บัญชามังกรเดือด - บทที่ 776 คำแนะนำสุดท้าย
บัญชามังกรเดือด บทที่ 776 คำแนะนำสุดท้าย
ทางด้านซ้ายของฉินเปียวคือฮุยเฮ่อ ส่วนคนทางด้านขวาย่อมต้องเป็นหยางต้าว
“หยางต้าว!”
ดวงตาของหูเฟยพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำในทันทีคนคนนี้เป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้ตระกูลของพวกเขาต้องพังพินาศ ในครานั้น ยามที่เขาอยู่ที่นี่ มันกลับวิ่งหนีจากวงล้อมของเหล่ามังกรซ่อนรูปไปได้ ไม่คิดเลยว่า ในวันนี้มันจะยังกล้ามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแบบนี้อีก
ท่ามกลางเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของผู้คนมากมาย หูเฟยพลันกำลังพุ่งตรงเข้าไปหาในทันที
“อย่าเพิ่งวู่วามไป!” ฉินเทียนหันมาคว้าแขนของหูเฟยเอาไว้ในทันที พร้อมกับมองไปทางฉินเปียวอย่างเย็นชา พลางกระซิบกล่าวว่า “ดูลาดเลาไปก่อน ว่าพวกมันต้องการจะทำอะไรกันแน่”
เขารู้ดีว่า หากฉินเปียวกล้าที่จะพาหยางต้าวมาเปิดเผยตัวเช่นนี้ละก็ มันจะต้องมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขอะไรบางอย่างแน่นอน
ฉินชวนเพียงโบกมือครั้งเดียว เหล่ามังกรซ่อนรูปหลายสิบคนพากันพุ่งตัวเข้าไปในทันทีพร้อมทั้งล้อมรอบกลุ่มของฉินเปียวเอาไว้ ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัว
“นายน้อยฉินก่อนหน้านั้น ได้ทำการส่งคนมาลอบสังหารสมาชิกมังกรซ่อนรูป และทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งยังทำการเผาใหม่บ้านเรือนให้เกิดความเสียหายอีกด้วย พวกเรากำลังทำการจับกุมคุณและนำคุณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
“ตอนนี้ ฉันจะเพิ่มข้อหาอาชญากรรมอื่นในข้อหาของคุณอีกหนึ่งข้อ นั่นคือการร่วมกันช่วยเหลือปกปิดข้อมูลผู้กระทำความผิด”
“หยางต้าวเป็นอาชญากรร้ายแรงที่ถูกจับกุมโดยมังกรซ่อนรูปทางตะวันตก นายน้อยฉินได้โปรดส่งหยางต้าวมาให้พวกเรา จากนั้นตามพวกเราไปให้คำให้การเสียดี ๆ ”
“มิฉะนั้น ”
ฉินเปียวเพียงเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างเยาะเย้ย พลางแย้มยิ้มกล่าวออกมาด้วยความเย็นชาว่า “แล้วยังไงล่ะ?”
“นายควรจะขอบคุณบรรพบุรุษของนาย ที่บังเอิญให้นามสกุลฉินกับนายนะ ถ้าไม่ใช่เพราะนามสกุลนี้ละก็แกจะเป็นตัวอะไรได้สมควรที่จะมาพูดคุยกับฉันงั้นเหรอ?”
“แกที่มีส่วนร่วมในการสังหารราชาซีเตี้ยนของฉันฉันยังไม่ได้ทำการคิดบัญชีกับแกเลย”
“ไสหัวไปให้พ้น แกไม่คู่ควรที่จะมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน”
“ที่ฉันมาวันนี้ ก็เพื่อมาหาคนคนหนึ่ง”
ประมุขมังกรตะวันตกผู้สง่างามยังไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย ฉินเปียวพลันมองไปทางเวทีในทันที
ผ่านไปนานหลายปีแล้ว สองพี่น้องพลันได้กลับมาสบตากันอีกครั้ง ใบหน้าทั้งสองคนที่แต่เดิมมีคล้ายกันมาก ในตอนนี้กลับมีความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ระหว่างความรักและความเกลียดชัง
“ไปให้พ้น!” หยางต้าวที่เดินอยู่ด้านข้างนั้น พร้อมทั้งเลื่อนเก้าอี้ตัวใหญ่ไปวางไว้ด้านหลังของฉินเปียวในทันที
พลางกล่าวออกมาด้วยความเคารพว่า “เชิญนายน้อยนั่งลงขอรับ ”
ฉินเปียวพลันนั่งลง พร้อมกับยกขาขึ้นมาไขว่ห้าง พลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสบายอารมณ์แล้วพูดขึ้นมาว่า “ไม่เจอกันนานเลย น้องชายคนนี้คิดถึงพี่มากเลยนะ พี่ชายที่แสนดีของฉัน”
“ฆ่าคนสนุกไหมล่ะ?”
“บังเอิญจังเลย ฉันเองก็ชอบฆ่าคนเหมือนกัน วันนี้ให้ฉันแสดงให้พี่ดูดีหรือไม่?”
ฉินเทียนพลันพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “แกกล้าเหรอ!”
จู่ ๆ ฉินเปียวพลันกัดฟันขึ้น พร้อมกับความเกลียดชังที่ปรากฏในดวงตาของเขา
“แกฆ่าราชาซีเตี้ยนไปเชื่อหรือเปล่าล่ะ ว่าฉันสามารถฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่เพื่อทำเป็นหลุมฝังศพให้กับแกได้ ?”
“เชื่อหรือเปล่าล่ะ ขอเพียงแค่ฉันออกคำสั่ง งานแต่งงานนี่ก็จะกลายเป็นงานศพในทันที!”
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ดุร้ายของฉินเปียวแล้วนั้น ทุกคนพลันตกตะลึงไปในทันทีราวกับว่าคนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานั้น คือปีศาจที่มาจากนรก
หากงานแต่งงานกลายเป็นงานศพ ราวกับพวกเขาเห็นภาพเลือดสีแดงสดที่ไหลเจิงนองไปทั่วราวกับสายน้ำพร้อมกับซากศพที่เต็มไปทั่วพื้นในทันที
ดวงตาของฉินเทียนพลันแข็งค้างขึ้นมา เขาพลางกัดฟันพูดขึ้นมาว่า “ถ้าแกกล้ายุ่งกับพวกเขาละก็ ฉันสัญญา ว่าแกจะเป็นส่วนหนึ่งของงานศพเหมือนกัน!”
ฉินเทียนพลันแสดงความโกรธออกมาในทันที พร้อมกับออร่าแห่งรังสีฆ่าฟันก็พุ่งเข้ามาในดวงตาของเขา
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขา ยังเป็นพี่ชายต่างมารดาของเขาอยู่หรือเปล่า? เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในตอนที่อยู่ในตระกูล มันยังเหมือนกับคนที่ไม่มีตัวตนอยู่เลย
เมื่อเผชิญกับการยั่วยุและความกดดันของฉินเปียวนั้น ฉินเทียนมักจะเลือกที่จะนิ่งเงียบเกือบจะตลอดเวลา ทั้งยังมีคนรู้จักตัวตนของฉินเทียนน้อยมากอีกด้วย
ไม่คิดเลยว่า หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีเขาจะกลายเป็นศูนย์กลางของจักรวาลในทันที เมื่อถูกโจมตีโดยพายุ เขาก็ไม่แสดงความอ่อนแอใดๆ ออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเกือบจะครบหนึ่งเดือน ทว่าเมื่อฉินเปียวได้กลับมาเจอกับฉินเทียนอีก เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนที่สังหารราชาซีเตี้ยนลงในชั่วข้ามคืน จะเป็นฉินเทียน
เขารู้สึกว่าน่าจะมีคนในกลุ่มมังกรซ่อนรูปลงมือเสียมากกว่า เพียงแค่ฉินเทียนมีส่วนร่วมเท่านั้น
ทว่า หลังจากที่เขากลับมาเจอกับฉินเทียนอีกครั้งนั้นเขาก็รู้ได้ในทันทีว่า เขาคิดผิด เขาประเมินพี่ชายคนนี้ต่ำเกินไปแล้ว
เมื่อทั้งสองได้มามองหน้ากันนั้นราวกับทั้งคู่ต้องการที่จะข่มกันผ่านทางสายตา เสมือนกับว่าไม่มีผู้ใดคิดจะยอมให้กันอย่างแน่นอน
ในสายตาของฉินเปียวนั้น ปรากฏร่องรอยแววตาสังหารขึ้นมาในทันที ทว่า ในสายตาของฉินเทียน กลับแสดงความเย็นชาราวกับไม่มีจุดสิ้นสุดออกมาให้เห็นเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเปียวพลันหัวเราะเยาะออกมา
“ดีมาก! ต้องอย่างนี้ ต้องอย่างนี้สิ!”
“ไม่ผิดเลยที่เป็นหนึ่งในเชื้อสายของตระกูลฉินเก่าของฉันสมแล้วกับการเป็นพี่ชายของฉันคนนี้!”
“ดูเหมือนว่าในตระกูลก่อนหน้านั้น ความขี้ขลาดและความอ่อนแอทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงการเสแสร้งเท่านั้น ลูกหลานในตระกูลฉินสายเก่าทุกคน ไม่ใช่คนขี้ขลาดเสียหน่อย!”
ดูเหมือนว่าเขาจะภูมิใจมากที่มีพี่ชายแบบนี้แม้แต่ทุกคนที่ได้ฟังก็ยังดูงุนงงอยู่เล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาต้องการกำลังจะทำอะไรกันแน่
ฉินเทียนได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมฉินเปียวที่อยู่ต่อหน้าเขาดูไม่แตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนมากนักยังคงหยิ่งผยองและเจ้ากี้เจ้าการเช่นเดิม
แต่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา มันเหมือนว่านี่เป็นภาพลวงตาที่ฉินเปียวจงใจสร้างขึ้น เขาพยายามซ่อนความรุนแรงที่แท้จริงเอาไว้ข้างใน
ฉินเทียนรับรู้ได้ว่า ภายในร่างกายของฉินเปียวราวกับมีสัตว์ดุร้ายถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กเอาไว้อยู่
ทุกครั้งที่สัตว์ร้ายตัวนั้น
เมื่อนึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในฐานทัพหมาป่าหอนนั้น ใบหน้าของเขา ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มลง
“ส่งตัวหยางต้าวมา และยอมรับความผิดฐานทำร้ายมังกรซ่อนรูปซะ พร้อมเข้ารับการลงโทษ”
“นี่เป็นคำแนะนำสุดท้ายที่ฉันจะสามารถให้นายได้” ฉินเทียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“จริงเหรอ?” ฉินเปียวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ถ้าหาว่าฉันโจมตีมังกรซ่อนรูป หลักฐานอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“หากไม่มีหลักฐานว่าฉันลอบสังหารมังกรซ่อนรูป นายก็ไม่สามารถจับกุมผู้คนได้ตามใจชอบนะ”
ฉินเปียวพลันมองไปที่ฉินชวน นายไม่ได้ส่งคนไปที่บ้านของพวกเราและขอให้ฉันช่วยเข้ามาช่วยให้ปากคำในการสืบสวนหรอกเหรอ?”
“ ตอนนี้ฉันอยู่นี่แล้วไง
ฉินชวนพลันกัดฟันและจ้องเขม็งไปที่ฉินเปียวในทันที รู้ทั้งรู้ว่าฆาตกรอยู่ตรงหน้าเขา หากแต่เขาไม่มีหลักฐานมากพอที่จะมัดตัวเอาไว้ได้ เขาเลยไม่กล้าที่จะลง
ฉินชวนพลันอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉินเทียนเพื่อถามความคิดเห็น
ฉินเทียนพลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “เรื่องการลอบโจมตีของมังกรซ่อนรูปนั้น พวกเราจะทำการตรวจสอบอย่างช้าๆ ฉันเชื่อว่าถึงยังไงมันจะต้องพบหลักฐานที่หลงเหลืออยู่แน่นอน ”
“วันนี้ ฉินเปียวสามารถไปได้ แต่หยางต้าวจำเป็นต้องอยู่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย!”
เกี่ยวกับอาชญากรรมของหยางต้าวนั้นได้รับหมายศาลในการออกหมายจับสู่สาธารณชนแล้ว อีกทั้งฉินชวนก็ได้ประกาศออกหมายจับไปแล้วเช่นกัน
หลังจากได้ยินคำพูดของฉินเทียนนั้น ฉินชวนพลันพูดออกมาอย่างเสียงดังว่า “เหล่ามังกรซ่อนรูปทั้งหลายจงฟังคำสั่ง !”
“หยางต้าวผู้เป็นอาชญากรชั่วร้าย เป็นอาชญากรที่พวกเราต้องการตัวมากที่สุด เราต้องจับเขาให้ได้ในวันนี้”
“หากฝ่ายตรงข้ามขัดขืน สามารถทำการวิสามัญได้เลย!”
“หากมีใครพยายามปกปิดและขัดขวางการทำงานพวกเขาเราจะถือว่าพวกเขาเป็นอาชญากรเช่นเดียวกัน ทั้งยังทำการวิสามัญอย่างไร้ความปรานี!”
“รับทราบ!” เหล่าสมาชิกในทีมมังกรซ่อนรูป พากันรับคำสั่ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว แต่พวกเขาก็เป็นเหมือนดาบแหลมคมที่ออกมาจากฝัก เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟันในทันที
ในทางตรงกันข้ามฉินเปียวที่พาคนมาเพียงไม่กี่คนนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีหนทางให้หนีพ้น
น่าแปลกที่ ฉินเปียวไม่มีท่าทีตื่นตระหนกขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังหยิบซิการ์ออกมาสูบ โดยมีหยางต้าวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก้มลงทำความเคารพเพื่อจุดบุหรี่ให้เขา
จากใบหน้าของหยางต้าวนั้น สัมผัสได้เลยว่า เขาไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ตอนที่มังกรซ่อนรูปกำลังจะ พุ่งเป้าลงมือไปที่เขานั้น หากว่ากันตามเหตุผลแล้ว หยางต้าวสมควรที่จะกลัว
ฉินเปียวพลันสูบบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ ๆ พร้อมทั้งพ่นควันบุหรี่ออกมาใส่ฉินชวนด้วย
“เสี่ยวซีจุน ไม่ต้องรีบร้อนไป”
“อีกสิบนาที ฉันจะให้คำตอบแกเอง”
หลังจากนั้น ในตอนที่เขากำลังสูบบุหรี่ พร้อมกับมองไปที่ฉินเทียนด้วยนั้น ก็เริ่มพูดคุยออกมาด้วยท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อน
ใบหน้าของฉินเทียนพลันค่อย ๆ มืดครึ้มลง ทั้งยังไม่คิดสนใจฉินเปียวอีกด้วย ในตอนนี้ ภายในหัวของเขากำลังคิดอยู่ว่า ฉินเปียวกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่
การที่ผู้ชายคนนี้มาปรากฏตัวต่อหน้า และยังพาคนติดตามมาเพียงไม่กี่คนแบบนี้ ดูไม่เหมือนว่าเขามาที่นี่เพื่อจะมาต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
ทั้งยังไม่มีความเกรงกลัว เมื่อมาอยู่ต่อหน้าสมาชิกมังกรซ่อนรูปของเขาอีก หรือว่าฉินเปียวจะมีที่พึ่งอยู่เบื้องหลัง?
จนกระทั่งไม่กี่นาทีต่อมา ก็พลันได้ยินเสียงเครื่องบินดังมาจากฝากฟ้า ทุกคนพลางเงยหน้าขึ้นมองในทันที พร้อมกับเห็นเครื่องบินรบสีดำลำหนึ่งบินตรงมาอย่างรวดเร็ว