บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 493 ต้นไม้โบราณเสียดฟ้า
“มอบตัว? แกโง่รึเปล่า ตอนนี้คนที่มีสิทธิ์พูดคือพวกเราต่างหาก” สวีเหยียนเห็นฟางเจิ้งไม่ขยับเขยื้อน รู้ว่าฟางเจิ้งวิตกเกรงกลัวจนไม่เคลื่อนไหวจึงยิ้มเยาะ
ฟางเจิ้งส่ายหน้าพูด “ประสกมั่นใจว่านะว่าจะไปต่อ?”
“มันจบแล้ว แกจะวางบานประตูลงแล้วให้พวกเรามัดแกไว้ หรือจะให้ส่งพวกมันไปตายก็แค่คำพูดนั้น ไม่ว่าแกจะใช้วิธีการอะไรก็ตาม ขอแค่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ ฉันจะแทงมันซะ! ฉันไม่เชื อภาพลวงตาที่เห็น ฉันแทงลงไปก็เป็นภาพลวงตาเหมือนกัน!” สวีเหยียนพูดด้วยความเหี้ยมโหด
คำพูดนี้ไม่ใช่ไม่มีหลักการ แม้ฟางเจิ้งจะพาพวกเขาเข้าฝัน กระทั่งให้พวกเขาควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ แต่ทุกเรื่องมีคำว่า ‘ถ้าหาก’ ชีวิตคนสำคัญ เขาไม่กล้าเดิมพัน แต่ก็หยุดใช้อภินิ หารไม่ได้เช่นกัน!
เฉินเหล่ากล่าวว่า “ฟางเจิ้ง อย่าคิดว่าพวกเรากำลังล้อเล่น พวกเขาไม่ใช่คนแรก และก็ไม่ใช่คนสุดท้าย คนที่เข้ามาที่นี่ไม่จ่ายเงินก็ต้องจ่ายชีวิต สองอย่างเลือกได้แค่หนึ่งอย่าง คนที่เสียแขนเสียขาไปเป็นเรื่องปกติ! แน่นอน ถ้าแกหัวดื้อจริงๆ ก็จะตัดแขนตัดขา ราดกรดกำมะถันหน่อยแล้วโยนทิ้งบนถนนซะ เท่านี้ก็ได้เงินมาไม่น้อยแล้ว” เฉินเหล่าจงใจพูดสิ่งเหล่ านี้เพื่อขู่ฟางเจิ้ง
แต่ฟางเจิ้งได้ยินดังนั้น ความลังเลเสี้ยวหนึ่งในแววตากลับหายไป เขาโยนบานประตูทิ้ง
เฉินเหล่า สวีเหยียน หลี่จิ้งชู เฉินเซียว ไปจนกระทั่งหลิวต้าเฉิงที่นอนหมอบบนพื้นต่างแย้มยิ้ม พวกเขารู้ว่าชนะแล้ว แต่จะชนะจริงๆ หรือ?
ฟางเจิ้งประนมสองมือ เอ่ยกับพวกเขาด้วยสีหน้ามีเมตตา “อมิตาพุทธ โปรดทุกสรรพสัตว์” ขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนอภินิหารในความคิด วิชาต้นไม้แปลงกาย!
“โปรดทุกสรรพ…เอ่อ มือฉัน!” สวีเหยียนเพิ่งด่าได้สองคำก็เห็นสองมือขยับไม่ได้ พออยากขยับตามจิตใต้สำนึกก็แข็งค้างไปทั้งตัว ขยับไม่ได้เลย สวีเหยียนร้องด้วยความตื่นกลัว “เ เกิดอะไรขึ้น? ฉันขยับไม่ได้แล้ว?” พร้อมกันนั้น สวีเหยียนมองคนอื่น เห็นคนอื่นขยับไม่ได้เช่นเดียวกัน มิหนำซ้ำผิวหนังพวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำตาล เปลือกไม้หนาเกาะอยู่บน ตัว ศีรษะหลี่จิ้งชูยังมีต้นอ่อนงอก แตกหน่อออกมา!
เฉินเหล่าก็เช่นกัน เขามองสองมือด้วยความตกใจกลัว สองมือมีเปลือกไม้โผล่มาไม่หยุด ทีละจุดๆ จนกลายเป็นโครงสร้างไม้! เฉินเหล่าร้องลั่น “เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“คนกระทำ สวรรค์มอง เหนือหัวไปสามฉื่อมีเทพเจ้า! ไม่ใช่ไม่ได้รับผลกรรม แค่ยังไม่ถึงเวลา วันนี้ถึงเวลาแล้ว ทุกท่าน ตอนยังมีชีวิตทุกท่านนำพาแต่ความทุกข์ยากมาให้ปุถุชน จากนี้จงกลาย ยเป็นต้นไม้สูงเสียดฟ้า บังฝนด้านนี้ให้กับปุถุชน ชดใช้กรรมไปเถอะ” เสียงฟางเจิ้งดังขึ้น
ถ้าก่อนหน้านี้ฟางเจิ้งพูดแบบนี้ พวกเขาจะต้องไม่คิดอย่างนั้นแน่ คิดว่าคงเป็นปาหี่อะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้พวกเขาไม่คิดแบบนี้แล้ว ทว่ากลัวจริงๆ น่ากลัว!
เฉินเซียวพูด “ฟางเจิ้ง เราเป็นเพื่อนกันนี่ นายจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้! ช่วยด้วย…ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ…”
“อมิตาพุทธ!” ฟางเจิ้งประนมสองมือสวดเสียงดัง เสียงกังวานอย่างยิ่งราวกับเสียงสวรรค์!
ภายใต้แสงจันทร์ หลายคนที่เดิมทีร้องไม่หยุดกลับเงียบเสียงไปพร้อมกัน จากนั้นร่างบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูป เปลือกไม้งอกมาจากผิวหนังทีละชั้น กลายเป็นมนุษย์ไม้ไปทีละคน ก่อนจะถูกหุ้มไว้ ทีละชั้น สุดท้ายเปลี่ยนเป็นต้นไม้สูงเสียดฟ้า!
แต่วินาทีที่พวกเขากลายเป็นต้นไม้ คนที่ถูกพวกเขาคุมตัวหมดสติไป พวกเขาไม่รู้อะไรเลย แค่ง่วงเท่านั้น ยืนหยัดได้ครู่หนึ่งก็หลับไป
แต่มีคนยังไม่หลับ นั่นคือหลิวต้าเฉิง!
หลิวต้าเฉิงเห็นพวกเฉินเซียวกลายเป็นต้นไม้ก็ตกใจจนวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่าง น้ำมูกไหล น้ำตานอง คุกเข่าตรงหน้าฟางเจิ้ง เอาศีรษะโขกพื้นราวกับตำกระเทียม “ฟางเจิ้ง ฉันผิดไปแล้ว ฉันรู้ว่าฉันผิด! ฉันไม่ใช่คน! ขอร้องล่ะ อย่าให้ฉันเป็นต้นไม้เลย…”
“หลิวต้าเฉิง ประสกโขกหัวผิดทางแล้ว” ฟางเจิ้งเตือน
หลิวต้าเฉิงพลันหมุนตัวกลับ โขกศีรษะให้ฉีลี่อย่าที่นอนหลับไปเช่นกัน โขกอย่างบ้าคลั่ง ศีรษะเต็มไปด้วยเลือดแต่กลับไม่ยอมหยุด เขารู้ว่าจะหยุดตอนนี้ไม่ได้ เจ็บดีกว่าตาย!
ทว่าฉีลี่อย่าหมดสติไปแล้ว ฟางเจิ้งข้างกายก็ไม่มีท่าทีว่าจะให้เขาหยุด แต่เดินไปข้างสวีเหยียนเงียบๆ ด้วยกลายเป็นต้นไม้แล้ว เสื้อผ้าจึงขยายจนปริแตก ของในนั้นตกลงมา ฟางเจิ้ง งหยิบมือถือของตัวเองมากดโทร 110 เงียบๆ
ต่อมาฟางเจิ้งหิ้วหลิวต้าเฉิงไปโยนไว้ในลานบ้าน
หลิวต้าเฉิงร้องไห้ “ฟางเจิ้ง เห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนกัน ปล่อยฉันไปเถอะ จากนี้ไป…ฉันจะไม่ทำอีกแล้วจริงๆ”
“หลิวต้าเฉิง ประสกชอบปลูกต้นไม้ ชอบสร้างความผาสุกให้กับโลกมากขนาดนั้น วันนี้อาตมาจะให้ประสกสมความปรารถนา ไปเถอะ…บางบาปกรรมก็แก้ไม่ได้ด้วยการพูดสำนึกประโยคเดียว” ฟางเจิ้ง งกล่าว
“ฟางเจิ้ง นายจะทำแบบนี้ไม่ได้ ไหนบอกว่าวางดาบลงจะสำเร็จอรหันต์ทันที? ฉันวางลงแล้ว!” หลิวต้าเฉิงร้องโวย
ฟางเจิ้งจ้องหลิวต้าเฉิง “ถ้าอย่างนั้นก็พูดมา บอกสิ่งที่ประสกเห็นและได้ยินที่นี่มา แล้วก็เรื่องคนที่ตายไปเหล่านั้น”
ตอนนี้หลิวต้าเฉิงจะไม่กล้าบอกหรือ? เขากลัวว่าจะพูดช้าแล้วกลายเป็นต้นไม้ด้วยเลยรีบบอก “ฟางเจิ้ง ฉันบอกไปหมดแล้ว ที่นี่คือรังแก๊งต้มตุ๋น มีทั้งหมดสองที่ ที่แรกที่นายไปนั่น นคือบ้าน ที่นี่คือบ้านมืด ที่นี่เราจะจัดการคนที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ วิธีของพวกเราง่ายมาก ขัง ไม่ให้ข้าวกิน ถ้าไม่ให้ความร่วมมืออีกก็ตี! ตีจนเนื้อแตกนั้นเป็นเรื่องปกติมา าก ถ้าภายในสามเดือนอีกฝ่ายยังไม่ยอมก็จะเอาพวกเขาไปขาย ขายให้พ่อค้าที่ชื่อว่าเตาจื่อโถว พวกเขาจะทำลายโฉม ทำให้พิการ แล้วโยนให้ไปขอทานบนถนน…”
ตอนนี้เอง เสียงไซเรนตำรวจดังมา
ฟางเจิ้งถอนหายใจ “ประสกไว้บอกกับตำรวจเถอะ จำเอาไว้ พูดให้หมด ยิ่งช่วยคนได้มากเท่าไรบุญกุศลยิ่งมากเท่านั้น ถ้าประสกใช้บุญกุศลชะล้างบาปกรรมไม่ได้ พวกเขาก็คืออนาคตของประสก ”
พูดจบ ฟางเจิ้งลุกขึ้นเดินไป
ไม่นานตำรวจก็มาแล้ว พอเข้าประตูมาพวกตำรวจตกใจสะดุ้ง คิดว่าเข้ามาในป่าโบราณ ภายในลานบ้านมีต้นไม้สูงสิบกว่าต้น! ที่สำคัญคือพวกเขาไม่เคยเห็นต้นไม้พวกนี้มาก่อน ถึงอย่างไรก็ เป็นตำรวจท้องถิ่นใกล้เคียง ในหมู่บ้านมีต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร? แต่ว่าที่นี่มีต้นไม้เพิ่มมามากขนาดนี้ ทำไมดูเหมือนไม่ใช่ของปลอม…แต่ละคนพลันเกิดคำถามขึ้นมา
แต่ทันใดนั้นเอง พวกเขาถูกความโกรธเข้ามาแทนที่ เห็นในลานบ้านข้างในประตูเหล็กใหญ่มีคนหมดสตินอนเต็มพื้นไปหมด คนเหล่านี้ซูบผอมราวกับฟืน ผิวหนังหย่อน ตามตัวมีบาดแผลจำนวนมาก…
เมื่อเห็นบ้านลักษณะกรงขังแบบนี้ พวกเขาก็คาดเดาอะไรได้แล้ว
ตอนนี้เองหลิวต้าเฉิงวิ่งเข้ามาคุกเข่ากับพื้น “ผมขอมอบตัว ขอมอบตัว! ที่นี่คือแหล่งกบดานธุรกิจแบบพีระมิด ที่นี่มีแต่คนเลว…”
ก่อนตำรวจจะเข้ามากันเยอะขึ้น ไม่เพียงแค่ที่นี่ บ้านในตอนแรกก็ถูกตำรวจล้อมไว้แล้ว คนข้างในถูกจับหมด คนที่ไม่เคยทำผิดถูกส่งกลับ คนที่ทำผิดก็จัดการตามกฎหมาย
ตำรวจมีเบาะแสจากหลิวต้าเฉิงแล้วจึงคลำไปตามเบาะแสนั้น ไม่นานก็เจอเบาะแสเตาจื่อโถวที่เขาว่า เพียงครั้งเดียวก็รวบแก๊งเดนมนุษย์เป็นภัยต่อสังคมได้ทั้งหมด
ทะเลดาวถูกปูพรมค้นหา ครึ่งเดือนต่อมา ทะเลดาวที่ก่อเรื่องอย่างมีความสุขยิ่งที่เป่ยเจียงถูกถอนรากถอนโคนหมดสิ้น
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ฟางเจิ้งมองผู้หญิงที่มาไหว้พระด้วยความมึนงง