บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1384: มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียว
ตอนที่ 1384: มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียว
………………..
ตอนที่ 1384: มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียว
ผู้สัมผัสถึงความผิดปกติได้นั้นมิได้มีเพียงหงเฟยอวี่
แต่ตัวตนอื่น ๆ ในขอบเขตจุติสรวงเองก็ตระหนักได้ในระหว่างศึกเช่นกัน
เมื่อเสียงของหงเฟยอวี่ดังขึ้น พวกเขาแต่ละคนก็ลงมือทุ่มสุดตัวราวกับสิ้นหวัง แต่ละคนต่างเผยปราณแข็งแกร่งมิต่างจากกัน
แม้จะอยู่ในขอบเขตไร้ขีดจำกัดขั้นปลายก็ร้ายกาจได้เพียงนี้
หากปล่อยซูอี้บรรลุสู่วิถีจุติสรวงได้ ใครเล่าจะประชัน?
ทุกผู้ล้วนบ้าคลั่ง ตัวตนในขอบเขตจุติมงคลหลายคนใช้ไม้ตายก้นหีบออกมาทันที!
เปรี้ยง!
ศึกทวีความเข้มข้น
เหล่าผู้ชมล้วนตื่นตะลึงครั่นคร้ามในใจ
สีหน้าของพวกเซียนดาบชิงซื่อยิ่งเคร่งขรึมตามกาล ใครเล่าจะไม่เห็นว่าพวกหงเฟยอวี่กำลังร้อนรน?
ทว่ายามนี้ ซูอี้ผู้อยู่ในวงล้อมกลับหัวเราะลั่น “จากนี้ไป ข้าจะใช้ชีวิตลับคมดาบ ถางสร้างวิถีของข้าขึ้นมา!”
เสียงหัวเราะร่าเยี่ยงคนบ้ายังคงกังวานทั่วฟ้าดิน ทว่าบรรยากาศรอบกายซูอี้ก็แปรเปลี่ยนไปอย่างเงียบงัน
ตู้ม!
ม่านแสงเวียนวัฏหกวิถีปรากฏขึ้นบนร่างสูงใหญ่ของเขาเยี่ยงโลกสีดำซึ่งกำลังหมุนอย่างช้า ๆ บดขยี้สุญญะและขวางการโจมตีของศัตรูเอาไว้
ขณะเดียวกัน ร่างของซูอี้ก็ทะยานออกไปเบื้องหน้า!
ดาบแห่งโลกาส่งวจีสะท้อนทั่วเก้าชั้นสรวงสะเทือนแดนดิน
ภาวะดาบอันทรงพลังแปรเปลี่ยนเป็นสระเวียนวัฏขนานกับขอบฟ้า มันดูตระการตาและงามลึกลับ หาต่างจากของจริงไม่
ด้วยดาบนี้ เขาพลันฟาดฟันเข้าใส่วงล้อมมุมหนึ่งของศัตรู
หนึ่งยอดฝีมือขอบเขตจุติมงคลหลบไม่ทัน เขาจึงถูกภาวะดาบอันแปรเปลี่ยนเป็น ‘สระเวียนวัฏ’ ทะลวงเป็นจุณ วิญญาณแหลกสลายในทันที
ผู้อื่นในบริเวณนั้นเองก็ถูกผลกระทบไปด้วย ร่างของพวกเขาซวนเซถอยหลัง
หงเฟยอวี่ตวาดอย่างเดือดดาล จากนั้นเขาก็สะบัดพัดหยกในมือ ดวงดารานับไม่ถ้วนสอดประสาน ทลายดาบของซูอี้ลงในทันที
ทว่าร่างของซูอี้ได้ฉวยโอกาสนี้ฝ่าวงล้อมไปหาศัตรูกลุ่มหนึ่งสำเร็จแล้ว!
ดุจมังกรทะลวงพันธนาการทะยานสรวง!
“ตาย!”
ทันทีที่เสียงเฉยเมยของซูอี้ดังขึ้น ปราณดาบหนึ่งสายอันฉวัดเฉวียนก็ป่นร่างหญิงงามชุดแดงผู้หนึ่งเป็นเสี่ยง ๆ
ก่อนหน้านี้ สตรีชุดแดงผู้นี้เคยกล่าวเย้ยว่าผู้รู้กาลเทศะคือคนฉลาด ซูอี้มิใช่คนโง่ คงรู้ว่าต้องตัดสินใจเช่นไร
ทว่ายามนี้ นางกลับกรีดร้องอย่างหวาดผวา ร่างวิญญาณสลายหายไปทันที!
“วอนตาย!”
หงเฟยอวี่เดือดดาลก่อนจะลงมือฆ่าฟันมิยั้งมือ
เคร้ง!!!
การโจมตีของหงเฟยอวี่ถูกดาบของซูอี้กร่อนทำลายไปพร้อมเสียงกัมปนาท ร่างของเขาเองก็สะเทือน
ซูอี้ฉวยโอกาสนี้ทะยานร่างสู่เวหาเยี่ยงเส้นแสง
ฉัวะ!
หนึ่งตัวตนในขอบเขตจุติมงคลซึ่งพุ่งมาจากไกล ๆ ถูกคมดาบสะบั้นก่อนจะทันได้ตั้งตัว
อำนาจวัฏสงสารอันทรงพลังน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา ป่นร่างคนผู้นี้เป็นผุยผงทันใด!
สถานการณ์เดือดพล่าน
เสียงอุทานฮือฮาดังนับมิถ้วน
ทุกผู้ล้วนตะลึงกับปาฏิหาริย์ตรงหน้า
“นี่คือการโจมตีโต้ตอบหรือ?”
“อย่างโหด! โหดมาก!”
ทั่วแดนเกิดเสียงลือลั่น เหล่าวิญญาณอาสัญจากกลุ่มเต๋าโบราณทั้งหลายล้วนตื่นเต้นตาม ๆ กัน
“เกิดอันใดขึ้น?”
และยังมีหลายคนที่มิอาจตามทัน
ก่อนหน้านี้ สถานการณ์ของซูอี้อันตรายอย่างยิ่ง เขาถูกล้อมโจมตี คนที่มองจากไกล ๆ ก็รู้สึกหนาวเยือกสิ้นหวังแทน
ทว่าเพียงพริบตา ซูอี้ก็ตอบโต้กลับอย่างร้ายกาจ!
เขาไม่เพียงทำลายวงล้อมของศัตรู แต่ยังสังหารตัวตนในขอบเขตจุติมงคลทั้งสามคนลงเพียงชั่วดีดนิ้ว แม้หงเฟยอวี่จะทุ่มโจมตีสุดกำลังก็ยังมิอาจหยุดเขาได้!
เหตุการณ์พลิกผันนี้รวดเร็วเสียจนหลายคนตั้งตัวไม่ติด
“หนึ่งดาบเรืองประกายเยียบเย็นสู่เก้าชั้นฟ้า! ยามสะเทือนถึงเซียนบนชั้นฟ้า ใครเล่าจะกล้าบอกคมทื่อ!”
เซียนดาบชิงซื่อตกตะลึง หัวใจระรัวสั่น
งดงาม!
ช่างแสนงดงาม!
“ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้… พวกเราล้วนแต่เหมือนตัวถ่วงจริง ๆ…”
จอมภูตมู่หลิงยิ้มเจื่อน
ก่อนหน้านี้ เซียนดาบชิงซื่อบอกว่าพวกเขาอาจกลายเป็นตัวถ่วงของซูอี้ ทว่าพวกเขาล้วนทำใจเชื่อไม่ลง
ยามนี้ เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งสะเทือนนภาของซูอี้ นอกจากตกตะลึง พวกเขาก็อดรู้สึกละอายแก่ใจตนมิได้
“หลวงจีนผู้นี้ไม่คาดเลยว่าเพียงหนึ่งเดือน ความแข็งแกร่งของสหายเต๋าซูจะแปรเปลี่ยนไปเพียงนี้…”
ดาบพุทธะสรรพสุญตารำพัน
หนึ่งเดือนมานี้ ซูอี้แทบปิดตัวเงียบจากทุกคน
ทว่าซูอี้ก็ดูราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนในหนึ่งเดือนนี้เช่นกัน แตกต่างจากกาลก่อนโดยสิ้นเชิง
ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้ดาบพุทธะสรรพสุญตามิกล้าแม้แต่จะเชื่อ
ยามโลกหล้าปั่นป่วน ศึกใหญ่ใต้ท้องนภาก็เละเทะสิ้นหวัง
พวกหงเฟยอวี่โจมตีราวกับเป็นบ้าไปแล้ว
ทว่าทุกสิ่งล้วนไร้ค่า มิอาจล้อมโจมตีซูอี้เยี่ยงกาลก่อนได้อีกต่อไป!
ตู้ม!
บริเวณโดยรอบแตกเป็นเสี่ยง ปราณดาบอวดศักดาแข็งแกร่ง
สองตัวตนในขอบเขตจุติมงคลกรีดร้อง แล้วร่างของพวกเขาก็ระเบิดแทบจะพร้อมเพรียงกัน
อำนาจของซูอี้ ณ ขณะนี้แข็งแกร่งเกินไป เพียงหนึ่งขยับกาย ภาวะดาบก็คลั่งเคลื่อนเยี่ยงกระแสนทีป่วนนภาสรวงแดนดินทั่วทิศ เคล็ดพลังวัฏสงสารปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
“ตาย!”
ทันใดนั้น ชายชราชุดเหลืองผู้หนึ่งก็คำรามขณะใช้อาวุธสังหารของตนออกมา
มันเป็นยันต์ลับวิถีเซียนชิ้นหนึ่ง แปรเปลี่ยนเป็นอสนีบาตสีม่วงกลางเวหาฟาดเข้าใส่ซูอี้
ดาบของซูอี้วูบไหวบนอากาศ
วูบ!
ม่านดาบทรงกลมพลันปรากฏขึ้น และเมื่ออสนีบาตเซียนฟาดลงมา พวกมันก็ล้วนถูกม่านดาบนี้ปะทะจนสลายสิ้น
และเมื่อซูอี้ขยับคมดาบอีกเล็กน้อย
ม่านดาบทรงกลมก็แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทุกข์อันไร้ขอบเขต จมร่างของชายชราชุดเหลืองหายไปทันที
เขาถูกสังหารไปเสียเช่นนั้น!
ภาพนี้ทำให้จิตต่อสู้ของเหล่าศัตรูร้ายสั่นคลอนจนสันหลังหนาววาบไปตาม ๆ กัน
ยามนี้ ฝั่งพวกเขาเหลือเพียงตัวตนขอบเขตจุติมงคลสิบคน!
และซูอี้ก็หามีผู้ใดหยุดได้ไม่ แม้กระทั่งทายาทเซียนอย่างหงเฟยอวี่ยังหยุดการโจมตีของซูอี้มิได้!
“ทุกคนถอยไป!”
หงเฟยอวี่ตวาดลั่นด้วยดวงตาแดงฉาน
เขากล่าวพลางสะบัดแขนเสื้อ
ตู้ม!
แสงเซียนร้ายกาจสายหนึ่งทะยานพาดนภา แปรเปลี่ยนเป็นมังกรครามยักษ์ตนหนึ่งอันเปี่ยมด้วยสายฟ้าแสงเซียนดุจน้ำตก คู่เนตรใหญ่โตราวหินโม่
มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียว!
สัตว์ร้ายผู้ถือกำเนิดในโลกเซียน อำนาจของมันไร้จำกัด และยังถือครองอสนีบาตเซียนชิงกังที่ดุร้ายไร้คู่เปรียบ
“โฮก!”
เมื่อมังกรตนนี้คำราม ทั่วฟ้าดินก็สะเทือนสั่น อำนาจน่าสะพรึงกลัวแผ่ทั่วแดนเยี่ยงพายุคลั่ง เหล่ายอดฝีมือวิถีจุติสรวงล้วนตะลึงไปตาม ๆ กัน
ปราณของมังกรนี้แข็งแกร่งสะเทือนหล้ายิ่งนัก!
ขณะเดียวกัน มังกรนี้ก็ขดตัวเหนือศีรษะของหงเฟยอวี่ คู่เนตรเย็นชาจับจ้องซูอี้ ร่างเปี่ยมด้วยจิตสังหารกระหายเลือด
“เจ้าเขียว ฆ่าเขาซะ!!”
หงเฟยอวี่คำรามด้วยท่าทางบ้าคลั่ง
ตู้ม!
มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวสะบัดหัวฟาดหาง กรงเล็บกวาดผ่านนภาเยี่ยงอสนีบาตเขียวเข้าใส่ซูอี้
แดนดินแหลกสลาย แสงเซียนสาดคลั่ง
อำนาจเช่นนั้นทำให้ทุกคนในบริเวณรู้สึกครั่นคร้าม
เปรี้ยง!
ซูอี้ฟาดดาบฟันใส่มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวตนนี้อย่างรุนแรง ทว่าผลกลับกลายเป็นว่าเขาถูกกระแทกกระเด็นไปทันที เลือดลมในกายปั่นป่วน ดาบแห่งโลกาในมือสะเทือนสั่นเล็กน้อย
“สัตว์ร้ายนี่ไยจึงแข็งแกร่งเพียงนี้กัน?”
ซูอี้ประหลาดใจ
“คนแซ่ซู เจ้าควรรู้สึกโชคดีนะ หากมิใช่เพราะเจ้าเขียวถูกทำลายร่างวิถีไปในหายนะสิ้นกฎเกณฑ์จนหลงเหลือเพียงวิญญาณดั้งเดิมล่ะก็ เจ้าจะไม่มีสิทธิ์จะตายด้วยมือเจ้าเขียวด้วยซ้ำ!”
หงเฟยอวี่ตะโกน
ตู้ม!
มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวพุ่งเข้าหาซูอี้อีกหน ยกหางใหญ่เยี่ยงขุนเขาของมันขึ้น ก่อนจะฟาดเข้าใส่เยี่ยงแส้ยาวในมือเทพเซียนทะยานจากสรวง
เพียงพริบตา ซูอี่ก็ถูกฟาดกระเด็นไปอีกหน อสนีบาตเขียวอันบรรจุอำนาจทำลายล้างแห่งวิถีเซียนมีอำนาจสูงส่งยิ่ง ทำให้สภาพของซูอี้ค่อนข้างทุลักทุเล
เขาลงมือด้วยอำนาจต่อสู้สูงสุดอย่างสุดกำลัง ทว่าก็ยังถูกฟาดกระเด็น!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวตนนี้พิเศษเหนือธรรมดาอย่างยิ่ง
“ฮ่า ๆๆ เจ้าเขียว รีบฆ่าเขาเสีย เร็วสิ!”
หงเฟยอวี่ซึ่งอยู่ไกลออกไปเชิดหน้าหัวเราะลั่น ดวงตาเผยประกายบ้าคลั่ง
ตัวตนรอบกายเขาล้วนรู้สึกโล่งใจ
ส่วนผู้อื่นในบริเวณล้วนตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสี
“มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวเป็นสายพันธุ์ที่มีเฉพาะในโลกเซียน มันสามารถกลืนกินตัวตนในขอบเขตจุติมงคลได้โดยง่าย ดุร้ายยิ่งนัก! ต่อให้เหลือเพียงวิญญาณในยามนี้ ความร้ายกาจดุดันก็ยังสามารถเทียบได้กับตัวตนในขอบเขตจุติมงคลขั้นต้นยามสมบูรณ์พร้อม!”
สีหน้าของเซียนดาบชิงซื่อถมึงทึง
ในโลกหล้าทุกวันนี้ ตัวตนในขอบเขตจุติมงคลทั่วโลกหล้าล้วนแต่เป็นวิญญาณอาสัญ พลังของพวกเขาอ่อนลงกว่ายามมีชีวิตมาก นอกจากนั้นยังถูกกฎสวรรค์ฉุดรั้ง อำนาจมหาวิถีของพวกเขาจึงอ่อนแอลงอย่างยิ่ง
ทว่ามังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวตนนี้แตกต่างออกไป มันเป็นสัตว์ร้ายที่มีเพียงในโลกเซียน อำนาจที่แสดงจึงเทียบเท่ากับตัวตนในขอบเขตจุติมงคลขั้นต้นได้!
ตู้ม!
มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวโจมตีเข้ามาอีกหนด้วยความดุดันและร้ายกาจ
คู่เนตรเยี่ยงหินโม่เปี่ยมความโหดเหี้ยม
เขาพลิกฝ่ามือ
เตาหลอมสำริดที่มีขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้นมา มันเก่าแก่และเรียบง่าย มีสนิมขึ้นเกรอะกรัง มีแสงเซียนสีม่วงกรุ่นอยู่ภายในเตา
เตาเสริมสวรรค์!
ยามมังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวกระโจนเข้ามา เตาเสริมสวรรค์พลันร้องคำราม ส่งแสงเซียนสีม่วงจรัสจ้าก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอักขระเซียนแปลกตาอาบร่างของมังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวเอาไว้
“ไม่นะ! นายน้อยช่วยด้วย!!!”
เจ้าสัตว์ร้ายแผดเสียงร้องอย่างหวาดผวา ขณะดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
ทว่าก็ไร้ผล อักขระเซียนสีม่วงนั้นประหลาดอย่างยิ่ง มันสร้างอำนาจสะกดร้ายกาจซึ่งทำให้มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวมิอาจดิ้นรน ร่างซึ่งเดิมใหญ่โตเป็นร้อยจั้งของมันก็หดลงอย่างต่อเนื่อง
เพียงพริบตามันก็เหลือความหนาเพียงตะเกียบ ดูเหมือนหนอนตัวยาวสีเขียวที่มีขนาดจ้อย ก่อนจะถูกอักขระสีม่วงนั้นลากเข้าไปในเตาเสริมสวรรค์
เสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังของมังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวสะท้อนก้องทั่วฟ้าดิน
ทุกผู้ล้วนผงะอึ้ง
“นี่…”
หงเฟยอวี่ตะลึง รอยยิ้มค้างอยู่บนใบหน้า
มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวตนนั้น เดิมเป็นไม้ตายที่ญาติผู้ใหญ่ตระกูลหงให้เขามา ทว่ากลับถูกปราบไปเช่นนี้!
ตัวตนในขอบเขตจุติมงคลรอบกายเขาเองก็ชะงักงัน นี่มันเรื่องอันใดกัน? นั่นมันมังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวตนหนึ่งเลยนะ!
ทุกคนล้วนตกใจกับเหตุพลิกผันเช่นนี้
“เตานี่ดีจริง ๆ”
ซูอี้รำพึง
เตาเสริมสวรรค์นั้นเป็นที่เลื่องลือว่าสามารถหลอมได้ทุกสิ่งทั่วฟ้าดิน!
นอกจากหลอมยาตีอาวุธ มันยังสามารถหล่อหลอมได้ทั้งนภาสรวงแดนดิน ตะวันจันทราดวงดาว!
ไม่ว่ามังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวตนนั้นจะแข็งแกร่งเพียงไร ยามอยู่ต่อหน้าสมบัติเซียนเยี่ยงเตาเสริมสวรรค์ สุดท้ายก็มิอาจต่อกรได้อยู่ดี!
………………..