บัญชามังกรเดือด - บทที่ 462 ผู้ชนะสุดท้าย
“คุณชายใหญ่หม่า วันนั้นคุณจงใจไม่รับการประเมินของหลิวเต๋อ อันที่จริงแล้วเป็นเพราะคุณรู้ว่า เดิมทีละครนั้นก็คือหยางคุนกับหลิวเต๋อร่วมมือกันแสดง”
หยางคุน “คุณรู้ว่านอกจากหยางคุณแล้ว พวกเถ้าแก่ที่เหลือเหล่านั้น ต่างก็จะถูกทำให้ตกใจกลัวจนไม่กล้าแข่งขัน ถึงแม้ว่าจะเข้าร่วมประมูล ก็คือการเล่นละครตบตา”
“คุณจงใจเสแสร้งโมโห ออกไปก่อน อันที่จริงก็เพื่อทำให้หยางคุนคลายความระแวงลง คุณแอบเพิ่มราคาในหนังสือยื่นประมูล ซุ่มโจมตีหยางคุน”
“ผมพูดถูกต้องหรือไม่?”
ฉินเทียนเอ่ยถามอย่างฝืนยิ้ม
หม่าจินหยู่เลิกหางคิ้วขึ้น กล่าวอย่างลำพองใจ: “ฉินเทียน นับว่าคุณยังไม่โง่”
“เพียงแต่ว่า คุณรู้ช้าไปเสียแล้ว”
“ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ราคาของคุณในหนังสือประมูลก็จะต้องต้ำมากเช่นกันใช่ไหม?”
“ฮึ่ พวกคุณก็เพื่อให้ความร่วมมือกับหยางคุน แต่ว่าผมไม่ใช่!”
“ผมจะต้องได้ที่ดินผืนนี้มาครอบครอง!”
ใบหน้าของฉินเทียนเต็มไปด้วยความหมดคำจะพูด ลังเลครู่หนึ่ง กล่าว: “คุณชายใหญ่หม่า จนถึงตอนนี้แล้ว ผมบอกคุณได้เลยว่า ราคาที่คุณเข้าร่วมประมูลคือเท่าไหร่หรือไม่?”
“อีกอย่าง คุณคิดที่จะใช้ที่ดินผืนนั้นทำอะไร?”
หม่าจินหยู่มองฉินเทียนราวกับป้องกันการโดนขโมยทันที กล่าวอย่างระแวง: “คุณถามเรื่องนี้ไปทำไม?”
“อย่ามาพูดจาดีกับผม ผมไม่มีทางติดกับดักคุณหรอก”
“คนแบบคุณนี้ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว”
แม่งเอ๊ย…..
ทำไมถึงรู้สึกว่าตนเองเหมือนกับเป็นหมาป่าที่กำลังล่อลวงแกะเลยนะ!
ฉินเทียนรู้สึกพูดไม่ออก
มีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวลอยมาจากด้านหน้า เถ้าแก่เหล่านั้น ทั้งหมดกำลังกรูไปที่บริเวณประตู
หม่าจินหยู่ลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น: “คนประกาศผลมาแล้ว!”
ฉินเทียนถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงได้มีความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ราวกับว่าเด็กนักเรียนประถมกำลังใช้กลอุบายเล็กน้อยในระหว่างการสิบ
ตอนนี้ ในที่สุดก็จะได้รู้คำตอบแล้ว
เขาอดคิดไม่ได้ ถ้าหากเกมพังแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรื่องราวเผยแพร่ออกไป เขาผู้เป็นเจ้านายวิหารเทพที่สง่าผ่าเผย ต่อไปก็อย่าได้ออกไปพบปะผู้คนอีกเลย
จากด้านนอก มีข้าราชการสามคนพร้อมตราสัญลักษณ์อยู่บนหน้าอกเดินเข้ามา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความชอบธรรม
“หัวหน้าเหยียน คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมาด้วยตนเอง!”
“พวกเราช่างได้รับความโปรดปรานอย่างน่าตกใจจริงๆ!”
“เชิญรีบนั่ง เชิญนั่ง! ” หยางคุนเอ่ยกล่าวด้วยความสนิทสนมกับชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าสี่เหลี่ยมที่อยู่ตรงกลาง
ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงกลางชื่อว่าเหยียนปิน เขายิ้ม กล่าว: “ประธานหยาง ไม่จำเป็นแล้ว”
“พวกเราแค่ประกาศผลครั้งสุดท้ายเท่านั้น เทศบาลค่อนข้างให้ความสำคัญกับที่ดินผืนนี้มาก หวังว่าคนที่ชนะประมูล สามารถทำตามที่เขียนไว้บนหนังสือประมูล ดำเนินการด้วยความรวดเร็วที่สุด”
“เพิ่มแลนมาร์คแห่งหนึ่ง ให้กับจิ่นหูเขตใหม่ของพวกเรา ในเร็ววัน”
หยางคุนกล่าวอย่างตื่นเต้น: “แน่นอน!”
“พวกเราหยางกวงเรียลเอสเตท ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอน!”
เถ้าแก่ที่เหลือบริเวณรอบๆยิ้มกล่าว: “อันที่จริงแล้วไม่ต้องให้หัวหน้าเหยียนกล่าว พวกเราก็ทราบดีว่า คนที่ชนะการประมูลก็คือหยางกวงเรียลเอสเตท”
“คู่ควรกับชื่อเสียง!”
“หัวหน้าเหยียนและหัวหน้าของเทศบาลได้โปรดวางใจ ด้วยความสามารถของหยางกวงเรียลเอสเตท รวมทั้งความสามารถในการทำงานของผู้จัดการใหญ่หยางคุน จะต้องไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอน!”
สีหน้าของเหยียนปินมีความแปลกใจเล็กน้อย เขากระแอมหนึ่งที เปิดแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งในมือ กล่าวด้วยเสียงก้องกังวาน: “ตอนนี้ เริ่มประกาศผล”
ในงาน ก็เงียบสงบลงไปทันที
ถึงแม้ทุกคนจะทราบดี ผู้ที่ชนะการประมูลจะต้องเป็นหยางกวงเรียลเอสเตทอย่าแน่นอน แต่ว่า ยังไงก็จำเป็นต้องให้เหยียนปิน ผู้รับผิดชอบการจัดการประมูลนี้ มาประกาศด้วยตนเอง
“หยางกวงเรียลเอสเตท จำนวนเงินประมูลโครงการ เจ็ดพันล้าน”
เจ็ดพันล้าน ราคานี้ จะพูดว่ามากก็ไม่มาก จะพูดว่าน้อยก็ไม่น้อย ต่ำกว่าราคาท้องตลาดอยู่เล็กน้อย
ถ้าหากว่าหยางคุนได้มาครอบด้วยราคานี้จริงละก็ ถ้าเช่นนั้นก็เท่ากับว่าเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างมาก
เถ้าแก่ที่อยู่ภายในงานเหล่านั้น หลายคนสามารถควักจ่ายในราคานี้ได้เช่นกัน แต่ว่า เมื่อได้ผ่านการ“ประเมิน”ของหลิวเต๋อแล้ว พวกเขาเกรงว่าจะมีการเลือดตกยางออก ต่างก็ไม่กล้าลงแข่งขันอย่างแท้จริง
เมื่อเทียบกับราคาสามพันล้าน สองพันล้านที่พวกเขาใส่ลงไปในหนังสือ เจ็ดพันล้าน นับว่าเป็นราคาที่สูงมากแล้ว
“ยินดีกับประธานหยางด้วย!”
“เจ็ดพันล้านได้ที่ดินผืนนี้มาครอบครอง จะต้องได้กำไรมหาศาลแน่นอน!”
“ประธานหยางได้กำไรแล้วอย่าลืมพวกเราเสียล่ะ!”
ท่ามกลางเสียงอวยพรของทุกคน ใบหน้าของหยางคุนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กล่าว: “หัวหน้าเหยียนโปรดวางใจ พวกเราตระกูลหยาง จะต้องไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน!”
พูดไป เขาก็ยื่นมือออกไปรับหนังสือประมูล
“ประธานหยางอย่าเพิ่งตื่นเต้น” เหยียนปินอมยิ้มกล่าว: “ผมยังพูดไม่จบ”
“ที่ผมพูดเมื่อครู่ ยังไม่ใช่ผลสุดท้าย”
หืม?
หมายความว่าอย่างไร?
หยางคุนอึ้งไปครู่หนึ่ง กล่าว: “หรือว่ายังมีใครที่เสนอราคาสูงกว่าผม? นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
เหยียนปินยิ้ม แล้วกล่าวต่อไป: “เถิงเฟยเรียลเอสเตท จำนวนเงินประมูลโครงการ แปดพันล้าน”
เถิงเฟยเรียลเอสเตท?
ทุกคนอึ้งไปทันที ชื่อนี้ เมื่อฟังดูแล้ว มีความไม่คุ้นเคยเล็กน้อย
พวกเขาจำไม่ได้ว่า ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงของจิ่นหู จะมีชื่อแบบนี้อยู่ด้วย
หม่าจินหลงได้สติกลับคืนมา รีบมุ่งหน้าเดินไปมองหม่าจินหยู่ที่อยู่ในมุม เขากล่าวอย่างเหลือเชื่อ: “เป็นพี่ที่ประมูล?”
“ฐานการประมูลสุดของพี่ไม่ใช่หกพันล้านหรือ?”
“กลายเป็นแปดพันล้านตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หม่าจินหยู่กล่าวอย่างดูแคลน: “จินหลง แกแอบสอดแนมราคาของฉัน เพื่อเอาไปรายงานให้คนอื่นใช่หรือไม่?”
“ถ้าหากฉันเสนอราคาหกพันล้านจริง ไม่ใช่ว่าฉันก็จะต้องพลาดโอกาสในที่ดินผืนนี้ไปหรือ”
“ต้องขออภัย ที่ฉันเพิ่มไปอีกสองพันล้าน เป็นการส่วนตัว”
หม่าจินหลงหน้าถอดสี
คนสีหน้าที่ดูแย่ยิ่งกว่าเขา ก็คือหยางคุน
ราคาตามความตั้งใจเดิมของหยางคุน หกพันล้านก็พอแล้ว แต่ว่า จากการสืบข่าวของหม่าจินหลง ได้ข่าวว่าหม่าจินหยู่ก็เสนอราคาหกพันล้านเช่นกัน
ถึงได้ทนต่อความเจ็บปวดเพิ่มไปอีกหนึ่งพันล้าน
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ นี่ก็ยังถือว่าคุ้มค่า
คิดไม่ถึงว่า แผนของหม่าจินหยู่จะล้ำลึกเช่นนี้ เขาคิดได้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หม่าจินหลงจะต้องคาบข่าวไปบอกอีกฝ่าย ดังนั้นจึงจงใจเปิดเผยให้เห็นฐานการประมูลของตนเอง
จากนั้น ค่อยเพิ่มเติมตอนหลัง
“จินหยู่ แกคิดว่าทำแบบนี้ เหมาะสมจริงๆหรือ?”
“นี่คือแกพุ่งเป้ามาที่ฉันน่า!”หยางคุนจ้องหม่าจินหยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ในดวงตา ถึงขนาดเผยให้เห็นเจตนาสังหารที่รุนแรง
หม่าจินหยู่ไม่หวาดกลัว กล่าวอย่างดูแคลน: “หยางคุน ผมเคยพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าพวกเราธุรกิจก็คือธุรกิจ”
“แต่ว่า เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเราสองตระกูล คุณต้องการร่วมมือบุกเบิก ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้”
“สุดท้ายแล้ว พวกคุณตระกูลหยางในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ยังถือว่าประสบการณ์มากมาย”
พูดไป เขาก็เดินมุ่งมาทางเหยียนปินอย่างสง่าผ่าเผย กล่าวอย่างค่อนข้างมีมารยาท: “ขอบคุณหัวหน้าเหยียนมาก”
“ตอนนี้ สามารถนำหนังสือมอบอำนาจให้ผมได้แล้วใช่ไหม?”
เหยียนปินอมยิ้มส่ายหน้า กล่าว: “ประธานหม่า อย่าใจร้อน ผมยังพูดไม่จบ”
“ครั้งนี้มีธุรกิจเข้าร่วมประมูล ทั้งหมดสามสิบบริษัท มีสามบริษัทที่ได้เข้าพิจารณาเปรียบเทียบและคัดเลือกในรอบสุดท้าย”
“ที่ผมพูดเมื่อครู่ เป็นเพียงแค่สองบริษัทจากในสามบริษัท”
“คุณพูดอะไรนะ?”หม่าจินหยู่หน้าถอดสี กล่าวอย่างเหลือเชื่อ: “ยังมีอีกหนึ่งบริษัท?”
“เป็นใคร?”
เมื่อนึกขึ้นได้ เขามองไปยังฉินเทียนที่อยู่มุมอย่างอดไม่ได้
ในที่สุดฉินเทียนก็ยิ้ม
เมื่อได้ยินราคาสุดท้ายของหม่าจินหยู่ หัวใจของเขา ก็คลายความตึงเครียดลง
เหยียนปินกระแอม กล่าว: “ต่อไปที่ผมจะประกาศ ถึงจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายของการประมูลครั้งนี้”
“จิ่นซิ่วเรียลเอสเตท การลงทุนในโครงการประมาณ หนึ่งหมื่นล้าน”
จิ่นซิ่วเรียลเอสเตท คือใคร?
ในงานเกิดความชุลมุนวุ่นวาย