บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1503: รากหยั่งฮุ่นตุ้น ใบเจียรสรวงสวรรค์
- Home
- บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
- ตอนที่ 1503: รากหยั่งฮุ่นตุ้น ใบเจียรสรวงสวรรค์
เมื่อถูกดวงตาสีม่วงของสตรีถือหอกจับจ้อง หลีจงก็แทบสิ้นลมหายใจ หัวใจเผยเค้าสิ้นสลาย
เรารีบกล่าวว่า “เราไม่อาจทราบที่อยู่ของใต้เท้าซูได้ เหมือนเช่นมังกรทิพย์อันไม่อาจเห็นหัวหรือหาง ตาเฒ่าไร้ค่าผู้นี้มิอาจทราบจริงๆ ว่าใต้เท้าซูไปยังแห่งหนใด”
สตรีถือหอกถอนหายใจกล่าว “หากภายหลังข้ารู้ว่าเจ้าโกหก ข้าจะเปิดรูที่คอเจ้าให้!”
กล่าวจบ นางก็หันหลังจากไป
หลีจงโล่งอก ปาดเหงื่อเย็นเฉียบบนหน้าผากของเขาทันใด สตรีผู้นี้เป็นใครกัน ไฉนเขาจึงมิเคยพบมาก่อน?
ร้ายกาจยิ่งนัก!
……
ลึกเข้าไปในแดนรกร้างสีเลือด
ขุนเขาสูงใหญ่นั้นอาบไล้อสนีบาตฟาดคลั่ง ปราณทำลายล้างพลุ่งพล่านทั่วแดนดินบิดเบี้ยวพังทลาย
ห่างออกไป ซูอี้นั้นประหลาดใจ
เขาไม่คาดเลยว่าอสนีบาตเช่นนี้ซึ่งหาได้ยากยิ่งในโลกเซียนจะมาปรากฏในสนามรบแรก
“นี่คือสิ่งพิเศษของเขตแดนสมรภูมิ”
ดวงตาพร่างประกายของอาไฉ่ดุจภาพมายา กล่าวกระซิบออกมาว่า “มันเชื่อมต่อโลกมนุษย์และโลกเซียนเข้าหากัน ไร้สิ่งใดแทนที่ได้ นับว่าการมีอยู่ของเขตแดนสมรภูมิสำคัญเสียยิ่งกว่าส่วนอื่น ๆ ในโลกเซียน”
ซูอี้ครุ่นคิดล้ำลึก
ในโลกเซียนมีเส้นทางสู่โลกมนุษย์อยู่ไม่มากนัก
และสถานที่อันเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และโลกเซียน สามารถทำให้ยอดฝีมือขอบเขตจุติมงคลจุติสรวงบรรลุเซียนได้เหมือนเช่นเขตแดนสมรภูมินั้นก็ยิ่งน้อยไปใหญ่
“สมบัติที่เจ้าพูดถึงอยู่ในหุบเขานี้หรือ?”
ซูอี้ทอดสายตามองขุนเขาอันอาบด้วยอัสนีเซียนทลายสุญตาจากไกล ๆ
“ถูกต้อง มันตั้งอยู่ข้างผาบนเขานี้ ที่นั่นมีสระอสนีบาตอันก่อจากที่มาของอัสนีเซียนทลายสุญตานี้อยู่ และวัตถุศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้นนั้นก็อยู่ภายใน”
อาไฉ่กล่าวออกมาเช่นนี้ แล้วคิ้วอันเหมือนกิ่งหลิวของนางก็ขมวดหากันเล็กน้อย “แต่การชิงสมบัตินี้มาช่างยากยิ่ง กาลก่อน ข้าพยายามหลายต่อหลายหน และทุกครายามไปถึงยอดเขา ข้าก็จะถูกกีดกันไว้โดยอำนาจกฎเกณฑ์ลึกลับ หากฝืนเข้าไปก็มีแต่จะถูกดีดออกมาเสมอเลย”
“ข้ากระทั่งสงสัยว่าที่ตั้งยอดเขาใกล้สระอสนีบาตนั่นจะเป็นเขตหวงห้ามซึ่งถูกหมายไว้โดยยอดฝีมือบางผู้”
ได้ยินเช่นนี้ คิ้วของซูอี้ก็เลิกขึ้นเล็กน้อย กล่าวขึ้นทันที “ไป ไปดูกันเถอะ”
“ได้!”
อาไฉ่เดินนำทาง
เมื่อมาถึงขุนเขานั้น ปลายนิ้วเรียวของอาไฉ่ก็กวาดวาด วงแหวนศักดิ์สิทธิ์อันเรืองรองด้วยฤทธิ์เซียนปรากฏขึ้น ขวางการโจมตีของอัสนีเซียนทลายสุญตาไว้ทันที
จากนั้น นางก็พาซูอี้เดินสู่ยอดเขา
ตลอดทางไร้อันตราย
ทว่ายามใกล้ถึงยอดเขา อำนาจของอัสนีเซียนทลายสุญตาแปรเปลี่ยนเป็นร้ายกาจยิ่ง มันหลั่งไหลพร่างพรมเยี่ยงวารีทะลวงเขื่อน
วงแหวนเซียนศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าอาไฉ่สั่นสะท้านรุนแรง
สภาพของอาไฉ่ดูฝืนดิ้นรนอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าจิ้มลิ้มงดงามของนางปรากฏความเคร่งขรึม รีบกล่าวขึ้นว่า “สหายเต๋า เจ้าดูสิ นั่นคือที่มาแห่งอัสนีเซียนทลายสุญตา”
เมื่อมองตามไป เขาก็ได้เห็นว่า ณ บริเวณยอดเขามีอสนีบาตสาดคลั่ง หนึ่งสระอสนีบาตขนาดราวหนึ่งจั้งปรากฏให้เห็นรำไร!
อัสนีเซียนทลายสุญตาอันเดือดพล่านแปรเปลี่ยนเป็นหยาดวารีหมุนวนกระเพื่อมอยู่ในสระอสนีบาตนั้น
แรกทัศนา สายฟ้าเกรี้ยวกราดเจิดจรัส ปราณทำลายล้างพลุ่งพล่าน แดนดินใกล้เคียงเผยสัญญาณพังทลายสูญสิ้น
“วัตถุศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้นนี้อยู่ที่ก้นสระอสนีบาต”
ดวงตาของอาไฉ่รุ่มร้อน “ก่อนหน้านี้ ข้าค้นหาหลายต่อหลายครั้ง และสงสัยว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้นนั้นน่าจะเป็นหญ้าต้นหนึ่ง”
“หญ้า?”
ซูอี้ตะลึง โคจรเคล็ดวิชาวิเศษ ดวงตาเปล่งรัศมีลี้ลับ พยายามเหลือบมองความลับที่ก้นสระอสนีบาตนั้น
ทว่าเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าบริเวณรายล้อมสระอสนีบาตถูกปกคลุมด้วยอำนาจกฎเกณฑ์ร้ายกาจยิ่ง ซึ่งขวางอำนาจตรวจสอบของเขาโดยสิ้นเชิง!
“สหายเต๋าเองก็น่าจะสังเกตเห็นแล้วว่าในบริเวณสระอสนีบาตนั้นมีอำนาจกฎเกณฑ์ร้ายกาจคลุมอยู่ ซึ่งแตกต่างจากอำนาจกฎเกณฑ์ในเขตแดนสมรภูมินี้อย่างเห็นได้ชัด”
ซูอี้กล่าวด้วยดวงตาวาวโรจน์ “หากข้าเดาถูก นี่น่าจะเป็นกฎเกณฑ์วิถีเทพ!”
กฎเกณฑ์วิถีเทพ!
อำนาจมหาวิถีที่มีเพียงเทพจะควบคุมได้!
นัยน์ตางดงามลึกล้ำของอาไฉ่หรี่ลง กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเองก็เคลือบแคลงอยู่บ้างเช่นกัน ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าไฉนอำนาจแห่งเทพจึงแทรกเข้ามาปรากฏในเขตแดนสมรภูมิได้”
“มันแปลกจริง ๆ”
ซูอี้ครุ่นคิดสักพักและกล่าวว่า “เจ้าไปต่อเถอะ ข้าจะรับมืออำนาจร้ายกาจนั่นเอง”
เขาเคยฆ่าทูตสวรรค์มามากกว่าหนึ่งหน และยังเคยประชันกับเจตจำนงแห่งเทพมาก่อน ชายหนุ่มจึงมีประสบการณ์มากมาย รู้ว่าต้องสู้กับอำนาจเช่นนี้อย่างไร
“ได้!”
อาไฉ่โคจรวงแหวนเซียนสุดกำลังและดั้นด้นเดินต่อ
ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงยอดเขา เผชิญอำนาจเกรี้ยวกราดของอัสนีเซียนทลายสุญตา
กฎเกณฑ์ร้ายกาจหนึ่งพลันปรากฏ แปรเปลี่ยนเป็นรุ้งทิพย์พุ่งทะยานเยี่ยงคมดาบพิพากษาเข้าใส่อาไฉ่ซึ่งเดินนำหน้า!
หัวใจของอาไฉ่สั่นสะท้าน หวาดผวาพรั่นพรึง
แม้นางจะเผชิญหน้าอำนาจเช่นนี้มามากกว่าหน นางก็ยังรู้สึกเป็นภัยถึงชิวิตยามเผชิญหน้าอยู่ดี
ซูอี้แค่นเสียงอย่างเย็นชา กำหมัดชกออกไปอย่างแรง
เปรี้ยง!!
อำนาจกฎเกณฑ์ร้ายกาจนั้นสลายไปทันที
อาไฉ่ตะลึงงัน ปราบง่ายเพียงนี้เลยหรือ?
“ไปสิ”
ซูอี้เอ่ยเร่ง
อาไฉ่รีบเร่งก้าวไปเบื้องหน้า
ทว่าตรงหน้าซูอี้ พวกมันช่างแสนปวกเปียก
เมื่อเขาสะบัดแขนเสื้อเหวี่ยงหมัด เขาก็บดขยี้อำนาจกฎเกณฑ์เหล่านั้นละเอียดแหลก ง่ายดายเยี่ยงหักไม้
นี่คือคุณสมบัติน่าเหลือเชื่อของปราณดาบเก้าคุมขัง
ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาอยู่ตรงหน้าสระอสนีบาต
ยามนี้เองที่ซูอี้เห็นชัดถนัดตาว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้น ณ ก้นสระอสนีบาตคือสิ่งใด!
สายธารอันแปรเปลี่ยนจากอสนีบาตนั้นเชี่ยวกราก วัตถุศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้นซึ่งถือกำเนิด ณ ก้นสระนั้นดูราวหญ้าธรรมดา สูงเพียงหนึ่งฉื่อ ใบทั้งสามรูปร่างเยี่ยงดาบคมโบกพลิ้วอยู่ในสระอสนีบาต
ทั้งต้นสีทองอร่าม กระจ่างไร้มลทินเยี่ยงหยก แต่ละใบล้วนถูกขัดเกลาเยี่ยงหยกเซียนทองคำ แสงสว่างเรื่อเรืองเย็นเฉียบเยี่ยงดาบไร้เทียมทาน
“หญ้าเจียรสวรรค์!?”
ซูอี้ประหลาดใจ
สมบัตินี้มีชื่อเสียง ‘รากหยั่งฮุ่นตุ้น ใบเจียรสรวงสวรรค์’!
และในสายตาผู้ฝึกดาบ หญ้าเจียรสวรรค์นี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน ‘โครงดาบปฐมสวรรค์’ อันหายากที่สุดทั่วสรวงสวรรค์เป็นแน่แท้!
หากสามารถใช้ใบหญ้าเจียรสวรรค์ตีเป็นตาบได้ ก็เท่ากับหลอมอาวุธวิเศษเกินคาดหยั่งได้หนึ่งชิ้น!
ทว่าสมบัติเช่นนี้หายากเกินไป
โอกาสพบมันในโลกมนุษย์นั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมันสูญพันธุ์ไปแสนเนิ่นนาน กลายเป็นเพียงตำนานเรื่องเล่าที่ไร้ผู้ใดได้พบพานอีก
ทั่วทั้งโลกเซียน สมบัติเช่นนี้ก็กล่าวได้เช่นกันว่า ‘พบพานแสนยากในรอบหมื่นปี’!
หากมันปรากฏขึ้น มันจะทำให้เหล่าตัวตนวิถีเซียนทั้งหลายรบราฆ่าฟัน บังเกิดมรสุมโลหิตบ้าคลั่งพัดพา
และยามนี้ วัตถุศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้นชิ้นนี้ก็ปรากฏขึ้น ณ ก้นสระอสนีบาตอันแปรเปลี่ยนจากอำนาจที่มาของอัสนีเซียนทลายสุญตา!
สิ่งนี้ทำให้ซูอี้อดใจสะท้านมิได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือสมบัติอันเลิศล้ำ!
“สมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้มีสามใบ มิใช่ว่ามันหยั่งรากอยู่ที่นี่อย่างน้อยก็เกือบ 180,000 ปีแล้วหรือ!”
จากคำร่ำลือ หนึ่งใบจะก่อตัวขึ้นสมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลาทุก ๆ หกหมื่นปี!
“นี่คือสมบัติไร้เทียมทานก่อเกิดเติบโตขึ้นโดยแท้ สหายเต๋าซู ข้าขอเด็ดสมบัตินี้ด้วยมือข้าได้หรือไม่?”
อาไฉ่เองก็ปรีดา
กาลก่อน นางล้มเหลวมาไม่รู้กี่หน
ทว่ายามนี้เมื่อซูอี้เข้าร่วมด้วย โอกาสนี้ก็อยู่เพียงเอื้อม!
“เอาสิ”
ซูอี้พยักหน้าน้อย ๆ
อาไฉ่ก้าวเข้ามาที่ริมสระอสนีบาตทันที แล้วเชือกไหมอันเปี่ยมปราณเซียนก็ปรากฏขึ้นในมือนาง ด้วยการสะบัดเบา ๆ มันก็ถูกหย่อนลงสู่ก้นสระอสนีบาต
ฉับ!
หญ้าเจียรสวรรค์พลิ้วไหว หนึ่งคมดาบสีทองพลันปรากฏสะบั้นเชือกไหมนั้นลง!
ก่อนที่นางจะทันตั้งตัวติด หญ้าเจียรสวรรค์พลันทะยานจากพื้น หลุดออกจากสระอสนีบาต
“สยบ!”
มือของซูอี้กดลงพร้อมอำนาจกฎเร้นลับต้องห้ามอย่างรุนแรง
หญ้าเจียรสวรรค์โบกไหว แสงสีทองเจิดจรัสปรากฏขึ้นทำลายการสกัดขวางของกฎเร้นลับต้องห้ามลงทันทีและกวาดสู่ท้องนภา
ยามนี้เองที่ซูอี้ได้เห็นถนัดตาในที่สุด
มิใช่ว่าหญ้าเจียรสวรรค์จะหนีออกมาเอง แต่ที่รากหญ้าเจียรสวรรค์มีตะขอเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งเหมือนตะขอตกปลาอันแทบจะโปร่งใสเกี่ยวอยู่
และบนตะขอนั้นมีด้ายไหมบาง ๆ เชื่อมอยู่!
“มีบางผู้ใช้เบ็ดเกี่ยววัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์นี้ไปแล้วหรือ?”
ดวงตาของซูอี้หรี่ลงเล็กน้อย
เขาไม่ต้องคิดก็ลงมือก่อนแล้ว ห้านิ้วของเขาเอื้อมคว้าหญ้าเจียรสวรรค์ไว้อย่างมั่นคง
หญ้าเจียรสวรรค์สั่นสะท้านรุนแรงราวกับจะดิ้นให้หลุด
“มีผู้พยายามตกมันออกไป!”
อาไฉ่เองก็เห็นว่าด้ายไหมบาง ๆ เชื่อมกับตะขอกำลังลากหญ้าเจียรสวรรค์นี้อยู่ พยายามสลัดให้หลุดจากการจองจำของซูอี้ไปไกล ๆ!
นอกจากนั้น ตะขอตกปลานี้ยังทำลายกฎเร้นลับต้องห้ามและฟาดเข้าใส่ซูอี้ทันที
ตู้ม!
ฟ้าดินสั่นสะท้าน ทศทิศพังทลาย
อำนาจของตะขอตกปลานี้ร้ายกาจเกินจินตนาการ เพียงปรากฏของมันก็ทำให้อาไฉ่ถูกผนึกมิอาจขยับได้
หาต่างจากลูกแกะรอวันเชือดไม่
แย่แล้ว!
ใบหน้างดงามของอาไฉ่แปรเปลี่ยนกะทันหัน
ชั่วขณะนี้ ดวงตาของซูอี้วูบไหวเย็นเยียบ เร่งใช้ปราณดาบเก้าคุมขังกวาดผ่านเวหา
ตู้ม!
ท้องนภาสั่นสะท้าน อำนาจทำลายล้างร้ายกาจโหมกระหน่ำ อำนาจกฎร้ายกาจจากเบ็ดตกปลาก็ถูกปัดออกไป
เพียงหนึ่งนิ้วของซูอี้วาดออก
ด้ายไหมอันแทบโปร่งใสก็ถูกสะบั้นออกทันที!
ตะขอซึ่งแขวนบนหญ้าเจียรสวรรค์ดูแน่นิ่งสิ้นแรงไปโดยพลัน
และหญ้าเจียรสวรรค์ก็ร่วงลงจากอากาศ ถูกซูอี้คว้าไว้ได้
เหตุทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงพริบตา
หากช้ากว่านี้แม้เพียงก้าว สมบัติหายากอันพบได้แต่มิอาจแสวงหานี้ก็น่าจะถูกชิงไปสิ้น!
อาไฉ่โล่งใจ
นัยน์ตางามของนางมองสู่ส่วนลึกของท้องนภาพลางกล่าวออกมาว่า “เส้นไหมเมื่อครู่ ข้าไม่รู้ว่ามาจากหนใด และใครกันที่ลงมือชิงโอกาสนี้ ประหลาดอย่างจริงแท้”
“กล่าวให้กระชับ เราก็น่าจะเป็นฝ่ายชิงโอกาสนี้ไปจากเขา”
ซูอี้จ้องไปที่จุดบนหญ้าเจียรสวรรค์ซึ่งเกี่ยวเบ็ดไว้ เห็นได้ชัดว่าเบ็ดตกปลานี้ถูกเกี่ยวไว้แสนนานแล้ว!
………………..