน้อย ปวดหัวใจอยู่นิดๆ เขาก็บอกความรู้สึกแบบนี้ไม่ถูกเช่นกัน
ตอนนี้เอง มีกระดาษลอยมาอีกแผ่น
หวังหลุนคว้าเอาไว้ในมือตามจิตใต้สำนึก เป็นอักษรอีกตอน บันทึกชีวิตมัธยมปลายของพวกเขา ถูกลงโทษด้วยกัน ทะเลาะวิวาทด้วยกัน…
“นี่ถือเป็นความเงียบก่อนมายากลเหรอคะ?” เซ่าซินซิวขัดความคิดหวังหลุน
หวังหลุนพลันได้สติกลับมา ตอบยิ้มๆ ว่า “ถือว่าใช่นะ…”
หวังหลุนหยิบบุหรี่ออกมาจุด ก่อนพูด “เริ่มเดี๋ยวนี้…”
ผลคือมีกระดาษอีกแผ่นปลิวมา หวังหลุนขมวดคิ้ว ครั้งแรกเป็นเรื่องบังเอิญ ทว่าหลายครั้งขนาดนี้ก็แปลกเกินไปหน่อยแล้วไหม? เขานึกถึงติงหนิงก่อนมองเซ่าซินซิวตรงหน้า ภายในใจเกิดคว วามร้อนรนเล็กน้อย เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงร้อนใจ ราวกับว่าท่ามกลางความมืด ขอเพียงดีดบุหรี่ออกไป ก็จะเป็นเวลาที่เขาสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่าง!
หวังหลุนจึงลังเล คีบบุหรี่ไว้ตรงซอกนิ้ว ไม่ได้ดีดออกไป
กระดาษแผ่นนั้นตกลงตรงหน้าหวังหลุน เป็นอีกท่อนตัวอักษร อีกส่วนที่ชัดเจน แม้เขาจะไม่อยากอ่านแต่ก็ต้องอ่าน! อักษรเหล่านี้ราวกับมีมนตร์สะกด กระตุ้นความทรงจำอันอบอุ่นแต่ละช่วง งในใจเขา! ในความทรงจำ หวังหลุนถูกหัวเราะเยาะ ติงหนิงกวัดแกว่งไม้พลองวิ่งไล่ผู้ชายสองคนไปทั่วห้อง ในความทรงจำ ติงหนิงที่ปกติกินเก่งมากชัดๆ กลับกินน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเขาเ เข้ามา ในการหวนคิดถึง เพื่อนในใจเขาคนนั้น ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงมีกลิ่นอายของผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ…
“เธอ…” หวังหลุนเกิดความสงสัยวูบผ่านในใจ ทำไมมองนางฟ้าที่คิดถึงเช้าเย็นตรงหน้าแล้วในใจกลับมีติงหนิงแวบเข้ามา? ขอเพียงดีดบุหรี่ออกไป เขาเชื่อว่าความโรแมนติกในเสี้ยววินาที นั้นน่าจะทำให้เซ่าซินซิวพยักหน้าได้! การงานของเขากำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หากมีนางฟ้า ชีวิตนี้ก็สมบูรณ์แบบแล้ว แต่ว่า…ทำไมมือเขาแข็งทื่อแบบนี้ ทำไมถึงดีดไม่ไป?
ไกลออกไป ติงหนิงนั่งยองอยู่ข้างฟางเจิ้ง พึมพำว่า “เจ้าโง่ มัวทำอะไรอยู่? ฉันวางให้เขาเรียบร้อยแล้ว ทำไมไม่ดีดบุหรี่จุดไฟล่ะ!”
“บ้าจริง นานขนาดนี้ อีกเดี๋ยวเซ่าซินซิวก็หมดความอดทนหรอก”
“เจ้าโง่นั่นมัวคิดอะไรอยู่กันแน่…”
ติงหนิงพึมพำอยู่ข้างๆ ร้อนใจแทนหวังหลุนแล้ว
ฟางเจิ้งกลับยิ้ม เขารู้ว่าตัวเองเดิมพันถูก เห็นได้ว่าในใจหวังหลุนมีติงหนิง ตอนนี้เขาต้องการแค่การชี้นำ…แค่นั้นเอง
ดังนั้นฟางเจิ้งจึงเริ่มขยายแผนการ ส่งกระดาษไปอีกแผ่น
ครั้งนี้หวังหลุนตื่นตระหนกเล็กน้อยแล้ว เพราะเขาพบว่าตัวเองสงสัยในสิ่งที่เขาแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลงมาตลอด! หรือว่าเขาไม่ควรชอบเซ่าซินซิวนางฟ้าที่ผมยาวปลิวไสวสัดส่วนดี ใบหน้า างดงามอ่อนโยนคนนี้? เปรียบกับเธอแล้ว ยายเด็กติงหนิงนั่นหน้าตาแมนๆ ไว้ผมสั้นตลอด เทียบกันไม่ได้เลย! เพื่อตอนนี้ เขาต้องตามจีบเธอที่มหาวิทยาลัยมาครึ่งปี หลังเรียนจบก็ยัง ตามจีบมาจนถึงตอนนี้ ละทิ้งอุดมการณ์และความฝัน ละทิ้งทุกอย่าง จนในที่สุดตอนนี้ก็จะสำเร็จแล้ว ทำไมเขากลับขี้ขลาด? เขากลับหวาดกลัว? เขากลับลังเล?
“นายคิดอะไรอยู่?” เซ่าซินซิวถาม
หวังหลุนอยากตอบ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร กระดาษแผ่นนั้นตกลงบนตัวเขา อักษรแต่ละช่วงสะท้อนเข้าไปในดวงตา ประทับลงในสมอง ความทรงจำแต่ละช่วงๆ ถูกขุดออกมาอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ สิ่งที่มากกว่านั้นคือบางเรื่องที่เขาไม่รู้!
ติงหนิงไปเรียนไวโอลินเพื่อเขา กัดฟันยืนหยัดท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะถากถางของกลุ่มคน เล่นไวโอลินอยู่ท่ามกลางสายลมแรง ริมทะเล ต่อหน้าคลื่น เสียดสีจนบ่าเกิดพุพอง เท้าถูกหินบา าดเป็นรอยแผลยาวน่าตกใจหลายแผล…
ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ทุกวันติงหนิงจะเข้าไปรินน้ำชาช่วยงานทุกคนเพื่อช่วยเขาทำการแสดงปลาโลมาด้วยตัวคนเดียว เธอเป็นคนทำงานสุขอนามัยทั้งหมด เช็ดโต๊ะ เช็ดกระจก ทำความสะอาดปลา …วันหนึ่งแทบยืดเอวไม่ขึ้น กลับบ้านมาไม่มีแม้แต่คนในครอบครัว ไม่มีคำพูดอบอุ่นสักคำ แต่ต้องทำอาหารกินเอง ซักผ้าเอง…
เขาเห็นติงหนิงแอบร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้ง ซ่อนอยู่ในมุม ซ่อนในผ้านวม ซ่อนในที่ที่เขามองไม่เห็น
พริบตานั้น เขาเจ็บปวดหัวใจ อยากร้องไห้เช่นกัน เมื่อนึกถึงชีวิตในหนึ่งเดือนนี้ของติงหนิงแล้วนึกถึงตัวเอง ระหว่างที่ทุกวันได้กินของดีๆ พลางตามจีบเซ่าซินซิว ทำให้เธอยิ้มแย ย้มมีความสุข เขาเคยคิดถึงติงหนิงหรือไม่?
ตอนนี้เอง หวังหลุนพบว่าไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนโต เขาติดค้างติงหนิงเยอะมาก ที่สำคัญที่สุดคือติงหนิงในภาพจำเขาเหมือนกำลังเปลี่ยนไป ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ไม่ใช่เด็กแ แก่แดดแล้ว แต่เป็นเด็กสาวสวยสูงเพรียว! ทว่าเขากลับมองข้ามเรื่องนี้เสมอมา…