บัญชามังกรเดือด - บทที่ 653 เด็กน้อย
บัญชามังกรเดือด บทที่ 653 เด็กน้อย
ด้วยสถานะของเขาเอง เมื่อเซียวยางมาถึงที่นี่แล้ว เขาเลยเปลี่ยนเป็นคนที่ดูเคร่งขรึมขึ้นมาเองอย่างผิดปกติ
ราวกับสาวกที่เดินทางมาถึงสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในใจอย่างไรอย่างนั้น
ฉินเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะเรียกว่า ถ้ำมังกร เพราะดูภายนอกแล้วก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากฟาร์มทั่วไปเลยสักนิด
เขาพยักหน้าและเดินตามหลังเซียวยางไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป
ที่ประตูลานหน้าบ้าน มองจากระยะไกลก็เห็นได้ว่า มีรูปร่างสีแดงสง่าอยู่ร่างหนึ่ง
เซียวยางพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นั้นคือ จูจู!”
“จูจูของพวกเรากำลังรอต้อนรับพวกเราอยู่ ไม่ใช่สิ ต้อนรับราชาฉินต่างหากหล่ะ”
“ราชาฉิน จูจูเป็นผู้มีสถานะพิเศษ เธอเป็นคนแรกที่เขาออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยนะ”
เมื่อเห็นท่าทีประจบสอพลอของเซียวยางแล้ว ฉินเทียนก็แสดงอารมณ์ไม่พอใจและตอบอย่างเย็นชาว่า “กูไม่สน!”
เซียวยางเบ้ปากแต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พูดด้วยความกังวลว่า “จูจูยังพอคุยง่าย แต่อีกสักพักเธอจะได้เจอกับ เฒ่าหัวมังกร ราชาฉิน เธอต้องระวังคำพูดหน่อยนะ ”
“อภัยให้ฉันด้วยที่ต้องพูดตรงๆ หากล่วงเกินท่านอาวุโสแล้วหล่ะก็ ทั่วทั้งอาณาจักรมังกร ก็ไม่มีใครช่วยเธอได้จริงๆ นะ”
“แม้ว่าวิหารเทพจะเก่งกาจ แต่กำลังหลักๆ ก็อยู่ที่ต่างประเทศกันไม่ใช่หรือ?”
ฉินเทียนรู้ว่าเซียวยางมีเจตนาที่ดี สีหน้าของเขาก็มีท่าทีที่ดีขึ้นเล็กน้อย เขาตอบกลับไปอย่างเคร่งขรึมว่า “ขอบคุณมากที่เตือน ฉันรู้ว่าควรทำอะไร”
“จูจู คุณฉิน มาถึงแล้ว!’
ในไม่ช้า ก็เดินมาถึงประตูลานกว้าง ท่าทีของเซียวยาง เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและแสดงความคำนับด้วยความเคารพกับจูจู
ราวกับกินน้ำผึ้งมายังไงยังงั้น ยิ้มทีหน้าตาเบ่งบานราวกับดอกไม้สด
“เธอทำได้ดีมาก ไปทำธุระของเธอต่อเถอะ ฉันจะดูแลคุณฉินต่อเอง”
เขาเดินยิ้มหวานเข้ามาและยื่นมือไปดึงฉินเทียนอย่างไม่คาดคิด
ฉินเทียนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างมีสติ และถามด้วยความระวังตัวว่า “จะทำอะไรหน่ะ?”
เมื่อนึกถึงตอนที่จี้ซิงแต่งงานก่อนหน้านี้ เขาถูกผู้หญิงคนนี้กดลงบนเตียง และใช้มีดคมๆ จอไปที่คอ แม้เหตุการณ์นั้นผ่านมาแล้วแต่ในใจเขายังรู้สึกหวาดผวาอยู่เลย
ผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ เมื่อไรก็ตามยิ่งยิ้มสดใส นั้นยิ่งอันตราย
จูจู ถ่มน้ำลายหนึ่งครั้ง จ้องมองไปที่เขา และพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “ซื่อบื้ออย่างเธอ คิดว่าฉันจะเอาเธอลงได้อีกหรือ?”
“สร้างความวุ่นวายที่ญี่ปุ่น ผู้นำวิหารเทพที่จัดการเทพลักซ่อนจนไม่กล้าเงยหัวขึ้นมาไปไหนซะแล้วหล่ะ?”
ฉินเทียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็พูดด้วยความฉุนเฉียวอีกว่า “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ และตามฉันมาเร็วๆ!”
“คุณปู่รอเธอมานานแล้ว”
พูดพลางและไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้อธิบาย จากนั้นเขาก็โอบแขนของฉินเทียน ทำท่าทีราวกับว่าสนิทสนมกันมาก ทั้งดึงและลาก สักพักก็พาตัวฉินเทียนเดินออกไปได้
เมื่อเห็นฉากนี้ เซียวยางเองก็อดตกตะลึงจนตาค้างไม่ได้
นี่คือจูจูคนเดิมหรือเปล่า?
เมื่อเห็นท่าทีของฉินเทียนแล้ว เขาเองก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายดังเฮือกๆ
ในลานกว้าง มีต้นพุทธาอันเก่าแก่อยู่สองต้น
ใต้ต้นพุทธา มีแท่นหินอยู่ชุดหนึ่ง ด้านบนวางชุดน้ำชาที่น่าจะแกะสลักจากไม้พุทธาวางอยู่หนึ่งชุด
งานแกะสลักไม่ถือว่าประณีตละเอียดมากนัก และวัสดุก็ไม่ได้เป็นของมีราคาสูง
แต่ไม่รู้ว่าทำไม แค่มองแวบแรกก็ทำให้รู้สึกถึงความสบายใจขึ้นมา
อาจเป็นเพราะชายชราที่นั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ ก็เป็นได้
อายุอานามของเขาน่าจะไล่เลี่ยกับเถ้าแก่ใหญ่ของวิหารพญายม แต่ผมอันขาวโพลนและหนวดเคราที่เป็นระเบียบเรียบร้อย เลยดูแล้วน่าจะเป็นคนที่เป็นมิตรและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย
เห็นได้ชัดว่า ผู้นี้คือคนที่มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรมังกร ลูกพี่ของมังกรซ่อนรูป เฒ่าหัวมังกรนั่นเอง
ฉินเทียนคาดไม่ถึงว่า เขาจะดูเป็นคนธรรมดาถึงเพียงนี้ ดูแล้วก็ไม่ต่างจากชายชราที่อยู่ข้างถนนทั่วๆ ไปเลย
“คุณปู่ ขุนนางใหญ่มาถึงแล้ว!”
“ท่านบอกฉันหน่อยสิว่าคนที่ฉันเลือก เจ๋งไหม?” จูจูโอบแขนของฉินเทียน ราวกับเป็นสมบัติของตน และพาเขาไปอยู่ตรงหน้าของท่านอาวุโส
ชายชราจิบชา ยิ้มตาหยีและมองมาทางฉินเทียน
เขายกเปลือกตาขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ จนทำให้ฉินเทียนรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าในสายตาของชายชราคู่นั้น มีคลื่นไฟฟ้าสองเส้นพุ่งตรงมาที่เขา
แต่ด้วยความโกรธที่อยู่ในใจ ใบหน้าอันบูดบึ้งของเขา ไม่เพียงจะไม่หลบสายตา แต่ยังจ้องตาสู้กับ เฒ่าหัวมังกร อีกด้วย
เฒ่าหัวมังกร หัวเราะเสียงดังจนเปลือกตาขยับ ลำแสงในตาคู่นั้นก็หายไป ดูเหมือนว่าชายชราที่นั่งพูดคุยจิบชาคนนั้นได้กลับมาแล้ว
“เด็กน้อย!”
“ไม่เลวเลยทีเดียว!”
“แล้วของหล่ะ?”
เขาพูดติดต่อกันสามประโยค จากนั้นก็ยื่นมือไปทางฉินเทียน
ฉินเทียนพูดอะไรไม่ออก ในใจคิดว่าชายชราอายุมากขนาดนี้แล้ว จะเข้าใจหลักทำนองคลองธรรมอยู่บ้างหรือเปล่า?
กูได้รับเชิญให้ทำธุระของพวกมึง ไม่ได้เป็นคนของมึงนะ มึงมาเรียกขอของกับกู มันไม่ดูมากเกินไปหน่อยหรือ?
เขาทำหน้าเคร่งขรึมและตอบอย่างเย็นชาว่า “ของอยู่กับฉัน”
“แต่ ก่อนที่ฉันจะมอบของให้เธอ เธอไม่ลองคิดดูสักหน่อยหรือว่ามังกรซ่อนรูปพวกเธอได้ตกลงเงื่อนไขอะไรกับฉันไว้ในตอนแรก?”
“พวกเธอคงไม่คิดจะเบี้ยวหรอกใช่ไหม?”
เฒ่าหัวมังกรหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง
“เด็กดี!”
“นานแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้ สมแล้วที่เป็นศิษย์ของพญายมเฒ่า ช่างกล้าหาญยิ่งนัก!”
“ในเมื่อเธอพูดมาแล้ว งั้นฉันจะบอกเธอให้รู้แล้วกันนะว่า เรื่องที่จูจูได้รับปากเธอไว้ก่อนหน้านี้ มันก็เป็นไปตามนั้น”
“แต่แบบฝึกวิทยายุทธกับอาวุธ เธอเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เธอจะเลือกอันไหนหล่ะ?”
จูจูตอบอย่างรีบร้อนว่า “ฉันเลือกอาวุธ!”
ฉินเทียนใจเต้นตุ้บๆ
จะว่าไปเขาเองก็ไม่ได้ขาดแคลนแบบฝึกวิทยายุทธเลยจริงๆ คัมภีร์ราชาเทพนั้น บันทึกถ่ายทอดข้อมูลอย่างละเอียดไว้มากมาย พอให้เขาได้ศึกษาไปทั้งชีวิตแล้ว
ส่วนอาวุธ เขาเองก็ไม่เคยเจอชิ้นไหนที่ชอบเป็นพิเศษมาก่อนเลย อันที่จริงแล้วพลังวิชาของเขาในตอนนี้ มีอยู่เพียงไม่กี่คนที่สามารถบีบบังคับให้เขาใช้อาวุธลงมือได้
แต่จะมีผู้ชายคนไหนไม่ชอบเรื่องของอาวุธบ้างหล่ะ?
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่เป็นถึงถ้ำมังกรของมังกรซ่อนรูปเลยนะ!
ดูจากภูมิหลังของมังกรซ่อนรูปแล้ว ไม่แน่อาจจะมีของดีอยู่จริงๆ ก็ได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็กลืนน้ำลายและพูดว่า “งั้นก็ดี ฉันเลือกอาวุธ!”
แววตาของเฒ่าหัวมังกรเผยความเจ้าเล่ห์ออกมา “ตกลงตามนั้น”
“เธอส่งของมาก่อน แล้วฉันจะให้จูจูพาเธอไปที่คลังเก็บอาวุธ”
“เธอมีเวลาสิบนาที ในการเลือกสิ่งของตามใจชอบได้เพียงหนึ่งอย่างเท่านั้น”
“ตกลง!” ฉินเทียนเองไม่พูดจาให้ยืดเยื้อ หยิบ บัญชาแห่งตะวันตกชิ้นนั้นออกมาและโยนมันออกไป
หลังจากที่ เฒ่าหัวมังกรรับมันไว้แล้ว เขายังไม่ได้ทันได้ดู ก็โยนมันไว้บนโต๊ะ เช่นนี้ยิ่งทำให้ฉินเทียนมั่นใจว่า ชายชราผู้นี้ก็ไม่ได้สนใจ บัญชาแห่งตะวันตกเลยสักนิด
ที่ให้เขาไปหามา ต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่นอน
แต่ว่าตอนนี้อย่าพึ่งคิดอะไรมากขนาดนั้น เอาอาวุธมาให้ได้ก่อน เรื่องอื่น ไว้ค่อยว่ากัน
“ตามฉันมา!”
จูจูเองก็ดูเหมือนว่าจะกลัว เฒ่าหัวมังกรกลับคำพูด เลยดึงมือของฉินเทียนและพาเขาวิ่งเข้าไปด้านใน
ด้านในห้องโถง
ยามสองคนเปิดประตูลับที่ห้องใต้ดินออกจูจูดึงมือฉินเทียนกระโดดลงไปในนั้นทันที
ด้านล่างเป็นห้องหินสี่เหลี่ยม ดูแล้วลักษณะพื้นที่ราวๆ หลายสิบตารางเมตรได้ บนกำแพงของแต่ละด้าน มีชายร่างใหญ่ที่เหมือนเทพผู้รักษาประตูยืนอยู่สองคน
มีเพียงชั้นวางตรงกลาง ที่วางอาวุธเปื้อนฝุ่นเต็มไปหมดอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ฉินเทียนตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ถามด้วยสีหน้าผิดหวังว่า “ที่นี่คือถ้ำมังกรที่พวกเธอใช้เป็นที่เก็บอาวุธโดยเฉพาะอย่างงั้นหรือ?”
“แกล้งแหย่ฉันเล่นสิท่า!”
เขาอดคิดไม่ได้ว่า บางทีมังกรซ่อนรูปอาจจะกลัวเขาเอาอาวุธล้ำค่าออกไป ดังนั้นเลยเอาของดีดีไปซ่อนไว้จนหมด และจงใจพาเขามายังห้องเล็กๆ อันว่างเปล่าแห่งนี้
“ไม่ต้องรีบนะ!” จูจูหัวเราะอย่างทะนงตน และพูดกับเทพรักษาประตูที่อยู่รอบๆ ว่า “ตอนนี้ เปิดประตูได้แล้ว!”
“รับทราบ!”
ข้างกำแพงทั้งสี่ มีชายร่างใหญ่ยืนอยู่ทั้งหมดแปดตน
พวกเขายื่นมือใหญ่ๆ เหมือนกับพัดที่ทำจากใบปาล์มออกมาวางไว้บนกำแพงหิน และพร้อมใจกันออกแรง
จากนั้น ก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น กำแพงหินทั้งสี่ ค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นฉากด้านหลัง ฉินเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงจนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ