บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1017: วัฏจักรเป็นตายอันไร้จุดเริ่มและจุดจบ
ตอนที่ 1017: วัฏจักรเป็นตายอันไร้จุดเริ่มและจุดจบ
นี่คือครั้งแรกที่ชายผมขาวในชุดเกราะสีครามได้เห็นตัวตนขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำสามารถสยบศรที่เขายิงออกไปได้
เช่นนี้จะไม่ให้เขาแปลกใจได้อย่างไร?
ทว่าทันใดนั้น เขาก็ไม่กล้าคิดเรื่อยเปื่อยอีก เพราะซูอี้ได้ฟาดฟันออกมาอีกครั้งแล้ว
ยังคงเล็งไปที่หนอนไหมสีทอง!
“วอนตาย!”
ชายผมขาวในชุดเกราะสีครามเดือดดาล
เขาหยิบศรศักดิ์สิทธิ์สีเงินออกมาอีกสามดอก และยิงพวกมันออกไปด้วยกันทันที
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ความโกลาหลสั่นกระเพื่อม แสงสว่างเจิดจ้าไหววูบ ปราณดาบและศรศักดิ์สิทธิ์สีเงินประชันกัน จนเกิดเป็นเสียงคำรามสะท้านภพ อำนาจทำลายล้างกวาดผ่านหล้า
ศรเหล่านั้นตั้งใจสังหารในหนึ่งการโจมตี
ทว่าศรทั้งสามของชายผมขาวในชุดเกราะสีครามล้วนถูกซูอี้สกัดสิ้นอีกครั้ง!
สิ่งนี้ทำให้ผีเฒ่าแบกโลงตะลึง ร่างของเขาสั่นเทาอย่างระงับอยู่
เขาประสบมากับตัวว่าอำนาจของศรศักดิ์สิทธิ์สีเงินนี้น่ากลัวเพียงไร พริบตาที่มันโจมตีเขาก็แทบทำให้ร่างนี้แหลกสลาย!
จวบจนยามนี้ พลังของศรศักดิ์สิทธิ์สีเงินก็ยังกัดกร่อนทำลายพลังชีวิตในร่างของเขา แปลกประหลาดโหดเหี้ยมยิ่ง
ทว่าใครเล่าจะคิดว่าซูอี้ดูจะได้พบวิธีไขความลับพลังของศรเงินเหล่านั้น และขยี้การโจมตีของศัตรูได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!
“จะเป็นไปได้เช่นไร!?”
ชายผมขาวในชุดเกราะสีครามเดือดดาล ดูไม่อาจรับได้
อำนาจแห่งศรนี้เพียงพอสังหารผู้ใดก็ตามในวิถีลึกล้ำได้!
“เร็วเข้า เขานั่งไม่ติดแล้ว!”
สีหน้าของชายผู้นั้นซีดขาวด้วยโทสะ แววตาใกล้ระเบิดเพลิงโทสะออกมารอมร่อ
ทว่าเขาเมินผีเฒ่าแบกโลงไป เพราะซูอี้ได้ลงมือโจมตีหนอนไหมสีทองอีกครั้งแล้ว
และขณะนี้ ซูอี้ก็ใช้ดาบสามชุ่นสะบั้นใจสวรรค์แล้ว
เคร้ง!
เสียงดาบครวญดังก้อง
คมดาบโปร่งใสกวัดไกวตามข้อมือของซูอี้ ราวม้วนจักรวาลเข้ามาฟาดฟันใส่หนอนไหมสีทองบนใบไม้
ตู้ม!
ปราณดาบแข็งแกร่งเสียจนรุนแรงราวแม่น้ำกระแทกสู่ฝั่ง
ชายผมขาวในชุดเกราะสีครามเตรียมการยิงศรอีกครั้ง ทว่าแล่งสีดำนั้นว่างเปล่า
เขาใช้ศรศักดิ์สิทธิ์สีเงินเหล่านั้นจนเกลี้ยงไปแล้ว
“บัดซบ!”
แววตาของชายผมขาวในชุดเกราะสีครามเหลือกถลน
ทันใดนั้นเอง หนอนไหมสีทองที่กำลังแทะใบไม้อยู่พลันยกหัวของมันขึ้นเล็กน้อย และถอนใจอย่างไม่เต็มใจเล็กน้อย
บนร่างยืดยาวของมัน แสงสีทองพลันบังเกิดขึ้น สร้างเป็นด้ายคล้ายเส้นไหม ถักทอเป็นอักขระพิศวงอันเจิดจ้าราวตะวันฉายท่ามกลางความโกลาหล
นี่มันพลังอันใดกัน?
ม่านตาของซูอี้หดตัวกะทันหัน สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามถึงตาย
ผีเฒ่าแบกโลงรวดร้าวยิ่งกว่า วิญญาณของเขาแทบสลาย และไม่อาจลืมตาขึ้นได้
ตู้ม!
ภายใต้อำนาจของลวดลายอักขระนี้ ปราณดาบของซูอี้ระเบิดสิ้นทันใด
ทว่า ก่อนที่ลวดลายอักขระจะได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ ต้นวัฏสงสารหมื่นภูมิซึ่งยืนตระหง่านเยี่ยงขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ แต่บรรพกาลพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ปราณโกลาหลเดือดพล่าน อำนาจกฎเกณฑ์น่าหวาดหวั่นผุดขึ้นร่วมกดดัน
วาบบบ!
ลวดลายอักขระสีทองถูกฉีกกระชากและสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทว่ามันยังไม่จบ!
อำนาจแห่งลวดลายอักขระสีทองดูจะปลุกให้ต้นวัฏสงสารหมื่นภูมิตื่นขึ้นจากการหลับใหลชั่วนิรันดร์โดยสมบูรณ์ ยามนี้ มันเริ่มสั่นไหวรุนแรง กิ่งก้านของมันร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง หมู่ใบไม้สั่นเสียด
ขณะเดียวกัน ปราณโกลาหลอันทรงพลังซึ่งห่อหุ้มภายใต้กฎเกณฑ์อันเก่าแก่โบราณที่สุดก็โจมตีเข้าใส่หนอนไหมสีทองอย่างไร้ปรานี
เปรี๊ยะ!
‘นิมิตโลกภูมิ’ ซึ่งก่อตัวบนใบไม้ใบนั้นไม่อาจทนรับมันได้ จึงสลายไปทันที
“บัดซบเอ๊ย!!! จำไว้นะ ข้าผู้นี้มีนามว่า ‘ชิงเซียว’ และจะเป็นผู้สังหารเจ้าในภายหน้า!!”
ชายผมขาวในชุดเกราะสีครามผู้ปรากฏขึ้นจากนิมิตโลกภูมิส่งเสียงคำรามอย่างไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไป
เสียงของเขายังไม่ทันสร่าง ร่างของหนอนไหมสีทองก็จมหายไปในอำนาจโกลาหลอันน่าหวาดหวั่นเสียแล้ว
มีเสียงระเบิดอย่างรุนแรง อำนาจกฎเกณฑ์เดือดพล่านราวถูกแผดเผา
ณ เวลานั้น ซูอี้ได้พาผีเฒ่าแบกโลงหนีไปนานแล้ว
ยิ่งกว่านั้น เขายกมือซ้ายขึ้นเผยประกายแสงทรงกลมสีเข้มขึ้น เมื่ออำนาจโกลาหลอันรุนแรงกวาดมาหา มันก็จะถูกวงแสงนี้สลายไป
เมื่อมองใกล้ ๆ จะพบว่าวงแสงนี้ปรากฏขึ้นจากชิ้นหยกสีขาวราวหิมะในมือของซูอี้ มันดูเหมือนหน้าหนังสือซึ่งขาดมุมหนึ่งไป
มันคือบันทึกยมโลก!
สมบัติชิ้นนี้เปี่ยมด้วยคลื่นพลังลึกลับราวไข่มุกจากทะเล ไม่ว่าอำนาจรอบข้างของมันจะร้ายกาจรุนแรงเพียงไร บริเวณที่แสงนี้ปกคลุมก็ยังสงบเงียบเสมอ
ซูอี้และผีเฒ่าแบกโลงผู้หลบอยู่ในนั้นย่อมพ้นจากอันตรายใด ๆ
ตู้ม!
อำนาจโกลาหลพลุ่งพล่านราวคลื่นลาวาอันเกรี้ยวกราด
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เขาแน่ใจว่าแม้แต่ซูเสวียนจวินที่มีสภาพสมบูรณ์พร้อมก็ยังไม่อาจหยุดการบดขยี้ของอำนาจนี้ได้โดยอาศัยเพียงการฝึกฝนของตนแน่แท้
เพราะถึงอย่างไร นี่ก็คือพลังต้นกำเนิดของภูมิมืดมิด และเมื่อมันถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่ พลังนี้จึงเป็นดั่งกฎเกณฑ์ของภูมิมืดมิด!
ซูอี้เองก็สูดหายใจเฮือก
เขาเคยมาที่นี่ในอดีตชาติ แต่เขาก็ระมัดระวังและไม่กล้ายุ่งไม่เข้าเรื่อง
ยามนี้เมื่อเขาได้ประจักษ์ภาพการปะทุของที่มาแห่งภูมิมืดมิด เขาก็สัมผัสถึงความหดหู่ชวนอึดอัดได้ทันที
โชคดีที่ครั้งนี้เขามีบันทึกยมโลก!
เมื่อเขามาถึงที่มาแห่งภูมิมืดมิด ซูอี้ก็สังเกตเห็นว่าปราณของบันทึกยมโลกพลันตื่นตัวขึ้นมา มันแผ่คลื่นอำนาจแปลก ๆ ซึ่งสั่นพ้องเข้ากับที่มาแห่งภูมิมืดมิดได้
สิ่งนี้ทำให้ซูอี้กล้าตัดสินว่าคำร่ำลือไม่น่าจะผิดพลาด และบันทึกยมโลกนี้ก็น่าจะเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์อันเกิดมาพร้อมกับที่มาแห่งภูมิมืดมิดจริง ๆ
หาไม่ มันคงไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้ขึ้น
ดังนั้น ก่อนที่ซูอี้จะตัดสินใจลงมือสังหารหนอนไหมสีทอง เขาก็ไม่ได้กังวลว่าจะได้รับผลพลังจากต้นวัฏสงสารหมื่นภูมิแต่อย่างใด
ยามนี้ เมื่อเขาเห็นว่าบันทึกยมโลกสำแดงเดชต้านอำนาจโกลาหลที่กวาดเข้ามาได้ ซูอี้ก็แน่ใจในการคาดเดาเบื้องต้นของเขามากขึ้น
“คนผู้นั้นบอกเมื่อครู่ว่านามของเขาคือชิงเซียว และจะมาล้างแค้นเราในภายหน้า นับเป็นปัญหาจริงแท้”
ผีเฒ่าแบกโลงพลันกล่าวขึ้น
เขารู้กระจ่างดีว่าชายผู้สามารถปรากฏขึ้นบนใบของต้นวัฏสงสารหมื่นภูมิ และข้ามผ่านอสงไขยไร้จำกัดมาได้ต้องมีที่มาร้ายกาจแน่แท้!
“ข้าล่ะหวังนักว่าเขาจะมา”
จิตสังหารปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูอี้ “ไร้บุญคุณความแค้น มีเพียงการโจมตีให้แรง ตัวตนเช่นนี้หากอยากฆ่าตัวตายก็รีบมาเถอะ!”
“นั่นสินะ เขาอาจทรงพลังแข็งแกร่ง แต่เจ้ามีพลังสยบเขาอยู่”
ผีเฒ่าแบกโลงกล่าว “หากภายหน้าเขามาเยือน ข้าเกรงว่าเขาคงไม่อาจข้ามเจ้าไปได้เลย”
ขณะกำลังสนทนา อำนาจโกลาหลซึ่งแต่เดิมปั่นป่วนคลุ้มคลั่งค่อย ๆ สงบลง และต้นวัฏสงสารหมื่นภูมิก็ไม่ได้สั่นสะเทือนอีก
ดินแดนโกลาหลแห่งนี้ก็กลับสู่ความเงียบดังเดิม
ซูอี้และผีเฒ่าแบกโลงมองไปยังจุดเดียวกัน
“ยังไม่ตายอีกหรือ!?”
ผีเฒ่าแบกโลงตกใจ
ซูอี้เองก็เลิกคิ้วขึ้น
บนใบไม้ใบนั้น หนอนไหมสีทองซึ่งเดิมยาวราว ๆ หนึ่งจั้งหดร่างลงเหลือเพียงประมาณนิ้วก้อย บนตัวสีทองของมันมีร่องรอยเปื้อนเลือดเป็นเส้นบาง ๆ เหมือนขนวัวเต็มไปหมด
ใบไม้ที่หนอนไหมสีทองเกาะอยู่หักออก กลายเป็นสีเหลืองไหม้ด้วยหมดพลังชีวิต เส้นใบปริแตก
แต่หนอนไหมสีทองตัวนั้นกลับยังมีชีวิตอยู่!
ใครเล่าจะไม่ตะลึงกับภาพนี้?
“ฉวยโอกาสตอนมันอ่อนแอฆ่ามันซะ! สัตว์ประหลาดเฒ่าซู รีบจัดการมันเสียสิ!”
ผีเฒ่าแบกโลงกล่าวด้วยจิตสังหาร
เขาสังหรณ์ว่าหากปล่อยให้หนอนไหมสีทองฟื้นตัว มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่แท้
ซูอี้เองก็ตระหนักถึงปัญหานี้และพุ่งไปเบื้องหน้า
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก”
ยามนั้นเอง ร่างของหนอนไหมสีทองก็สั่นไหวเล็กน้อย มันกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ทว่าเย็นชาเยี่ยงน้ำแข็ง
ดวงตาของมันกระจ่างใสดุจตาน้ำพุ และยามที่มันมองมา ผีเฒ่าแบกโลงก็รู้สึกเจ็บแปลบอย่างมิอาจบรรยาย
ซูอี้หรี่ตาลงและลงมือโจมตีทันที
เคร้ง!
ดาบสามชุ่นสะบั้นใจสวรรค์ส่งปราณดาบไร้ใดเทียบทะยานออกไป
ระหว่างทาง อำนาจโกลาหลในบริเวณดูราวของปลอม ปราณดาบสร้างรอยร้าววาดเป็นทางยาว ไร้หนทางใดหยุดมันได้เลย
ทว่าท้ายที่สุดมันก็บาดเจ็บสาหัส และแสงสีทองก็ถูกปราณดาบของซูอี้ฟันสลายไปได้ในชั่วครู่
ตู้ม!
ปราณดาบระเบิดออก ประกายแสงวูบไหว
รอยร้าวปรากฏขึ้นบนตัวหนอนไหมสีทอง เกือบผ่ามันเป็นสอง!
“หากไม่ใช่เพราะพลังของต้นวัฏสงสารหมื่นภูมิทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัส มดปลวกเช่นเจ้าจะมีโอกาสรอดมือข้าหรือ?”
หนอนไหมสีทองส่งเสียงเย็นชาออกมาอย่างขุ่นเคือง
“จะตายอยู่แล้วยังพูดมากอีก สัตว์ประหลาดเฒ่าซู หั่นมันเลย!”
ผีเฒ่าแบกโลงตะโกนลั่น
ซูอี้ “…”
เจ้าแก่นี่ดูจะเรียกเขาอย่างสบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ซูอี้คิดในใจพลางยกดาบสามชุ่นสะบั้นใจสวรรค์ขึ้นเตรียมลงมือ
หนอนไหมสีทองดูจะกระวนกระวาย “ช้าก่อน! พวกเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่ได้เช่นไร? ที่มาของชิงเซียวที่โจมตีพวกเจ้ามาจากหนใด?”
“ไม่ล่ะ”
ทั้งซูอี้และผีเฒ่าแบกโลงกล่าวโดยพร้อมเพรียง
และปราณดาบสายหนึ่งก็ฟาดฟันใส่หนอนไหมสีทองอีกครั้ง
ทั้งสองคนต่างตระหนักรู้ถึงความอันตรายและแปลกประหลาดของหนอนไหมสีทอง หากฆ่ามันให้ไวที่สุด ทุกสิ่งก็จะไม่เป็นไร
ตู้ม!
ดาบกู่คำราม
ในยามคับขันนี้เอง ร่างของหนอนไหมสีทองพลันขดเป็นวง ปากของมันคาบหางเป็นสัญลักษณ์ประหลาด จากนั้นจึงบังเกิดหมอกสีเทาขาวซึ่งสามารถต้านปราณดาบนี้ไว้ได้!
“หือ?”
ผีเฒ่าแบกโลงผงะ
ซูอี้ขมวดคิ้ว เผยเค้าลางความแปลกใจ
ขณะนี้ หนอนไหมสีทองใช้ปากของมันกลืนหาง ร่างม้วนเป็นวงกลมสมบูรณ์แบบ เผยปราณลึกลับพิสดาร
ราวกับมันสามารถกระทำเช่นนี้ เป็นวงกลมไม่สิ้นสุดไปได้ตลอดกาล
ไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด ตัวมันถูกสร้างเป็น ‘วัฏจักรเป็นตายอันไร้จุดเริ่มและจุดจบ’!
“น่าสนใจ ที่มาของหนอนไหมสีทองตัวนี้ไม่มีทางธรรมดาแน่แท้…”
ซูอี้ลอบกล่าว
ในอดีตชาติของเขา เขาได้เห็นสัตว์วิญญาณที่แท้จริงมามากมายมิอาจนับ ทว่าไม่มีสิ่งใดประหลาดและลึกลับเทียบกับหนอนไหมสีทองตัวนี้ได้เลย
สิ่งสำคัญที่สุดคือมันไม่ได้ถูกสังหารภายใต้การเข่นฆ่าของพลังต้นกำเนิดภูมิมืดมิด
แม้มันจะบาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย แต่มันกลับสามารถหยุดปราณดาบที่เขาฟันออกไปสุดแรงได้!
ควรค่าจดจำว่าทั้งสองปราณดาบของเขาล้วนเจือด้วยอำนาจจากเคล็ดเวียนวัฏสงสาร!
ทั้งหมดนี้เสริมให้เห็นความเหนือธรรมดาและความร้ายกาจของหนอนไหมสีทองตัวนั้น
ทว่ายิ่งเป็นเช่นนี้ ซูอี้ยิ่งหมายมาดสังหาร เพราะหากปล่อยหนอนไหมสีทองตัวนี้รอดกลับไปสู่สภาพสมบูรณ์พร้อม มันจะแข็งแกร่งได้เพียงไร?
……….