บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1535: หอน้อยสมปรารถนา
ตอนที่ 1535: หอน้อยสมปรารถนา
เงินตราทำให้ผู้กล้าไร้หนทาง
ทว่ามันไม่ได้ยากลำบากสำหรับซูอี้
ด้วยประสบการณ์ในอดีตชาติ เขาก็สามารถนำสมบัติบางอย่างเช่นโอสถ เคล็ดวิชา และคัมภีร์โบราณต่าง ๆ ออกมาแลกเปลี่ยนกับความมั่งคั่งเทียบสวรรค์ได้ตามชอบใจ!
ซูอี้ออกไถ่ถาม และมายังร้านโอสถที่เป็นที่รู้จักดีแห่งหนึ่งในนครเซียนเทียนติ่ง
หอบุหลันฟ้า!
“ท่านจะมาซื้อโอสถหรือหลอมเม็ดยากันเล่า? ในหอบุหลันฟ้าของข้ามีโอสถสารพัดชนิด กระทั่งโอสถเซียนยังหาได้ และยังมีผู้หลอมโอสถทุกระดับขั้น…”
ข้ารับใช้หญิงผู้หนึ่งก้าวออกมารับรอง
นางมีรูปลักษณ์งดงาม การวางตนสุภาพเรียบร้อยและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แม้ซูอี้จะไร้ปราณการฝึกฝนบนร่างเหมือนเช่นปุถุชน นางก็หาแสดงความดูถูกไม่
“ขายสูตรโอสถ”
ซูอี้กล่าวพลางหยิบสูตรโอสถแผ่นหนึ่งซึ่งเตรียมไว้เนิ่นนานออกมาส่ง
ข้ารับใช้หญิงตะลึงไป
หอบุหลันฟ้าเป็นร้านขายโอสถใหญ่ในแคว้นจิ่ง มีมรดกตกทอดยาวนาน นักหลอมโอสถที่อยู่ใต้อาณัติก็มีมากมาย มิได้ขาดสูตรโอสถแต่อย่างใด
ดังนั้นจึงยากจะพบพานผู้มาขายสูตรโอสถ!
ทว่าข้ารับใช้หญิงหากล่าววาจาใดไม่
นางรับสูตรโอสถแผ่นนั้นมาด้วยสองมือ รินชารับรองซูอี้ แล้วจึงเชิญนักหลอมโอสถในหอบุหลันฟ้าออกมาตรวจสอบสูตรโอสถ
นักหลอมโอสถเป็นชายชราชุดเทาผู้หนึ่งซึ่งเดิมกำลังหลอมโอสถวัฒนะ เมื่อถูกเชิญมาตรวจสอบสูตรโอสถจึงเกิดความไม่พอใจอย่างยิ่ง สีหน้าบูดบึ้งยิ่งนัก
“พ่อหนุ่ม ผู้กล้ามาขายสูตรโอสถแก่หอบุหลันฟ้าในชั่วกาลนี้ เพิ่งจะมีเจ้าคนแรก!”
ด้วยการกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอันใดกับการนำมะพร้าวห้าวมาขายสวน รำดาบต่อหน้านักดาบเลย!
ทว่าเมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่เขียนในสูตร ชายชราชุดเทาก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะร้องเสียงหลงอย่างดูยืนยันได้ในที่สุด “สูตรโอสถวิถีเซียน!?”
ทันทีที่วาจาถูกกล่าว ทั่วหอบุหลันฟ้าก็เต็มไปด้วยเสียงเซ็งแซ่
ผู้คนระส่ำระสาย ดวงตานับไม่ถ้วนจ้องมองมายังกระดาษสูตรในมือชายชราชุดเทาเป็นตาเดียว
หากมันเป็นสูตรโอสถวิถีเซียนจริง มันก็ล้ำค่าพอจะให้ขุมกำลังเซียนทั้งหลายในโลกหล้าทุ่มกำลังแย่งชิงได้!
เพราะถึงอย่างไร ขอเพียงได้สูตรโอสถนี้มา ภายหน้าพวกเขาก็จะสามารถผลิตโอสถชนิดนั้น และเสริมอำนาจให้กับขุมกำลังเซียนต่อไปได้!
เพราะเหตุนี้เอง สูตรโอสถวิถีเซียนจึงหาในตลาดใดแทบไม่ได้เลย เหมือนเช่นคัมภีร์มรดกมหาวิถีซึ่งขึ้นไปยังเคล็ดวิถีเซียนโดยตรง
“ถูกต้อง ส่วนสำคัญของสูตรโอสถนี้ยังอยู่ในมือข้า”
ซูอี้พยักหน้า
“ยอดเยี่ยม อัศจรรย์จริง ๆ! แม้โอสถนี้จะยังขาดเคล็ดสำคัญสูงสุด แต่ด้วยประสบการณ์หลอมยามาอย่างยาวนาน ข้าก็พอสรุปได้แล้วว่า ‘โอสถเหมันต์กระจ่างชีพจรเร้นลับ’ ในสูตรโอสถนี้ต้องเป็นโอสถชั้นหนึ่งได้แน่ เพราะไม่เพียงจะสามารถเติมเต็มความต้องการของร่างกายและพัฒนาการฝึกฝนได้แล้ว มันยังค้ำจุนจิตวิญญาณและขัดเกลาอวัยวะภายในอีกด้วย มูลค่ามิอาจประมาณได้เลย!”
ชายชราชุดเทาเต้นเร่าอย่างตื่นเต้น ดวงตาเรืองประกาย “นี่… เป็นผลงานของยอดฝีมือวิถีเซียนท่านใดกัน? ของดีขนาดนี้สุดยอดโดยแท้!”
รอบข้างฮือฮา ทุกผู้ตกตะลึง ดวงตาหลายคู่จ้องมองมายังซูอี้ บ้างเปี่ยมโลภะ บ้างเคลือบแคลง
ชาวบ้านแต่เดิมไร้ความผิด ทว่าเพราะครองหยกงามจึงมีความผิด!
สมบัติหายากเพียงพอให้ขุมกำลังเซียนผู้สูงส่งทั้งหลายน้ำลายหกเช่นนี้ ใครบ้างมิหวั่นไหว?
ชายในชุดผ้าแพรผู้หนึ่งเสนอราคานับหมื่นนับแสนศิลาเซียน เพื่อหวังซื้อสูตรโอสถนี้ทันที
ภาพนี้ยังทำให้เหตุการณ์ยิ่งทวีความชุลมุน
ซูอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองชายชราชุดเทา “ปากมาก”
แม้จะถูกตำหนิเช่นนี้ ทว่าชายชราชุดเทาก็มิกล้าโกรธเคือง และยังตระหนักด้วยว่าการกระทำของตนไม่เหมาะสม จึงรีบเชิญซูอี้เข้าห้องส่วนตัวและขออภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่นานนัก บุคคลระดับสูงในหอบุหลันฟ้าก็ได้รับข่าวและมาหาอย่างเร่งรีบ
การปรากฏของสูตรโอสถวิถีเซียนนั้นเพียงพอดึงดูดความสนใจขุมกำลังใหญ่วิถีเซียนได้!
ใครเล่าจะทนอยู่เฉยไหว?
“ท่านตั้งใจจะขายสูตรโอสถวิถีเซียนนี้จริง ๆ หรือ?”
ชายชุดม่วงผู้หนึ่งถามราวกับมิอยากเชื่อ
ซูอี้พยักหน้าน้อย ๆ และกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ขึ้นอยู่กับว่าหอบุหลันฟ้าของพวกเจ้าจะจ่ายไหวหรือไม่”
กล่าวจบ เขาก็นำกระดาษกับพู่กันออกมาเขียนรายนามโอสถวิถีเซียนแน่นขนัดหลายสิบชื่อ ก่อนจะส่งออกไปให้ “ข้าต้องการเพียงโอสถวิถีเซียนเหล่านี้”
เมื่อเห็นจำนวนและชื่อของโอสถบนกระดาษ ในอากาศก็มีเสียงสูดหายใจเฮือก
โอสถเซียนเหล่านั้นล้วนแต่เป็นวัตถุดิบล้ำค่า สมบัติล้ำเลิศแห่งฟ้าดินในวิถีเซียนทั้งสิ้น!
ผู้ทรงอำนาจจากหอบุหลันฟ้าและชายชราชุดเทาในยามนี้ล้วนสงบสติลงได้แล้ว แต่ละผู้ล้วนตระหนักได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้มิธรรมดา ไม่ใช่บุคคลที่จะสามารถหลอกได้แต่อย่างใด!
ทันใดนั้น พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกัน
ซูอี้นั่งรอคอยอย่างเงียบงัน
แล้วชายชราชุดเทาก็กล่าวด้วยรอยยิ้มเจื่อน “บอกท่านตามตรง โอสถเซียนที่ท่านต้องการ หอบุหลันฟ้าของเรามีอยู่เพียงไม่กี่อย่าง ยังไม่สามารถรวบรวมทั้งหมดมาได้ในชั่วขณะนี้”
ชายชุดม่วงกล่าวเสริม “ไม่เพียงหอบุหลันฟ้าของเราเท่านั้น แต่ทั่วทั้งนครเซียนเทียนติ่งแห่งนี้ไม่น่ามีหอวาณิชใดที่สามารถรวบรวมโอสถเซียนซึ่งท่านต้องการได้ในทันที”
ซูอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สูตรโอสถเซียนใบเดียวยังจ่ายกันไม่ไหวหรือ?
ดูเหมือนเขาจะประเมินรากฐานของหอบุหลันฟ้านี้สูงเกินไป ไม่ก็ประเมินความมั่งคั่งของหอวาณิชในนครเซียนเทียนติ่งนี้สูงไปเสียแล้ว!
“ทว่า…”
ชายชราชุดเทาเปลี่ยนน้ำเสียง กัดฟันกล่าวว่า “ในสามวัน หอบุหลันฟ้าของเราจะจัดงานประมูลขึ้น ถึงยามนั้น ไม่เพียงเหล่าผู้สูงส่งในนครเซียนเทียนติ่งจะเข้าร่วมประมูล แต่ตัวตนทรงอำนาจจากเจ็ดขุมกำลังวิถีเซียนก็จะส่งคนมาเช่นกัน”
“หากท่านรอสามวันได้ เราก็สามารถนำสูตรโอสถนี้ไปประมูล และหอบุหลันฟ้าของข้าจะช่วยท่านประมูลแลกกับโอสถเซียนที่ท่านต้องการ!”
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “นอกจากนี้ ขอเพียงท่านเห็นชอบ วันพรุ่งนี้ หอบุหลันฟ้าของเราจะส่งข่าวรายชื่อโอสถที่ท่านต้องการสู่สาธารณะ เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการได้รับมา”
“และหอบุหลันฟ้าของเรา จะช่วยท่านซื้อขายให้ลุล่วงก่อน จากนั้นจึงค่อยเพิ่มชื่อเสียงให้แก่ตนเอง และใช้โอกาสนี้ขายโอสถเซียนที่เรามีอยู่ด้วยราคาสูงลิ่ว หรือเรียกว่าเป็นการยิงนัดเดียวได้นกหลายตัว”
“งานประมูล…”
ซูอี้ครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “หมายความว่าพวกเจ้ายอมทิ้งสูตรโอสถนี้แล้วใช่หรือไม่?”
ทุกผู้มองหน้ากันแล้วยิ้มเจื่อน
หากพวกเขาซื้อไหว ใครเล่าจะยอมทิ้งสูตรโอสถวิถีเซียนอันหายากยิ่งนี้?
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูอี้ก็อดถูหว่างคิ้วกล่าวมิได้ “ก็ได้ ตามนั้น”
ทุกผู้แย้มยิ้ม
ซูอี้ว่า “จะว่าไป หอบุหลันฟ้าของพวกเจ้ามี ‘โอสถเบญจขันธ์หลอมกระจ่าง’ หรือไม่?”
ชายชราชุดเทากล่าวโดยไม่คิด “มีขอรับ!”
ซูอี้ว่า “ข้าอยากได้หนึ่งชิ้น ขายเท่าไร?”
“ฮ่า ๆ โอสถวิถีวิญญาณเช่นนี้หามีราคาค่างวดไม่ ไฉนต้องกล่าวถึงเงินตราด้วย? ท่านรอสักครู่เถิด ข้าจะให้คนนำมาให้ท่านเอง!”
ชายชราชุดเทาหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
หลังจากได้รับโอสถเบญจขันธ์หลอมกระจ่างมา ซูอี้ก็ปฏิเสธให้พวกชายชราชุดเทารับรองต่อ และรับปากว่าจะมาเข้าร่วมงานประมูลในอีกสามวันให้หลัง ยามนั้น ขอเพียงมีผู้ประมูลสูตรโอสถนั้นไปได้ เขาจะส่งเคล็ดส่วนสำคัญที่สุดของสูตรโอสถไปให้
จากนั้นเขาก็จากไป
หลังชายหนุ่มจากไปได้ไม่นาน หอบุหลันฟ้าก็เหลือเพียงชายชราชุดเทาและเหล่าผู้ทรงอำนาจ
“ปรมาจารย์ฉู่ เจ้าแน่ใจหรือว่าสูตรโอสถนั้นเป็นของแท้จริง ๆ?”
บางผู้อดถามมิได้
ชายชราชุดเทาซึ่งถูกเรียกว่าปรมาจารย์ฉู่กล่าวอย่างขุ่นเคือง “นี่เจ้าสงสัยความรู้ในวิถีโอสถของตาเฒ่าผู้นี้หรือ? หากสูตรโอสถนั้นมีปัญหา ให้ตาเฒ่าผู้นี้เชือดคอฆ่าตัวตายเลยก็ได้!”
ทุกผู้ล้วนตะลึง ดวงตาวูบไหว
ไร้ผู้ใดกล้าตั้งข้อสงสัยอีก
บางผู้เปลี่ยนประเด็นกล่าว “ท่านมองที่มาของชายหนุ่มผู้นั้นออกหรือไม่?”
“ไม่มีทางธรรมดาได้แน่ กล้านำสูตรโอสถวิถีเซียนออกมาแลกเปลี่ยนด้วยตัวคนเดียว มีหรือจะเป็นคนธรรมดา? ข้าแนะนำพวกเจ้าอย่าได้คิดตุกติกจะดีกว่า”
ปรมาจารย์ฉู่กล่าวเสียงเย็น
หัวใจของทุกผู้เย็นวาบขึ้นมา
ชายชุดม่วงพึมพำ “เรื่องนี้ต้องรายงานแก่ผู้อาวุโสจั๋วฝู่โดยเร็วที่สุด ด้วยสายตาของผู้อาวุโส เขาจะเห็นที่มาของสูตรโอสถนี้ได้แน่!”
……
หลังเดินออกจากหอบุหลันฟ้า ซูอี้ก็เดินไปตามถนน
“มีโอสถเบญจขันธ์หลอมกระจ่างนี่อยู่ ก็รักษาอาการใบ้ให้อาหลีกลับมาพูดได้แล้ว”
ซูอี้คิดในใจ “น่าเสียดายที่ข้ายังไม่ได้โอสถเซียนที่ต้องการ จึงทำได้เพียงต้องรองานประมูลอีกสามวัน”
เขามิห่วงว่าหอบุหลันฟ้าจะกล้าคิดคดใด ๆ
เหตุผลนั้นง่าย เพราะสูตรโอสถที่เขาส่งไปยังไม่สมบูรณ์
“หือ?”
ทันใดนั้น ซูอี้ก็ชะงัก มองไปยังหอคอยสมบัติเก้าชั้นซึ่งอยู่มิห่างไปนัก
หอคอยสมบัตินี้แขวนป้ายไว้ว่า ‘หอน้อยสมปรารถนา’!
ดวงตาของซูอี้เผยประกายหวนรำลึก
ครู่ต่อมา เขาก็รำพึงว่าเมื่อครู่ตนกระทำการไม่เข้าเรื่องเอาเสียเลย หากรู้ว่าในนครเซียนเทียนติ่งนี้มีหอน้อยสมปรารถนาอยู่ เขาก็มิจำเป็นต้องไปขายสูตรโอสถที่หอบุหลันฟ้าสักนิด
“ทว่าข้าก็ไม่รู้เลยว่าหอน้อยสมปรารถนายังคงเป็นเช่นกาลก่อนหรือไม่…”
ซูอี้ครุ่นคิดขณะก้าวเข้าไป
“คุณชายมีการนัดหมายไว้หรือไม่?”
ทันทีที่เขาเข้าประตูมา ชายผู้หนึ่งก็ถามด้วยรอยยิ้ม
ซูอี้กล่าวว่า “ที่นี่มี ‘เซียมซีสมปรารถนา’ อยู่”
ชายผู้นั้นตะลึงไป เขาอดพินิจซูอี้อีกหนมิได้ “คุณชายมาที่นี่เพื่อเสี่ยงเซียมซีหรือ?”
“เปล่า ข้ามาไขปริศนาต่างหาก”
ซูอี้ว่า
ข้ารับใช้นิ่งไป ก่อนจะกระซิบว่า “คุณชายรอสักครู่นะ”
ไม่นานจากนั้น ข้ารับใช้ก็พาสตรีในชุดชาววังผู้สง่างามนางหนึ่งเข้ามา
สตรีในชุดชาววังคำนับชายหนุ่มก่อน จากนั้นจึงถามเสียงเบาด้วยสีหน้าตื่นเต้นอย่างมิอาจซุกซ่อน “ขอบังอาจถาม คุณชายมีนามว่าอันใดหรือเจ้าคะ?”
ซูอี้กล่าวด้วยแววตาละเอียดอ่อน “นักดาบผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมา”
สตรีในชุดชาววังตัวสั่น คู่เนตรงดงามเรืองประกายจรัสแสง ก่อนจะหันตัวไปด้านข้าง “เชิญคุณชาย”
สตรีในชุดชาววังนำทางซูอี้เข้ามาในหอน้อยสมปรารถนา และไปยังโถงชั้นเก้าทันที!
โถงนั้นโบราณโอ่อ่า ทว่ากลับน่าแปลกที่กลางโถงมีกระดองเต่าสีดำชิ้นหนึ่งวางอยู่
เหนือกระดองเต่ามีกระถางเซียมซีหยกขาวใบหนึ่ง
และในกระถางเซียมซีมีป้ายเซียมซีหยกทั้งหมดสิบสามก้าน
“คุณชาย นี่คือเซียมซีสมปรารถนา มีทั้งหมดสิบสามก้าน เซียมซีแต่ละก้านซุกซ่อนความลับยิ่งใหญ่ หากไร้วาสนา ต่อให้ผู้มาจะเป็นยักษ์ใหญ่ในวิถีเซียน ก็ไม่มีทางไขปริศนาของมันได้”
สตรีในชุดชาววังกล่าวเบา ๆ “ในเมื่อคุณชายมาเพื่อไขปริศนา ก็สามารถเริ่มได้เลยเจ้าค่ะ”
“ได้”
ซูอี้ยื่นมือไปหาเซียมซีสมปรารถนา
วูบ!
ลวดลายวิถีที่ประหลาดและหนาแน่นก็ปรากฏขึ้นบนกระดองเต่าสีดำราวกับอำนาจบางอย่างขวางมือซูอี้ไว้
ยามนี้ สตรีในชุดชาววังดูกระวนกระวาย นางกลั้นหายใจ คู่เนตรงามจ้องการเคลื่อนไหวของซูอี้โดยไม่กะพริบตา
ห้านิ้วของซูอี้ขยับไหวเป็นตราประทับฝ่ามือประหลาด แล้วจึงเคาะลงเบา ๆ
ตู้ม!
ลวดลายวิถีที่มีรูปลักษณ์ประหลาดและหนาแน่นบนกระดองเต่าสีดำพลันแปรเปลี่ยนเป็นละอองแสง
และเซียมซีสมปรารถนาก็สั่นสะท้านรุนแรง หนึ่งป้ายเซียมซีกระเด็นออกมาตกใส่มือของซูอี้!!