บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 466 ไอ้บ้าสองคน
“เป็นอะไรไป” เซ่าซินซิวถาม
หวังหลุนอึ้งงัน มือสั่น จากนั้นดีดบุหรี่ออกไป บุหรี่ลอยไปตกลงพื้น เกิดเสียงดังตามมา น้ำมันดีเซลติดไฟ เปลวไฟลุกโชนขึ้นแล้วลามไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายกลายเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่! ! และยังมีอักษรภาษาอังกฤษคำว่า LOVE!
วินาทีนั้นเซ่าซินซิวนิ่งอึ้ง พริบตานั้นหวังหลุนเหม่อลอย เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อภาพนี้ปรากฏเขาจะดีใจอย่างยิ่ง จากนั้นก็รอความสุขเข้ามา ทว่าตอนนี้หัวใจเขากลับหนาวเหน็บ เย็นเยื อกสุดขีด ว่างเปล่าโหวงเหวงเหมือนเสียบางสิ่งไป…
ติงหนิงที่อยู่ไกลออกไปรัวหมัดด้วยความตื่นเต้น จากนั้นน้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างหยุดไว้ไม่อยู่ ก้มหน้าลงพูดว่า “หลวงพี่ฟางเจิ้ง ไปกันเถอะ เราไปกินข้าวกัน กินเสร็จแล้วฉันต้องรีบ บไปขึ้นเครื่อง”
ฟางเจิ้งมองสองคนนั้นไกลๆ พลางถอนหายใจ เดิมทีคิดว่าหวังหลุนเห็นทุกอย่างนั้นแล้วจะล้มเลิกการกระทำต่อจากนั้น ตอนนี้ดูท่าเขาคงคิดมากไป จึงพยักหน้าและพาติงหนิงจากไปกับเด็กแดง
“นี่คือเซอร์ไพรส์ที่นายทำให้ฉันเหรอ?” เซ่าซินซิวปิดปากถามด้วยสีหน้าตกใจ
หวังหลุนก้มหน้าลงขานรับ ทว่าต่อมาก็เอ่ยเรียกความสนใจ “ใช่ ชอบไหม?”
“ชอบ สวยมาก…แต่ว่าหวังหลุน นายชอบฉันจริงๆ เหรอ?” เซ่าซินซิวพลันถามพลางจ้องดวงตาของหวังหลุน
หวังหลุนอยากตอบทันทีว่า ใช่!
ทว่าเมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปากกลับเอ่ยไม่ค่อยออก เซ่าซินซิวกล่าว “ตอนมหาวิทยาลัย ฉันรู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างนายตลอด พวกนายกินเที่ยวด้วยกัน ไปทะเลาะวิวาทด้วยกัน…เธอชื่อ อะไร?”
“ติงหนิง” หวังหลุนตอบ
“เธอสวยมากนะ…” เซ่าซินซิวพูด
หวังหลุนงงงัน ติงหนิงสวยเหรอ? จึงเอ่ยไปตามสัญชาตญาณ “เธอเป็นเด็กแก่แดด”
“เด็กแก่แดด? จะเป็นไปได้ยังไง เธอเป็นผู้หญิงอ่อนโยนอบอุ่นและเอาใจใส่ที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลย อีกอย่างเธอไว้ผมยาวดูพลิ้วสวยมาก ทำไมถึงเป็นเด็กแก่แดดไปได้?” เซ่าซินซิวงุน นงง
หวังหลุนงุนงงเช่นกัน อ่อนโยนอบอุ่น เอาใจใส่ ผมยาว?
เหมือนมีภาพยนตร์ฉายผ่านความผิด ภาพขยับผ่านทีละภาพ เด็กแก่แดดที่ผมสั้น จับปลา ปีนกำแพง เตะหมาคนนั้น เด็กแก่แดดที่ช่วยเขาซักผ้า ช่วยเขาต่อยตี เอาอาหารมาให้เขา กินข้าว เป็นเพื่อนเขา ให้ของอร่อยๆ กับเขาคนนั้น เธอโตเป็นสาวสวยตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้! และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ผมสั้นยาวขึ้น ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเอว…ดวงตาคู่นั้นสว่างไสว รอยยิ้ม มน่าหลงใหล…
หวังหลุนจำได้ชัดเจนว่าพวกเขาสองคนไปดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ในนั้นมีบทพูดว่า ‘รอฉันผมยาวถึงเอว คุณจะแต่งงานกับฉันไหม?’
ติงหนิงถามเขาเชิงล้อเล่น เขากลับตอบซื่อๆ ว่า ‘ไม่มีทาง เธอมันเด็กแก่แดด’
แต่ว่า…เธอผมยาวถึงเอวแล้ว เขากลับไม่รู้ ไม่สังเกตเห็น!
“พวกเรารู้ว่าเธอชอบนาย นายก็ชอบเธอ ถูกไหม?” เซ่าซินซิวถามทันที
หวังหลุนไม่ตอบ เพราะมีร่างสองร่างวูบผ่านในความคิด ก่อนตัดสลับกันช้าๆ ร่างของเซ่าซินซิวอ่อนจางลง
“ในใจนายมีคนอื่น ฉันจะเดินเข้าไปในชีวิตนายได้ยังไง? หวังหลุน บนโลกมีคนประเภทหนึ่งที่ถูกมองข้ามได้ง่ายที่สุด หนึ่งคือคนในครอบครัว อีกหนึ่งคือคนที่รักลึกซึ้งที่สุด พวกเข ขาเป็นคนที่นายคุ้นชิน ชินจนถึงขั้นเหมือนกับมือเท้า ปกติจะมองข้ามการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาไป แต่ตอนที่เขาเจ็บปวด นายก็จะเจ็บด้วย พอพวกเขาหายไป นายจะอยู่ต่อไปไม่ได้…ถ้านายจะค คบกับฉัน นายลองถามหัวใจตัวเองดูว่าทิ้งติงหนิงได้จริงๆ หรือเปล่า?” เซ่าซินซิวถาม
หวังหลุนเป็นใบ้ เขายังอยากจะยืนหยัดต่ออีกนิด
ไกลออกไป ฟางเจิ้งยังคงไม่ยอมอยู่นิดๆ เขากัดฟันส่งกระดาษแผ่นสุดท้ายไป ตกลงในมือหวังหลุน
‘ผมยาวสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? นายเคยมองฉันไหม? ฉันก็ผมยาวเหมือนกัน!’
‘ส่งเขาเข้าโบสถ์แล้ว ไม่มีเสียใจ ฉันก็ควรจะไปเหมือนกัน วันนี้ฉันมีความสุขมาก แต่ก็เสียใจมากเหมือนกัน เที่ยงคืนนี้ต้องบอกลาเมืองนี้แล้ว และหายไปจากความทรงจำเขา…’
หวังหลุนราวกับถูกฟ้าผ่า คนในความคิดชัดเจนขึ้นอย่างสมบูรณ์ เหลือเพียงติงหนิง! มีเพียงเธอคนเดียว!
หวังหลุนโค้งตัวลงแสดงความเคารพเซ่าซินซิว “ขอโทษนะ ผมลืมเธอไม่ได้ จนถึงตอนนี้ผมถึงรู้ ผมเดินมาผิดทาง ชั่วชีวิตนี้ผมทิ้งเด็กโง่นั่นไม่ลง…ผมต้องไปแล้ว ขอโทษด้วยครับ”
พูดจบหวังหลุนก็ตะโกนไปรอบๆ “ติงหนิง! ออกมาหน่อย!”
“ติงหนิง!”
“ติงหนิงยายเด็กโง่ ออกมานะ!”
…
ทว่าโดยรอบเงียบสงัด ไม่มีคนขานรับ
ฟางเจิ้งกับเด็กแดงมีหูที่ดีกว่าคนปกติมาก สองคนย่อมได้ยินอยู่แล้ว ทว่าพวกเขามองตากันและไม่ส่งเสียง นัยน์ตามียิ้มชั่วร้ายวูบวาบ ‘ให้เจ้าบ้านั่นร้อนใจสักเดี๋ยว ไปกินข้าวกันก ก่อน…’
ติงหนิงพลันหันกลับมาถาม “มีคนเรียกฉันอยู่รึเปล่าคะ?”
“มีที่ไหน? ไม่มีเลย!” เด็กแดงตอบทันที
ติงหนิงมองฟางเจิ้ง ฟางเจิ้งเงยหน้ามองฟ้าทันที แสร้งเป็นไม่เห็น
ติงหนิงขมวดคิ้วสงสัย “คงจะหูฝาดไป ไปเถอะ กินข้าวกัน”
ต่อมาติงหนิงนำทางไป ผลคือพาไปพามา เด็กแดงกับฟางเจิ้งเดินเร็วกว่าติงหนิง ติงหนิงเลยต้องเร่งความเร็วอย่างเสียไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เด็กสาวที่ไม่รู้อะไรเคยคนนี้จึงถูกไอ้บ้าสอง คนพาไป หายวับไร้ร่องรอย ที่น่าเศร้ากว่าคือ…
เด็กแดงแอบโบกมือถือของติงหนิงให้ฟางเจิ้ง ก่อนยิ้มลำพองใจ เงียบซะ!
‘ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ โปรดติดต่อใหม่ในภายหลัง’ หวังหลุนฟังเสียงปลายสาย ร้อนใจจนวิ่งไปทั่ว
เขาไม่รู้ว่าอักษรบนกระดาษนั้นเป็นของจริงหรือไม่ แต่มีอย่างหนึ่งที่เขาเข้าใจ กระดาษพวกนั้นมหัศจรรย์เกินไป! พอแตะปุ๊บก็เห็นทุกอย่าง คืนมืดขนาดนั้นยังมองเห็นตัวอักษรบนนั้น นชัดเจน ชัดแบบที่ความรู้ทั่วไปอธิบายไม่ได้ เขาเชื่อว่านี่ต้องเป็นเพราะสวรรค์ทนมองต่อไปไม่ได้เลยมีใจอยากช่วยเหลือพวกเขาแน่ ทว่า…
“พระเจ้า ท่านแกล้งผมเหรอครับ ถ้าท่านศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ให้ผมโทรติดไม่ได้เหรอ” หวังหลุนร้องครวญ น่าเสียดายที่พระเจ้าไม่ว่างมาสนใจเขา
ส่วนตัวก่อเรื่องชั่วร้ายกำลังนั่งกินข้าวกินผัดผักในร้านอาหาร กินกันจนสุขใจ
ติงหนิงมองหลวงจีนเด็กและผู้ใหญ่ตรงหน้าที่กระเพาะอาหารดีมาก พูดสะอื้นไห้ว่า “หลวงพี่ฟางเจิ้ง ทำไมพวกท่านทำแบบนี้ ฉันอกหักอยู่นะ ไม่อยากเชื่อว่าพวกท่านยังกินกันได้เยอะแบบ บนี้อีก”
“หืม? สีกาอกหัก? สีกา พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง” ฟางเจิ้งเข้าใจแต่แสร้งโง่
“ใช่ๆ พี่ติงหนิง นั่นคือเพื่อนพี่นี่ เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วย” เด็กแดงพยักหน้าตามและพูดสนับสนุน
ติงหนิงมองไอ้บ้าสองคนตรงหน้า โดยเฉพาะเจ้าหัวโล้นผู้ใหญ่ เอ่ยอย่างโมโหว่า “พวกท่านโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่! ฉันชอบไอ้บ้านั่น! เขาดีกับคนอื่น ฉันก็อกหักไม่ใช่รึไง? ฮือ ๆ…จะรังแกกันเกินไปแล้ว…”
ติงหนิงร้องไห้โฮ ไม่ห่วงภาพลักษณ์แม้แต่น้อย
ส่วนฟางเจิ้งกับเด็กแดงกลับแย้มยิ้ม…