บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1385: เจตจำนงเซียน
ตอนที่ 1 385: เจตจำนงเซียน
การที่มังกรเซียนดาวฤกษ์เขียวถูกกำราบเป็นดั่งการตบหัวพวกหงเฟยอวี่อย่างรุนแรง
เดือดดาล
ตกใจ
ผงะ
สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไปชั่วขณะ หัวใจแต่ละผู้ล้วนได้รับการกระทบกระเทือน
และก่อนจะทันตั้งตัว ซูอี้ก็เหวี่ยงดาบโจมตีเข้ามา
ตู้ม!
ปราณดาบพุ่งทะยานผ่านนภา
มหาสงครามดำเนินต่อ
เพียงพริบตา ยอดฝีมือในขอบเขตจุติมงคลก็ตายลงอย่างอนาถอีกสามตน ร่างของพวกเขาสลายไปท่ามกลางภาวะดาบวัฏสงสาร
หงเฟยอวี่หลับหูหลับตาโจมตีสุดกำลัง
ทว่าไม่ว่าตนจะใช้เคล็ดวิชาใดออกมา ซูอี้ก็ปัดป้องออกได้ทุกคราไป!
อำนาจของซูอี้ในขณะนี้ทรงพลังเกินไป ทุกการชี้ดาบนำไปสู่การโจมตีที่เกินต้านทาน!
เหล่าผู้เฝ้ามองล้วนตะลึงจนสติหลุดลอย
นับแต่เริ่มศึกจวบจนยามนี้ได้เกิดเหตุพลิกผันขึ้นมากมาย ทว่าไม่มีผู้ใดจะคาดคิดว่าซูอี้ผู้มีเพียงตนและหนึ่งดาบจะสามารถพลิกสถานการณ์ และสังหารศัตรูได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!
มันช่างน่าเหลือเชื่อ พลิกความคาดฝันของผู้คนกลับด้านได้โดยสิ้นเชิง
ทุกคนที่นี่ล้วนสั่นสะท้านทั้งกายใจ
เปรี๊ยะ!
เสียงหนึ่งสมบัติแหลกร้าวดังก้อง
คนอื่น ๆ พยายามหลบหนี
ทว่าเมื่อซูอี้กวาดดาบออกไป หนึ่งเส้นทางสุดวิถีก็ปรากฏขึ้นดุจเพลิงผลาญ และนำไปสู่แดนอนธการไร้สิ้นสุด
ยอดฝีมือขอบเขตจุติมงคลซึ่งกำลังหลบหนีถูกกวาดเข้าสู่หนทางสุดวิถีโดยมิทันตั้งตัว ร่างของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นพิรุณแสงสลายไป
“น-น-นี่… แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
จอมภูตมู่หลิงและพวกมารดาบสกุลหวงต่างอดตัวสั่นไม่ได้
ขอบเขตจุติมงคลนั้นนับว่าเป็นตัวตนสูงสุดในโลกหล้าทุกวันนี้แล้ว!
แม้ว่าร่างของพวกเขาจะเป็นวิญญาณอาสัญและถูกเหนี่ยวรั้งด้วยข้อจำกัดของกฎสวรรค์ แต่อำนาจต่อสู้ที่พวกเขามีก็เหนือกว่าตัวตนอื่นใดทั่วโลกหล้า
ทว่ายามนี้ ยอดฝีมือขอบเขตจุติมงคลจากกลุ่มเต๋าโบราณต่าง ๆ กลับถูกสังหารตนแล้วตนเล่า!
ใครเล่าจะเคยคิดฝัน?
พวกเขาแต่ละคนล้วนตระหนกลนลาน สีหน้าเปี่ยมความสยดสยอง เห็นได้ชัดว่าตกใจกลัวจนจิตต่อสู้พังทลาย!
วันนี้ยามมาเยือนเป็นครั้งแรก พวกเขาต่างเฮฮาเสสรวลวางอำนาจทั่วหล้า หามีซูอี้ในสายตาไม่
ทว่ายามนี้พวกเขาแต่ละคนล้วนลนลานเยี่ยงสุนัข!
“ขึ้นมา!”
หงเฟยอวี่ตวาด
สีหน้าของเขาแข็งทื่อ ขณะสะบัดมือออกไป
เรือเซียนล่องนภาปรากฏขึ้นมา รัศมีของมันเรืองรอง พาพวกหงเฟยอวี่หนีไปไกลลิบทันที
หนีหรือ?
ทุกผู้ที่นี่แทบกระเจิดกระเจิงในสายลม
คิดให้หัวแตก พวกเขาก็ไม่คิดอยู่ดีว่าเทพมารน้อยแห่งตระกูลหงผู้สูงส่ง ตัวตนไร้คู่เปรียบที่มีอุปนิสัยเย่อหยิ่งอหังการจะถูกโจมตีจนหนีกระเจิง!
“กำราบ!”
เสียงเฉยเมยของซูอี้ดังขึ้น
ดาบแห่งโลกาในมือของเขาส่งวจี
ตู้ม!
อำนาจกฎเร้นลับต้องห้ามอันเจือปราณดาบเก้าคุมขังแผ่ออกมาจากดาบแห่งโลกา
ทันใดนั้น ทั่วโลกหล้าราวกับถูกพันธนาการ รัศมีหลายพันจั้งในพื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมด้วยอำนาจกฎเร้นลับต้องห้าม
กระทั่งอณูฝุ่น ประกายแสงและสายลมบนอากาศยังดูนิ่งจนเกิดเป็นสภาวะนิ่งงันอย่างน่าประหลาด
เปรี้ยง!!!
อากาศที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันจั้งปริร้าว
เรือเซียนล่องนภากระชากเอนเอียงราวติดหล่ม ถูกกฎเร้นลับต้องห้ามเข้าขวางไว้
“บ้าเอ๊ย!”
หน้าของหงเฟยอวี่เปลี่ยนสี
และยามนี้ ซูอี้ก็เคลื่อนผ่านนภาเข้าหา
หัวใจของพวกหงเฟยอวี่ที่อยู่บนเรือเซียนล่องนภาร่วงลงสู่ก้นเหว
“คนแซ่ซู เจ้าปล่อยข้าไป แล้วข้ารับปากว่าตระกูลหงของข้าจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก หากข้าตายไป มิเพียงเจ้าจะตาย แต่ทุกคนรอบกายเจ้าจะตายตกไปกับเจ้าด้วยนะ!”
หงเฟยอวี่ร้องลั่น
คำขู่เช่นนี้ทำให้ทุกคนที่นี่ล้วนเปลี่ยนสีหน้า
ไม่ว่าใครก็มิอาจปฏิเสธความน่าสะพรึงกลัวของตระกูลหงได้
ตระกูลนี้สืบเชื้อสายมารสวรรค์จากโลกเซียน มีภูมิหลังร้ายกาจอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่กลุ่มเต๋าโบราณในโลกหล้าเลย กระทั่งทายาทเซียนบนแดนมนุษย์ยังมีน้อยคนที่จะกล้าสู้กับตระกูลหง!
ทว่าทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อซูอี้หาสนใจไม่ เขาฟาดดาบเข้าใส่หงเฟยอวี่
เฉียบคมตรงไปตรงมา ไร้ความลังเล
ตู้ม!!
เรือเซียนล่องนภาสะเทือนไหวรุนแรง
ภาวะดาบเกรี้ยวกราดจนทำให้พวกหงเฟยอวี่เกือบร่วงจากเรือ
“เจ้า…”
หงเฟยอวี่โกรธแทบคลั่ง เมื่อเห็นซูอี้โจมตีอีกหน เขาก็คว้าตัวตนขอบเขตจุติมงคลใกล้มือผู้หนึ่งโยนเข้าใส่ซูอี้
ทุกผู้ “???”
ยอดฝีมือขอบเขตจุติมงคลซึ่งถูกขว้างเข้าใส่ซูอี้นั้นยิ่งตกใจหนัก สบถออกมาดังลั่น “ไอ้@#¥…”
ตู้ม!
ปราณดาบระเบิดผ่านเวหาเข้าใส่คนผู้นั้น ทำให้เสียงสบถอย่างโกรธเคืองของเขาจบลง
ขณะที่ซูอี้ทะยานสู่เวหาที่อยู่เหนือเรือเซียนล่องนภา เขาก็ฟาดฟันดาบลงมา
รวดเร็วยิ่ง!
กวาดล้างทำลาย!
หงเฟยอวี่คว้ามือหา ทว่าก็เจอเพียงความว่างเปล่า
ส่วนตัวตนอื่น ๆ ในขอบเขตจุติมงคลได้ลี้หลบไปไกลแล้ว ทุกคนต่างจ้องมายังหงเฟยอวี่อย่างโกรธเคือง คิดด่าพ่อล่อแม่เป็นเสียงเดียว
ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ใครเล่าจะคาดคิดว่าหงเฟยอวี่จะใช้พวกเดียวกันมาขวางการโจมตี?
สามานย์เกินไปแท้ ๆ!
ตู้ม!!
ปราณดาบอันไพศาลร่วงโปรย เรือเซียนล่องนภาโคลงเคลงเจียนคว่ำ
“ข้าจะสู้ตายกับเจ้าเอง!”
ขณะนี้ หงเฟยอวี่ดูจะบ้าไปแล้วโดยสมบูรณ์ เขากัดฟันกรอด ยกมือขึ้นขว้างยันต์ลับสีเลือดชิ้นหนึ่ง
ยันต์ลับปริแตกและเงาร่างเยี่ยงเทพปีศาจก็ปรากฏสู่โลกหล้า!
ตู้ม!
ทั่วฟ้าดินเดือดพล่าน อากาศแหลกร้าว
ม่านตาของซูอี้หดตัวขณะเอี้ยวตัวหลบ
พลังของร่างนั้นร้ายกาจเกินไป มันกระทั่งทำให้กฎสวรรค์สั่นคลอนได้
เมื่อมองดี ๆ จะพบว่าอีกฝ่ายเป็นชายชุดดำผู้หนึ่ง ร่างสูงใหญ่ ดวงตาดุจตะวันจันทรา ปราณร้ายกาจครอบงำทั่วหล้า
แสงเซียนสีดำพร่างพรมจากร่างเยี่ยงธารดาราเก้าชั้นสรวง สะกดผืนฟ้าสลายอากาศ!
“เจตจำนงเซียน!”
เซียนดาบชิงซื่อร้องเสียงหลง “เป็นไปได้เช่นไร ในโลกหล้าทุกวันนี้ กฎสวรรค์มิยอมให้อำนาจเช่นนี้โผล่มาอยู่แล้ว!”
“ไม่สิ เจตจำนงเซียนถูกทำลายไปด้วยกฎสวรรค์แล้วเช่นไร? ขอเพียงเขาสังหารสหายเต๋าซูได้ก่อน หงเฟยอวี่ก็รอดชีวิตได้!”
เซียนนั้นยืนเด่นเป็นเลิศเหนือโลกหล้า!
แม้ว่าเจตจำนงแห่งเซียนจะเป็นเพียงเศษเสี้ยว แต่ก็สามารถสังหารยอดฝีมือขอบเขตจุติมงคลได้!
เพราะอำนาจเช่นนั้นอยู่เหนือโลกแห่งมนุษย์ไปไกลลิบ
เหล่าผู้ชมล้วนเงียบกริบ ร่างของพวกเขาสั่นระรัวอย่างหวาดผวา
โบราณกาลนั้นมีเซียนอยู่ในโลกหล้า ทิ้งสารพัดตำนานเลอเลิศไว้เกินคณานับ พวกเขาแต่ละคนล้วนตระหง่านค้ำโลกา เป็นตัวตนเหนือสรรพสิ่งชั่วกาลนาน
ยามนี้ เจตจำนงเซียนปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุ เพียงอำนาจที่แสดงออกมาก็ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวังได้
ร้ายกาจยิ่ง!
“ท่านบรรพชน โปรดช่วยข้าสังหารศัตรูร้ายด้วยเถิด!”
หงเฟยอวี่ตะโกน
อันที่จริง เขาไม่ต้องกล่าวเตือนใด ๆ ชายชุดดำจากอำนาจเจตจำนงก็ลงมือทันทีที่ปรากฏกายแล้ว
เขากดฝ่าเท้าลงไปบนอากาศ
ตู้ม!
โลกหล้าพลิกกลับด้าน ทั่วแดนระอุแผดเผา
แสงเซียนทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นหัตถ์ใหญ่ปรกนภาทะยานลงบดขยี้
ไร้หนทางหลบหนี อำนาจวิถีเซียนปกคลุมทั่วทิศเช่นนั้นไร้ทางหนีใด ๆ!
ขณะนี้ทุกคนล้วนหน้าซีดราวได้เห็นซูอี้ถูกฆ่าฟันอย่างน่าสยดสยอง
ขณะนี้ เซียนดาบชิงซื่อ ดาบพุทธะสรรพสุญตาและคณะล้วนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดวงตาเหลือกถลน
ใครเล่าจะคิดว่าหงเฟยอวี่จะยังมีไพ่ตายอันมิเป็นที่ยอมรับแห่งกฎสวรรค์อยู่อีก?
หัวใจของซูอี้ครั่นคร้าม สัมผัสถึงภัยคุกคามถึงตายทะยานปะทะหน้า
เขาใช้เตาเสริมสวรรค์ เร่งสมบัตินี้อย่างสุดกำลังโดยไร้ลังเล!
เตาเสริมสวรรค์คำรามก้อง ระเบิดแสงเซียนสีม่วงจากปากเตาแปรเปลี่ยนเป็นอักขระวิถีเซียน พาดทะยานเหนือนภาไกล
เสียงคำรามสะเทือนแดนดินดังก้อง ฟ้าดินถล่มทลาย แสงเซียนแผ่ออกอย่างบ้าคลั่ง ทำให้คนส่วนใหญ่ถอยหนีไปอย่างหวาดผวาจะถูกลูกหลง
หัตถ์ใหญ่ปรกนภาที่เจตจำนงเซียนสร้างขึ้นถูกขวางและสลายไปกลางอากาศอย่างไม่น่าเชื่อ
ทว่าร่างของซูอี้และเตาเสริมสวรรค์ก็ปลิวไปอย่างรุนแรง โลหิตหยาดหยดจากริมฝีปาก รอยแผลมากมายปรากฏบนร่าง
เหล่าผู้ชมล้วนเงียบสงัด
ขวางไว้ได้!!
ความตกตะลึงอย่างมิอาจบรรยายพุ่งขึ้นในใจอันว่างเปล่า
หนึ่งราชันแห่งภูมิในขอบเขตไร้ขีดจำกัดหยุดหนึ่งการโจมตีจากเจตจำนงเซียนได้!?
เรื่องอุกอาจอันน่าขันเช่นนี้มิเคยเกิดขึ้นมาก่อนแม้ในโบราณกาล
พวกหงเฟยอวี่ล้วนตกตะลึงเพราะไม่อาจคาดคิดได้ว่าซูอี้ทำได้อย่างไร
“ฮึ!”
ชายชุดดำผู้แปลงมาจากเจตจำนงเซียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและเตรียมโจมตีอีกหน
เปรี๊ยะ!
อสนีบาตอันแปรเปลี่ยนจากกฎสวรรค์เหนือนภาปรากฏสู่โลกหล้า พุ่งกระแทกร่างของชายชุดดำอย่างรุนแรงจนโซเซ ร่างของเขาพร่ามัว ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมากมาย
นี่คือการตอบโต้จากกฎสวรรค์ ทำให้เจตจำนงเซียนบาดเจ็บสาหัสในการโจมตีเดียว!
ทว่าชายชุดดำหาสนใจไม่ สองมือประสานประทับตรา
อำนาจเจตจำนงในร่างของเขาแผดเผาในทันใด ก่อนที่มันจะหลั่งไหลเข้าสู่รอยประทับฝ่ามือจนกลายเป็นแสงเจิดจรัสอันน่าสะพรึงกลัว
แย่แล้ว!
ทุกคนใจสั่นหวาดสะพรึง
ซูอี้อดขมวดคิ้วมิได้ ความรู้สึกถึงอันตรายภายในใจรุนแรงขึ้น
นี่คือครั้งแรกที่เขาได้พบกับหายนะอันตรายเพียงนี้นับแต่ฝึกฝนมา
ท้ายที่สุด ความแตกต่างของความแข็งแกร่งก็ยังมากเกินไป ทั้งสองห่างกันด้วยวิถีจุติสรวงสามขอบเขตเต็ม ๆ ทั้งยังรวมถึงวิถีเซียนอันยิ่งห่างชั้น!
ด้วยความแข็งแกร่งของตนเองลำพัง หากเปลี่ยนเป็นตัวตนในวิถีจุติสรวงก็มิอาจรั้งไหว!
“แค่เสี้ยวอำนาจของเจตจำนงเซียนเสี้ยวเดียว อยากให้ข้าช่วยทำลายมันหรือไม่?”
ทันใดนั้น ซูอี้ก็ตระหนักว่าเสียงของชาติที่หกดังมาจากดาบเก้าคุมขังภายในห้วงความนึกคิดของเขาอย่างเย้ยหยาม
“มิต้องหรอก”
ดวงตาของซูอี้สุขุม ขณะกล่าวปฏิเสธโดยไม่คิด
เขายังมิได้ถูกต้อนจนมุมถึงเพียงนั้น
“ตาย!”
ไกลออกไป ชายชุดดำกล่าวอย่างเย็นชา และเมื่อยกมือขึ้น เขาก็เหมือนยกดวงตะวันทมิฬขึ้นหนึ่งดวง
พลังอันร้ายกาจนั้นทำให้ทั่วฟ้าดินบิดเบี้ยว
ดวงตาทุกคู่เจ็บแปลบ หัวใจแทบแหลกสลาย มิอาจคาดเดาได้ว่ายามการโจมตีนี้ทะยานออกมา จะก่อความวินาศร้ายแรงเพียงใด
แทบจะขณะเดียวกัน ซูอี้ก็สูดหายใจลึก ๆ ดวงตาฉายประกายมุ่งมั่น
“ขึ้นมา!”
เตาเสริมสวรรค์ปรากฏขึ้น แสงเซียนสีม่วงเฉิดฉายเยี่ยงน้ำตก และทันใดนั้นมันก็ขยายร่างเป็นสิบจั้ง บนตัวเตาเปื้อนสนิมมีลวดลายวิถีลึกลับ งดงามและประหลาดตาปรากฏขึ้น
ยามนี้ซูอี้ทุ่มกำลังสุดตัว ถ่ายเทพลังทั้งหมดของเขาลงสู่สมบัติเซียนชิ้นนี้ ทำให้มันเผยการเปลี่ยนแปลงที่มิเคยเกิดขึ้นมาก่อน
มีแสงเซียนเจิดจรัสสายหนึ่งทะยานจากในเตา ดุร้ายเยี่ยงกระทิงคลั่ง!