บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1142: มาเท่าไร ฆ่าเท่านั้น
เพียงแค่สองคำ ราวกับเสียงสวรรค์มาโปรด
และที่เร็วยิ่งกว่าเสียง ก็คือพลังดาบ!
สวบ!
พลังดาบหายวับไป แหวกทะลุท้องฟ้าพุ่งเข้าซัดสตรีในชุดนักรบ
ชั่วขณะนี้ อาศัยจิตใต้สำนึกอย่างแรงกล้า สตรีในชุดนักรบถอยหนีออกไปโดยไม่รอช้า
ครืน!
เมื่อพลังดาบเล่มนั้นฟันลงมา ผืนแผ่นดินในรัศมีร้อยจั้งก็ถูกฟันจนเป็นรอยแยกยาว พลังดาบไร้เทียมทาน กดดันจนท้องฟ้าในบริเวณนั้นแทบถล่ม
แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงระเบิดก็ดังขึ้น จากนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นราวกับแหวกทะลุมิติ ป้องกันจิ่งหังอยู่ข้างหลัง
สวบ!
คนที่มาสวมชุดสีเขียวประดุจหยก ร่างสูงโปร่ง งามสง่า
“อา… อาจารย์?!”
จิ่งหังเบิกตากว้างแทบไม่อยากจะเชื่อ
ก่อนหน้านี้ เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าจะสู้ตาย
ไม่คิดเลยว่า เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป!
“สัตว์ประหลาดเฒ่าซู?!”
หนอนตะกละเฒ่าก็ตะลึงมากเช่นกัน เขาทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ในสายตาของเขา ถึงแม้รูปลักษณ์ของซูเสวียนจวินจะเปลี่ยนไป ทว่าท่าทางอหังการและทะนงตนเช่นนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง!
“หนอนตะกละเฒ่า ขอบใจมาก”
ซูอี้กล่าวเบา ๆ “ตอนนี้ เจ้าพักรักษาตัวให้ดี ๆ ก็พอแล้ว”
พูดจบ เขาก็หันหน้าไปพูดกับจิ่งหัง “เจ้าจงตั้งใจผ่านภัยพิบัติเข้าล่ะ”
ชั่วขณะนี้ ในที่สุดจิ่งหังก็เชื่อแล้วว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความฝัน ความปีติยินดีและตื่นเต้นปรากฏขึ้นเต็มใบหน้า ในใจมีคำพูดมากมาย
ทว่าสุดท้ายยังคงอดกลั้นเอาไว้ เขาพยักหน้าก่อนกล่าว “ศิษย์น้อมทำตาม!”
ถึงแม้หนอนตะกละเฒ่าจะตื่นเต้นมากอย่างเห็นได้ชัด แต่เขายังคงสูดหายใจลึก ๆ ก่อนกล่าว “ได้ ข้าขอเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น… ฆ่าพวกเขาให้หมด!!”
พูดถึงท้ายสุด ความแค้นปะทุขึ้นอย่างชัดเจน
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ซูอี้พยักหน้าน้อย ๆ
ทันใดเสียงหัวเราะของบุรุษในชุดลายนกกระเรียนก็ดังขึ้นจากระยะไกล “ตัวตนขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นปลาย กล้าพูดจาโอ้อวดถึงเพียงนี้ ช่างน่าขันสิ้นดี”
จักรพรรดิทั้งห้าพากันหัวเราะเยาะ
สตรีในชุดนักรบนึกขึ้นได้ว่าตัวตนขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นปลายทำให้ตัวเองตื่นตระหนกจนถอยร่น พลันแสดงสีหน้าละอายแก่ใจออกมา “ก่อนหน้านี้ ผู้น้อยกระทำตัวไม่เหมาะสม”
บุรุษในชุดลายนกกระเรียนโบกมือ “ล่องเรือด้วยความระวังสามารถล่องได้นาน จะกล่าวว่าไม่เหมาะสมได้อย่างไร?”
พูดจบ ดวงตาส่องสว่างประดุจโคมไฟของเขาส่องประกายสว่างเจิดจ้า ขณะมองดูซูอี้ที่อยู่ห่างออกไปอย่างพิจารณา “ดูท่าแล้ว พวกเขาล้วนมองว่าเจ้าคือความหวัง แสดงให้เห็นว่า ระดับวิถีของเจ้าไม่ได้ธรรมดาเหมือนดังที่แสดงภายนอก เอาเช่นนี้ ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้า”
เขาชี้ไปที่จักรพรรดิทั้งห้าซึ่งอยู่ห่างออกไป พลางกล่าวเสียงเนิบนาบ “ขอเพียงเจ้าสามารถรับกระบวนท่าของพวกเขาทั้งห้าได้ครึ่งเค่อและไม่ตาย ข้ารับรองว่าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งสาม แต่แน่นอนว่าพวกเจ้าจะต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อข้า”
“เวลาครึ่งเค่อ?”
ในจำนวนจักรพรรดิทั้งห้านั้น ชายวัยกลางคนผู้สวมชุดลายงูใหญ่เข้าใจว่าถูกดูแคลน จึงกล่าวขึ้นด้วยโทสะ “นายน้อย ไม่ถึงครึ่งเค่อ พวกข้าจะจัดการกับคนผู้นี้ให้เรียบร้อย!”
เสียงยังดังก้องกังวาน ทว่าคนผู้นี้ได้เริ่มลงมือก่อนแล้ว
ครืน!
เขากวัดแกว่งง้าวใหญ่สีดำ แสงสีดำสลัวปกคลุมไปทั่ว พลังสังหารทะลุฟ้า พุ่งตรงไปที่ซูอี้เพื่อคร่าชีวิต
รุนแรงไร้ขอบเขต!
ตัวตนขอบเขตจักรพรรดิอีกสี่คนประสานกันเป็นอย่างดี ต่างฝ่ายต่างสำแดงสมบัติล้ำค่าของตัวเอง ปิดล้อมซูอี้ไม่ให้หนีรอดไปได้
และซูอี้เองก็ไม่คิดจะหนีอยู่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งนี้หากว่าเขามาไม่ทัน คนทั้งสองอาจจะต้องดับชีวิตอยู่ที่นี่ก็เป็นได้!
“มดตัวจ้อยคิดเขย่าต้นไม้”
ซูอี้สบถพลางดีดนิ้ว
เป๊าะ!
ง้าวใหญ่สีดำที่ชายวัยกลางคนผู้สวมชุดคลุมลายงูใหญ่แทงเข้ามาก่อนเป็นคนแรกแตกหักเป็นท่อน ๆ
ขณะที่แตกหัก พลังดาบแหวกอากาศเข้าหา
เอื๊อก!
กลางหัวคิ้วของบุรุษวัยกลางคนผู้สวมชุดลายงูใหญ่ถูกแทงจนทะลุ จนเลือดไหลย้อยลงมาจากปากแผล ภายในพริบตาศีรษะกับร่างก็ระเบิด
จนท้ายสุด เศษเนื้อของชายวัยกลางคนผู้สวมชุดลายงูใหญ่ได้กลายเป็นเถ้าธุลี
และคงเหลือแต่เพียงรอยดาบทางตรงที่ยังคงแหวกออกเป็นแนวยาวอยู่กลางอากาศ
บุรุษในชุดลายนกกระเรียนหรี่ตาเล็กลง
“แย่แล้ว!”
หน้าของสตรีในชุดนักรบเปลี่ยนสีเล็กน้อย
จักรพรรดิสี่คนที่ปิดล้อมชายหนุ่มอยู่ถึงกับสีหน้าเปลี่ยนในทันใด อยากจะเปลี่ยนกระบวนท่าแต่ก็สายไปเสียแล้ว แต่ละคนกัดฟันแน่น สำแดงพละกำลังในตัวออกมาอย่างเต็มที่
ครืน!
สมบัติล้ำค่าแต่ละชิ้นสำแดงอานุภาพอันยิ่งใหญ่ ส่องแสงเฉิดฉายเป็นประกาย กลายเป็นคลื่นทำลายล้างลูกใหญ่พุ่งซัดใส่ซูอี้
สีหน้าของซูอี้ยังคงราบเรียบ ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ขณะยื่นมือขวาออกไป กดลงกลางอากาศ
ครืน!
คล้ายกับเทพแห่งสวรรค์ยกภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ซัดกระหน่ำสู่โลกมนุษย์
ผืนแผ่นดินบริเวณนี้ทรุดตัวลงในทันใด รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน
จักรพรรดิทั้งสี่ที่พุ่งตัวเข้ามา แต่ละคนร่างแตก เลือดเนื้อกับจิตวิญญาณถูกบดขยี้ไปพร้อม ๆ กัน หายลับไปจากแผ่นดินที่ทรุดตัวลง
พอยกมือขึ้นกด ฟ้าถล่มดินทลาย จักรพรรดิทั้งสี่ร่างแตกวิญญาณดับ!
ชั่วขณะนั้น ทุกคนนิ่งเงียบด้วยความตื่นตะลึง!
“นี่…”
หนอนตะกละเฒ่าถึงกับตาค้าง สัตว์ประหลาดเฒ่าซูเข้าสู่วัฏสงสารกลับมา แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยเชียวหรือ!?
ก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกเช่นกันว่าระดับการฝึกตนของซูอี้อยู่เพียงแค่ขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำเท่านั้น ตอนแรกยังเข้าใจว่าครั้งนี้ซูอี้คงนำอาวุธร้ายกาจบางชนิดที่สามารถหยุดยั้งการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ติดตัวมาด้วย
ใครเลยจะคิดว่า ไม่มีอาวุธร้ายกาจอันใด แต่เพียงชั่วครู่เดียวเขาก็สามารถสังหารตัวตนขอบเขตจักรพรรดิจากห้วงลึกจักรวาลพร่างดาวทั้งห้าคนได้อย่างง่ายดาย
ง่ายดายเสียจนคล้ายกับบดขยี้มดตัวจ้อย!
“มีอาจารย์อยู่ ทุกอย่างเรียบร้อย…”
เพื่อไม่ให้เสียเวลา จิ่งหังจึงพุ่งสู่ท้องฟ้าเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใหญ่สานพันธะลึกล้ำของตัวเอง!
“อวิ๋นโย่ว เจ้ามองเห็นอะไรในตัวคนผู้นี้หรือไม่?”
สีหน้าของบุรุษในชุดลายนกกระเรียนดูสับสน ความหยิ่งทะนงตนในตอนแรกไม่มีเหลืออีก
สตรีในชุดนักรบมีสีหน้าเคร่งเครียด คิ้วคมเฉียบประดุจมีดดาบ “ดูไม่ออกเลยเจ้าค่ะ ผู้น้อยยินดีจะทดสอบเพื่อดูพื้นฐานของคนผู้นี้”
“ช้าก่อน”
บุรุษในชุดลายนกกระเรียนโบกมือ จากนั้นเบนสายตามองไปที่ซูอี้ ก่อนกล่าว “ท่านฆ่าคนของข้าห้าคน ควรจะดับไฟโกรธในใจไปได้ไม่น้อยแล้ว แต่เกรงว่าท่านยังคงยังไม่รู้ฐานะของพวกเรา เพื่อไม่ให้เกิดความแค้นต่อกัน สามารถถือโอกาสนี้เจรจากันท่านสักหน่อยได้หรือไม่? ไม่แน่… พวกเราอาจจะลืมความแค้นระหว่างกันไปก็ได้”
ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจการตายของจักรพรรดิทั้งห้าแม้แต่น้อย
สตรีในชุดนักรบตื่นตระหนกขึ้นมาในใจ ไม่คาดคิดเลยว่าในเวลาเช่นนี้นายน้อยผู้ทำตัวยิ่งใหญ่วางอำนาจมาโดยตลอดจะเป็นฝ่ายยอมลงให้ก่อน
ซูอี้เดินมาด้วยสีหน้าสงบราบเรียบ ขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้กังวล “ลืมความแค้นระหว่างกัน? ไม่ วันนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนมา ล้วนต้องตาย”
ชิ้ง!
สตรีในชุดนักรบชักง้าวสั้นที่สะพายหลังออกมา สำแดงพลังอันน่ากลัวออกมา
“นายน้อย อีกประเดี๋ยวผู้น้อยจะไปเด็ดหัวของคนผู้นี้!”
เสียงของสตรีในชุดนักรบยังไม่หายไป นางก็พุ่งร่างออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
ครืน!
ภูเขาลำเนาไพรที่อยู่ใกล้เคียงพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทุกสิ่งตกอยู่ในความมืดมิด
พลังสังหารน่ากลัวราวกับคลื่นลูกใหญ่แผ่กระจายออกไปจากร่างของสตรีในชุดนักรบ ง้าวสั้นฟันออกไปกลางอากาศพร้อมเสียงตะโกนของนาง
สวบ!
ราวกับสายฟ้าสีเขียวส่องสว่างไปทั่วท้องนภา
พลังในการโจมตีครั้งนี้น่ากลัวเกินความคาดหมาย ความสามารถที่ผู้หญิงคนนี้แสดงออกมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิทั้งห้าร่วมมือกัน!
ทว่าอย่างไรเสียนางก็มีระดับการฝึกตนขอบเขตสานพันธะลึกล้ำขั้นกลาง รากฐานอันแข็งแกร่งของนางอยู่ที่กฎเกณฑ์มหาวิถีที่นางควบคุมกับสมบัติล้ำค่าในมือ
สำหรับซูอี้แล้ว ตัวตนเช่นนี้เล็กกะจ้อยร่อยเกินไป!
เขาไม่หลบหลีกแต่อย่างใด ขณะเอื้อมมือขวาออกมา ฝ่ามืออันแข็งแกร่งทลายพลังสังหารนั้นอย่างง่ายดาย ฉับพลันนิ้วทั้งห้ากระชับเข้าหากัน จับง้าวสั้นของฝ่ายตรงข้ามแน่น
ทุกอย่างราวกับหยุดชะงัก
ง้าวสั้นเล่มนั้นไม่อาจไม่อาจเข้าใกล้ได้อีกแม้แต่นิดเดียว
สตรีในชุดนักรบหน้าถอดสี เบิกตาโพลง ไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถรับแรงซัดสุดกำลังที่มีความรุนแรงราวกับสายฟ้าของตนเองได้!
แคร็ก! แคร็ก!
ง้าวสั้นหักเป็นท่อน ๆ ในทันพร้อมกับส่งเสียงดัง
ร่างของสตรีในชุดนักรบถอยร่น มือขนาดใหญ่คว้าคอของนางกลางอากาศ
“เปิด!”
สตรีในชุดนักรบฟันศอกเข้าสู้
ถัดมา คอของนางถูกรัดจนแน่น โดนหิ้วคอขึ้นราวกับหิ้วคอลูกไก่ ระดับวิถีในตัวถูกบีบกดอย่างแรงในชั่วพริบตา!
ห่างออกไป บุรุษในชุดลายนกกระเรียนนิ่งตะลึง ตาค้าง ราวกับรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่ได้
หนอนตะกละเฒ่าสูดปากด้วยเช่นกัน
ในการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้ เขาเคยประมือกับสตรีในชุดนักรบด้วยตนเองมาแล้ว แต่พบว่าด้วยระดับวิถีขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสมบูรณ์ เขากลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!
ทว่าตอนนี้ ต่อหน้าซูเสวียนจวิน ผู้หญิงคนนี้กลับถูกจับตัวง่าย ๆ!
ไม่ต่างไปจากเสือกระดาษ!
“ให้ตายสิ!”
สตรีในชุดนักรบตื่นตระหนกอย่างแรงจนขวัญแทบกระเจิงไปแล้ว หน้าถอดสีในทันใด “คนผู้นี้เป็นใครกัน เป็นไปได้อย่างไรที่ภูมิดาราฟ้าดินแห่งนี้ยังมีตัวตนที่น่ากลัวถึงเพียงนี้อยู่อีก?”
เพียะ!
นางสั่นระริกไปทั้งตัว ดาวสีทองวนอยู่เบื้องหน้า แก้มแดงปูดขึ้นมา
ความอับอายอย่างแรงผุดขึ้นในหัวใจ ผมกระเซอะกระเซิง ก่อนที่นางจะแผดเสียงร้อง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเราคือใคร?”
เพียะ!
ซูอี้ตบอีกคำรบ จนกระดูกโหนกแก้มของอีกฝ่ายยุบ หน้าเหวอะ
หนอนตะกละเฒ่าเห็นเช่นนี้แล้วร้องเฮด้วยความสาแก่ใจ!
ก่อนหน้านี้ เขาเคยถูกผู้หญิงคนนี้จับตัว รับรู้รสของความอับอายอย่างบอกไม่ถูกมาแล้ว และตอนนี้เมื่อเห็นซูอี้ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน ช่วยระบายความแค้นให้ แล้วเขาจะไม่ให้รู้สึกสาแก่ใจได้เช่นใดกัน?
“หยุดก่อน!!”
บุรุษผู้สวมชุดลายนกกระเรียนที่อยู่ห่างออกไปร้องห้าม หน้าเขียวจัด ร้องตะคอก “ให้โอกาสเจ้า ปล่อยนางเสีย! มิเช่นนั้น ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน!!”
กร๊อบ!
ซูอี้บิดคอสตรีในชุดนักรบหัก
อีกทั้งพอออกแรงบิด ร่างของผู้หญิงคนนี้ก็กลายเป็นผงธุลีดินมลายหายไป
“เจ้า…”
บุรุษในชุดลายนกกระเรียนเบิกตากว้าง เขาฝึกตนจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยเห็นตัวตนคนใดก้าวร้าว ไร้ซึ่งความหวาดกลัว ไม่เคยสนใจต่อคำข่มขู่ใด ๆ เช่นนี้มาก่อน
ฉับพลัน เขาหมุนตัวเพื่อหนี!
โดยไม่รอช้า
ปัง!
ครู่ถัดมา บุรุษในชุดลายนกกระเรียนก็โดนฝ่ามือซัด ร่างกระเด็น พอจิตวิญญาณผุดออกมา ก็ถูกมือขนาดใหญ่คว้าเอาไว้
บุรุษในชุดลายนกกระเรียนราวกับรู้ตัวว่าหนีไม่พ้นแล้ว ร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น “พวกเจ้าระวังตัวไว้ให้ดี สำนักเต๋าสูงสุดทวิภูมิของพวกข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!!”
“เช่นนั้นหรือ”
ซูอี้เบนสายตามองไปยังจิ่งหังที่เริ่มผ่านพิบัติอยู่ไกล ๆ พลันเอ่ยออกมา “ให้โอกาสเจ้า ก่อนที่ศิษย์ของข้าจะผ่านพ้นพิบัติได้สำเร็จ เจ้าไปตามคนมาให้ได้มากที่สุด”
“มาเท่าไร ข้าฆ่าเท่านั้น”
“รับรองว่าจะให้เจ้าได้ตายตาหลับ”