บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 371 ไร้เทียมทาน!
ตอนที่ 371: ไร้เทียมทาน!
ตอนที่ 371: ไร้เทียมทาน!
เรื่องที่ซูอี้แข็งแกร่งเพียงใดเป็นที่รู้กันดี
คนใหญ่คนโตซึ่งอยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นตัวตนระดับสูงในโลกสามัญของต้าฉิน แต่หากให้พวกเขาเผชิญหน้ากับซูอี้ลำพัง คงไม่มีใครกล้าแอบอ้างว่าเป็นคู่ต่อสู้ของซูอี้
ก็เหมือนกับงานเลี้ยงคืนนี้ เหตุใดฉินต่งซวีจึงต้องการร่วมมือกับคนใหญ่คนโตเหล่านี้?
เหตุผลเป็นเพราะซูอี้แข็งแกร่งเกินไป!
หากต้องการจัดการกับเขา ต้องเชิญคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันมา และรวมพลังของทุกคนเข้าด้วยกัน เช่นนั้นจึงจะแน่ใจว่าอาจจะชนะ
แล้วตอนนี้ หญิงสาวจากต้าเซี่ยถึงกับพูดว่าพี่ชายของนางที่อยู่ขอบเขตปรมาจารย์สามารถเทียบได้กับซูอี้ ผู้ใดจะกล้าเชื่อกัน?
“แม่นางมาจากต้าเซี่ย ดังนั้นเจ้าอาจยังไม่รู้ว่าซูอี้ทรงพลังเพียงใด แม้ว่าตัวข้าจะชังซูอี้ไปถึงกระดูก แต่ข้าก็จำต้องยอมรับ ว่าเมื่อมองไปทั่วโลกใบนี้ แม้แต่ผู้ฝึกตนวิถีต้นกำเนิดเช่นข้า หากต้องการจัดการกับเขาก็ยังต้องร่วมมือกัน!
ฉินต่งซวีกล่าวอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์
ความหมายก็คือ แม่นาง เจ้าไม่รู้หรอกว่าซูอี้แข็งแกร่งเพียงใด การเอาพี่ชายของเจ้าไปเทียบซูอี้มีแต่จะทำให้คนหัวเราะเท่านั้น
“ฮ่า ๆ แม่นาง อย่าทำให้ขำอีกเลย หากซูอี้ฝีมือพอ ๆ กับพี่ชายเจ้าจริง เกรงว่าเขาคงตายไปหลายรอบแล้ว”
กู้ชิงโตวหัวเราะโดยซ่อนเข็มไว้ในคำพูด
ทุกคนที่ชมอยู่ต่างก็หัวเราะอย่างไม่ยอมรับ และถือคำพูดของฮวาซิ่นเฟิงเป็นเพียงมุขตลก
นั่นคือซูอี้เชียวนะ!
เขาเคยสังหารเทพเซียนเดินดินด้วยดาบเดียว และยังเคยเอาชนะผู้ฝึกดาบอันดับหนึ่งแห่งต้าเว่ย ชิวเหิงคง ต่อหน้าศิษย์สำนักวงเดือนทั้งหมด!
มองไปทั่วโลกหล้า จะพบตัวตนที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้เป็นคนที่สองได้อย่างไร?
ฮวาซิ่นเฟิงเห็นท่าทางของทุกคนแล้วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ นางกล่าว “หากพวกท่านไม่เชื่อ สามารถลองดูได้”
“แม่นางโจวเฟิง เจ้าต้องแสวงความอับอายให้ตัวเองด้วยหรือ?”
ซางลั่วอวี้ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวเสียงเย็น “เช่นนั้นให้ข้าเรียนรู้จากพี่ชายของเจ้าหน่อยเป็นอย่างไร? ไม่ต้องห่วง ข้าจะระวังไม่ทำให้เขาบาดเจ็บ”
ดวงตาทั้งสองข้างของฮวาซิ่นเฟิงเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกล่าว “ตกลง แม่นางลั่วอวี่สามารถเรียกได้ว่าตำนานรุ่นเยาว์แห่งต้าฉิน แล้วยังได้รับการยอมรับจากดาบโบราณเทียนเซี่ยด้วย ตราบใดที่พี่ชายของข้าเอาชนะเจ้าได้ ทุกคนในที่นี้ย่อมยอมรับ ถูกหรือไม่?”
ว่าแล้วนางก็เหลือบมองไปยังทุกคนในที่นี้
แต่ครั้งนี้กู้ชิงโตวกลับเอ่ยอย่างเฉยชา “ไม่ควรใช้มีดฆ่าโคมาฆ่าไก่ ในเมื่อพี่ชายของเจ้าอยู่ขั้นบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ เช่นนั้นให้องค์ชายหกลงไปเล่นด้วยแล้วกัน”
ข้าง ๆ ฉินฝูผู้สวมชุดสีเหลืองสว่างงดงามพลันยืนขึ้น เขาแย้มยิ้มแล้วประสานหมัดไปทางซางลั่วอวี่พร้อมกล่าว “แม่นางลั่วอวี่ ปล่อยให้ข้าเรียนรู้กับสหายจากต้าเซี่ยผู้นี้ก็พอ ท่านว่าอย่างไร?”
ซางลั่วอวี่พยักหน้า
จากนั้นฉินฝูก็เบนสายไปมองซูอี้ด้วยสีหน้าติดหยิ่งผยอง ก่อนกล่าว “ข้า ฉินฝู ศิษย์วัดเสวียนเยว่แห่งต้าฉิน ขอคำชี้แนะจากพี่โจวอี้แล้ว”
ด้วยความเบื่อหน่าย ซูอี้จึงดื่มกับตัวเอง ซึ่งดูเขาไม่สนใจอีกฝ่ายเลย
เมื่อฉินฝูลุกขึ้นท้าทาย ชายหนุ่มเพียงเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วกล่าวพลางส่ายหัว “เจ้าไม่ไหว ให้ซางลั่วอวี่ออกมา จะได้ไม่สร้างความอับอายให้ตัวเอง”
ก่อนนี้ที่ซางลั่วอวี้เพ่งเล็งหลานซัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซูอี้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง เขาจึงเห็นว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะจัดการกับสตรีนางนี้
ไม่คิดว่าฉินฝูจะสอดเท้าเข้ามา!
“ชายจากต้าเซี่ยผู้นี้เสียสติไปแล้ว เขากล้าดีอย่างไรที่บอกว่าฝ่าบาทจะสร้างความอับอายให้ตัวเอง?”
เกิดความโกลาหลขึ้นในบริเวณ
ในสายตาของผู้ฝึกตนทั่วต้าฉิน ฉินฝูเป็นเสมือนตัวแทนของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเส้นทางการฝึกยุทธ์!
อัจฉริยะเช่นนี้ ใครจะกล้าพูดว่าเขาไม่ไหว?
ชั่วขณะนั้นทุกคนต่างมองไปที่ซูอี้อย่างขุ่นเคือง คนหนุ่มรูปลักษณ์ธรรมดาผู้นี้อวดดีถึงขีดสุด!
ฉินต่งซวี กู้ชิงโตว และคนใหญ่คนโตทั้งหลายต่างพูดไม่ออก ผู้ฝึกตนจากต้าเซี่ยยอดเยี่ยมนักหรือ?
“โจวอี้ หากเจ้าสามารถเอาชนะฉินฝูได้ ข้าก็ไม่รังเกียจจะชี้แนะเจ้า แต่ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินฝูแม้แต่น้อย” ซางลั่วอวี่กล่าวอย่างเย็นชา
สีหน้าของฉินฝูเยียบเย็นขณะกล่าว “โจวอี้ ข้าจะถามเจ้า ตกลงเจ้ากล้าสู้กับข้าหรือไม่?”
ซูอี้พ่นลมใจแล้วเอ่ย “ช่างเถิด เอาเช่นนั้นก็ได้”
เขาเหยียดข้อมือก่อนลุกขึ้น
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้ก็พากันถอยเว้นที่ว่างบนแท่นหยกให้
ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดลง แสงจันทร์สว่างจากฟากฟ้าส่องลงมายังหมู่บ้านเทียนสุ่ยราวกับมังกร สะท้อนแท่นหยกนี้ให้สว่างไสว
ทุกสายตาจับจ้องไปยังซูอี้และฉินฝู
“ให้โอกาสเจ้าลงมือก่อน”
ซูอี้พูดอย่างสบาย ๆ
รูปลักษณ์และบรรยากาศที่เขาแสดงออกมาเรียกได้ว่าธรรมดายิ่ง แต่คำพูดและท่าทางที่เขาแสดงออกมากลับทำให้หลายคนในที่นี้รู้สึกไม่สบายใจ
“เช่นนั้นข้าก็ล่วงเกินแล้ว!”
ดวงตาของฉินฝูสาดประกายเย็นยะเยือก เขาตัดสินใจสอนบทเรียนอันเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมให้กับเจ้าผู้ชายอวดดีจากต้าเซี่ยนี่ซะ!
ตูม!
ราวกับภูเขาไฟปะทุ ในร่างของฉินฝูมีเสียงคำรามดังขึ้น ก่อนจะมีแสงสีน้ำเงินปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา ราวกับมังกรคำรามทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า
ลมปราณแรกกำเนิดสีม่วงราวกับกระแสน้ำซึ่งม้วนตัวและปรากฏขึ้นบนร่างกาย พลังของมันน่ากลัวยิ่ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าผู้อาวุโสคนใหญ่คนโตบางส่วนได้เห็นฉินฝูลงมือ พวกเขาอดประหลาดใจไม่ได้ ด้วยวิชาที่ใช้ออก นับว่าน่ากลัวนัก!
เห็นได้ชัดว่านี่คือลมปราณแรกกำเนิดที่ได้หลอมกลั่นจนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง!
ทางกู้ชิงโตวที่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับฉินฝูก็ลอบพยักหน้า
ความหมายของบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในต้าฉินในรอบสามร้อยปีคืออะไร?
พลังที่ฉินฝูแสดงออกมาเบื้องหน้าเขาคือการสื่อความที่ดีที่สุด ซึ่งภูมิหลังเช่นนี้ทำให้ทั้งกู้ชิงโตวและอาวุโสคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจระคนอิจฉา
เพราะยามที่อายุเท่าฉินฝู ระดับฝึกตนของพวกเขายังห่างไกลเกินกว่าจะครอบงำผู้คนเช่นนี้
ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ที่มองอยู่ก็รู้สึกหวั่นไหวเช่นกัน
มีเพียงฮวาซิ่นเฟิงที่มีร่องรอยขี้เล่นในดวงตาของนาง หากเป็นก่อนหน้านี้นางจะต้องตะลึงไปเพราะมันแน่
แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่าฉินฝูผู้นี้คือผู้สิงสถิต จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะมีเคล็ดวิชาซึ่งทรงพลังเช่นนี้
“ย่าห์!”
ฉินฝูตะโกนก่อนก้าวออกไปข้างหน้า ระยะทางพลันหดลงกะทันหัน เขามาอยู่ข้างหน้าซูอี้ห่างออกไปสามฉื่อ ก่อนจะงอศอกแล้วตวัดแขนต่อยออกไปยังอากาศ
ตูม!
ลมปราณแรกกำเนิดสีม่วง ก่อนตัวขึ้นเป็นรูปหมัดสีใสราวกับมังกรแหงนคำราม
หมัดมังกรรัดรึงสวรรค์!
นี่คือทักษะโบราณที่ฉินฝูเชี่ยวชาญ ซึ่งครั้งนี้ด้วยฐานการบ่มเพาะของเขา หมัดที่ต่อยออกไปดุจมังกรโอบรัดสวรรค์ บดขยี้ภูเขาและแม่น้ำ
ทุกคนถึงกับหูแว่วได้ยินเสียงคำรามของมังกรดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน!
คนใหญ่คนโตต่างเห็นอยู่ว่าหมัดของฉินฝูไม่มีการยั้งมือ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาคิดสั่งสอนบทเรียนอันเจ็บปวดให้กับคนหนุ่มจากต้าเซี่ยผู้นี้
สายตาหลายคู่หันไปมองซูอี้เป็นครั้งแรกพลางกลั้นใจ โดยอยากรู้ว่าเขาจะรับมือกับหมัดนี้เช่นไร
กลับเห็นซูอี้ที่ไม่พูดไม่จา ไร้ยินดีหรือโศกเศร้า ฝ่ามือขาวยื่นออกไปกดยังความว่างเปล่า
มันเป็นเพียงการกระทำเบา ๆ ที่ไร้กำลังใด ๆ แต่เมื่อฝ่ามือของเขากดออกไป มันได้แสดง ‘ความไร้เทียมทาน’ ออกมา!
ตูม!
ทันใดนั้นหมัดที่เป็นเหมือนศีรษะมังกรของฉินฝูก็ระเบิดออกกลางอากาศราวกับกระดาษ
ฉากที่น่าเหลือเชื่อนี้ทำให้ทุกคนตัวสั่นจนเกือบตกตะลึง
กระทั่งตัวตนระดับสูงอย่างกู้ชิงโตวกับฉินต่งซวีก็ไม่คาดคิดว่าหมัดที่ฉินฝูต่อยออกมาเต็มพลังจะมีสภาพเช่นนี้!
โดยไม่รอการตอบสนองของใคร แรงกดของซูอี้ได้กดทับร่างฉินฝูดุจภูเขาศักด์สิทธิ์จนเขาใกล้จะคุกเข่าลง!
“เปิด!”
เวลานี้ฉินฝูคำรามขึ้นอย่างดุร้าย เสื้อคลุมสีเหลืองสว่างขึ้นทันที ปราณและเลือดในร่างปั่นป่วน ซึ่งสามารถเห็นปราณสีม่วงที่ดูเหมือนมังกรพุ่งออกมาจากด้านบนศีรษะก่อนกลายเป็นกระถางขนาดใหญ่ได้
ทักษะกระถางมังกรปกป้องจิตวิญาณ!
กระถางสีม่วงพุ่งขึ้นไปก่อนจะเปลี่ยนขนาดกลายเป็นหนึ่งจั้ง โดยมีมังกรขดอยู่รอบ ๆ มันระเบิดรัศมีแห่งการทำลายล้างที่น่ากลัวออกมาและกำลังจะทำลายแรงกดดันของซูอี้ลง
เขาอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตปรมาจารย์ ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในขอบเขตนี้ในรอบสามร้อยปีของต้าฉิน ยิ่งกว่านั้นด้วยทักษะลับที่ฝึกฝน เขายังสามารถเทียบกับตัวตนในขอบเขตไร้เบญจธัญในแง่ของพลังการต่อสู้ได้ แม้ครั้งนี้จะประมาทเอง ทว่ามันก็ช่างเหนือความคาดหมายเกินไป!
ทักษะกระถางมังกรปกป้องจิตวิญาณสามารถทนได้เพียงพริบตาหนึ่งก่อนจะพลันพังทลายลง ตามมาด้วยแรงกดดันอันไร้สิ้นสุดที่กดลงมาอย่างแรง ซึ่งมันสามารถทำลายการป้องกันของร่างกายเขาลงได้อย่างง่ายดาย
ตูม!
อึดใจต่อมา ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คน ฉินฝูถูกกดให้คุกเข่าลงกับพื้น ทำเอาพื้นหยกส่วนที่คุกเข่าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแล้วทรุดลงไปครึ่งฉื่อ
ฉินฝูถูกจัดการลงด้วยฝ่ามือที่แผ่วเบานั่น!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
ฝูงชนทั้งหมดต่างมองไปยังบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ฉินฝูด้วยความตกใจ
พวกเขารู้จักพลังของฉินฝูดี ลมปราณแรกกำเนิดทั่วร่างของเขาถูกขัดเกลาให้อยู่ในระดับสูงสุด เป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานเมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนในระดับขอบเขตเดียวกัน!
แต่ตอนนี้เขากลับพ่ายแพ้ลงด้วยฝ่ามือเดียว!
ทั้งฉินต่งซวี กู้ชิงโตว และคนใหญ่คนโตคนอื่น ๆ ต่างเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย แล้วสูดลมหายใจเข้า ด้วยสายตาของพวกเขาจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าชายหนุ่มจากต้าเซี่ยบดขยี้ฉินฝูลงด้วยพลังอันเหนือกว่าในทีเดียว?
“บัดซบ!”
ฉินฝูโกรธแค้นและไม่ยอมรับความจริง
เส้นสายปราณสีม่วงที่คล้ายกับมังกรพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งรอบตัวเขา ซึ่งพลังแต่ละสายสามารถบดขยี้หินผาลงด้วยพลังอันไร้ขอบเขต
ทว่าไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถหลุดจากพันธนาการ เขายังถูกกดลงอีกครั้ง ด้วยเสียงดังสนั่น ร่างของฉินฝูทรุดลงไปบนพื้น มีเลือดไหลซึมจากริมฝีปากของเขา
“นี่…”
ฝูงชนทั้งหมดเงียบสงัด ทุกคนต่างพูดไม่ออก
กู้ชิงโตวมีสีหน้าดิ่งลง
ซางลั่วอวี่เบิกตากว้าง
ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึงกับฉากดังกล่าว สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป
ก่อนนี้ทุกคนล้วนถือคำพูดของฮวาซิ่นเฟิงเป็นเพียงมุขตลก และไม่ยอมรับมัน
แต่ตอนนี้ เมื่อพวกเขาเห็นความพ่ายแพ้ของฉินฝูเช่นนี้ ทุกคนต่างไม่สามารถสงบใจลงได้ เมื่อมองไปที่ซูอี้อีกครั้ง พวกเขาล้วนประหลาดใจ
ชายหนุ่มจากต้าเซี่ยผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์เช่นกัน แต่พลังการต่อสู้ของเขาห่างชั้นฉินฝูไปไกลลิบ!
อย่างที่รู้กันว่าฉินฝูเป็นที่รู้จักในฐานะบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของต้าฉินในรอบสามร้อยปี การเอาชนะเขาได้หมายความว่าบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ในต้าฉินต่างไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของชายหนุ่มจากต้าเซี่ยผู้นี้!
กล่าวอีกนัยหนึ่งชายหนุ่มผู้นี้ใช้เพียงฝ่ามือเดียวในการเอาชนะบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ทั้งหมดของต้าฉินลง!
ใครบ้างจะไม่ตกใจ?