บัญชามังกรเดือด - บทที่ 252 รักและทะนุถนอมมากขึ้น
บัญชามังกรเดือด บทที่ 252 รักและทะนุถนอมมากขึ้น
ซูซูพอจะทราบเรื่องราวความเป็นมาทุกอย่างโดยคร่าว ๆ แล้ว ทราบว่าโจรเรียกค่าไถ่นั่นคือสามีเก่าของกงลี่
แต่ทว่าฉินเทียนกลับไม่ได้พูดถึงเรื่องที่กงลี่ถูกสามีเก่าเธอปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณ
เขารู้อยู่ว่าซูซูเป็นคนใจอ่อน ถ้าเกิดเธอรู้เรื่องนี้ เธอต้องรู้สึกเสียใจแทนกงลี่นานมาก ๆ อย่างแน่นอน
ซูซูกุมมือของกงลี่พลางพูดปลอบใจ: “ลำบากเธอเลยนะ”
“เอางี้ไหม พรุ่งนี้เธอพาเสี่ยวเฉียงกลับไปก่อน เธอบอกตำแหน่งที่ตั้งมาให้ฉัน ต่อจากนี้เดี๋ยวฉันไปกับฉินเทียนก็ได้แล้ว”
“หลังจากที่เธอกลับไปแล้ว ก็พักผ่อนดี ๆ ก่อน”
“เธอไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องทางนี้มีฉันกับฉินเทียนอยู่ ต้องจัดการได้แน่นอน”
กงลี่นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ: “พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีเถอะ”
“ฉันมีเพื่อนที่ความสัมพันธ์ค่อนข้างไม่เลวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันจะลองติดต่อหาพวกเขาดู”
“ถ้าเกิดเป็นไปได้ละก็ ฉันจะส่งเสี่ยวเฉียงไปให้พวกเขาช่วยดูแลก่อน”
ซูซูพยักหน้า: “งั้นพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”
“เธอเหนื่อยแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
“ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นนะ”
กงลี่ดูมีเรื่องที่เก็บไว้ในใจเยอะมาก ๆ เธอกลับไปถึงห้องพักของตัวเอง
อารมณ์ของซูซูดิ่งเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วพูด: “เห้อ สุภาษิตได้กล่าวไว้ว่าผู้ชายกลัวทำงานผิดสาย ผู้หญิงกลัวแต่งงานผิดเจ้าบ่าว”
“สงสารกงลี่มาก เป็นผู้หญิงที่ดีเลิศแบบนี้ กลับต้องพบเจอกับผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ทำให้ชีวิตนี้เกือบจะพังทลายไปด้วย”
ฉินเทียนกุมมือของซูซูพลางพูด: “เธอก็ได้พบเจอผู้สูงศักดิ์อย่างคุณที่ดึงเธอขึ้นมาจากทะเลเพลิงกลางคันแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“ตอนนี้เธอก็ใช้ชีวิตได้ค่อนข้างดีเลยไม่ใช่หรือ”
ซูซูขมวดคิ้วพลางพูด: “แต่อย่างไรซะฉันก็ให้ความช่วยเหลือเธอได้แค่ทางวัตถุเท่านั้น”
“เธอยังสาวขนาดนี้ ต้องดูแลลูกอีกคนหนึ่ง แล้วชีวิตในอนาคตของเธอจะเป็นยังไง?”
ฉินเทียนยิ้มแล้วตอบกลับว่า: “คุณวางแผนจะแนะนำเธอให้เฉินเอ้อร์กั่วรู้จักอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”
“หรือจะให้ผมเรียกเอ้อร์กั่วมาดีไหม ให้พวกเขาดูตัวกัน”
ซูซูยิ้มพลางพูด: “เพื่อนคนนั้นของคุณก็ไม่ใช่คนสุภาพเรียบร้อยอะไรเหมือนกัน ไม่คู่ควรกับเพื่อนสนิทฉัน!”
เมื่อฉินเทียนเห็นเธอยิ้มแล้วดูงดงามอย่างไร้ที่ติและมีเสน่ห์มาก ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะโอบเธอเข้ามาในอ้อมอก
พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา: “แล้วคุณรู้สึกว่าการที่ได้แต่งงานกับผม คุณตัดสินใจผิดไหมครับ?”
ซูซูนิ่งเงียบ
ตอนนี้เธอเริ่มสงสัยในตัวเองแล้วว่าการที่เธอแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เธอแต่งผิดหรือเปล่า?
เมื่อปีนั้น หลังจากเหตุการณ์นั้นเพิ่งเกิดขึ้น มีหลายครั้งมากจริง ๆ ที่เธออยากจบชีวิตตัวเอง
นั่นเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตเธอ เธอรู้สึกว่าทั้งชีวิตของตัวเองได้พังทลายลงไปแล้ว
หากมีชีวิตอยู่ต่อไป มีแต่ต้องทนอยู่กับการเหน็บแนมและการเมินเฉยที่นับไม่ถ้วนจากผู้คน รวมไปถึงความเสียใจและความเจ็บปวด
แต่ทว่าสุดท้ายสาเหตุที่เธอไม่ได้เลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง นั่นก็เป็นเพราะเธอตัดใจทิ้งให้แม่อยู่คนเดียวไม่ลง ปล่อยให้แม่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายไร้ที่พึ่งพาในโลกใบนี้คนเดียว
พ่อเสียชีวิตก่อน ซึ่งแม่เป็นคนที่เลี้ยงดูให้เธอเติบโตด้วยความยากลำเค็ญ
บนโลกใบนี้ พวกเขาทั้งสองต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ต่อมาก็คือตลอดทั้งห้าปีที่ใช้ชีวิตอยู่บนวีลแชร์ เธอไม่มีความทรงจำอะไรต่อห้าปีนั้น
เมื่อรำลึกกลับไปในตอนนี้ หากไม่ใช่เพราะเสียความทรงจำ เอาตัวรอดไปเป็นวัน ๆ มาห้าปี
เธอไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าตัวเองจะสามารถมีชีวิตรอดถึงวันที่ผู้ชายคนนี้กลับมาหรือเปล่า
ฉินเทียนกลับมาแล้ว
อีกทั้งดูเหมือนกับว่าเขาจะแตกต่างจากเดิมด้วย เขาไม่เพียงมีวิชาการฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมล้ำเลิศที่สุด
ซูซูสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าบุคลิกลักษณะทั้งหมดของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว
บุคลิกลักษณะแบบนั้น มีเพียงผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองมาก ๆ ถึงมีบุคลิกลักษณะแบบนั้นได้
ฉินเทียนก็แสดงความสามารถแบบนี้ออกมาในเรื่องต่าง ๆ จริง ๆ ทำให้เธอรู้สึกแปลกหูแปลกตา
ตอนนี้เมื่อฉินเทียนถามเธอว่า เธอแต่งงานผิดคนหรือเปล่า?
จู่ ๆ เธอก็เริ่มอ่านความในใจตัวเองไม่ค่อยออก
ผู้ชายที่เกลียดชังมากขนาดนั้นคนหนึ่งในอดีต เมื่อดูตอนนี้แล้วเหมือนเขาก็ไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้วนะ
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น เธอยังค้นพบอีกว่าเหมือนตัวเองจะเริ่มไม่อยากจากผู้ชายคนนี้ไปไหนแล้ว
ซึ่งเธอไม่ยอมยอมรับในจุดนี้
ทว่าเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จู่ ๆ ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของซูซูแดงระเรื่อและไม่พูดอะไร ฉินเทียนจึงโน้มศีรษะลงไปกระซิบข้างหูเธอ:
“เพราะฉะนั้นแล้ว บางครั้งความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจก่อให้เกิด ก็สามารถเบ่งบานเป็นดอกไม้ที่สวยงามได้”
“ที่รัก ผมรับประกันได้เลยว่าชั่วชีวิตนี้ จะไม่มีใครรังแกคุณได้อีก”
“ต่อไป มีแค่ผมเท่านั้นที่รังแกคุณได้”
“ไสหัวไป!”ซูซูตบมือของเขาออกไป แล้วพูดด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ: “ตอนนั้นหัวใจฉันก็บอดไปแล้วจริง ๆ !”
“ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะจนปัญญา ใครเขาอยากจะแต่งงานกับคุณ!”
“พอละ ฉันเหนื่อยแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ”
“ยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะมีเรื่องว้าวุ่นอะไรรอเราอยู่!”
ซูซูเดินเข้าไปห้องนอน ฉินเทียนรู้จักวางตัวจึงไม่ได้รีบตามเข้าไปในทันที
เขานั่งอยู่ในห้องรับแขกเล็ก ๆ พลางนึกคิดเรื่องโรงงานปลอมแปลงในวันพรุ่งนี้
สำหรับเขาแล้ว การทำลายโรงงานปลอมแปลงเล็ก ๆ โรงงานหนึ่งนั้น ทำได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลย
แต่ทว่าต้องทำยังไงถึงจะสามารถถอนรากถอนโคนได้ในทีเดียว ขจัดปัญหาให้หายไปตลอดชีวิต
อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณให้ทั่วทั้งตลาด ทำให้คนอื่นไม่กล้าก๊อปครีมยูซู่ตลอดไปล่ะ?
นี่ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งเลย
คิดไปคิดมา แผนการหนึ่งก็ค่อย ๆ ประกอบขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างในสมองเขา
เขามาถึงห้องนอนพบว่าซูซูเปลี่ยนชุดนอนแล้ว กำลังนั่งเอนลงบนหัวเตียงและหน้ามุ่ยเหมือนกัน
ฉินเทียนโอกอบเธอเข้ามาในอ้อมอกอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า: “ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พรุ่งนี้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นผมก็อยู่ข้างกายคุณเสมอ”
ซูซูผงกหัว เหมือนกับว่าเธอจะเหนื่อยแล้วจริง ๆ จึงนอนขดอยู่บนอ้อมอกของเขา และเข้าสู่ห้วงความฝันอย่างรวดเร็ว
มองดูผู้หญิงเล็ก ๆ คนนี้ วินาทีนี้ฉินเทียนรู้สึกว่าตัวเองได้ครอบครองทุกสิ่งอย่างในโลกใบนี้แล้ว
เนื่องจากสิ่งที่ประสบพบเจอในตระกูลฉินตอนเด็ก ๆ ทำให้เขามีความกีดกันต่อคนใกล้ชิดและครอบครัวโดยสัญชาตญาณ
แต่ทว่าหัวใจใครไม่เฝ้าหาความอบอุ่นบ้างล่ะ?
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ตอนนั้นหลังจากซูซูไม่สนใจความเห็นของผู้คน ยึดมั่นที่จะแต่งงานกับเขาแล้ว เขาจึงรักและทะนุถนอมเธอมาก ๆ
เพราะซูซูเป็นคนมอบบ้านหลังใหม่ให้เขา
ครอบครัวดั้งเดิมของเขาพังทลายไปแล้ว
ตอนนี้มีผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้คนหนึ่ง มอบบ้านหลังใหม่ให้เขา บวกกับหยางยู่หลันก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกชายแท้ ๆ คนหนึ่ง
เขาจึงต้องรักและทะนุถนอมมากขึ้นเป็นเท่าตัวอยู่แล้ว!
ปากหวานก้นเปรี้ยวต่าง ๆ และการทุ่มสุดกำลังต่อสู้ต่าง ๆ ของการเดินทางไปยังเมืองหลวงในก่อนหน้านี้ ก็ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยแล้วจริง ๆ
วินาทีนี้เขากำลังโอบกอดภรรยาสุดน่ารัก จิตใจสงบและเต็มอิ่ม ไปนานนัก เขาก็เข้าสู่ห้วงความฝันเหมือนกัน
ชุมชนแห่งความสุข
ตึกหมายเลขห้า ชั้นแปด
เจิ้งจี๋แหกปากตะโกนเสียงดังเหมือนเป็นบ้าไปแล้วยังไงอย่างนั้น พังทำลายข้าวของในบ้านจนเละเทะ
สุดท้ายก็ล้มนอนลงบนโซฟา
“กงลี่!”
“นังผู้หญิงชั้นต่ำ มึงกล้าทิ้งกูไปหาไอ้ไก่อ่อนนั่นงั้นเหรอ!”
“กูไม่ปล่อยมึงไปแน่!”
“ฉินเทียน กูจะฆ่ามึง!”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ในใจเขายังถือว่ากงลี่เป็นผู้หญิงของเขาอยู่
พูดตามความจริงเลยว่าปีนั้นเขาไม่อยากหย่ากับกงลี่ ตอนนั้นเขาไปขอเงินกับกงลี่เพื่อเล่นการพนัน แต่กงลี่ไม่ให้
สุดท้ายกงลี่ให้เงื่อนไขเขาหนึ่งข้อ นั่นก็คือหากตกลงหย่าร้างกับเธอ งั้นเธอก็จะให้เงินเขา
เจิ้งจี๋รู้สึกว่ากงลี่เป็นผู้หญิงของตัวเอง ชีวิตนี้เธอไม่มีทางแยกจากตัวเองได้ หย่าร้างที่ว่าถ้าเป็นแค่ลมปากเท่านั้น
แค่คำพูดชั่ววูบตอนอารมณ์ไม่ดี
รอเขาชนะเงินมาได้ สุดท้ายกงลี่ก็จะเป็นผู้หญิงของเขาอย่างสบายใจอยู่ดี
ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง
แต่ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายเขาจะแพ้จนหมดตัว ผู้หญิงก็หนีจากตนเองไป ถ้าเกิดว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ตีเขาให้ตายยังไงตอนนั้นเขาก็ไม่ยอมหย่ากับกงลี่
ตอนนี้เมื่อนึกได้ว่าไอ้ไก่อ่อนฉินเทียนนั่น น่าจะกำลังโอบกอดภรรยาของตัวเอง ทำในสิ่งที่เขาควรได้ทำ
เขาก็ใกล้จะเป็นบ้าแล้วจริง ๆ
“กูจะฆ่าหญิงร้ายชายเลวอย่างพวกมึงสองตัว!”เขาพุ่งเข้าไปในห้องครัว หยิบมีดทำครัวขึ้นมาหนึ่งเล่ม เตรียมพร้อมที่จะเดินออกไปข้างนอกด้วยดวงตาที่แดงเถือก
ทันทีที่เพิ่งเปิดประตูออก ก็มีชายอ้วนร่างใหญ่คนหนึ่งยืนขวางอยู่ตรงหน้าประตู
แล้วจ้องเขาตาเป็นมัน
“เหมินสัน ทำไมถึงเป็นคุณครับ?”เจิ้งจี๋ผงะไปชั่วขณะ มีรังสีแห่งความหวาดกลัวปรากฏในแววตา