บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ - ตอนที่ 34 โจมตีปีศาจที่ชื่อกำแพง และฮินางิคุที่สติแตกล่ะ!
- Home
- บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ
- ตอนที่ 34 โจมตีปีศาจที่ชื่อกำแพง และฮินางิคุที่สติแตกล่ะ!
“นี่คืออะไรเหรอ?” ในเมื่อเป็นของจากระบบ ฮินางิคุก็อดถามไม่ได้ว่ามันแตกต่างจากเข็มทิศปกติยังไง
“หรือว่าเจ้านี่จะสามารถช่วยเราหาทางออกจากเขาวงกตได้?” มิโคโตะชี้ไปที่เข็มทิศในมือวู่หยานด้วยสีหน้าสนอกสนใจเต็มที่ ถึงแม้เธอจะมองเห็นหน้าจอระบบ แต่ของในระบบเธอไม่รู้จัก ถ้าไม่ใช้เพราะวู่หยานถือมันอยู่ เธอก็อยากใช้พลังตัวเองสำรวจเจ้าเข็มทิศนี่มาก
เห็นสองสาวมองเข็มทิศ วู่หยานพูดไม่ออกมองมิโคโตะ “เธอพูดผิดแล้ว เราจะไปต่อ ไม่ใช้หาทางออก…..”
มิโคโตะตกใจ ก่อนจะเอามือลูบหัวตัวเองอย่างเคอะเขิน “งะ…งั้นเจ้านี่ก็เอาไว้หาทางเข้าเหรอ?”
“ใช้แล้ว…” ยกเข็มทิศขึ้นมา ก่อนจะอธิบายด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“นี่คือเข็มทิศแบบพิเศษ เข็มทิศปกติจะทำได้แค่ชี้บอกทิศทางเท่านั้น แต่เข็มทิศอันนี้ขอเพียงแค่เราคิดว่าจะไปที่ไหนมันก็จะบอกทางให้ เช่น ช่วยหา ‘ทางเข้า’ มันก็ชี้บอกทางเข้าที่อยู่ใกล้ๆให้”
“ลึกลับจัง….” ฮินางิคุรู้สึกสนใจมาก ถึงแม้วู่หยานจะบอกเรื่องระบบแล้ว ยกเว้นตอนอัญเชิญที่เธอไม่ได้อยู่ด้วย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นของระบบ
“รีบลองเร็วเข้า…” มิโคโตะก็ใคร่รู้เหมือนกัน ถึงแม้เมืองแห่งการศึกษาจะมีของประหลาดเยอะ แต่ทุกอย่างสามารถอธิบายได้โดยวิทยาศาสตร์ กับของลึกลับที่ใช้ ‘ความคิด’ เป็นเงื่อนใขในการใช้ เธอไม่เห็นมาก่อน
แต่ก็ไม่แปลกที่เธอจะนสนใจสิ่งของที่แฟนตาซี เพราะเธอก็อายุแค่สิบสี่ปีเอง ยังคงอยู่ในวัยชอบเล่นสนุกอยู่…..
“กำลังใช้อยู่นี่ไง!” ขณะที่วู่หยานพูดจบ เข็มทิศในมืแชอก็ลอยขึ้น แล้ว ‘กุ รุ กุ รุ’ หมุนวนสองครั้ง ก่อนจะบินไปในทิศทางนึง
ฮินางิคุ กับ มิโคโตะ สะดุ้ง ยืนมองเข็มทิศบินออกไป
“เข้มทิศนี้มันมีระบบนำทางอัตโนมัติด้วย?” ฮินางิคุอ้าปากค้างเมื่อเห็นเข็มทิศบินได้ ไม่ใช้ว่ามันต้องชี้ทางหรอกเหรอ? แล้วทำไมมันกลับเป็นฝ่ายบินนำซะเองละ? นี่ทำให้ฮินางิคุที่อาศัยในโลกธรรมดามาตลอดช็อค
“ดูน่าสนุกจัง รีบตามไปเร็ว” มิโคโตะกำหมัดอย่างตื่นเต้น โดยไม่รอฮินางิคุกับวู่หยาน เธอวิ่งตามเข็มทิศไปทันที
“เดียวก่อน!” ฮินางิคุรีบตาม เป็นเพราะเห็นเข็มทิศที่เหนือสามัญสำนึก ทำให้พวกเธอกลัวน้อยไม่มากก็น้อย วู่หยานไอแห้งๆ ก่อนจะรีบตามสองสาวไป
เหอะๆน่าสนุกงั้นเหรอเพื่อไอ้ ‘น่าสนุก’ นี่ฉันใช้แต้มไอเท็มไป1,000เลยนะ….
ภายในถ้ำที่มีแสงสลัวๆ ทั้งสามคนกำลังวิ่งตามเข็มทิศ เสียงฝีเท้าดังก้องกังวานไปทั่ว
เข็มทิศที่บินนำอยู่ๆก็หยุดไป มันชี้ตัวเองไปที่ทิศทางนึง ทั้งสามคนรีบหยุดฝีเท้า
ฮินางิคุมองไปรอบๆที่มีแต่กำแพงหินและก้อนหิน เอยด้วยน้ำเสียงสงสัย “ที่นี่เราเคยเดินผ่านหรือยังอ่ะ? ฉันไม่เห็นจำได้…..”
“เจ้าเข็มทิศนี่มันเสียใช้มั้ยเนี่ย” มิโคโตะ ชี้นิ้ว “ดูสิมันกำลังชี้ไปที่กำแพง!”
วู่หยานพยักหน้าเห็นด้วยกับเธอ เขาก็สับสนเหมือนกัน ก้มหน้าคิดเล็กน้อย ก่อนจะมองกำแพงตรงหน้า แววตามีประกายแสงวาบผ่าน
กำแพง : LV20
วู่หยานทำหน้าเหยเก(囧) กำแพงมันมีเลเวลด้วยเหรอ? เป็นไปไม่ได้!
คิดได้อย่างคือมันไม่ใช้กำแพง แต่เป็นปีศาจ แถมมันยังชื่อกำแพง และยังทำหน้าบล็อกคนตามชื่ออีก…..
อะ…ไอ้ตอแหลเอ้ย! ทำไมก่อนหน้าที่เดินผ่านถึงไม่ถูกระบบตรวจพบล่ะวะ?
มันไม่แปลกที่จะไม่พบ เพราะก่อนหน้านี้วู่หยานไม่ได้ใส่ใจกำแพง ไม่ได้หันไปมองกำแพงเลย และฟังค์ชั่นตรวจสอบของระบบจะมีผลแค่ในระยะสายตาวู่หยานเท่านั้น
“หือ มีอะไรงั้นเหรอ?” เห็นวู่หยานทำหน้าแปลกๆ มิโคโตะถาม
วู่หยานชี้ไปที่ปีศาจกำแพง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจว่า “นั่น น่าจะเป็นทางเข้า….”
ฮินางิคุ ขมวดคิ้ว “ไหนล่ะ? ก็เห็นอยู่ว่ามันเป็นกำแพง”
“เห้อ…..” ถอนหายใจ วู่หยานโบกมือให้ “นั่นเป็นทางเข้าจริงๆ แค่ถูกปีศาจปิดไว้”
“ปีศาจ!!” ฮินางิคุตัวสั่น แล้วถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่า “..ปะ..ปีศาจ…อยู่ไหน..?”
“ก็บอกว่า….” เอามือนวดขมับ วู่หยานกรอกตา “ไอ้กำแพงนั่นแหละ คือปีศาจที่กำลังปิดทางเราอยู่!”
“กำแพง?” สองสาวอึ้ง
“นายหมายถึงกำแพงนั่น จริงๆแล้วไม่ใช้กำแพง แต่เป็นปีศาจที่มีรูปร่างเหมือนกำแพง?” ปากมิโคโตะบิดเบี้ยว ในใจรู้สึกว่าโลกมันบ้าบอไปแล้ว ไม่มีใครไม่เคยได้ชื่นชื่อปีศาจ แต่มาบอกว่ากำแพงเป็นปีศาจนี่เป็นครั้งแรก
เห็นสองสาวทำหน้าไม่เชื่อที่เขาพูด วู่หยานดึงคุซานางึจากฝัก แล้วฟันกำแพง!
ตามปกติ ถ้าเป็นกำแพงทั่วไป ภายใต้ดาบนี้ของวู่หยานกำแพงจะถูกตัดเป็นชิ้นๆ แต่ตอนนี้กำแพงหินตรงหน้ากลับเกิด ‘แผล’ขนาดใหญ่ขึ้นแทน
“โฮกก!!” เสียงคำรามระเบิดออกมาจากกำแพง น้ำเสียงเจือปนด้วยความเจ็บปวด
เสียงได้ดังไปทั่วทางเดิน ทำให้ฮินางิคุกับมิโคโตะตกใจกรีดร้องออกมา
ทางเดินเริ่มสั่นสะเทือน มีเศษหินตกลงมาจากเพดาน วู่หยานรีบถอย มาอยู่ข้างๆสองสาว มองไปที่กำแพง
แรงสั่นสะเทือนค่อยๆหายไป เหตุการณ์แปลกๆทำให้ฮินางิคุและมิโคโตะกระวนกระวายเล็กน้อย ดังนั้นพวกเธอจึงปิดปากเงียบมือก็ดึงชายเสื้อวู่หยานไว้ ทำให้วเขาพูดไม่ออก ถ้านับด้านพลัง มิโคโตะสามารถช็อตมันจนเป็นเถ้าถ่านได้ง่ายๆเลยแท้ๆ แต่กลับกลัวผี ยังเด็กจริงๆ…….
กำแพงที่โดนเขาฟันไปเริ่มสั่นตัวเอง จนมันเริ่มหลุดออกมาจากกำแพง ‘ของจริง’ ได้ ก็ค่อยๆลอยมาตรงหน้าพวกเขา
มันสั่นตัวเองจนหินสองก้อนหลุดออกไป รอยแยกปริแตกออกมาจากรูที่หินสองก้อนหลุดออกไป พร้อมๆกับเสียงกรีดร้อง เห็นได้ชัดว่า รูสองรูนั่นคือตาและปากของมัน!
“ในที่สุดก็ดูเป็นปีศาจสักที” วู่หยานพยักหน้าอย่างพอใจ
เทียบกับวู่หยาน ตอนนี้ทั้งสองสาวกำลังกอดกันตัวกลม มองดูกำแพงที่เริ่มมีใบหน้า พวกเธอน้ำคลอเบ้า
“โฮกก!” กำแพงคำราม ก่อนจะพุ่งมาหาทั้งสามคน
“หลบ!” วู่หยานตะโกนแล้วหลบไปอีกทาง สองสาวก็ได้สติและหลบทัน
กำแพง พุ่งผ่านตำแหน่งเดิมของทั้งสามโดยไม่ลดความเร็วและไปชนกับกำแพงด้านหลัง มันสั่นตัวเล็กน้อยก่อนจะหันมาพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
ขณะหลบวู่หยานก็ยกดาบขึ้นมาเตรียม มิโคโตะก็เริ่มปล่อยกระไฟฟ้าออกมา
ถึงแม้เจอปีศาจครั้งแรกเธอจะกลัว เพราะยังไงเธอก็ยังเป็นแค่เด็กผู้หญิง แต่ถึงยังงั้นเธอก็คือ เรลกัน เลเวล68 แถมปกติเธอก็ห้าวอยู่แล้ว หลังจากเห็นร่างกายจริงๆของปีศาจ เธอก็เริ่มปรับตัวได้
สิ่งที่ไม่รู้ย่อมน่ากลัวเสมอ มิโคโตะเป็นตัวอย่างที่ดี แต่ฮินางิคุยังมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่ เพราะปกติเธอก็กลัวผีอยู่แล้ว และไอกำแพงตรงหน้ามันจัดอยู่หมวดที่เธอกลัว
ถึงแม้ตาเขาจะมอง ‘กำแพง’ อยู่ เขาก็ยังคงแบ่งความสนใจไปที่ฮินางิคุ เตรียมพร้อมช่วยเมื่อจำเป้น
ไม่ใช้วู่หยานไม่แคร์มิโคโตะ แต่เธอแข็งแกร่งกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า เขาไม่จำเป็นต้องกังวล แต่ฮินางิคุในบรรดาทั้งสามคนเธออ่อนแอที่สุด ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น เขาจะไม่สามารถุบชีวิตเธอได้ เพราะฮินางิคุไม่ใช้ซัมมอนของเขา
อย่างที่คิด ฮินางิคุไม่มีแม้แต่ใจสู้กับพวก ‘สิ่งเหนือธรรมชาติ’
ถอนหายใจ วู่หยานพุ่งเข้าใส่กำแพง ถ้าเขาจัดการมันได้เร็วเท่าไหร่ ฮินางิคุก็จะหายกลัวเร็วขึ้นเท่านั้น มันเป็นแค่ขยะเลเวล20 ไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้
โจมตีพลาดอีกครั้ง ขณะที่มันกำลังบินตรงไปชนกำแพงด้านหลังเหมือนครั้งก่อน แต่ที่ต่างออกไปคือเขากำลังวิ่งตามหลังมัน จนมาถึงด้านข้างกำแพง
ก่อนที่ทันจะได้กรีดร้อง วู่หยานก็ได้ก้มหัวลง และมีกระแสสายฟ้าพุ่งผ่านหัวเข้าไป ระเบิดมันจนร่างเข้าฝันในกำแพงของจริง
“ยังไม่จบ!” มิโคโตะโบกมือทั้งสองข้าง ก็มีเกลียวคลื่นสายฟ้าออกมาจากหน้าผากเธอ ก่อนจะพุ่งเข้าไปซ้ำ ‘กำแพง’ ข้างในกำแพง เกิดระเบิดขึ้นสองครั้ง และได้บดขยี้หินรอบๆไปจำนวนมาก
วู่หยานยืนปัดฝุ่นตามตัว ก่อนจะส่ายหน้า
คิดจะฆ่าฉันไปด้วยหรือไงเนีย? ยัยผู้หญิงบ้าพลังนี่……
“ตายแล้ว?” ฮินางิคุถอยหลังสองก้าว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ ทำให้วู่หยานยิ้มอย่างขมขื่น ถ้าเธอกลัวขนาดนี้ก็อย่ามาตั้งแต่แรกสิ
“คงงั้น” มิโคโตะพูดอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่ามันเป็นพวกนักเลงมากกว่าปีศาจ
มองมิโคโตะทำเท่ วู่หยานคิดในใจ
ใครก็ไม่รู้นะ ที่เมื่อกี้ยังร้องกลัวอยู่เลย…..
ขณะที่วู่หยานกำลังตบมุขในใจ มิโคโตะที่กำลังทำเท่ และฮินางิคุที่กำลังกังวล ก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนจะมีหินพุ่งเข้ามาราวกับกระสุน วู่หยานชักดาบออกมาปัด มิโคโตะก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าเมื่อมีหินพุ่งเข้าใกล้เธอมันก็แตกสลายกลายเป็นผง
ระหว่างที่ยังมีหินพุ่งเข้ามา ‘กำแพง’ที่ตัวเล็กลงไปมาก ก็ได้บินเข้าหาฮินางิคุ
วู่หยานและมิโคโตะใจหายวาบ คิดจะช่วยฮินางิคุ แต่ใครจะรู้ล่ะว่า……
เห็นกำแพงที่ใกล้เข้ามา ความกลัวในใจฮินางิคุยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อจวนจะโดนโจมตี ใบหน้าตื่นกลัวของฮินางิคุก็ได้พังทลาย
“อย่าเข้ามานะ!!!” สติแตกเพราะกลัวมากเกินไป เธอชก ‘กำแพง’ ลงไปที่พื้น ก่อนจะจับ ดาบคริสตัล ชิโระซากุระ ที่โผล่ขึ้นมาในมือเธอ ทุบลงไปไม่หยุด
“อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา!!”
มองดูฮินางิคุที่ทุบไม่หยุด กับกำแพงที่ตัวหดเล็กลงเรื่อยๆ วู่หยานกับมิโคโตะ อดก้าวถอยหลังไม่ได้
ทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะแห้งๆ ในแววตาของทั้งคู่มีความคิดเดียวกันผุดขึ้นมา
ต่อจากนี้ เราห้ามทำให้ ฮินางิคุ โกรธเด็ดขาด………
รูปตอนสติแตก
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน87