บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ - ตอนที่ 337 มาประลองกัน!
//ติดตามอ่านตอนล่วงหน้าได้ที่เพจเฟสบุ๊ค – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล
ปัจจุบันมีทั้งหมด 1815 ตอน ปีนี้จะแปลจบแล้วครับ คนติดตามมาหลายปีรับรองความสนุก
SGS บทที่ 337 – มาประลองกัน!
การได้เห็น10อันดับแรกพร้อมหน้าพร้อมตากันได้จุดประกายไฟแห่งความหลงไหลในเหล่านักเรียนชั้นที่ห้า!ในเวลานี้ทั้งสิบคนได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนแล้ว!
นักเรียนพิเศษหลายคนคิดว่า เมื่อไหร่ตนเองจะสามารถขึ้นไปยืนเคียงข้างพวกเขาแล้วกลายเป็นคนดังได้กันนะ?
วู่หยานเองก็ตาลุกเป็นไฟเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะสิบอันดับแรก แต่เป็นสามอันดับแรก!
ซิลฟ์! คายะ! จาฟา!
นักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดสามคนในโรงเรียน!เพื่อจบเควสล่าบันลังค์ เขาจะต้องเอาชนะสามคนนี้!
ซิลฟ์ คายะ จาฟา ได้เดินมาหยุดที่ด้านข้างลานประลองแล้วเงยหน้าขึ้นมองมิโคโตะด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ในหมู่ทั้งสามคน ชายคนที่สูงที่สุด จาฟา ได้มองสำรวจมิโคโตะขึ้นๆลงๆ หลังจากนั้นเขาก็เดาะลิ้นอย่างคนเถื่อน จากนั้นเสียงพูดที่แฝงไว้ด้วยไม่พอใจหน่อยๆก็ดังออกมา
“ฮึ้ม ข้าก็คิดว่าคนที่ซิลฟ์ยอมรับจะมีสามหน้าหกแขนเหนือมนุษย์หรืออะไร ที่ไหนได้……เป็นแค่ ยัยหนูน้อย!”
ได้ยินเสียงไม่เข้าหู มิโคโตะก็หันควับไปมองจาฟาทันที บนหน้าผากมีประกายไฟฟ้าแล่บออกมา แววตาทอประกายอันตราย
“นาย!ว่า!ใคร!เป็น!ยัยหนู!”
จาฟาทำเป็นชำเลืองมองมิโคโตะด้วยหางตา ก่อนจะฉีกยิ้มยั่วยวนตอนที่เขากำลังจะอ้าปากพูดต่อก็โดนคายะขัด
“ฝ่าบาท จาฟา สนุกพอแล้วกระมัง?”คายะยิ้มนุ่มๆให้จาฟา ก่อนจะบุ้ยปากไปทางซิลฟ์ “ถ้าไม่งั้นนายอาจทำให้ใครบางคนแถวนี้วีนแตกเอาได้นะเออ?”
สีหน้าจาฟาดิ่งลงทันที เขามองซิลฟ์ด้วยแววตาที่มีประกายความกลัวและความไม่ยินยอมอันยากที่จะสังเหตุเห็น จากนั้นพ่นลมออกจากจมูกแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง เขาเลิกเรียกมิโคโตะว่ายัยหนู
คายะหัวเราเบาๆ ก่อนจะหันไปมองสำรวจมิโคโตะ ทว่าเขาไม่ได้ดูถูกเหมือนจาฟาแต่พูดชมแทน “ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ดูจากอายุแล้วน่าจะเด็กว่าฉันอีกน่า? การที่สามารถบรรลุแรงค์8ได้ด้วยวัยเพียงเท่านี้เนี่ย เธอนะมีพรสวรรค์มากกว่าฉันอีกนะ”
ได้ยินทุกคนยกเว้น วู่หยาน ฮินางิคุ อิคารอส เฟยเฟย และ ลูลู่ ต่างก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างสิ้นเชิงไม่เว้นแม้แต่พวกขุมกำลังใหญ่ที่เพิ่งแพ้ให้มิโคโตะ!
คนจำนวนมากได้หันไปมองมิโคโตะด้วยแววตาสุดทึ่ง มองร่างกายอ้อนแอ่นที่แผ่ออร่าเยาว์วัยมาอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขาก็ทำสีหน้าเหลือเชื่ออกมา
เธอ…เป็นยอดฝีมือแรงค์8?
บางคนกระทั้งยกมือขึ้นมาบีบแก้มไม่ก็ต้นขาตัวเองอย่างแรง ความเจ็บปวดได้ทำให้พวกเขารู้ว่านี่ไม่ใช่ฝันและไม่ใช่การเข้าใจผิดด้วย
สาวน้อยที่ดูยังอายุไม่ถึง18แต่กลับบรรลุแรงค์8แล้ว!
ในเวลานี้เองนักเรีบนแต่ละคนก็ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น ส่วนพวกขุมกำลังใหญ่ที่แพ้ไปก็โล่งอกกันเป็นแถว การที่แพ้ให้แรงค์8นี่คงไม่ถือว่าเสียหน้าหรอกใช่มั้ย?
คนที่ดูออกอาการมากที่สุดเห็นจะเป็นคุนอดีตอันดับ4เขาไม่กลัวหรอกนะว่าจะโดนเรียกว่าแพ้ให้แรงค์8 ที่เขากลัวคือเขาจะโดนเย้ยว่าแพ้ให้เด็กน้อยต่างหาก!
เห็นท่าทางอาการของคนอื่น มิโคโตะก็รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว เธอคิดว่าพวกเขาโอเวอร์ไป ต้องรู้ก่อนนะว่าแอคเซราเรเตอร์เองก็แก่กว่าเธอไม่กี่ปี แล้วยังมีคนอีกตั้งเยอะที่เก่งกว่าเธอ
เช่น ฟรานจัง ทั้งๆมองยังไงก็เป็นแค่เด็กสิบขวบแท้ๆแต่กลับเป็นแรงค์9!ไหนจะอิคารอสกับแอสเทรียอีกเล่า?
เทียบกับคนเหล่านี้แล้ว เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย ดังนั้นมิโคโตะจึงรู้สึกไม่พอใจกับตัวเองอยู่เสมอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเก่ง
ความคิดนี้ถ้าให้วู่หยานรู้ล่ะก็ คงได้ลมตึงกับพื้นจากนั้นนอนมองดูท้องฟ้าด้วยแววตาว่างเปล่าแน่
มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะเทียบกับสาว2Dกับคนจริงๆในซิลวาเรีย ตามตรรกะแล้วแค่โงกุนคนเดียวก็คงล้างโลกนี้ได้ทุกคนแล้วมั้ง?
มิโคโตะส่ายหน้าไปมา “มีคนอีกมากที่เก่งกว่าฉันและมีพรสวรรค์มากกว่าฉัน นายยกยอฉันเกินไปแล้ว”
ได้ยิน คายะก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่อง
“คุณหนูอุตสามีพลังตั้งขนาดนั้น มันน่าเสียดายนะที่จะเป็นแค่นักเรียนธรรมดาน่ะ คุณสนใจมาเข้า แดนต้องห้าม ของผมมั้ย?”
ได้ยินคำพูดคายะ นักเรียนในชั้นห้าก็พากันเงียบกริบ ตาเบิกกว้างมองไปที่มิโคโตะ พวกเขาอยากรู้ว่านักเรียนคนที่4ที่เป็นแรงค์8จะไปเข้าร่วมกับใคร!
ถ้ามิโคโตะเลือกเข้าแดนต้องห้ามล่ะก็ ขั้วอำนาจได้เปลี่ยนไปแน่ แดนต้องห้ามจะอยู่เหนือกว่าอีกสองท๊อปขุมกำลังทันที!
ทางด้านขุมกำลังทั้งเก้ารวมไปถึงเฟยเฟยเองก็มองมิโคโตะ ถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่อยากให้มิโคโตะเข้าร่วมกับคายะ ถึงแม้พวกเขาจะถูกเรียนกรวมกับเป็น12ขุมกำลังใหญ่ แต่จริงๆแล้วขุมกำลังทั้ง9ไม่อาจเทียบได้กับอีกสามขุมนั่นเลย
เป็นเพราะทั้ง แดนต้องห้าม อสูรคลั่ง และ ลำนำสีขาว(หิมะ) ต่างก็มีแรงค์8อยู่อย่างละคน!
แน่นอนว่าพวกเขาย่อมหวังอยากให้มิโคโตะเข้าร่วมด้วยอยู่แล้ว ถ้าได้ตัวเธอมาพวกเขาก็จะสามารถขึ้นไปเทียบกับพวกเชื้อพระวงค์ได้!
ด้วยที่ได้ประจักเห็นพลังของมิโคโตะตอนประลองทำให้พวกเขารู้ตัวว่าไม่อาจใช้กำลังบังคับได้ จึงทำได้แค่หวังว่าเธอจะไม่เข้าขุมกำลังทั้งสามที่เดิมก็ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว
และมิโคโตะก็ไม่ได้ทำให้ใครหลายคนผิดหวัง เธอส่ายหน้าปฏิเสธแล้วยกมือกอดอกจากนั้นพูดด้วยสีหน้าไม่แคร์ “โทษที ตอนนี้ฉันไม่มีความคิดที่จะไปเข้ากับใครทั้งนั้น!”
ได้ยินคายะก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวังทันที แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆอยู่ “ในเมื่อเป็นเช่นนี่ คายะก็ไม่คิดบังคับจิตใจใคร เพียงหวังแต่ว่าในอนาคตถ้าคุณเกิดอยากเข้าร่วมขุมกำลังของใครล่ะก็ ขอให้รู้ว่า แดนต้องห้าม ของคายะผู้นี้ยินดีอ้าแขนต้อนรับเป็นอย่างมาก!”
มิโคโตะยิ้มพยักหน้า ใกล้กันจาฟาก็โล่งอก ถ้ายัยหนูนี่ไปเข้ากับคายะ เขาคงได้ปวดหัวจี๊ดแน่ และด้วยความปากดีเมื่อกี้ทำให้เขาไม่กล้าเปิดปากส่งคำเชิญออกไป ไม่งั้นเขาได้หน้าแตกแน่
ซิลฟ์ที่เงียบมาตลอดจู่ก็เริ่มก้าวเดิน นัยน์ตาสีฟ้าใสได้มองอิคารอสเงียบๆจากนั้นหันไปมองมิโคโตะแล้วพูดด้วยเสียงเย็นขาปกติของเธอ แต่นี่เองได้ทำให้ผู้ชมเปลี่ยนสีหน้า
“….เธอจะรับค้าท้าประลองของฉันมั้ย?”
ได้ยินมิโคโตะก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่แววตาจะลุกโชนด้วยความตื่นเต้น ไฟฟ้าได้ปรากฏออกมา!
“เธอจะดวลกับฉันงั้นเหรอ?”
ซิลฟ์พยักหน้า แล้วพูดต่อ
“ถ้าเธอแพ้ มาเข้า ลำนำสีขาว”
คายะกับจาฟาสบถในใจว่า แย่แล้ว ไม่เพียงแต่สองคนนี้อีก9ขุมกำลังก็เริ่มร้อนตัวแล้ว ทว่ามิโคโตะก็ยิ้มกว้างแล้วพูดว่า
“ดี! ตกลงตามนี้!”
การตอบแบบสายฟ้าแล่บนี่ทำให้ทุกคนช็อค
วู่หยานกับฮินางิคุหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จากนั้นถอนหายใจด้วยความปลง
ยัยนี่ เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยชอบท้าดวลคนอื่นไปทั่วสักที?
//ติดตามอ่านตอนล่วงหน้าได้ที่เพจเฟสบุ๊ค – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล
ปัจจุบันมีทั้งหมด 1815 ตอน ปีนี้จะแปลจบแล้วครับ คนติดตามมาหลายปีรับรองความสนุก