บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ - ตอนที่ 289 ควีนซามะเห็นข้อมูลต่างโลกล่ะ!
เห็นมิซากิวางแผนพูดปั่นหัวมิโคโตะต่อ และเขาก็รู้ว่าเธอทำสำเร็จแน่ๆด้วยความที่ไม่อยากเห็นมิโคโตะคลั่ง วู่หยานรีบพูดแทรก “ควีนซามะ!เธอช่วยหยุดแล้วมาทำธุระที่ฉันขอให้เสร็จก่อนแล้วค่อยคุยกันได้มั้ย?”
ได้ยินมิซากิก็มองค้อนวู่หยานด้วยความไม่พอใจเล็กๆที่เขายืนข้างมิโคโตะแล้วมาขัดความสุขของเธอ วู่หยานที่เห็นก็ทำได้คหัวเราะแห้งๆ
ดูเหมือนเราต้องรีบหาทางทำให้สองคนนี้ลงรอยกันให้ได้เร็วๆแล้วแฮะ เพราะยังไงซะทั้งสองก็เป็นผูหญิงของเรา…..
คิดถึงตรงนี้วู่หยานก็น้ำตาไหลพรากๆในใจเพราะเขายังมองหาทางไม่เจอเลย……..
มิโคโตะและสาวๆคนอื่นก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆวู่หยานถึงพา โชคุโฮ มิซากิ มา และพอเอามารวมกับที่วู่หยานบอกพวกเธอก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นมิโคโตะกับฮินางิคุก็หันไปมองฟรานในอกวู่หยานพร้อมกันด้วยแววตาสงสาร…….
มิโคโตะทำเสียง ‘เหอะ’ แล้วหันหน้าไปอีกทางไม่มองโชคุโฮต่อ ถึงแม้ฟรานจะตัวติดแค่กับวู่หยานแต่พวกเธอทุกคนยกเว้นอิคารอสที่ระบบอารมณ์ยังไม่พัฒนาต่างก็ชอบฟรานจัง
เห็นมิโคโตะไม่สนใจตัวเองอีก มิซากิก็รู้สึกไร้รสชาติเธอจึงหันหน้าหนีไปทางเช่นกัน เห็นภาพนี้วู่หยานก็พูดไม่ออก เขาเริ่มรู้สึกว่าควีนซามะไม่ช่วยอะไรเลยกลับกันดูเหมือนเธอจะสร้างปัญหามากกว่า………
ทว่าไม่นานมิซากิก็สังเกตเห็นฟรานในอกวู่หยาน มองดูใบหน้าสุดน่ารักของฟรานนัยน์ตาดวงดาวของเธอก็เป็นประกาย
แม้แต่ควีนซามะยังไม่อาจต้านทานเสน่ห์อันเหลือล้นของฟรานได้ จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าฟรานจังนั่นน่ารักจริงๆ……..
เมื่อมิซากิเหลือบไปเห็นนัยน์ตาสีแดงของฟรานที่เหมือนกับวู่หยาน เธอก็ช็อคอย่างแรง จากนั้นพูดออกมาได้ไม่ผ่านสมองว่า
“อย่าบอกนะว่าเด็กคนนี้ เป็นลูกของนาย?”
ได้ยิน ฮินางิคุ มิโคโตะ แอสเทรีย เฟรนด้า คินุฮาตะ และทาคิสึโบะ ก็แทบจะล้มลงพื้น อิคารอสเองก็มองมิซากิด็แววตาช็อค….
ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะกำลังอุ้มฟรานอยู่ วู่หยานก็อยากจะล้มลงพื้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปจริง เขามองบนใส่มิซากิแล้วพูดว่า
“ฉันขอถามหน่อยเถอะ อะไรที่มันทำให้เธอได้ข้อสรุปแบบนี้กันห๊ะ?”
มิซากิก็มองสลับวู่หยานกับฟรานด้วยสีหน้าสงสัย จากนั้นชี้ไปตาตัวเองแล้วพูดอย่างมีเหตุผลว่า
“นายดูสิไม่ใช่ว่านายกับเธอมีตาแบบเดียวกันหรือไง?”
วู่หยานสำลักน้ำลายอย่างพูดไม่ออก ถึงแม้ในโลกนี้จะมีคนสีตาเดียวกันอยู่มากก็จริง แต่คนที่มีตาสีแดงนั่นหายาก มันคงไม่แปลกถ้าคนอื่นจะคิดแบบนั้นบางคนอื่นอาจจะไม่เคยเห็นคนนัยน์ตาสีแดงตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ…..
วู่หยานอยากจะอธิบายไปมากๆว่าฟรานจังไม่ใช่ลูกสาวตัวเอง แต่เขาก็ไม่สามารถอธิบายว่าทำไมเขาและเธอถึงมีตาสีแดง ดังนั้นวู่หยานจึงทำได้แค่พูดว่า
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ เธอจะเชื่อมั้ย?”
ได้ยินมิซากิก็เอานิ้วจิ้มคางตัวเองก่อนที่จะตอบคำตอบที่ตรงข้ามกับที่วู่หยานคิด
“ฉันเชื่อ!”
วู่หยานยกคิ้ว “ทำไมเธอเชื่อแบบนี้ล่ะ?”
มิซากิหัวเราะ เธอมองวู่หยานด้วยแววตาขบขัน จากนั้นพูดว่า “ก็เพราะว่าฉันไม่เชื่อว่านายจะมีความสามารถมากพอที่จะทำเด็กน่ารักขนาดนี้ได้ไง!”
สิ้นเสียงมิซากิ สาวๆทุกคนก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างพังทลาย พอหันไปมองก็เห็นว่ามันมาจากตัววู่หยาน
สูดลมหายใจเข้าลึกวู่หยานพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นเข้าไว้ เพราะด้านฝีปากยังไงเขาก็ไม่ชนะควีนซามะแน่ๆ ถ้าเขาอยากเอาคืนก็ต้องตอนอยู่บนเตียง ใช่แล้วบนเตียง……..
คิดถึงตรงนี้วู่หยานก็ผ่อนคลาย บนใบหน้าผุดเอารอยยิ้มแจ่มใสออกมา ทำให้สาวบางคนที่คุ้นเคยกับเขาสงสัย มีเพียงแค่มิซากิที่มีสีหน้าตกใจราวกับว่าคิดอะไรได้เธอก็ก้มหน้าลงด้วยความเสียใจ
ใจคันยุบยิบทำให้หัวใจมิซากิเต้นเร็วขึ้น ราวกับจำอะไรได้แข้งขาเธอก็อ่อนตัวลง มิซากิรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง
“มะ-ไม่ใช่ว่านายให้ฉันมาดูอาการเด็ก? ถ้างั้นก็รีบๆเริ่มได้แล้ว!”
ได้ยินวู่หยานก็หรี่ตามอง ก่อนที่จะคิดในใจประมาณว่าไว้วันหลังค่อยไปคิดบัญชี้เจ้าหล่อน
มองดูเด็กน้อยในอ้อมอก วู่หยานพูดกับฟราน “ฟรานจังให้พี่สาวตรงนั่นดูตัวหน่อยนะ…..”
ฟรานงุนงง เธอไม่รู้จริงๆว่าวู่หยานกับผู้หญิงตรงนั้นจะทำอะไรเธอ แต่ในเมื่อวู่หยานพูดเธอก็ยอม ฟรานหันไปพยักหนักให้กับมิซากิ
มิซากิตอบรับด้วยรอยยิ้ม จากนั้นดึงรีโมทคอนโทรลออกมาจากกระเป๋าแล้วยกชี้ไปที่ฟรานเสร็จแล้วก็กดปุ่ม!
หลังจากเกิดเสียง ‘เปรี๊ยะ’วินาทีต่อมาลูกตาของฟรานก็แข็งทื่อ นัยน์ตาเดิมที่มีชีวิตชีวาก็ได้หายไปหมดมันสงบนิ่งราวผิวน้ำ
เห็นภาพนี้ ฮินางิคุ มิโคโตะ และ แอสเทรีย ก็กลั้นลมหายใจตัวเองราวกับกลัวว่าเสียงหายใจตนจะไปรบกวนมิซากิ เฟรนด้า คินุฮาตะ และทาคิสึโบะ ถึงแม้จะไม่เข้าใจแต่ถ้าพอมีสมองหน่อยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ย่อมรู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ ดังนั้นพวกเธอจึงยืนเฝ้ารออย่างสงบ……
นัยน์ตาของมิซากิเองก็ดูไร้ชีวิตชีวาเช่นกัน ดวงดาวในนัยน์ตาเธอก็ไม่ได้เปร่งประกายเหมือนปกติ ผ่านไปครู่นึงจู่ๆนัยน์ตาเธอก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกันมิซากิก็ทำสีหน้าสุดช็อคออก ทำให้คนที่มองอยู่หัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มด้วยความกลัวที่ว่าฟรานจะเป็นไรไป
โชคดีที่มิซากิได้เก็บสีหน้าช็อคๆกลับไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนโล่งอก วู่หยานฝืนหัวเราะ ควีนซามะควรที่จะฝึกควบคุมสีหน้าหน่อยนะหรือไม่ทุกคนก็จะเป็นโรคหัวใจกันหมด……
ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ๆ ในที่สุดมิซากิก็ทำงานตัวเองสำเร็จ เธอได้เก็บรีโมตกลับมาทว่าในนัยน์ตาของเธอกลับกำลังเปร่งประกายวาววับด้วยสีหน้าซับซ้อน
“เป็นไงบ้าง? มีวิธีมั้ย?” เห็นมิซากิเก็บรีโมทวู่หยานก็รีบส่งเสียงถาม คนอื่นก็หันมามองมิซากิเป็นตาเดียว
โชคุโฮ มิซากิ มองวู่หยานด้วยสีหน้าซับซ้อน ในแววตาของเธอได้ซ่อนความข่มขื่นเอาไว้ ทำให้วู่หยานไม่รู้ตัว เห็นสีหน้าสงสัยของเขา มิซากิก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า
“ไม่คิดเลยนะว่าต้นกำเนิดของนายจะลึกลับได้ขนาดนี้ ต่างโลกเอย ระบบเอย คิดไม่ถึงเลยจริงๆ…….”
ได้ยิน วู่หยาน ฮินางิคุ และ มิโคโตะ ก็ประหลาดใจมาก วู่หยานมองมิซากิอย่างอึ้งๆ แล้วถามเธอด้วยความสงสัยว่า “นี่เธอรู้แล้ว?”
ทันทีที่เขาถามออกไป วู่หยานก็ฉุกคิดได้ว่า ‘Mental Out’ ของมิซากินั่นสามารถ ‘แอบมอง’ ความทรงจำคนอื่นได้!
พูดอีกอย่างก็คือมิซากิได้ดูความทรงจำของฟรานจังไปแล้ว รวมไปถึงความทรงจำได้ที่จากระบบตอนถูกอัญเชิญด้วย!
สรุปก็คือ ควีนซามะรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว!
มิซากิมองวู่หยานที่ทำสีหน้าโง่งม จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงประมาณ ‘ฉันเข้าใจแล้ว’
“ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้นายพูดยังมีโลกที่กว้างใหญ่กว่านี้รอคุณมิซากิไปแสดงความสามารถอยู่ อืม ฉันเห็นด้วยเลย เทียบกับผู้ข้ามมิติอย่างนาย สถานที่เล็กๆอย่างโทคิวะไดคงไม่อยู่ในสายตานายเลยสินะ…….”
วู่หยานหัวเราะเล็กน้อย เขารู้ว่าควีนซามะกำลังพูดถึงตอนที่เขาเจอกับเธอครั้งแรกอยู่……. (@อยู่ตอนไหนก็ไม่รู้นะ)
ทว่าถึงมิซากิจะเข้าใจก็ใช่ว่าคนอื่นจะเข้าใจ……
“เฮ้ เฮ้ เฮ้! นี่พวกคุณกำลังโครตพูดเรื่องอะไรกันน่ะ?”
คินุฮาตะร้องออกมา “ต่างโลกอะไร? ระบบอะไร? แล้วข้ามมิติอะไร? พูดให้คนอื่นเค้ารู้เรื่องด้วยสิ!”
หยาน ฮินางิคุ และ มิโคโตะ ทั้งสามหันมามองหน้ากันด้วยแววตาจนปัญญาสุดๆ…….
บัดซบ ความลับมันไม่เป็นความลับแล้ว นี่มันชักจะเป็นปัญหาแล้วแฮะ……..
——————–
@ กลุ่ม6-10ลดราคาเหลือกลุ่มละ100ครับจาก200 อ่านได้ที่แอป Justread