บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1086 ตัวประกัน
ตอนที่ 1086 ตัวประกัน
จิตใจของผีหมัวเยือกเย็นเสมอ
ในหมู่เก้าศิษย์แห่งถ้ำเสวียนจวิน มีคำกล่าวว่า ‘แปดวายุกระแทกพัดยังอยู่นิ่งมั่นคง’
ใต้หล้ามหาแดนดิน ผีหมัวนั้นยิ่งเรืองนามด้านไม่หวั่นไหวยินดียินร้าย
ทว่ายามนี้ เขาตกสู่โทสะอย่างหาได้ยาก
เหตุเป็นเพราะแผนของเขาในยามนี้พังย่อยยับสิ้นท่า!
เขาไม่ได้ยินดียินร้ายกับตัวหมากที่ตายไปอย่างครุฑและจักรพรรดิปีศาจเหล่านั้น ในสายตาของเขาแล้ว คนพวกนั้นไร้ค่าสิ้นดี
สิ่งที่ทำให้เขาระเบิดโทสะออกมาจริง ๆ คือความแข็งแกร่งที่ซูอี้เผยในศึกนี้ต่างหาก!
ค่ายกลปีศาจสวรรค์หลอมนภาพังทลายนั้นยังพอว่า
สิ่งที่ทำให้ผีหมัวตะลึงจริง ๆ คือผู้เฒ่าอินและภาพศึกรวมดารายังไม่อาจหยุดซูอี้อยู่!
ผีหมัวเงียบไป สีหน้าหม่นหมองไม่แน่ใจ
แผนสังหารที่เขาจัดขึ้นครานี้ ฆ่าได้กระทั่งตัวตนในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำในมหาแดนดิน!
ทว่าใครเล่าจะคิด ว่าสุดท้ายมันก็พ่ายยับเยิน
มันจะไม่ทำให้เขาตกใจได้เช่นไร?
โต๊ะถูกถีบแหลก ถ้วยชามเละเทะ บรรยากาศในโถงมืดหม่นเย็นเฉียบ
“หลังศึกนี้ อาจารย์คงไม่ปล่อยข้าไว้อีกแน่ และเมื่อข่าวของศึกนี้กวาดไกลทั่วหล้า เสียงวิจารณ์และคำคาดเดาต้องลือลั่นมากมาย!”
“ยามนั้น เมื่อโลกหล้ารู้กระจ่างว่าซูอี้คืออาจารย์ผู้เวียนวัฏกลับมาจริง ข้าคงไม่พ้นถูกคนทั่วหล้าชี้นิ้วก่นด่า…”
หัวใจของผีหมัวเย็นเฉียบ
เขาไม่กลัวชื่อเสีย แต่เขารู้ว่าขอเพียงเรื่องเช่นนี้บังเกิด พันธมิตรเสวียนจวินซึ่งตั้งขึ้นภายใต้นามอาจารย์จะต้องปั่นป่วนมหาศาล และเป็นไปได้สูงมากว่าจะร้าวฉาน!
ยามนั้น ไม่เพียงเขาจะถูกมองเป็นคนทรยศ หักหลังอาจารย์ทำลายบรรพชนเท่านั้น ทุกคนยังจะทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง และกระทั่งพันธมิตรเสวียนจวินก็จะไม่เหลือหลอ
สมาชิกพันธมิตรเสวียนจวินบางส่วนนับถือเพียงนามของปรมาจารย์ดาบเสวียนจวิน!
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากโลกหล้าได้กระจ่างแจ้งถึงการกลับมาของปรมาจารย์ดาบเสวียนจวิน และศิษย์เอกของเขาเป็นคนทรยศ ขุมกำลังในพันธมิตรเสวียนจวินเหล่านั้นจะยังฟังคำสั่งเขาอยู่อีกหรือ?
สิ่งที่น่ากลัวเป็นพิเศษคือศึกในหุบเขาแสนปีศาจนี้ได้พิสูจน์ชัดแจ้งว่าปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินผู้เวียนวัฏกลับมาร้ายกาจเพียงไร
แม้จักรพรรดิปีศาจในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำจะร่วมมือ แต่พวกเขาก็ยังถูกสังหารกวาดล้าง มองไปทั่วโลกหล้า ใครเล่าจะกล้าเฉยเมยไม่เห็นร่างเวียนวัฏของปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินในสายตา?
ผีหมัวรู้ว่าอาจารย์ของตนผู้เคยเป็นที่เคารพยำเกรงทั่วมหาแดนดิน หนึ่งดาบสยบทั่วสรวงมีอิทธิพลต่อโลกาลึกล้ำเพียงไร
เขาไม่ต้องคิดก็รู้ว่าขอเพียงอาจารย์ยกแขนขึ้น จะมีขุมกำลังใหญ่ในมหาแดนดินมากมายเพียงไรที่จะออกมาสู้ตายเพื่อเขา!
กระทั่งตัวตนบรรพกาลซึ่งซุกซ่อนอยู่แสนนานก็จะดาหน้ากันออกมาช่วยเขา!
ทว่า ผีหมัวไม่ได้กังวลเรื่องนี้
เขาก็รู้เช่นกันว่าอาจารย์จะไม่ทำเช่นนี้
“อาจารย์จะไม่ใช่อำนาจผู้อื่นมาจัดการกับข้า แต่ขอเพียงคนรู้ว่าเขายังอยู่ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ขุมกำลังใต้บัญชาข้าลุกมาตบหน้าข้า…”
“ไม่ เรื่องนี้ต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด! หาไม่ สถานการณ์ของข้าจะมีแต่แย่!”
ผีหมัวสูดหายใจลึก ๆ และดวงตาของเขาก็ฉายประกายมุ่งมั่น
เขาหยิบ ‘ภาพแผนที่แดนมารนิจนิรันดร์’ ออกมาคลี่เปิดช้า ๆ
ภาพในม้วนกระดาษคือโลกอันเปรอะโลหิตดุจขุมนรก และที่มุมภาพมีหมอกหมึกลอยเลื่อนวาดเป็นถ้ำแห่งหนึ่ง
คางคกทองสามตาซึ่งมีร่างดุจหลอมจากทองเทวะนั่งอยู่หน้าถ้ำ
มันคือคางคกทองสามตาซึ่งผีหมัวเรียกเป็น ‘ผู้ส่งสาส์น’
“เป็นเช่นไร ทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่? มันน่าจะสำเร็จแล้วนะ เพราะถึงอย่างไรครานี้อินเหวินก็เอา ‘ภาพศึกรวมดารา’ ไปด้วย มันแข็งแกร่งพอจะสยบตัวตนในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำในมหาแดนดินได้ การจะสังหารซูเสวียนจวินในขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำน่าจะง่ายเยี่ยงพลิกฝ่ามือ”
คางคกทองสามตาอ้าปากกล่าวดังลั่น ดูภาคภูมิยิ่ง
ผีหมัวเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะก้มหน้ากล่าว “รายงานผู้ส่งสาส์น ปฏิบัติการล้มเหลวแล้ว”
ผีหมัวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฉาก ๆ ทันที
หลังจากฟังจบ คางคกทองสามตาก็ผรุสวาทด้วยโทสะ “ขยะ ขยะทั้งนั้น! มีอำนาจมากมายเพียงนี้ ทว่าสุดท้ายคนคนเดียวในขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำยังฆ่าไม่ได้ ไร้สาระน่าขันสิ้นดี!”
คางคกทองสามตาเสียการควบคุมอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนหน้านี้ ผีหมัวยังพอทนไหว ทว่ายามนี้ เขาอดกล่าวมิได้ว่า “ผู้ส่งสาส์น เรื่องมันเกิดไปแล้ว เท่าที่ข้ารู้ ข้าอยากรบกวนท่านให้รายงานความจริงกับคุณหนูโดยด่วน หาไม่ ยิ่งยืดเยื้อ สถานการณ์จะยิ่งแย่”
คางคกทองสามตากล่าวอย่างโกรธเคือง “นี่เจ้าสอนข้าหรือ?”
ผีหมัวกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้น ท่านอย่าลืมว่าทั้งเฝิงจี๋และเฟยอวิ๋นล้วนตกตาย และยามนี้สหายเต๋าอินเหวินก็ยังตายเช่นกัน เมื่อเผชิญความเสียหายหนักเพียงนี้ ท่านยังกล้าถือร่างเวียนวัฏอาจารย์ข้าเป็นตัวตนในขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำทั่วไปอีกหรือ?”
หลังเว้นช่วงเล็กน้อย เขาก็แค่นเสียงเย็นชา “จากสิ่งที่ข้ารู้เกี่ยวกับอาจารย์ หากเขาไม่เห็นความจริงบางอย่าง เกรงว่าเขาคงล่มพันธมิตรเสวียนจวินไปแล้ว!”
คางคกทองสามตาตะลึง เหมือนไม่คาดเลยว่าผีหมัวซึ่งเคยพินอบพิเทาต่อเขาจะกล้าตักเตือนเขาเช่นนี้
ยามนี้ ผีหมัวสูดหายใจลึก ๆ และประคองกำปั้น “ขอผู้ส่งสาส์นสงบใจและรายงานเรื่องนี้แก่คุณหนูโดยเร็วด้วย!”
ดวงตาของมันเย็นชา กล่าวย้ำกัดฟัน “เจ้าคอยก่อนเถอะ!”
กล่าวจบ มันก็อ้าปากพ่นพู่กันสีดำสนิทยาวเก้าชุ่นซึ่งมีลวดลายเมฆาบิดวนแปลกตาออกมาตวัดวาดในอากาศ
ประตูถ้ำซึ่งปิดอยู่พลันเปิดออก
คางคกทองสามตาเดินเข้าไปทันที
“ศิษย์น้องหญิงซงไฉ แม้ว่าสถานการณ์จะไม่ได้ไปถึงจุดที่อันตรายที่สุด แต่หากไม่อาจรั้งความอหังการของอาจารย์ได้ พันธมิตรเสวียนจวินนี้จะจบสิ้นแน่แท้…”
ผีหมัวพึมพำในใจ
เนิ่นนานมาแล้ว เขาได้รู้ว่า ‘ศิษย์น้องหญิงซงไฉ’ ซึ่งเป็นศิษย์สลักนามผู้หนึ่งในถ้ำเสวียนจวินคือ ‘คุณหนู’ จากโรงวาดฤทัย
ทว่าในใจของผีหมัว เขายังคงดื้อดึงปฏิบัติกับอีกฝ่ายเป็น ‘ศิษย์น้องหญิงซงไฉ’ เสมอ
ดูเหมือนว่าตัวตนนี้สามารถทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองใกล้ชิดกันได้มากขึ้น
เนิ่นนานจากนั้น
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของผีหมัวหล่นวูบ กระทั่งยามนี้ ศิษย์น้องหญิงซงไฉก็ยังไม่อยากปรากฏตัวอีกหรือ!?
“คุณหนูบอกว่านางแน่ใจ ว่าผู้สังหารเฟยอวิ๋นและเฝิงจี๋ในหอตำราเทียนเสวียนต้องเป็นปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินไม่ผิดแน่”
คางคกทองสามตากล่าว
วาจานั้นสะเทือนถึงหัวใจของผีหมัว เขาเข้าใจทันทีและกล่าวอย่างอึ้ง ๆ “แสดงว่าอาจารย์… มีพลังที่สามารถต่อกรกับกฎแปรวิญญาณแล้วจริง ๆ หรือ!?”
เขาพอจะคาดเดาความจริงนี้ไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำตอบชัดเจน หัวใจก็ยังไม่อาจสงบได้อยู่ดี
เพราะเหตุที่เขาเลือกเข้าพึ่งร่มโพธิ์ของโรงวาดฤทัย ก็เพราะเขาได้เห็นพลังของกฎแปรวิญญาณ!
พลังกฎเกณฑ์ร้ายกาจเช่นนั้นทำให้เขาไร้ข้อกังขา ว่ามองไปทั่วใต้หล้ามหาแดนดิน ไร้ผู้ใดต้านได้
ทว่าใครเล่าจะคิดว่าหลังอาจารย์เวียนวัฏกลับมา เขาจะสามารถทำเช่นนั้นได้ มันเป็นราวอสนีบาตฟาดลงกลางกระหม่อมสำหรับผีหมัว ทำให้ในใจก่อเกิดเป็นพายุ
คางคกทองสามตาเมินความตะลึงของผีหมัวไป ก่อนกล่าวขึ้นว่า “อีกอย่าง คุณหนูยังชี้แนะให้เจ้าถ่วงเวลาให้มากที่สุดโดยไม่สนวิธีการ แล้วทุกอย่างจะคลี่คลายได้ง่าย”
“ก่อนหน้านั้น เจ้าสามารถติดต่อขุมกำลังจากหอเก้าสวรรค์และลัทธิทางช้างเผือกได้ บอกพวกเขาไปเพียงว่าอาจารย์เจ้ามีเคล็ดเวียนวัฏสงสารและสมบัติลับฟ้าดิน พวกเขาจะไม่อยู่เฉยแน่แท้”
ได้ยินเช่นนี้ ผีหมัวก็ใจชื้นและสงบใจลงทันที “เข้าใจแล้ว คุณหนูวางแผนจะลากพวกเขาลงปลักโคลนและยืมมีดสังหาร!”
คางคกทองสามตากล่าวอีกครั้ง “ส่งศิษย์น้องจิ่นขุยของเจ้าให้ข้า”
ผีหมัวขมวดคิ้วกล่าว “ผู้ส่งสาส์นต้องการทำอันใด?”
วูบ!
ร่างของคางคกทองสามตาวูบไหว และพลันพุ่งออกมาจากภาพแผนที่แดนมารนิจนิรันดร์ แปรเปลี่ยนเป็นชายชราในชุดทองผู้หนึ่ง
เขามีผมขาวและหนวดยาวดุจกิ่งหลิว ท่วงท่าดุจเซียน และมีดวงตาที่สามเปิดเป็นแนวตั้งที่หว่างคิ้ว ร่างของเขาเต็มไปด้วยอำนาจชั่วร้ายรุนแรง
ชายชราชุดทองซึ่งแปรเปลี่ยนจากคางคกทองสามตากล่าวอย่างเย็นชา “ใช้ชีวิตศิษย์น้องหญิงของเจ้าแลกกับอาจารย์เจ้า แลกภาพศึกรวมดารากลับมา สมบัตินั้นบรรพชนข้าวาดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามตกสู่มือคนนอก”
ผีหมัวกล่าว “แจ้งผู้ส่งสาส์นตามตรง อาจารย์ข้าไม่สนใจคำขู่ใด ๆ ทั้งสิ้น ต่อให้ท่านฆ่าจิ่นขุย เขาก็จะไม่ก้มหัว แต่จะเลือกล้างแค้นร้อยเท่าแก่จิ่นขุยแทน”
คางคกสามตายิ้มเยาะ “ข้าไม่ได้จะแลกชีวิตอาจารย์เจ้าเสียหน่อย แค่แลกสมบัติเท่านั้น ในใจอาจารย์เจ้า สมบัติหรือจะสำคัญไปกว่าชีวิตศิษย์น้องเจ้า?”
แคว้นจง
หนึ่งในเก้ามหาแดนดิน
ตระกูลหวังแห่งแคว้นจงคือตระกูลโบราณอันทรงอำนาจสูงสุดในแคว้น กล่าวได้ว่าเป็นขุมกำลังชั้นหนึ่งในทั่วหล้ามหาแดนดิน ซึ่งมีภูมิหลังเหนือชั้นกว่าสำนักหกมหาวิถีและอื่น ๆ!
แดนบรรพชนของตระกูลหวังแห่งแคว้นจงนั้นตั้งอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์หมื่นประกาย
กลางดึก
ตระกูลหวังแห่งแคว้นจง
ในพื้นที่ต้องห้ามแห่งหนึ่ง
“นายน้อย บ่าวเฒ่าผู้นี้ได้ส่งโอสถที่ตระกูลออกใช้เดือนนี้ไว้ในห้องของท่านแล้ว ท่านยังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่ขอรับ?”
เสียงชราวัยเสียงหนึ่งดังออกมาจากนอกห้องที่หวังเชวี่ยถูกคุมขังอยู่
“ลุงอวิ๋นรอข้าสักครู่”
“นายน้อยมีคำสั่งใดขอรับ?”
ที่นอกประตู ชายชราผู้หนึ่งทักทายเขาพลางแย้มยิ้ม
หวังเชวี่ยยิ้มอย่างอ่อนโยน และกล่าวเตือน “ลุงอวิ๋น อำนาจจองจำของพื้นที่ต้องห้ามนี้ขังข้าไว้ไม่ได้แล้วนะ”
รอยยิ้มของชายชราแข็งทื่อ เขากล่าวอย่างตกตะลึง “นายน้อย ท่านคิดทำสิ่งใด?”
“ข้าอยากคุยกับเจ้าหน่อยว่าโลกภายนอกเกิดอันใดขึ้นบ้าง”
หวังเชวี่ยกล่าวพลางก้าวออกมานอกเขตจองจำ
ตู้ม!
ยามนี้ อำนาจจองจำโบราณซึ่งปกคลุมห้องพลันคำรามเลือนลั่น และถูกหวังเชวี่ยกระชากทำลายทิ้งในหนึ่งก้าวเดิน!
“ถูกขังอยู่ที่นี่สามร้อยปี ในที่สุดก็ออกจากกรงได้เสียที”
หวังเชวี่ยทอดถอนใจพลางยืดเส้นยืดสาย
ชายชรานามลุงอวิ๋นล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างตกใจ!
………………..