บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1075: ครุฑ
ตอนที่ 1075: ครุฑ
เมื่อเสียงเยาะเย้ยนั้นดังขึ้น แสงสีทองพลันปรากฏขึ้นบนฟ้าห่างออกไป
แสงสีทองนั้นฉายขึ้นเป็นรูปร่างชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผู้หนึ่ง
เขามีเส้นผมยาวสีทอง ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมกริบเยี่ยงดาบ
“เจ้าทองน้อย!”
เย่ลั่วอุทาน
ซูอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ชายหนุ่มรูปงามผู้นี้คือหนึ่งในศิษย์สลักนามของเขา ครุฑ!
สัตว์ร้ายบรรพกาลผู้มีสายเลือดต้าเผิงปีกทองไหลเวียนในร่าง!
ซูอี้ยังคงจำได้ว่าเมื่อแปดหมื่นปีก่อน ครุฑได้คุกเข่าอยู่นอกทวารบรรพตสวรรค์แห่งถ้ำเสวียนจวินสิบวันสิบคืน เพื่อขออยู่ข้างกายฟังคำสั่งสอนของเขา
ทว่าซูอี้ไม่คาดว่าหลังจากตนเวียนวัฏไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน ครุฑผู้นี้ก็ฉวยโอกาสชุลมุนขโมย ‘เตาหลอมสวรรค์’ ที่เขาทิ้งไว้ไปเช่นกัน!
ซูอี้ยังคงจำได้แม่นยำ ว่าสีหน้าของครุฑในยามฉกฉวยเตาหลอมสวรรค์นั้นช่างยินดีปรีดาเหลือแสน…
และยามนี้ คนทรยศผู้นี้ก็ปรากฏขึ้นในถิ่นของจักรพรรดิปีศาจกระทิงเขียว!
“เย่ลั่ว สนใจสถานะของเจ้าด้วย”
ครุฑเหลือบมองเย่ลั่วเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวช้า ๆ “ก่อนหน้านี้ในถ้ำเสวียนจวิน เจ้าเป็นศิษย์พี่ของข้า ดังนั้นเรียกเช่นนั้นจึงไม่เป็นไร ทว่ายามนี้เจ้าถูกล้างสมองเป็นสุนัขของคนแซ่ซู เจ้าจึงไร้คุณสมบัติเรียกข้าเช่นนั้นอีก!”
วาจานั้นเต็มไปด้วยความดูแคลน
สีหน้าของเย่ลั่วย่ำแย่ สีหน้าของเขาเปี่ยมด้วยจิตสังหาร
ขณะนี้เอง จักรพรรดิปีศาจกระทิงเขียวและคณะล้วนล้อมคำนับครุฑราวดาวล้อมเดือน
ภาพนี้ทำให้เย่ลั่วขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการล้อมสังหารครั้งนี้ไม่อาจแยกจากครุฑได้!
“ร่วมมือกันเถอะ เราส่งคนแซ่ซูผู้นี้ไปโลกหน้าด้วยกันซะ!”
ครุฑที่อยู่ไกลออกไปกล่าวอย่างเฉื่อยช้า
“อำนาจต่อสู้ของคนผู้นี้ท้าทายสวรรค์จริงแท้ ควรค่าให้เราร่วมมือกัน”
ขณะที่เสียงหวานใสเสียงหนึ่งแว่วมาจากระยะไกล พลันบังเกิดพิรุณบุปผาโชยหอม หญิงงามในอาภรณ์สะท้อนแสงปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุ บรรยากาศบริสุทธิ์ไร้มลทิน
จักรพรรดิผีเสื้อดาวตก!
หนึ่งในเก้าจักรพรรดิปีศาจแห่งหุบเขาแสนปีศาจ ร่างจริงของนางคือปีศาจผีเสื้อห้วงอนธกาล วิถีเต๋าลึกล้ำพอจะอยู่ในห้าอันดับแรก
และขณะเดียวกัน สามร่างก็ปรากฏขึ้นจากทิศอื่น ๆ บรรยากาศล้วนร้ายกาจแข็งแกร่งเกินจินตนาการ
พวกเขาคือจักรพรรดิปีศาจเพลิงขจี จักรพรรดิปีศาจวาตะกุมภีและจักรพรรดิปีศาจเงิน!
พวกเขาล้วนแต่เป็นปีศาจเฒ่า หนึ่งในเก้าจักรพรรดิปีศาจ!
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ลั่วก็อดประหลาดใจไม่ได้ สมกับที่เป็นอาจารย์ ศึกวันนี้ห่างไกลเกินกว่าความเรียบง่ายเช่นที่เห็น
แต่เดิม การที่ซูอี้ทำลายค่ายกลรบและช่วยเหลือผู้เฒ่าทั้งสามจากตระกูลหวังทำให้หวังจัวฝู่ตื่นเต้น คิดว่าคงพอแล้วที่จะหลบลี้ได้
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นยามนี้น่าตกตะลึงจริงแท้ ทำให้หวังจัวฝู่รู้สึกหนักอึ้งหดหู่
ทว่านี่ยังไม่ใช่จุดจบ…
“สหายเต๋าสนแดง สหายเต๋าบรรพตทมิฬ เราควรออกไปด้วยหรือไม่?”
“หากรบเร้าเช่นนั้นก็ไม่เกรงใจ”
เสียงพูดคุยดังขึ้นแว่วมาจากไกล ๆ
มีร่างบุคคลอีกสามคนปรากฏขึ้นจากไกล ๆ
ผู้นำคือชายวัยกลางคนชุดดำผู้หนึ่ง ใบหน้าราวมงกุฎหยก เคราไสวเยี่ยงกิ่งหลิว
เบื้องหลังเขามีชายชราในชุดผ้าผู้มีใบหน้ากระจ่างใสเยี่ยงเด็ก และชายร่างยักษ์ดุจขุนเขาผู้เหน็บดาบไว้เบื้องหลัง
เมื่อทั้งสามปรากฏกายขึ้น ผู้คนที่อยู่รอบข้างก็ฮือฮา
ปีศาจเฒ่าผู้นี้ยังเป็นหนึ่งเดียวในเก้าจักรพรรดิปีศาจซึ่งอยู่ในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำอีกด้วย เกียรติภูมิของเขาเป็นที่สะท้านสะเทือนทั่วสวรรค์และมหาแดนดินแสนนาน!
จากข่าวลือ มีจักรพรรดิปีศาจถึงหกสิบสี่ตนที่รับใช้จักรพรรดิปีศาจสนแดงผู้นี้!
ยามนี้ เมื่อเห็นจักรพรรดิปีศาจสนแดงเผยโฉม หัวใจของเย่ลั่วก็ร่วงลงตาตุ่ม!
ตัวตนในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำนั้นห่างไกลเกินจะเทียบกับขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำได้!
และชายร่างยักษ์เหน็บดาบข้างกายจักรพรรดิปีศาจสนแดงนั้นก็หาธรรมดาไม่ เขาคือจักรพรรดิปีศาจบรรพตทมิฬ ปีศาจผู้แข็งแกร่งเป็นรองเพียงจักรพรรดิปีศาจสนแดงเท่านั้น เขามีการฝึกฝนอยู่ในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นสมบูรณ์แบบ ซึ่งห่างไกลขอบเขตสานพันธะลึกล้ำเพียงก้าวเดียว!
“กระทิงเขียว จิ้งจอกผี ผสานแปร ดาวตก เพลิงขจี วาตะกุมภี เงิน… และยังมีจักรพรรดิปีศาจสนแดงและบรรพตขจีอีก เก้าจักรพรรดิปีศาจแห่งหุบเขาแสนปีศาจออกมากันหมดเลย จบเห่แล้ว!”
หัวใจของเย่ลั่วปั่นป่วน
เขาไม่ได้ตกใจ แต่ไม่อาจจินตนาการได้ว่าผีหมัวทำเช่นไรจึงทำให้เก้าจักรพรรดิปีศาจทำงานรับใช้ได้ จนถึงขั้นที่ตั้งมหาค่ายกลขึ้นมาโดยไม่ลังเล!
เมื่อรวมเข้ากับครุฑและจอมปีศาจในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำตนอื่น ๆ ที่นี่ ล้วนถือได้ว่าเป็นกลุ่มกำลังสูงสุดไม่ว่าในที่ใดในมหาแดนดิน แข็งแกร่งพอจะอาละวาดให้ขุมกำลังสูงสุดทั้งหลายตื่นกลัวทั่วโลกา!
แต่เดิม เขาคิดว่าค่ายกลปีศาจสวรรค์หลอมนภานั้นร้ายกาจพอแล้ว แต่ใครเล่าจะคิดว่ายังมีภัยคุกคามถึงตายอันแท้จริงซ่อนอยู่อีก!
ต่อหน้าปีศาจร้ายกาจมากมายเพียงนี้ แทบไร้โอกาสชนะให้เห็นเลย
“ซูอี้ผู้นี้ต้องเป็นร่างเวียนวัฏของปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินแน่แท้! หาไม่ ไฉนผีหมัวจึงต้องลงทุนลงแรงเพียงนี้? ใครเล่าจะคู่ควรพอให้เก้าจักรพรรดิปีศาจร่วมมือ?”
หัวใจของหวังจัวฝู่เต้นระทึกบ้าคลั่ง
ยามนี้ เขาเชื่อหมดใจแล้วถึงตัวตนของซูอี้ และในที่สุดก็ตระหนักว่าผีหมัวต้องเป็นคนทรยศแห่งถ้ำเสวียนจวิน!
มีเพียงทางนี้เท่านั้น จึงจะบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้
ส่วนหวังเชวี่ยนั้นเป็นเพียงแค่เหยื่อล่อ
จุดประสงค์ของผีหมัวคือสังหารร่างเวียนวัฏของอาจารย์ตนในหุบเขาแสนปีศาจนี้ต่างหาก!
“อาจารย์ ปราณของชายวัยกลางคนชุดดำคนนั้นประหลาดไม่คุ้นตานัก ไม่รู้เลยว่าเขามาจากหนใด”
เย่ลั่วรีบส่งกระแสเสียงปราณออกไป
กระทั่งผู้แข็งแกร่งเยี่ยงจักรพรรดิปีศาจสนแดงยังไม่กล้าเดินเคียงไหล่กับชายวัยกลางคนชุดดำผู้นั้น!
ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าฐานะของชายวัยกลางคนชุดดำต้องยิ่งไม่ธรรมดา
“ไอ้แก่จากโรงวาดฤทัยอาจทำให้จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้กลัวได้ แต่ในสายตาข้า เขาไร้ค่าสิ้นดี”
ซูอี้กล่าวเฉยเมย
สายตาของเขาแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
ยอดฝีมือจากโรงวาดฤทัยควบคุม ‘กฎแปรวิญญาณ’ ในมหาแดนดินนี้พวกเขาไร้เทียมทานและยังมีความสามารถสังหารศัตรูข้ามขอบเขตได้อีกด้วย
ชายวัยกลางคนชุดดำผู้นั้นมีวิถีเต๋าในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นปลาย ซึ่งหมายความว่าหากต้องสู้กัน คนผู้นี้สามารถต่อสู้ทัดเทียมตัวตนในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำขั้นต้นอย่างจักรพรรดิปีศาจสนแดงได้แน่นอน!
ยิ่งกว่านั้น ด้วยฐานะของเขา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้จะไม่ก้มหัว
ทว่า ต่อหน้าซูอี้ ชายวัยกลางคนชุดดำผู้นี้ไม่ได้ต่างกับตัวตนในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำอื่น ๆ ในโลกเลย
“ดูเหมือนผีหมัวจะยังไม่รู้ว่าข้าคือผู้สังหารเฝิงจี๋และเฟยอวิ๋น จิตรกรผู้แข็งแกร่งทั้งสองจากโรงวาดฤทัยไปแล้ว หาไม่ คงไม่มีทางใช้ชายวัยกลางคนชุดดำผู้นี้เป็นไพ่ตายมาจัดการกับข้า…”
ซูอี้ลอบกล่าว
ทิวทัศน์เหี่ยวเฉา ฟ้าดินหม่นหมอง
ไกลออกไป เก้าจักรพรรดิปีศาจและเหล่าสมุนในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำต่างรวมตัว ล้อมร่างชายวัยกลางคนชุดดำและครุฑผู้มีสายเลือดต้าเผิงปีกทองไว้
การรวมตัวนี้แข็งแกร่งพอที่จะสะเทือนได้ทั่วโลกหล้า!
“ผีหมัวนี่ช่างกตัญญูดีแท้…”
ซูอี้รำพึงในใจ
การรวมตัวเช่นนี้ แม้แต่ตัวตนในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำยังต้องปลิดปลิว!
“ครุฑเอ๋ย เจ้าคิดว่าเราควรส่งสหายเต๋าซูผู้นี้สู่โลกหน้าเช่นไรดี?”
ไกลออกไป ชายวัยกลางคนชุดดำพลันกล่าวขึ้น สายตามองไปยังซูอี้
เขาเมินเย่ลั่วและหวังจัวฝู่ไปโดยสิ้นเชิง
ชายวัยกลางคนชุดดำผู้ถูกเรียกว่าผู้เฒ่าอินยิ้มน้อย ๆ “งั้นให้เจ้าพาสหายเต๋าคนอื่น ๆ ลงมือด้วยกัน ส่วนสหายเต๋าสนแดงและข้าจะเข้าแทรกแซงหากคับขัน เช่นนี้เป็นเช่นไร?”
เขากล่าวพลางหันไปมองจักรพรรดิปีศาจสนแดงผู้มีเคราดุจกิ่งหลิว
“ได้”
จักรพรรดิปีศาจสนแดงตอบรับอย่างยินดี
ครุฑลงมือทันที ดวงตาสีทองคมกริบจ้องไปยังซูอี้อย่างนิ่งงัน มุมปากยกยิ้มเย็นชา วาจาแฝงจิตสังหาร “ทุกท่าน ร่วมฆ่าศัตรูกับข้าเถอะ!”
ตู้ม!
เขาทะยานสู่อากาศ โบกแขนเสื้อ ส่งม้วนภาพหนึ่งกางออกในอากาศ
สิ่งที่วาดอยู่บนม้วนภาพนั้นคือกระดานหมากรุกแปลกตาอันมีรูปร่างคล้ายกระดานแปดทิศ
จากนั้น ม้วนภาพกระดานหมากรุกพลันขยายใหญ่ขึ้น ปกคลุมทั่วบริเวณร้อยจั้งในอากาศ
ครุฑกระโดดขึ้นไปบนม้วนภาพกระดานหมากรุก ยืนบนตำแหน่ง ‘เฉียน’ แห่งทิศทั้งแปดราวหัวมังกร
ตู้ม!
ม้วนภาพกระดานหมากรุกพลันทอแสง เพลิงทะยานสู่เวหา ส่งแสงสว่างส่องทศทิศทั่วหล้า
ทิวทัศน์รอบทิศดูจะถูกโลกแห่งกระดานหมากรุกในม้วนภาพบดบังสิ้น!
ในโลกแห่งกระดานหมากรุก ร่างของครุฑ กระทิงเขียวและยอดฝีมืออื่น ๆ ล้วนปกคลุมด้วยอำนาจมหาวิถีลึกล้ำยากคาดเดา ทำให้พวกเขาแต่ละคนมีอำนาจแข็งแกร่งน่าหวาดหวั่นในทันที!
เย่ลั่วและหวังจัวฝู่ล้วนเปลี่ยนสีหน้า ตระหนักชัดเจนว่าม้วนภาพนี้เป็นสมบัติลึกลับ ไม่เพียงเสริมอำนาจให้ผู้คนอย่างมหาศาล แต่ยังหลอมรวมปราณทุกผู้เป็นหนึ่ง!
แม้จะไม่ใช่ค่ายกลรบ แต่มันลึกล้ำน่ากลัวยิ่งกว่าค่ายกลรบอีก!
ซูอี้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาดูประหลาด ทั้งแปลกใจและดูแคลน
“คนแซ่ซู หากเจ้าแค่ก้มหัวลงเสีย ข้ารับปากจะให้เจ้าได้ตายอย่างมีเกียรติ! หาไม่ อย่าโทษข้าที่ใช้ ‘ภาพศึกรวมดารา’ นี้เผาเจ้าเป็นธุลีเสียเล่า!”
เสียงของครุฑจากโลกแห่งกระดานหมากรุกแข็งกร้าวเย็นชา ท่าทางอหังการ เส้นผมยาวสีทองเจิดจรัสราวดวงตะวันแผดเผา
เหล่ายอดฝีมืออื่น ๆ เช่นจักรพรรดิปีศาจกระทิงเขียวล้วนมองมาอย่างเย็นชา จิตสังหารบ้าคลั่ง
แม้ศึกนี้จะยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่เพียงจิตสังหารก็ทำให้สรรพสิ่งบนโลกหล้าเปลี่ยนสีได้แล้ว
เย่ลั่วและหวังจัวฝู่หันไปมองที่ซูอี้โดยไม่รู้ตัว
ทว่าซูอี้กลับทำเพียงจิบสุรา และกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “พวกเจ้ารอที่นี่แหละ เดี๋ยวข้ามา”
เสียงยังไม่ทันสร่าง ซูอี้ก็คว้าดาบเงากระจ่างเดินขึ้นไปสู่ฟ้า และทะยานสู่โลกแห่งกระดานหมากรุกอันแปรเปลี่ยนจาก ‘ภาพศึกรวมดารา’!
………………..