บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ - ตอนที่ 303 ฟรานจังเข้าทดสอบล่ะ!
ได้ยินคำพูดที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ของคุณผู้ดูแล วู่หยานกับสาวๆก็รู้สึกพูดไม่ออก ความรู้สึกนี้เพิ่มมากขึ้นเมื่อพวกเขาหันไปมองประตูสูงใหญ่นี่
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาและพวกเธอจะพอเดาได้บ้างว่าประตูเข้า Silvaria World Academy มันไม่ได้มีแค่ทางนี้ทางเดียว แต่…..ไอ้ที่นึกไม่ถึงก็คือประตูใหญ่ๆตรงหน้านี่มีไว้เพื่อทดสอบนักเรียนใหม่เข้าเท่านั้น!
ฟุมเฟือยสุดๆเลยแฮะ……..
ผู้ดูแลที่ก่อนหน้านี้มีสีหน้าเรียบเฉย พอได้พูดอวดสรรคุณของแท่นพิธีและประตูไปเขาก็ทำหน้าภูมิใจ
“ไม่ว่าใคร ขอแค่มีพลังเล็กน้อยก็จะสามารถเข้าไปเป็นนักเรียนคลาสธรรมดาได้ และจะได้รับเครื่องแบบสีขาวเป็นตัวยืนยันระดับคลาส!”
“ส่วนสำหรับอัจฉริยะที่ยืนอยู่เหนือคนทั่วไป จะได้เข้าคลาสหัวกะทิ ละจะได้รับเครื่องแบบสีน้ำเงินขาว!”
“สุดท้าย นักเรียนพิเศษ…….”
ผู้ดูแลเหลือบมองพวกวู่หยานทีนึงแล้วพูดว่า “การจะเป็นนักเรียนพิเศษได้นั้น จำเป็นต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ไม่งั้นก็จะได้เป็นแค่ระดับหัวกะทิ…….”
“และสีเครื่องแบบสำหรับคลาสนี้ก็คือทอง!”
พูดถึงตรงนี้คุณผู้ดูแลก็ตบมือดึงความสนใจพวกวู่หยานที แล้วพูดต่อ “แน่นอนว่าเราไม่ได้วัดตัวนักเรียนแค่ด้านพลัง ยังมีด้านพรสวรรค์หรือศักยะภาพแฝงเร้นด้วย ตราบใดที่แท่นพิธีนี้ตัดสินว่าพวกเจ้ามีศักยภาพมากพอ พวกเจ้าก็จะได้เป็นนักเรียนพิเศษ! ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นแค่คนธรรมดาก็ตาม!”
“เพียงแต่…..คนที่ผ่านด้วยเงื่อนไขนี้แล้วได้กลายเป็นนักเรียนพิเศษนั้นมีน้อยกว่าหนึ่งร้อยคนจากจำนวนทั้งหมดใน Silvaria World Academy!”
“น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน…….”
วู่หยานก้มหน้าลงแล้วเงียบไปในใจขบคิด Silvaria World Academyเป็นโรงเรียนเพียงแห่งเดียวของทั้งโลกนี้ ถึงจะมีข้อจำกัดด้านอายุ แต่อย่างน้อยๆนักเรียนก็ต้องมีมายมายหลักสิบล้านหรืออาจจะร้อยล้านแน่!
ในหมู่คนจำนวนมหาศาลขนาดนี้ แต่กลับ….มีแค่หนึ่งร้อยคนที่ได้เป็นนักเรียนพิเศษด้วยเงื่อนไขพรสวรรค์?
วู่หยานเงยหน้าขึ้นมองไปยังผู้ดูแล แล้วถามคำถามที่ติดใจเขาอยู่ “ขอถามหน่อยนะ ในโรงเรียนนี้มีนักเรียนพิเศษอยู่กี่คน?…..”
ผู้ดูแลเบิกตาเล็กน้อย แล้วตอบว่า “มีน้อยกว่าพันคน!”
วู่หยานหรี่ตาลง น้อยกว่าพันคน? นี่มันน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นอีกนะ…….
“….น่าสนใจ……..”
วู่หยานเผลอพูดความคิดในใจออกมา แต่ที่ทำให้เขางุนงงก็คือควีนซามะดันพูดคำเดียวกันนี้พร้อมกับเขาด้วย!
มิซากิผุดเอาร้อยยิ้มหวานออกมาต่อใบหน้าช็อคของวู่หยาน พอเห็นรอยยิ้มเธอเขาก็รู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต มิซากิหัวเราะคิกแล้วยกมือลูบผมบลอนด์ยาวของตน ขณะเดียวกันก็มองดูแท่นพิธีด้วยนัยน์ตาแวววับเต็มไปด้วยความสนอกสนใจ เห็นสายตาเธอวู่หยานก็หนาวสันหลับวาบ
เขามั่นใจว่าควีนซามะ ต้องกำลังคิดอะไรอะไรแผลงๆอีกแน่!
วู่หยานได้ใช้เวลาหนึ่งวินาทีสวดมนต์ไว้อาลัยให้กับนักเรียนที่โดนเธอหมายตาไว้ ในขณะวินาทีเดียวกันเขาก็ได้ตัดสินใจเว้นระยะห่างกับควีนซามะสักพัก เพื่อเป็นประกันไม่ให้เขาซวยไปด้วย………
ผู้ดูแลได้เดินไปข้างๆแท่นพิธีแล้วผายมือ ‘เชิญ’ ให้กับพวกวู่หยาน “ถ้างั้นข้าก็ขอเชิญพวกเจ้ามาเข้ารับการทดสอบ โปรดวางมือลงบนช่องว่าง จากนั้นพิธีก็จะติดสินระดับคลาสอิงตามพลังของเจ้า!”
“สีขาวคือธรรมดา! น้ำเงินคือหัวกะทิ! และทองคือนักเรียนพิเศษ!”
“หลังจากทดสอบเสร็จ ข้าจะเป็นให้เครื่องแบบกับพวกเจ้าเอง ข้าขอเตือนอีกครั้ง ถึงพลังของเจ้าจะธรรมดา แต่ถ้ามีศักยะภาพแฝงเร้นสูงสีที่ออกก็จะเป็นน้ำเงิน และเจ้าก็จะได้รับการปฏิบัตรแบบเดียวกันของนักเรียนหัวกะทิ สรุปก็คือคลาสของพวกเจ้าจะถูกตัดสินด้วยค่าที่สูงที่สุดจากหนึ่งในพลังและพรสวรรค์!”
พูดเสร็จผู้ดูแลก็นิ่งเงียบไปราวหุ่น ใบหน้ากลับเป็นไร้ความรู้สึก ยืนนิ่งรอพวกวู่หยานเข้าไปทดสอบ
และในเวลานี้เอง ฝูงชนด้านหลังก็เริ่มส่งเสียงพูดคุยกันดังขึ้น สายตาทั้งหมดได้จดจ้องมายังเขาและพวกเธอทั้งสิบด้วยแววตาวิเคราห์ ราวกับสนอกสนใจคลาสที่พวกวู่หยานจะได้มาก
ในหมู่คนเหล่านี้ย่อมมีคนที่มีความชั่วๆอยู่ พวกเขากำลังรอดูว่าถ้าเกิดสาวงามพวกนี้มีพลังต่ำ ถ้างั้นพวกเขาก็สามารถใช้วิธีบางอย่างเพื่อให้ได้ตัวได้……….
วู่หยานหันไปมองสาวๆ แล้วยกยิ้มให้ “ใครจะไปก่อน?”
เขาเพิ่งพูดจย ฟรานที่ยืนเกาะชายเสื้อวู่หยานอยู่ก็รีบวิ่งมาด้านหน้าและกระโดดขึ้นๆลงๆปากก็ตะโกนด้วยเสียงตื่นเต้นสุดๆ
“โอนี่จัง! โอนี่จัง!! ให้ฟรานเป็นคนแรกนะ! ให้ฟรานไป!!”
มองดูโลลิที่กระโดดดึ๋งๆอย่างร่าเริงตรงหน้า วู่หยานและเหล่าหญิงสาวก็อดที่จะยกยิ้มอย่างอ่อนโยนไม่ได้ ในใจคิด นางฟ้าตัวน้อยคนนี้จะน่ารักเกินไปแล้วนะ!!!
คนอื่นๆด้านหลังต่างก็ตะลึงไปกับภาพอันเจิดจ้าด้านหน้า บางคนถึงหายใจแรงด้วยสีหน้าแดงๆ………
วู่หยานวางมือลงบนหัวฟรานแล้วยิ้มให้ “งั้นฟรานจังไปคนแรกเนอะ!!”
ฟรานยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แล้วร้องเย้ออกมา จากนั้นรีบวิ่งไปที่แท่นพิธีแล้วเขย่งเท้าชูมือขึ้น เพียงแต่…..มันไม่ถึง…..
ฟรานหน้ามุ่ยที่ตนเองสูงไม่พอ วู่หยานและคนอื่นๆได้หัวเราะออกมาเสียงดัง
“….พี่ชาย…..”
ฟรานหันไปมองวู่หยานด้วยสีหน้าที่จวนเจียนจะร้องไห้ เห็นแบบนี้เขาก็ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้ามาอุ้มฟราน
ฟรานผุดเอารอยยิ้มดุขดอกไม้บานออกมา จากนั้นวางมือลงไปตรงช่องพลัง……..
“……..”
แท่นพิธีเงียบกริบไร้การตอบสนอง ไม่มีอะไรปรากฏออกมาเลย นี่มันได้บ่งบอกว่าผู้ทดสอบมีพลังเท่ากัยศูนย์……..
เห็นภาพนี้ก็มีหลายคนหัวเราะด้วยความเข้าใจ ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นเด็กตัวเล็กๆไม่มีพลังก็ไม่แปลก ถ้าเปลี่ยนเป็นวู่หยานเขาคงโดนเยาะเย้ยถากถางไปแล้ว
ฟรานเม้มปาก ราวกับว่าไม่ได้สนใจเลยที่ไม่มีพลัง เธอเปลี่ยนไปแตะช่องพรสวรรค์……..
“ปั้ง!”
แทบจะวินาทีเดียวกับที่ฟรานแตะ ทั้งแท่นพิธีก็สั่นไหวอย่างรุนแรง จากนั้นภายใต้สีหน้าอึ้งของทุกคน ประกายแสงสีทองอันเจิดจ้าก็ได้ปรากฏขึ้นเหนือแท่นพิธีทันที!
สีหน้าเรียบเฉยของผู้ดูแลได้พังทลายกลายเป็นช็อค มองดูแสงสีทองเป็นประกาย เขาก็ร้องออกมาเสียงหลงว่า “สีทอง!นักเรียนพิเศษ!!!”
ใบหน้ายิ้มๆของหลายคนได้แข็งค้าง มองดูแสงสีทองด้วยสีหน้าโง่งมและหัวที่ขาวโพลน………
พลังศูนย์! แต่พรสวรรค์สูงส่ง!
นี่มันออกจะน่าเหลือเชื่อไปหน่อยมั้ย?………
สายตาผู้ชมทุกคนที่มองฟรานได้กลายเป็นจริงจังและยำเกรง และโดยเฉพาะนักเรียนของ Silvaria World Academy เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าอีกไม่นานเด็กคนนี้จะได้กลายเป็นดาวของทั้ง Silvaria World Academy แล้ว!
เนื่องจากคนที่ผ่านด้วยเงื่อนไขพรสวรรค์ทั้งโรงเรียนมันมีน้อยกว่าหนึ่งร้อยคนไงล่ะ!
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของการเป็นนักเรียนพิเศษที่มากด้วยพรสวรรค์มากไปพวกเขาอีกแล้ว…….
และไม่มีใครเข้าใจสถานะของคนที่ได้เป็นนักเรียนพิเศษใน Silvaria World Academy มากไปพวกเขาอีกแล้ว!
พูดตรง ณ ตอนนี้ถ้าเกิดวู่หยานและพวกสาวได้กลายเป็นคนธรรมดาที่ไร้พลังไป อนาคตของเขาและพวกเธอก็ยังคงแจ่มใสสามารถใช้ชีวิตอย่างหรูหราด้วยสถานะ ‘เพื่อน’ของนักเรียนพิเศษ!
แน่นอนว่านี่อยู่ในเงื่อนไขที่ว่า วู่หยานและสาวๆเป็นคนธรรมดาอ่ะนะ……………