บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1128: คร่าชีวิต!
ตอนที่ 1128: คร่าชีวิต!
………………..
ตอนที่ 1128: คร่าชีวิต!
ซูอี้นิ่งเงียบไป
เขาเข้าใจความหมายที่ชิงถังพูด
ตั้งแต่ตอนที่ชิงถังลงมือสังหารพวกซ่างเทียนฉี สภาพจิตใจของซูอี้ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมา
เหตุผลนั้นง่ายมาก พลังวิถีดาบที่ชิงถังใช้มีลักษณะคล้ายคลึงกับทัศนาจารย์!
ในสถานการณ์เช่นนี้ ซูอี้จะไม่เข้าใจอีกได้อย่างไร?
โดยไม่ต้องสงสัย ชิงถังมาจากห้วงลึกของจักรวาลพร่างดาวจริง ทว่านางก็มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับทัศนาจารย์อีกด้วย
สาเหตุที่นางมายังมหาแดนดินเมื่อหนึ่งหมื่นแปดพันเก้าร้อยปีก่อน เป็นไปได้มากว่าเพื่อจะตามหาเบาะแสของทัศนาจารย์!
ที่ชิงถังปิดบังฐานะและพรางตัวเข้ามาฝึกตนในถ้ำเสวียนจวินตอนนั้น เป็นเพราะรู้สึกได้ว่าทัศนาจารย์กลับชาติมาเกิดใหม่แล้วนั่นเอง!
ในที่สุดซูอี้ก็เข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดชิงถังจึงมองออกว่าคุณหนูแห่งโรงวาดฤทัยพรางตัวเป็นซงไฉเข้ามาฝึกตนในถ้ำเสวียนจวิน ทั้งยังขับไล่นางออกไป
เพราะตอนนั้นางน่าจะรู้แล้วว่า ตนเองไม่ได้ตายจากไปอย่างแท้จริง แต่เข้าสู่วัฏสงสาร!
และตอนนี้ เมื่อตนเองได้กลับชาติเกิดใหม่ กลับมาถ้ำเสวียนจวินอีกครั้ง ชิงถังต้องมั่นใจมากว่าทัศนาจารย์คือหนึ่งในอดีตชาติของเขา
ด้วยเหตุนี้ นางจึงมอบสิ่งที่น่ายินดีให้กับตนเองเสียหลายชิ้น!
ฟ้าดินสงบเงียบ สรรพสิ่งปราศจากเสียง
สายตาของทุกคนมองไปที่ซูอี้ รอดูว่าเขาจะแสดงท่าทีเช่นใด
ทว่าเวลานี้ ดูเหมือนว่าชิงถังจะจับความเปลี่ยนแปลงของซูอี้ได้ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเผยอยิ้มขึ้นมา
นางกล่าวเสียงดังกังวาน “อาจารย์ อันดับต่อมา ศิษย์จะมอบสิ่งที่น่ายินดีชุดที่ห้าให้กับท่าน”
ทุก ๆ คนต่างก็ตะลึง แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
ยังมีอีกรึ!?
วันนี้จักรพรรดินีชิงถังเตรียม ‘สิ่งที่น่ายินดี’ ให้ปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินผู้เป็นอาจารย์กี่อย่างกันแน่?
ครู่ถัดมา นางก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเสวียนหนิง!
“ศิษย์พี่เจ็ด ขออภัยด้วย”
น้ำเสียงของชิงถังแฝงไว้ซึ่งความสำนึกผิด
เสวียนหนิงยังไม่ทันตั้งตัว ชิงถังพลันเอื้อมมือสวยเรียวออกมากดลงบนกระหม่อมวิญญาณสวรรค์ของเสวียนหนิง
ชั่วขณะนี้ พวกจิ่นขุยกับหวังเชวี่ยถึงกับสีหน้าเปลี่ยน ลงมือขัดขวางโดยไม่รอช้า
ครืนนน!
พลังดาบที่มีความแพรวพราวและน่ากลัวพุ่งซัดไปที่ชิงถัง
ทว่าชิงถังไม่ได้หลบหลีกและไม่สนใจเช่นกัน ชั่วขณะที่กำลังจะฟันโดนตัวชิงถัง พลังดาบเหล่านั้นก็เลือนหายไปราวกับโคลนสลายลงในแม่น้ำ
มันไม่อาจทำอันตรายใด ๆ ต่อชิงถัง!
และในขณะเดียวกันนี้เอง ชิงถังยกมือออกจากกระหม่อมวิญญาณสวรรค์ของเสวียนหนิง ในมือมีเส้นใยสีดำที่ดึงออกจากตัวของเสวียนหนิงติดอยู่
“นี่คืออะไร?”
ทุกคนในเหตุการณ์ตะลึง เสียงร้องอุทานด้วยความตื่นตระหนกดังไปทั่ว
ตอนแรกสุดที่จู่ ๆ ชิงถังก็วางมือลงบนกระหม่อมของเสวียนหนิง ทุกคนพากันตกใจจนเหงื่อตก เข้าใจไปว่าชิงถังจะฆ่าเสวียนหนิง
แต่เมื่อตั้งตัวได้จึงพบว่าความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
จิ่นขุย หวังเชวี่ย เย่ลั่วกับคนอื่น ๆ ต่างก็นิ่งอึ้ง
ส่วนเหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นล้วนรู้สึกหนาวสะท้านหวาดกลัวจนขนลุกซู่!
จิตนึกคิดของพวกเขามีความแข็งแกร่งอย่างที่สุด สามารถรับรู้ได้ในทันใดว่าเส้นใยสีดำที่อยู่ในมือชิงถังนั้นมีความน่ากลัวและอันตราย ภายนอกของมันมีอักขระวิถีรูปร่างประหลาดปกคลุม ท่าทางเหมือนกับมีชีวิต ลำพังเพียงแค่เห็นก็รู้สึกหนาวสันหลังวาบ ในใจมีแต่ความหวาดกลัว
ห่างออกไปไกล ซูอี้ก็มองเห็นภาพเหตุการณ์นี้เช่นกัน เขาถึงกับเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ
เมื่อครั้งก่อนเสวียนหนิงเคยบอกกับเขาว่าช่วงเวลาที่ฝึกตนอยู่ข้างกายหลวงจีนเยี่ยนซินที่แดนบูรพาน้อย สงสัยความทรงจำของตัวเองจะเกิดผิดปกติขึ้น
และก็เป็นช่วงเวลานั้นที่ซูอี้เริ่มสงสัยว่า หากหลวงจีนเยี่ยนซินไม่เกิดปัญหา ก็คงจะเป็นจี้หยวนผู้เป็นศิษย์ของเขาที่มีปัญหา
เดิมที ซูอี้ตั้งใจว่าวันข้างหน้าจะพาเสวียนหนิงไปยังแดนบูรพาน้อยเพื่อจัดการกับเรื่องนี้
แต่ไม่นึกเลยว่า ชิงถังจะจัดการกับเรื่องนี้ในเวลานี้ ดึงเส้นใยสีดำประหลาดออกมาจากตัวเสวียนหนิงได้ในทีเดียว!
อีกทั้ง เส้นใยสีดำประหลาดนี้มีกลิ่นอายเหมือนกับสัญลักษณ์ ‘乂’ ทุกประการ!
หน้าของเสวียนหนิงมีแต่ความเจ็บปวด สั่นสะท้านไปทั้งตัว เหงื่อผุดจนเต็มหน้าผาก
ทว่า เมื่อเห็นเส้นใยสีดำในมือชิงถังเส้นนั้นแล้ว เขาถึงกับร้องเสียงดังตกใจ “นี่คือ…”
“นี่คือพลังกฎปล้นสวรรค์ เรียกว่า ‘เส้นใยปล้นสวรรค์’”
ชิงถังพูดจบ ปลายนิ้วขาวเนียนคมกริบราวกับคมดาบ ฉับพลันเส้นใยสีดำประหลาดเส้นนั้นก็ลุกไหม้ขึ้น
ครืน!
ประกายแสงสีดำลุกโชติช่วง สัญลักษณ์อักขระประหลาดนับไม่ถ้วนบิดเบี้ยวคล้ายหนอนบิดม้วนตัวอย่างบ้าคลั่ง
สัญลักษณ์บิดงอจำนวนนับไม่ถ้วนนั้นเปรียบเสมือนตัวหนอนที่สามารถกลืนกินจิตวิญญาณ กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมานั้นช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก
เมื่อซูอี้มองเห็นพลังประหลาดเช่นนี้แล้ว ก็ยังอดตกใจไม่ได้เช่นกัน
พลังเช่นนี้แปลกประหลาดมาก เพียงแค่มองดูไกล ๆ จิตวิญญาณกับสภาวะจิตก็ยังได้รับผลกระทบอย่างไร้รูปลักษณ์ รู้สึกได้ถึงความกดดันอย่างรุนแรง!
“ดูท่าแล้ว นี่ก็คือกฎปล้นสวรรค์ที่ชิงถังพูดถึง”
สายตาของซูอี้เกิดความสับสน
สุดท้าย สัญลักษณ์อักขระวิถีที่บิดม้วนเหล่านั้นก็ถูกเผาผลาญจนไม่เหลือ
“ศิษย์พี่เจ็ด ปลอดภัยแล้ว”
ชิงถังกล่าวเบา ๆ จากนั้นร่างของนางพลันหายไป กลับมายืนอยู่ในตำแหน่งเดิมเมื่อก่อนหน้า
เสวียนหนิงนิ่งตะลึง สีหน้าขาวซีด รู้สึกสับสนและงุนงงขึ้นมา ‘ชิงถัง… กำลังช่วยข้ากำจัดสิ่งชั่วร้ายที่แฝงตัวอยู่ในจิตวิญญาณให้ข้าเช่นนั้นหรือ?’
ไม่เพียงแต่เสวียนหนิงเท่านั้น คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตื่นตระหนกมากเช่นกัน
สิ่งที่น่ายินดีทั้งห้าที่นางมอบให้อาจารย์ของตัวเอง แต่ละชุดล้วนสร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนในเหตุการณ์อย่างใหญ่หลวง
จนถึงเวลานี้ แม้กระทั่งผู้คนที่เชื่อว่าชิงถังเป็นผู้ทรยศก็ยังรู้สึกจิตใจสั่นคลอน
“ข้าบอกแต่แรกแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดินีชิงถังจะเป็นผู้ทรยศ!”
“จริง ๆ ด้วย สิ่งที่น่ายินดีทั้งห้านี้ไม่ธรรมดาเลย เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีชิงถังเตรียมตัวมานาน และทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากมาย”
“ใครกันจะคาดคิดว่า ผีหมัวที่คนทั้งหลายต่างก็เข้าใจว่ามีความจงรักภักดีจะเป็นผู้ทรยศ ส่วนจักรพรรดินีชิงถังที่ใคร ๆ ต่างก็มองว่าเป็นผู้ทรยศ กลับเป็นคนที่จงรักภักดีต่อใต้เท้าซูที่สุด?”
…เกิดเสียงดังระงมไปจนทั่วอีกครั้ง
ผู้อาวุโสอย่างเช่นปรมาจารย์เผิงกับบรรพชนมารเยว่อิ๋นก็ยังอดมองหน้ากันไม่ได้
แม้กระทั่งพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนแปลงได้จนถึงขั้นนี้ เกินความคาดหมายเสียจริง
“ศิษย์พี่ หรือว่าชิงถังจะไม่ได้ทรยศจริง ๆ?”
หวังเชวี่ยทนไม่ไหว จึงส่งกระแสเสียงปราณมาถามจิ่นขุย
จิ่นขุยตอบกลับเบา ๆ
ในใจของนางก็สับสนเช่นกัน ทั้งยังรู้สึกตื่นตระหนกและสงสัย
เวลานี้ ซูอี้รู้สึกราวกับยกหินออกจากอก
เมื่อในอดีตชาติ ชิงถังเป็นศิษย์คนเล็กที่เขารักเอ็นดูเป็นที่สุด เมื่อรู้ว่าในตัวชิงถังมีข้อน่าสงสัยมากมาย ทำให้เขารู้สึกกลัดกลุ้มและเสียใจอยู่นานมาก
แม้กระทั่งตอนที่ย้อนกลับมายังถ้ำเสวียนจวินในครั้งนี้ ในใจซูอี้ก็ไม่ได้ตั้งความหวังและไม่รู้สึกดีใจใด ๆ ทั้งสิ้น
เพราะอย่างไรเสียก็เคยเป็นศิษย์อาจารย์กัน หากว่าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เป็นไปได้หรือที่ซูอี้จะลงมือจัดการด้วยวิธีรุนแรง?
กับฮั่วเหยาเขาก็คิดเช่นนี้
กับผีหมัวก็เช่นเดียวกัน
ยังดี!
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้ซูอี้ได้มองเห็นความจริงอีกด้าน และทำให้เขารู้สึกโล่งใจด้วยเช่นกัน ทั้งกายและใจราวกับยกหินหนักออกจากอก รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ฉับพลัน นางก้มหน้าลง พลางกล่าว “อาจารย์ ศิษย์เชื่อว่า ท่านคงจะคาดเดาความจริงบางอย่างออกบ้างแล้ว แต่เรื่องในวันนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”
เพิ่งเริ่มต้น?
คนทั้งหลายต่างก็สงสัย หมายความเช่นใดกัน?
ชิงถังกล่าวต่อ “สาเหตุที่ศิษย์มอบสิ่งที่น่ายินดีนอกประตูสำนักในวันนี้ ไม่ได้คิดจะขัดขวางอาจารย์กลับสู่ถ้ำเสวียนจวินเลย แต่เป็นเพราะไม่ต้องการให้การคร่าชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นในลำดับถัดมากระทบกระเทือนไปถึงถ้ำเสวียนจวิน”
น้ำเสียงและสายตาของนางผุดประกายอ่อนโยนขึ้นมา “ศิษย์เข้าใจดีว่า ในใจของอาจารย์ ถ้ำเสวียนจวินเปรียบเสมือนบ้านอันอบอุ่น ต้นไม้ทุกต้น ใบหญ้าทุกใบ ล้วนเต็มไปด้วยแรงกายแรงใจที่อาจารย์ทุ่มเท ไม่ต้องการให้ใครคนไหนหรือเรื่องอันใดทำลายสถานที่แห่งนี้!”
พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของนางเฉียบขาดและหนักแน่นขึ้นมา
คร่าชีวิต!?
ทุกคนพากันตกตะลึง หัวใจสั่นสะท้าน หรือว่าวันนี้ถ้ำเสวียนจวินยังจะมีเคราะห์ยิ่งใหญ่อื่นอีก?
ซูอี้หรี่ตาลงเล็กน้อยเช่นกัน “เกี่ยวข้องกับหลวงจีนเยี่ยนซินแห่งแดนบูรพาน้อยใช่หรือไม่?”
“คนผู้นี้ถนัดบงการอยู่เบื้องหลัง เดินอยู่ในความมืดตลอดเวลา ระดับวิถีในตัวลึกล้ำเกินจะคาดเดา ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นตัวอันตรายที่สุดของห้วงลึกจักรวาลพร่างดาว”
ขณะที่เสียงของนางดังกึกก้องไปทั่วผืนพสุธา บรรยากาศรอบด้านเริ่มมีความกดดันขึ้นทีละน้อย ทุกคนรู้สึกตื่นตระหนกตกใจ สีหน้าหวาดหวั่น
หลวงจีนเยี่ยนซินแห่งแดนบูรพาน้อยถูกยักษ์ใหญ่น่ากลัวของห้วงลึกจักรวาลพร่างดาวสลับตัว!?
ความลับเช่นนี้เป็นเรื่องน่าหวาดกลัวยิ่งนัก ทุกคนแทบตาค้าง แม้กระทั่งเหล่าตัวตนบรรพกาลเหล่านั้นก็ยังพากันหน้าถอดสีด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แผ่นดินมหาแดนดินในตอนนี้ มีเพียงตัวตนขอบเขตมหาจักรพรรดิกลุ่มน้อยเท่านั้นที่ยืนหยัดอยู่บนตำแหน่งสุดยอดในโลก และในจำนวนคนกลุ่มนี้ หลวงจีนเยี่ยนซินแห่งแดนบูรพาน้อยคือตัวตนระดับสุดยอดในขอบเขตมหาจักรพรรดิ
พูดถึงฐานะและชื่อเสียงแล้ว คนทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ นอกจากซูอี้ผู้เคยเป็นปรมาจารย์ดาบเสวียนจวินกับ ‘ปรมาจารย์เผิง’ แห่งแดนลี้ลับขั้นเก้าแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาได้อีก
ทว่าตอนนี้ ชิงถังกลับบอกว่า หลวงจีนเยี่ยนซินเกิดปัญหาร้ายแรงเช่นนี้ขึ้น ใครบ้างจะไม่ตื่นตกใจ?
แม้กระทั่งซูอี้ผู้รู้สึกระแคะระคายมานานแล้วก็ยังหรี่ตาครุ่นคิดไม่ได้
ฟ้าดินสงบนิ่ง
มีแต่เพียงเสียงของชิงถังคนเดียวเท่านั้นที่ดังก้องกังวานไปทั่ว “คนผู้นี้เดินทางมายังมหาแดนดินเมื่อนานมากแล้ว ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ ทำการวางแผน หาโอกาสที่จะจัดการอาจารย์ และโอกาสนี้ก็เกี่ยวข้องกับศิษย์ด้วย”
“พูดง่าย ๆ ก็คือ จากท่าทีและสิ่งที่ศิษย์มอบให้อาจารย์ในวันนี้ ตาเฒ่าคนนี้ก็สามารถคาดเดาถึงความจริงที่เขารอคอยมานานมากด้วยเช่นกัน”
นางชำเลืองตาขึ้น มองไปที่ซูอี้ที่อยู่ไกลออกไป “และตอนนี้… เขาคงจะรู้แล้ว!”