บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1126: สิ่งดี ๆ ที่ชิงถังมอบให้
ตอนที่ 1126: สิ่งดี ๆ ที่ชิงถังมอบให้
น้ำเสียงราบเรียบของซูอี้ดังก้องไปทั่วฟ้า
ยากนักที่เขาจะมองชิงถังเป็นศิษย์คนเล็กเหมือนเมื่อในอดีตได้อีก เพราะอย่างไรเสียก็ดี อีกฝ่ายก็ยังมีอีกฐานะหนึ่ง นางมาจากห้วงลึกจักรวาลพร่างดาว!
ลำพังเพียงแค่จุดนี้จุดเดียว ในใจของซูอี้ก็เกิดความสงสัย และไม่อาจละวางลงได้
เรื่องอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับการทรยศหักหลังที่นางเคยทำไว้เมื่อในอดีตก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในตัวนางมีจุดน่าสงสัยเต็มไปหมด
ทุกคนพากันตื่นตัวขึ้นมา อยากจะดูนักว่าชิงถังจะตัดสินใจเลือกอะไร
แต่ผิดจากความคาดหมาย ชิงถังกลับส่ายหน้า ไม่ได้ตัดสินใจเลือก ทว่ากลับกล่าวว่า “อาจารย์ โปรดให้ศิษย์ได้มอบสิ่งที่น่ายินดีให้กับท่านก่อน หลังจากนั้น ศิษย์จะต้อนรับอาจารย์กลับสู่ถ้ำเสวียนจวินด้วยตนเอง ถึงเวลานั้น ไม่ว่าอาจารย์อยากจะรู้เรื่องอะไร ขอเพียงศิษย์รู้จะบอกทุกสิ่งอย่างละเอียด”
สิ่งที่น่ายินดี?
ทุกคนต่างก็ตื่นตะลึงสงสัย ไม่เข้าใจความคิดของจักรพรรดินีชิงถัง
ชิงถังยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้กล่าวความ
นางสะบัดแขนเสื้อ
พลันปรากฏเสาสิบสามต้นขึ้นกลางอากาศ
บนเสาแต่ละต้นมีร่างคนถูกมัด มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผมเผ้าปรกหน้า เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยบาดแผล
ภาพเช่นนี้ดึงดูดสายตาของคนทั้งหลาย
ไม่นานนัก ก็มีเสียงร้องตื่นตระหนกดังขึ้น “อิ่นจื้อเหิง องค์ดาบเสมอสวรรค์!”
“ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นจักรพรรดิวิญญาณเสวี่ยหนิง!”
“องค์ยุทธ์ลั่วอวิ๋น? เป็นไปได้อย่างไร ว่ากันว่าเขาท่องเที่ยวไปยังโลกภูมินอกมหาแดนดินตั้งนานแล้วมิใช่หรือ?”
…เสียงดังโหวกเหวกจากรอบทิศทางราวกับน้ำมันเดือด
เหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นเห็นเช่นนี้แล้วถึงกับตื่นตระหนก
เมื่อซูอี้เห็นเช่นนี้แล้วก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน
เพราะว่าคนทั้งสิบสามคนที่ถูกจับมัดนั้น มีอยู่ห้าคนเป็นศิษย์สลักนามของเขาเหมือนกับครุฑต้าเผิงปีกทอง!
ส่วนอีกแปดคนเป็นตัวตนจักรพรรดิที่เคยทำงานรับใช้ถ้ำเสวียนจวิน!
ในเวลานี้ ชิงถังเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ “เมื่อห้าร้อยปีก่อน อาจารย์กลับชาติเพื่อฝึกตนใหม่ สิบสามคนนี้เคยลอบสมรู้ร่วมคิดกับผีหมัว ก่อความไม่สงบ ถึงแม้ว่าตอนนั้นพวกเขาจะหนีไปได้ แต่ศิษย์ไม่อาจลืมความแค้นนี้ไปได้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ศิษย์เดินทางไปทั่วมหาแดนดิน สุดท้ายจึงจับพวกเขาทุกคนและนำตัวกลับมาสำนักจนได้”
ชิงถังหยิบแผ่นหยกชิ้นหนึ่งออกมา ก่อนกล่าว “ภายในหยกชิ้นนี้ ศิษย์สืบหาความจริงบางอย่างเจอจากจิตวิญญาณของพวกเขาทั้งสิบสามคน ไม่อาจปลอมแปลงได้ ประเดี๋ยวจะมอบให้อาจารย์ตรวจด้วยตัวข้าเอง”
เมื่อพูดเช่นนี้ออกไป ทุกคนต่างก็ตะลึง สุดท้ายจึงเข้าใจได้ว่าที่แท้แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา จักรพรรดินีชิงถังทำการคิดบัญชีกับผู้ที่ทรยศสำนักในครั้งนั้นมาโดยตลอด!
“และตอนนี้ อาจารย์กลับมายังมหาแดนดินแล้ว คนทรยศเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
ชิงถังสะบัดมือ เสาสิบสามต้นส่องแสง ฉับพลันร่างของคนทั้งสิบสามคนก็ลุกไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่เหลือซาก
การประหารชีวิตอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ทำให้จักรพรรดิคนอื่น ๆ ในเหตุการณ์ถึงกับสูดปาก
ทว่าเวลานี้ พวกเขากลับถูกฆ่าตายในชั่วพริบตาราวกับนักโทษ!
“ชิงถัง นี่คือสิ่งที่น่ายินดีของเจ้าเช่นนั้นหรือ? ช่างน่าผิดหวังเสียจริง ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ ต่อให้เจ้าไม่ฆ่าพวกเขา วันข้างหน้าพวกเราก็จะคิดบัญชีกับพวกเขาทีละคน!”
หวังเชวี่ยกล่าวน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“หากเจ้าอยากจะใช้วิธีนี้เพื่อแลกกับการลงโทษสถานเบา ช่างน่าขันเกินไป”
เย่ลั่วขมวดคิ้ว
ในตอนแรกสุด เขาคิดว่า ‘สิ่งที่น่ายินดี’ ของชิงถังอาจจะไม่เป็นผลดีต่ออาจารย์นัก
ไม่คาดคิดเลยว่า ชิงถังจะมอบ ‘ของกำนัลชิ้นใหญ่’ เช่นนี้ออกมา ราวกับต้องการแสดงความจริงใจต่ออาจารย์
สีหน้าของชิงถังยังคงราบเรียบดุจเดิม ขณะกล่าวเบา ๆ “ศิษย์พี่ทั้งสองสงบใจไว้ก่อน นี่เป็นเพียงแค่สิ่งดี ๆ อันดับที่หนึ่งเท่านั้น”
ยังมีอีกเรอะ!?
ทุกคนพากันตะลึง
มีทั้งตราประทับวิถี หยกหรูอี้ ดาบวิญญาณ แส้ปัด บาตร และอีกหลาย ๆ อย่าง ล้วนส่องประกายแสงสว่างไสว เผยอานุภาพอันน่าเกรงขามสะท้านฟ้าออกมา
เมื่อเห็นสมบัติล้ำค่าพิสดารเหล่านั้นแล้ว คนมากมายถึงกับกลั้นหายใจ แสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมา
แม้กระทั่งเหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นก็ยังตื่นตะลึง
“หยกหรูอี้สำแดงเดช ต้นเซียนเถาวัลย์เขียว แจกันหมื่นประกาย แส้ปัดมลายสิ้น…”
ปรมาจารย์เผิงถึงกับตะลึง “น้องซู ของเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติวิถีล้ำเลิศที่เจ้าเก็บรักษาไว้ในครั้งนั้น แต่ละชิ้นล้วนมีที่มา หาพบได้ยาก”
สายตาของซูอี้ประหลาดไป เขาไหนเลยจะจำของเหล่านี้ไม่ได้?
“สมบัติล้ำค่าเหล่านี้ ส่วนหนึ่งถูกคนทรยศและศัตรูแย่งชิงไป ส่วนหนึ่งหลุดไปอยู่ภายนอกตั้งแต่เกิดเรื่องในครั้งนั้น”
ชิงถังเอ่ยพูดอีกครั้ง “ในช่วงเวลาที่ผ่านมาศิษย์สืบเสาะอย่างลับ ๆ และได้รวบรวมเบาะแส จนสุดท้ายจึงหาสมบัติล้ำค่าที่สูญหายเหล่านี้กลับมาจนครบเมื่อหลายปีก่อน ตั้งใจว่าเมื่ออาจารย์กลับมาจะคืนสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ให้อาจารย์”
เหล่านี้ก็คือสิ่งน่ายินดีชิ้นที่สองที่ชิงถังมอบให้!
พวกจิ่นขุยกับหวังเชวี่ยต่างก็รู้สึกสับสนขึ้นมา ชิงถังทำเช่นนี้ เพราะต้องการจะแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง หรือว่าต้องการจะให้อาจารย์ยกโทษให้กันแน่?
และในเวลานี้เช่นกัน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเข้าใจแล้วว่าวันที่ปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินกลับสู่ถ้ำเสวียนจวินในวันนี้ จักรพรรดินีชิงถังได้เตรียมการล่วงหน้าเอาไว้แล้ว!
เพียงแต่ นางไม่ได้ต้องการจะเป็นปฏิปักษ์ต่ออาจารย์ แต่ดูเหมือนจะเป็นทำนองที่ว่าลูกศิษย์กำลังแสดงความชอบให้อาจารย์ได้เห็น
การกระทำเช่นนี้ช่างผิดความคาดหมายเสียเหลือเกิน
ตามที่รู้กันว่า เมื่อก่อนนี้ แม้กระทั่งพวกเหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นก็ยังเข้าใจว่าเมื่อชิงถังเผชิญหน้ากับซูอี้ เป็นไปได้สูงว่าศิษย์อาจารย์อาจจะต้องถึงขั้นแตกหัก และจะมีผลกระทบต่อแนวโน้มสถานการณ์ของแผ่นดินมหาแดนดิน!
ทว่าตอนนี้ หลังจากชิงถังมอบ ‘สิ่งที่น่ายินดี’ ออกมาสองชุดติดต่อกัน แม้กระทั่งเหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นก็ยังรู้สึกสับสนงุนงง
ทว่า ไม่นานนักตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นก็สงบใจลงมาได้ ชิงถังกระทำเช่นนี้ ถึงแม้อาจจะทำจากใจจริง ทว่ายังไม่อาจลดความน่าสงสัยในตัวนางลงได้
“ยังมีอีกหรือไม่?”
ท่าทีของซูอี้ก็ราบเรียบเช่นกัน
เพียงแค่คนทรยศกับสมบัติล้ำค่าที่สูญเสียไปเท่านั้น ยังไม่อาจทำให้เขารู้สึกดีต่อชิงถังขึ้นมาได้
พูดจบ นางก็หยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมา จากนั้นค่อย ๆ เปิดช้า ๆ
หัวคนดวงตาเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและไม่ยอมแพ้
ชั่วขณะที่มองเห็นหัวคน ทุก ๆ คนต่างก็ตื่นตระหนกแทบจะเข้าใจไปว่าตัวเองมองผิดไป
“ผีหมัว? เขาตายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ!?”
จักรพรรดิพิษเทียนฮู่อุทานเสียงดังขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่
เสียงของคนอื่น ๆ ดังขึ้นหลังจากที่ได้ยินเช่นนี้
เพราะตอนที่อยู่เขาศักดิ์เทวยุทธ์ในตอนนั้น พวกเขาล้วนเห็นอย่างชัดเจนว่าผีหมัวถูกฆ่าตายจนร่างดับวิถีแตกกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว อย่าว่าแต่หัวคนเลย แม้กระทั่งกระดูกก็ยังไม่มีเหลือ!
แต่ตอนนี้ ศีรษะของผีหมัวกลับปรากฏอยู่ในมือของชิงถังอย่างสมบูรณ์พร้อม!
ทุกคนถึงกับร้องระงม เสียงอุทานดังขึ้นจากทุกทิศทุกทาง ล้วนตกตะลึงกับภาพที่เห็น
“ที่แท้ ผีหมัวไม่ได้ตายอย่างสมบูรณ์จริง ๆ…” จิ่นขุยร้องตกใจ
เพื่อเมื่อหลายเดือนก่อน อาจารย์เคยพูดขึ้นมาว่าผีหมัวอาจจะไม่ได้ตายจริง เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะหลอมบงกชแฝดร่วมก้าน สร้างร่างจำแลงมหาวิถีที่แยกออกจากร่างเดิมอย่างอิสระขึ้นมา
และตอนนี้ เมื่อชิงถังนำศีรษะของผีหมัวออกมาแสดง จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ในจุดนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ตามความคาดหมาย ชิงถังกล่าว “เมื่อห้าร้อยปีก่อน ตอนที่ผีหมัวบุกเข้าถ้ำเสวียนจวินได้แย่งบงกชแฝดร่วมก้านไป และก็เป็นตอนนั้นเช่นกันที่ข้าคาดเดาว่าผีหมัวอาจจะหลอมสร้างร่างจำแลงมหาวิถี…”
หลังจากที่นางเล่ารายละเอียดเหล่านี้ออกมาอย่างช้า ๆ ผู้อาวุโสทั้งหลายในเหตุการณ์ต่างก็เข้าใจขึ้นมา
“และเมื่อสามเดือนก่อน ตอนที่อาจารย์เดินทางไปภูเขาศักดิ์เทวยุทธ์ ศิษย์ก็ออกเดินทางด้วยเช่นกัน ในที่สุดขณะที่ผีหมัวคิดจะหลบหนีไปนอกหมู่ดารามหาแดนดิน ศิษย์ได้เข้าขัดขวางเขาและนำหัวของเขากลับมา”
คำกล่าวนี้ดังกึกก้องไปทั่วผืนแผ่นดิน ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าไรได้ยินแล้วถึงกับหวาดผวา
จนถึงตอนนี้ ชิงถังได้มอบสิ่งที่น่ายินดีออกมาเป็นชุดที่สามแล้ว
ชุดแรกคือฆ่าผู้ทรยศ ชุดที่สองคือเก็บสมบัติล้ำค่าที่สูญหายไปกลับมา และชุดที่สามคือทำลายร่างจำแลงของผีหมัว
ในช่วงเวลาห้าร้อยปีที่ผ่านมา จักรพรรดินีผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินมหาแดนดินคนนี้ไม่เคยได้อยู่เฉย ๆ เลย นางได้คิดบัญชีและล้างแค้นตัวต้นเหตุที่ก่อเหตุการณ์ในครั้งนั้นเมื่อห้าร้อยปีก่อนมาโดยตลอด
ความเป็นจริงเหล่านี้เพิ่งจะเปิดเผยออกมาในวันนี้!
“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผีหมัวก่อตั้งพันธมิตรเสวียนจวิน กระทำการต่าง ๆ โดยอ้างว่าทำไปเพื่อสำนักและอาจารย์ เจ้า ชิงถัง ไม่ได้กระทำในแบบเดียวกันนี้หรอกหรือ? ตอนนี้เจ้ามอบสิ่งที่น่ายินดีเหล่านี้ออกมา มันก็เป็นการยกเอาอาจารย์ของเจ้าขึ้นมาอ้างเพื่อกำจัดคนที่ไม่ใช่พวกเดียวกับตนเช่นกัน”
บรรพชนมารเยว่อิ๋นกล่าวเสียงหนัก
ชิงถังย้อนถาม “ผู้อาวุโส ข้าขอถามสักข้อ ห้าร้อยปีที่ผ่านมา ข้า ชิงถัง เคยกระทำการใดที่เป็นการหลอกลวงอาจารย์ทำลายบรรพชนหรือไม่?”
บรรพชนมารเยว่อิ๋นขมวดคิ้วขึ้น พลางกล่าว “คนทั้งหลายต่างก็รู้ว่า ในครั้งนั้นเจ้าเคยทำร้ายไป๋อี้ ขับไล่จิ่งหัง เช่นนี้ควรจะอธิบายเช่นใด?”
ข้อสงสัยนี้คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์มองว่าชิงถังเป็นผู้ทรยศ
เวลานี้ หลังจากที่บรรพชนมารเยว่อิ๋นถามออกมาตรง ๆ สายตาของทุกคนหันกลับไปมองชิงถังอีกครั้ง เพื่อดูว่านางจะให้คำอธิบายเช่นใด
ชิงถังนิ่งเงียบไปสักครู่ ทว่ากลับเบนสายตามองไปที่ซูอี้ จากนั้นกล่าว “เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ อีกประเดี๋ยวข้าจะให้คำตอบต่ออาจารย์เอง”
ซูอี้นิ่งเงียบไม่พูด เขาสงบนิ่งมาโดยตลอด มองดูทุกการกระทำของชิงถัง ไม่เคยแสดงท่าทีของตัวเองออกมา
“เรื่องเล็กน้อย?”
จักรพรรดิพิษเทียนฮู่สบถหัวเราะ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอถามเจ้า เหตุใดจึงต้องสมรู้ร่วมคิดกับลัทธิทางช้างเผือกด้วย? อย่าบอกข้านะว่า เจ้าไม่รู้ที่มาของขุมกำลังนี้! และเมื่อหลายเดือนก่อน ฉินเฟิงจากลัทธิทางช้างเผือกได้นำคนจำนวนไม่น้อยบุกฆ่าตระกูลหวังแห่งแคว้นจง เพื่อจะทำร้ายอาจารย์ของเจ้า! เรื่องนี้ เจ้าจะไม่รู้ได้เช่นใดกัน?”
พอเอ่ยเช่นนี้ออกมา ทุกคนในเหตุการณ์พลันรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา
ลัทธิทางช้างเผือก!
สายตาของเหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นเปลี่ยนไป
และเวลานี้เอง ยังไม่ทันที่ชิงถังจะเอ่ยพูด เสียงแก่ชราทุ้ม ๆ เสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากด้านในของถ้ำเสวียนจวิน
“สหายเต๋าชิงถัง ข้าเคยบอกตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีการเช่นใดก็ไม่มีทางจะโกหกซูเสวียนจวินเหมือนเมื่อในอดีตได้อีก ถึงแม้ในโลกนี้จะมีผู้ไม่รู้อยู่มากมาย แต่ก็ไม่มีทางจะเชื่อหรอกว่าเจ้าไม่ใช่คนทรยศ!”
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากถ้ำเสวียนจวินพร้อมกับเสียง
คนที่เดินนำหน้าคือซ่างเทียนฉีแห่งตำหนักสุริยันลัทธิทางช้างเผือกนั่นเอง!