บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ - ตอนที่ 125 ความต้องการฆ่าของฮิวจ์ และ ลูลู่ที่โกรธเกรี้ยวล่ะ!
- Home
- บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ
- ตอนที่ 125 ความต้องการฆ่าของฮิวจ์ และ ลูลู่ที่โกรธเกรี้ยวล่ะ!
เมื่อได้ยินคำถามเกรย์ ลูลู่กับวู่หยานก็หันมาจ้องหน้ากันและกัน ก่อนที่จะพร้อมใจกันตะโกนออกมาว่า
“ไม่รู้จัก!!”
ริมฝีปากเกรย์บิดเบี้ยว มองดูทั้งสองคนที่ราวกับเพื่อนสนิทกันมานานขนาดพูดยังพูดพร้อมกัน อยู่ๆเกรย์ก็เริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
ทั้งสองคนต่างก็หัวเราะออกมาด้วยความสุขหลังพูดเสร็จ เฟยเฟยเองก็ทนไม่ไหวจนเผลอหลุดขำออกมาเหมือนกัน เวลานี้เสียงหัวเราะของวู่หยานได้ดังก้องไปทั่วผสานไปกับเสียงหัวเราะเบาๆของสองสาว
น่าคิดถึงอะไรแบบนี้นะ จำได้ว่าครั้งแรกที่เขาเจอเฟยเฟย เธอเองก็ถามคำถามเดียวนี้กับเขาแล้วก็ลูลู่เหมือนกัน และตอนนั้นทั้งเขาและลูลู่ต่างก็ตอบไปว่าไม่รู้จัก…….
ทั้งสามคนหวนนึกถึงช่วงเวลานั้นแทบจะพร้อมๆกัน ถึงแม้จะผ่านมาแล้ว2-3เดือนก็ตาม แต่กับเขาที่ผ่านประสบการณ์ในโลกอนิเมะกับพวกเธอที่ไม่ได้ผ่านมัน คงคิดว่าไม่ได้เจอกันแค่แป๊ปเดียว……
เมื่อเฟยเฟยหยุดขำ เธอก็หันหน้าไปถามวู่หยานด้วยแววตาสนใจว่า
“หยาน ก่อนหน้านี้ที่นายพูดว่า ‘ตระกูลมิดเดอร์เรียของพวกเรา’ นี้อย่าบอกนะว่านายเป็นคนของตระกูลมิดเดอร์เรียน่ะ?”
“ใช่แล้วๆ!” ลูลู่เองก็นึกสงสัยขึ้นมาเหมือนกัน “ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้นายบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วมาจากป่าเขาหรอกเหรอ?”
“…..ถึงแม้ฉันจะเคยพูดแบบนั้นไปจริงๆก็เถอะ แต่ไม่รู้ทำไมพอมันออกมาจากปากเธอแล้วถึงได้รู้สึกหงุดหงิดแบบนี้นะ……”
วู่หยานถอนหายใจ ก่อนจะโบกมือปอยๆให้สองสาว แล้วพูดยิ้มๆว่า “นั่นฉันโกหกน่ะ! แต่ตระกูลมิดเดอร์เรียมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉันจริง ดังนั้น ถ้าเธอคิดจะมาหาเรื่องล่ะก็ เธอคงต้องผ่านตัวฉันไปให้ได้ก่อนล่ะ!”
“แก? ขึ้นอยู่กับตัวแกเนี่ยนะ? คิดว่าตัวเองคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้กับตระกูลโลลิของเราเหรอ?”
เสียงพูดขึ้นมาหลังจากที่วู่หยานพูดจบไป วู่หยานหรี่ตาลงก่อนจะจ้องมองไปที่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังลูลู่แล้วก็เฟยเฟย
เห็นฮิวจ์ที่เงียบมานานในที่สุดก็เปิดปากพูด เขายกแขนขึ้นมากอดหน้าอกแล้วมองวู่หยานด้วยใบไม่แยแส สายตาที่เขาใช้มองวู่หยานราวกับกำลังมองไอ้บ้านนอกคนหนึ่งอยู่ แววตาเขามันเต็มไปการดูถูก
วู่หยานเห็นแบบนี้ ก็หันไปถามลูลู่ว่า “ลูลู่ เขาเป็นใคร?”
โดยไม่รอให้ลูลู่ได้พูด ฮิวจ์เปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นมืดมนคิ้วก็ขมวดแน่น “บังอาจ! เมื่อกี้แกพูดว่าไงนะ? คุณหนูของตระกูลโลลิเรา ไม่ใช่คนที่แกจะมาพูดตีซี้แบบนี้ได้!!”
ในที่สุดก็วู่หยานก็นึกออก ‘อ่อ ก็ว่าทำไมเราถึงรู้สึกเหมือนเดจาวูแปลกๆ ที่ไหนได้ ไอ้สไลม์เบอร์2โผล่ออกมานี้เอง…..’ (@สไลม์เบอร์1อยู่ตอน9ไม่ก็10 ที่โดนหยานตัดแขนไป)
ฮิวจ์ โลลิ : เลเวล 42
‘โห~ เทียบกับสไลม์เบอร์1แล้ว เจ้านี้แข็งแกร่งกว่าเยอะเลยแฮะ อย่างน้อยก็เป็นถึงแรงค์5……’
“เฮ้ ฮิวจ์ นายพูดแบบนี้หมายความยังไงกันแน่น่ะ” ลูลู่ขมวดคิ้วน้อยๆของเธอ เธอมองตาฮิวจ์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีการล้อเล้นอีก “เพื่อนของฉันจะเรียกฉันยังไงมันไปเกี่ยวอะไรกับนายด้วย!”
“เพื่อน?” ฮิวจ์ตกใจเล็กน้อย แล้วชี้นิ้วไปที่วู่หยานด้วยสีไม่อยากเชื่อ “คุณพูดว่าเจ้าหมอนี้เป็นเพื่อน?”
“แล้วมันมีปัญหาอะไรรึไง?” ลูลู่ทำเสียงขึ้นจมูกด้วยความเย็นชา ถึงแม้เธอจะทำเสียงขึ้นจมูกด้วยความเย็นชา แต่พอลูลู่เป็นคนทำกลับไม่ได้ทำให้ผู้คนหวาดกลัวหรือไม่พอใจแต่กลับกันเลยพวกเขายิ่งรู้สึกดีที่เห็นเธอทำท่าน่ารักแบบนี้
ทว่าสีหน้าของฮิวจ์ตอนนี้กลายเป็นมืดมนโดยสมบูรณ์ เพื่อนงั้นเหรอ? ถ้าคำพูดนี้หลุดออกมาจากคนอื่นก็คงเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่พอมันออกมาจากปากลูลู่มันก็กลายเป็นคนล่ะเรื่องแล้ว
ตั้งแต่เด็กที่เขาได้รับการอุปการะไปอยู่ที่ตระกูลโลลิ เขาแทบจะโตมาพร้อมๆกับลูลู่ มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยได้ยินคำว่าเพื่อนจากปากเธอ แต่เพื่อนของเธอนับเป็นตัวตนที่หายากมาก ถึงใช้นิ้วมือนับยังถือว่าเหลือแหล่เลย
ฮิวจ์ชอบลูลู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว พูดได้เลยว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้เจอลูลู่ เขาก็โดนความน่ารักและความบริสุทธ์ไร้เดียงสาของเธอเอาชนะใจไปแล้ว ทั้งๆที่เธอเป็นถึงคุณหนูของตระกูลอันสูงส่งแต่กลับไม่ถือตัวเลย เธอเป็นมิตรและเข้าถึงง่ายมาก ไม่เหมือนกับพวกลูกคุณหนูคนอื่นที่หยิ่งยโส
บวกกับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะที่เหนือยิ่งไปกว่าเขา แล้วยังความงามที่สามารถทำให้บ้านเมืองล่มสลายได้นี้อีก ดังนั้นตั้งแต่วินาทีแรกที่ฮิวจ์ได้เจอลูลู่เชาได้พูดขึ้นมาในใจแล้วว่า
เธอเป็นของฉัน!!
แล้วสำหรับเขาที่เข้าใกล้คำว่าเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ก็เรียกได้ว่ามีโอกาสมากกว่าผู้ชายคนอื่นมากนัก แต่ทว่าไม่ว่าเขาจะพยายามจีบเธอยังไง แต่เธอกลับไม่ได้มองเขาเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะลูลู่ปฏิบัติตัวแบบเดียวกันนี้กับผู้ชายคนอื่นด้วย ฮิวจ์คงตื่นตระหนกแน่ (@มาปลูกทุ่งลิลลี่กันเถอะ!)
แต่ว่าลูลู่ที่เป็นแบบนั้น ตอนนี้กลับบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็น…เพื่อน!
ฮิวจ์เงียบไป ก่อนจะหันมามองวู่หยานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาไม่คิดปกปิดจิตสังหารเลย ดังนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่จึงสัมผัสถึงมันได้กันหมด
นัยน์ตาอิคารอสหดตัวลง เธอเตรียมตัวเข้าสู่โหมดยูเรนัสควีน สำหรับเธอแล้วใครที่กล้ามีความคิดไม่ดีกับวู่หยาน มันต้องถูกกำจัด!
ฮินางิคุกับมิโคโตะรีบเบรคอิคารอส พวกเธอลูบหัวอิคาอรส บอกเป็นนัยให้เธออย่าเพิ่งทำอะไร อิคารอาลังเลไปชั่วครู ก่อนจะยอมหยุด
แน่นอนว่าฮิวจ์ที่เอาแต่จ้องเขม็งไปที่วู่หยานย่อมไม่รู้ตัวว่า เมื่อกี้ได้มียมทูตเอาเคียวมาจ่อคอตัวเองเตรียมจะตัดอยู่รอมร่อแล้ว ในใจมันตอนนี้คิดแต่จะฆ่าวู่หยานยังไงให้ทรมานมากที่สุด ว่าเมื่อเห็นลูลู่เดินเข้ามา ฮิวจ์จึงจำต้องกดความคิดนี้ไป
“เฮ้ ไอ้ขยะ อย่าให้มันมากเกินไปนะ รู้สถานะตัวเองบ้างแล้วจากนี้ไปอย่ามาเข้าใกล้คุณหนูอีก แกไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนเธอ!” ฮิวจ์พูดเน้นย้ำใส่วู่หยานทุกคำ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการข่มขู่
กับการขู่ของฮิวจ์ วู่หยานที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบ้างอย่าง ลูลู่ก็ได้ก้าวเดินมายืนตรงหน้าวู่หยานแล้วพูดเสียงดังว่า “นี่นายมีสิทธิอะไร! ถึงได้มาพูดแบบนี้กันห๊ะ! ถ้าฉันบอกว่าเค้าคือเพื่อนเค้าก็คือเพื่อนฉัน! ไม่มีใครสูงต่ำกว่าใครหรืออะไรทั้งนั้น!”
ฮิวจ์ไม่ตอบ แต่สายตาที่เขามองวู่หยานได้มีจิตสังหารโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ลูลู่ที่ออกตัวปกป้องวู่หยานก็เหมือนโยนน้ำมันลงกองเพลิง ทำให้ความคิดที่จะฆ่าวู่หยานยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ตั้งแต่ตั้นจนจบ เทียนเกอร์ที่ตัวต้นตัวตีก็ไม่พูดอะไร เกรย์เองที่คิดว่านี้จะเป็นหายนะของตระกูลเค้าเองก็ไม่พูดอะไร เพราะตอนนี้สถานการณ์มันไม่ได้เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว มันได้เปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่นแล้ว ดังนั้นพวกเขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงจึงเลือกที่จะดูสถาการณ์ก่อนค่อยว่ากันอีกที
ฮินางิคุกับมิโคโตะเองก็เหมือนกัน แต่จะต่างตรงที่นอกเหนือจากดูสถานการณ์ก่อน พวกเธอยังหันไปมองดู ลูลู่ ด้วย
ก่อนหน้านี้พวกเธอเคยได้ยินวู่หยานพูดถึงสาวน้อยคนนี้อยู่เหมือนกัน ทำให้พวกเธอรู้สึกสนอกสนใจกับเพื่อนคนแรกในต่างโลกของวู่หยานอยู่ไม่น้อย ดังนั้นตอกนนี้พวกเธอจึงกำลังใช้สายตามองตรวจสอบลูลู่อย่างระมัดระวัง
ตอนนี้เอง ในที่วู่หยานก็เคลื่อนไหว เขาเอื้อมมือขึ้นไปวางบนหัวลูลู่แล้วลูบ ทำให้ผมทรงสวยๆของเธอกลายเป็นยุ่งเหยิง โดยไม่สนใจสีหน้าไม่พอใจของเธอ วู่หยานดึงตัวเธอไปด้านหลัง
“เอามือสกปรกของแกออกไปเดียวนี้!!” การกระทำของวู่หยานได้ทำให้อารมรณ์ของฮิวจ์ระเบิดออกมาจนหมด ไอ้ท่าทางที่ดูสนิทสนมกันนั้นบวกกับสีหน้าลูลู่ที่ดูเหมือนจะทำเป็นโกรธไปงั้นๆนี้อีก ทำให้ฮิวจ์โกรธสุดๆ
ด้วยความโกรธ ทำให้ออร่าชนชั้นสูงของฮิวจ์ได้หายไปจนหมด สีหน้าของเขาบิ้ดเบี้ยวไปด้วยความโกรธที่มากล้น ก่อนจะเอาคทาที่เป็นยุทธภัณฑ์หลักออกมา แล้วโบกมันก่อให้เกิดคลื่นลมที่คมกริบพุ่งเข้าไปหามือที่วู่หยานใช้จับหัวลูลู่
แทบจะพร้อมๆกัน ก็ได้มีแท่งน้ำแข็งออกมาขัดขวางใบมีดสายลม ทำให้พวกมันทั้งคู่ปะทะกันจนหักล้างกันเองไป
ตอนนี้ ในมือ ลูลู่ ได้ถือคทาไว้แล้ว เธอมองฮิวจ์ด้วยความโกรธ รอบๆตัวเธอได้แผ่พลังเวทย์ในตัวออกมาจนหมด
ลูลู่โกรธมากๆ และเมื่อเธอโกรธผลลัพธ์ของมันก็มักไม่จบแบบดีด้วย……..