บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 414 มองเขาเชือดศัตรูประหนึ่งเชือดไก่
ตอนที่ 414: มองเขาเชือดศัตรูประหนึ่งเชือดไก่
ตอนที่ 414: มองเขาเชือดศัตรูประหนึ่งเชือดไก่
“เหตุใดเนื้อหนังของชายหนุ่มผู้นี้ถึงแข็งแกร่งเช่นนี้? หรือจะฝึกจนกลายเป็นร่างไร้เทียมทานแล้ว?”
เฝิงอิ่นรู้สึกสั่นกลัว
กริชอันเป็นเอกลักษณ์เดียวแห่งสำนักพันมายาที่สามารถทำลายศาสตราวิถีต้นกำเนิดระดับสูงได้อย่างง่ายดาย
ทว่ายามนี้ กลับถูกต้านทานเอาไว้!
“แย่แล้ว รีบหนีเร็ว”
และในตอนที่ซูอี้หมุนตัวหันไป เฝิงอิ่นพลันแปลงร่างกลายเป็นแสงสีดำพุ่งหลบหนีออกไปทันที
…ทว่าซูอี้จะให้เขาหนีไปได้อย่างไรกัน?
เขาดีดนิ้วราวกับสะบัดฝุ่นเบา ๆ ดั่งหนีบกลีบดอกไม้ด้วยปลายนิ้ว ดูเหมือนบางเบาไร้พลัง ทว่าเมื่อนิ้วมือแตะลงบนร่างของเฝิงอิ่น ผู้ฝึกตนขอบเขตเปิดทวารที่มีสมญานามว่าเป็นหนึ่งในสามนักฆ่าที่แก่กล้าที่สุดแห่งต้าฉู่ พลันร่างสั่นไหวทันที
จากนั้น ร่างกายเขาก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น เนื้อหนังแตกละเอียดดุจกรวดทราย ปลิวว่อนลงมาจากอากาศ
เพียงนิ้วเดียว ทำลายเฝิงอิ่นแหลกละเอียด!
หา!
น้ำเสียงตกใจดังขึ้นมาจากที่ไกล ๆ
หลายคนยังไม่ทันเห็นการปะทะกันของทั้งสองคนอย่างชัดเจน เฝิงอิ่นก็ตายไปแล้ว
รุ่ยเฉินจิ้งที่ลงมือเป็นคนแรก คือผู้ฝึกตนขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นสมบูรณ์ ในตอนที่ถูกซูอี้ดีดนิ้วสังหารตาย ยังไม่ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่ตกใจมากขนาดนั้น
ทว่าเมื่อเห็นหลวงจีนฝ่าซวี และเฝิงอิ่น ผู้แกร่งกล้าระดับขอบเขตเปิดทวารที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ของต้าฉู่ ถูกซูอี้สังหารด้วยฝ่ามือเดียวกับนิ้วเดียว…
พวกเขาก็ไม่อาจเก็บอาการตกใจไว้ได้อีกต่อไป!
และก็ไม่มีผู้ใดนึกเลยว่า บุคคลโด่งดังยิ่งใหญ่เหล่านั้น กลับเป็นเหมือนมดแมลง เมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่มที่มีระดับขอบเขตไร้เบญจธัญเช่นซูอี้ และไม่สามารถทนการโจมตีได้เลย?!
และจนถึงยามนี้ เวลายังผ่านไปไม่ถึงครู่หนึ่งเลย รุ่ยเฉินจิ้ง หลวงจีนฝ่าซวี และเฝิงอิ่น ทั้งสามคนต่างก็ถูกสังหารตาย ส่วนเถี่ยโม่ตู้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส!
สิ่งที่เห็นนั้นทำให้ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่คนที่เหลือ ไม่กล้าดูถูกซูอี้อีกเลย
ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกันแน่?
เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน บนโลกนี้ยังมีบุคคลพลิกสวรรค์เช่นนี้อยู่อีกรึ?
หรือว่า… เขาคือผู้สิงสถิต?
เป็นไปไม่ได้!
แม้ว่าผู้สิงสถิตจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็ต้องเริ่มฝึกใหม่ แล้วมันจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
ข้อสงสัยต่าง ๆ นานาพรั่งพรูเข้ามาในหัวของฮูหยินเมี่ยวหัวและคนอื่น ๆ ทำให้พวกเขามีท่าทีเปลี่ยนไป พริบตาเดียว ก็ไม่มีผู้ใดก้าวเข้าไปด้านหน้าอีกเลย
เหมือนดั่งที่ซูอี้กล่าวก่อนหน้านี้ ผู้ใดกล้าเข้าใกล้ยอดเขานี้ในระยะสิบจั้ง ตาย!
ก่อนหน้านี้ยังมีบางคนมองว่ามันคือเรื่องตลก ทว่าเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือดเมื่อครู่กับตา ใครจะไม่จริงจังกับเรื่องนี้อีก?
หลิงอวิ๋นเหอกับชิงหยาอาจารย์ศิษย์สองคน ก็มิอาจสงบใจได้อยู่นาน
ซูอี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว จนถึงยามนี้ แม้ว่าเขาจะจัดการกับบุคคลยอดเยี่ยมระดับขอบเขตเปิดทวาร แต่ก็ยังมีพลังที่จะบดขยี้หลงเหลืออยู่มาก
สุดท้ายก็ทำให้พวกเขาเข้าใจว่า เหตุใดซูอี้ถึงมีท่าทางเมินเฉยในขณะที่ถูกศัตรูปิดล้อมเอาไว้
หยวนเหิงรู้สึกฮึกเหิม
เมื่อก่อนที่อยู่ต้าโจว เขาเคยได้ยินว่า ซูอี้ทำให้เกิดมหาภัยพิบัติอันใหญ่ยิ่งและก้าวเข้าสู่ขอบเขตไร้เบญจธัญที่ทะเลวิญญาณโกลาหล และด้วยพลังเพียงคนเดียวก็ทำให้กลุ่มศัตรูพ่ายแพ้ไปทั้งหมด!
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยเห็นซูอี้แสดงท่วงท่าน่าเกรงขามเช่นนี้
ทว่ายามนี้… ในที่สุดเขาก็เห็นกับตาตัวเอง ความตกใจนั้นทำให้เขาทั้งฮึกเหิมและเลื่อมใสศรัทธา!
มีเพียงซูอี้คนเดียว ที่ทำเหมือนกับแค่สังหารแมลงสองสามตัวเท่านั้น และไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ชายหนุ่มเพียงมองไปทางน่านฟ้ากว้างอีกครั้ง ด้วยการก้าวผ่านของชิงหว่านมาถึงช่วงสำคัญแล้ว!
ในเวลานี้เอง ในอากาศที่อยู่ไกล ๆ ฮูหยินเมี่ยวหัวก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “โจมตีพร้อมกัน!”
สิ้นเสียง
แขนเสื้อทั้งสองของฮูหยินเมี่ยวหัว ก็มีดาบวิญญาณหิมะขาวสองเล่มบินออกมา ก่อนจะกวัดแกว่งออกไป!
ชิ้ง! ชิ้ง!
เห็นเพียงลำแสงสีขาวสองสาย ราวกับอสรพิษขาวเต้นระบำ ปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารที่ทำให้คนกลัวออกมา
ดาบหยกมังกรคู่!
จิตวิญญาณสมบัติวิถีต้นกำเนิดโบราณคู่หนึ่ง ถูกฮูหยินเมี่ยวหัวในขอบเขตรวบรวมดาราใช้ออกมา อานุภาพที่เผยออกมาจึงแข็งแกร่งเหนือกว่าที่จินตนาการไว้!
ตูม!
ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่คนที่เหลือรู้ดีว่าหากไม่ลงมืออย่างเต็มแรง คงเอาชีวิตซูอี้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อฮูหยินเมี่ยวหัวสั่งออกมา พวกเขาต่างก็ใช้พลังทั้งหมดโจมตีออกไป
เดิมทีพวกเขามียี่สิบกว่าคน ทว่าถูกซูอี้สังหารก่อนหน้านี้สามคน ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งคน จึงยังมีคนอีกไม่น้อย และมีมากถึงเก้าคนที่เป็นตัวตนขอบเขตเปิดทวาร!
เมื่อพวกเขาใช้พลังทั้งหมดโจมตี อานุภาพนั้นจะธรรมดาได้อย่างไรกัน?
ทันใดนั้นบนท้องฟ้ากว้าง มีเปลวเพลิงเคลื่อนไหว แสงสว่างเจิดจ้า สะท้อนให้ฟ้าดินภูเขาแม่น้ำสว่างจ้าออกมา
ดาบบิน กระบี่วิญญาณ ง้าวมหึมา ยันต์ลับ เคล็ดวิชา… ของล้ำค่าและวิชาลับมากมาย รวมเข้าด้วยกันดั่งน้ำที่ท่วมเขื่อน ครืนครานโครมครามปกคลุมไปทั่วและทุบลงมา
ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่แต่ละคนมีฐานะมั่งคั่ง วิชาลับกับของล้ำค่าที่ใช้ ต่างยอดเยี่ยมมาก และนับเป็นวิชาลับกับของล้ำค่าที่บุคคลชั้นหนึ่งแห่งต้าฉู่ครอบครอง จึงมิอาจเทียบกับผู้ฝึกตนผิวเผินเหล่านั้นได้
ตูม!
ชั่วพริบตาเดียว เคล็ดวิชาและของล้ำค่าที่รวมกันมหาศาล พุ่งไปทางซูอี้พร้อมกัน ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนไป อากาศปั่นป่วนวุ่นวาย
แม้แต่บุคคลขอบเขตรวบรวมดาราอย่างหลิงอวิ๋นเหอยังแข็งทื่อไปทั่วร่าง รู้สึกถึงความกดดันอย่างมหาศาล
เมื่อถามกับตัวเองดู หากเปลี่ยนเป็นตัวเขาเอง คงไม่กล้าดันทุรังรับการโจมตีนี้!
โดยเฉพาะคมดาบวิญญาณหิมะขาวสองเล่มนั้นของฮูหยินเมี่ยวหัว ซึ่งแหลมคมดั่งสายรุ้งสองสายที่พาดผ่านพระอาทิตย์ ทำให้เกิดอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ นัยน์ตาของซูอี้ยังคงไม่แยแสเช่นเดิม
แสงจากหิ่งห้อย มีหรือจะสู้แสงจันทร์ที่สุกสกาวได้?
ซูอี้ไม่หลบเลี่ยงไปไหน แต่กลับเคลื่อนไหวปะทะกลับไป
หลังจากที่เขาลงมือ ทุกส่วนบนร่างสูงใหญ่ของเขา พลันปลดปล่อยแสงสีใสสว่างจ้าออกมา เห็นเพียงในแสงสีใสแต่ละชั้นนั้นมีพลังของจังหวะวิถีห้าธาตุปกคลุมหนาทึบอยู่ในนั้น
จนสุดท้าย ทั่วร่างของซูอี้ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงโปร่งใสสว่างแวววาว คล้ายกับชุบด้วยทองคำหนึ่งชั้น ความสามารถมหาศาลของร่างที่อยู่ในขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นกลาง ถูกเขากระตุ้นไปถึงขีดสุดในเวลานี้!
ตูม!
ชายหนุ่มทะยานออกไปปะทะการจู่โจมมากมายที่มาจากของล้ำค่าและวิชาพวกนั้นโดยไม่สนสิ่งใด ไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ พลางเผยอานุภาพที่แข็งแกร่งออกมาอย่างขีดสุด
ปัง!
ดาบบินสีแดงเล่มหนึ่งฟันไปบนร่างซูอี้ ประกายไฟสาดกระจาย เกิดเสียงเสียดสีกันของโลหะ ทว่ามันก็ไม่สามารถทำอะไรซูอี้ได้เลย!
และเมื่อเขายื่นมือออกไปคว้า…
ดาบบินสีแดงเล่มนั้นก็พลันถูกซูอี้คว้าจับเอาไว้อย่างง่ายดาย!
แม้จิตวิญญาณของดาบเล่มนี้จะน่าเกรงขาม ทุกส่วนเป็นเปลวเพลิงสีแดงแวววาว ปกคลุมไปด้วยลวดลายเมฆแน่นขนัด เปลวไฟดูโหดร้ายน่ากลัว และไม่ธรรมดามากเพียงใด
แต่เมื่อมาอยู่ในมือซูอี้ กลับเหมือนแมลงที่ถูกจับเอาไว้ จากนั้นซูอี้ก็ปล่อยพลังออกมาจากมือ
แกร็ก!
ดาบบินสีแดงหักจากตรงกลาง มันแตกออกดุจกระเบื้อง
“อัก!”
ไม่ไกลนัก ผู้ฝึกตนขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นปลายคนหนึ่งกระอักเลือด ดาบบินสีแดงถูกทำลาย ทำให้จิตใจที่เชื่อมต่อกับดาบของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แต่นี่เป็นเพียงคนแรกเท่านั้น
ทุกครั้งที่ซูอี้ยกมือขึ้น ก็จะมีของล้ำค่าชิ้นหนึ่งถูกโจมตีแตกกระจายบ้าง ถูกทำลายบ้าง หรือไม่ก็ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป
ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่เหล่านั้นกระอักเลือดติดต่อกัน และได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว เนื้อหนังของเขาราวกับฟันแทงไม่เข้า ของล้ำค่าเหล่านั้นมิอาจทะลวงพลังป้องกันรอบร่างเขาได้เลย”
มีคนตะโกนออกมา
ปั้ง!!!
แม้แต่ดาบคู่ของฮูหยินเมี่ยวหัวที่ฟันออกมาก็ถูกซูอี้สะบัดมือต้านเอาไว้ มิอาจทำให้ซูอี้ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“นี่…”
ฮูหยินเมี่ยวหัวมีสีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน
การฝึกฝนขอบเขตรวบรวมดาราขั้นกลางของนาง ไม่สามารถสั่นคลอนอีกฝ่ายได้เลย เช่นนั้นจะทำให้นางไม่ตกใจได้อย่างไร?
น่าเสียดาย ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่เหล่านี้ไม่รู้ว่า ในตอนที่ซูอี้อยู่ในขอบเขตบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ ก็สามารถใช้พลังของตัวเองคนเดียวสังหารตัวตนขอบเขตเปิดทวารอย่างฉินต่งซวี เฉินเจินและคนอื่น ๆ ที่อยู่ภายในซากหอเซียนดาบได้!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้ฝึกตนขอบเขตเปิดทวารไม่ได้อยู่ในสายตาของซูอี้ที่อยู่ในขอบเขตบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์เลย!
และเขาในยามนี้ คือผู้ฝึกตนขอบเขตไร้เบญจธัญแท้จริงผู้หนึ่ง ซึ่งเคยทำให้เกิดมหาภัยพิบัติแปลกประหลาด สร้างเมล็ดพันธุ์เต๋าสุดขั้วที่ไม่เคยมีมาก่อน พลังรบทั่วร่างแข็งแกร่งกว่าในตอนที่เป็นบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ไม่รู้ตั้งกี่เท่า
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่เหล่านั้นจะอยู่ในสายตาเขาได้อย่างไรกัน?
“ตายซะ!”
ทันใดนั้นภายในสนาม ซูอี้สะบัดสองแขน พลังชีวิตอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งขึ้นมา แสงศักดิ์สิทธิ์สีใสสว่างจ้า หลอมรวมกันกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ ตบลงมาเบื้องล่าง
ตูม!
มีผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่ระดับขอบเขตเปิดทวารหนึ่งคนกับขอบเขตไร้เบญจธัญสองคนหลบหนีไม่ทัน จึงถูกตบจนร่างกายแหลกละเอียด เลือดแดงฉานสาดกระเด็นไปทั่วอากาศ
การรวมพลังโจมตีของฮูหยินเมี่ยวหัวและคนอื่น ๆ ก็ถูกตีแตกในยามนี้
ท่าทางกล้าหาญของซูอี้ที่ตีกองทัพจนแตกพ่าย ทำให้ฮูหยินเมี่ยวหัวกลัวสุดขีด และรู้สึกถึงความผิดปกติ
“รีบหนีเร็ว!”
“ชายผู้นี้ไม่อาจต่อต้านได้เลย ไป!”
ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเหล่าผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่พังทลายลงและไม่กล้าดันทุรังสู้ต่ออีก ก่อนจะพากันขับเคลื่อนปราณเพื่อหลบหนีออกไป
แต่ซูอี้จะให้พวกเขาหนีไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?
ร่างเขาผ่อนคลายลง ทันใดนั้น… ชายหนุ่มก็สะบัดมือออกมาติดต่อกันหลายครั้ง แล้วใช้ปราณดาบกวัดแกว่งสังหาร จากนั้นใช้ฝ่ามือรวมถึงกำปั้นโจมตี ส่งออกซึ่งอานุภาพแกร่งกล้าออกไปหาเป้าหมาย…
ทุกการโจมตีสามารถสังหารคู่ต่อสู้หนึ่งคนไปอย่างง่ายดาย ถึงขนาดที่แค่มันปะทะร่าง ก็สามารถทุบอีกฝ่ายจนแหลกละเอียด!
แค่ไม่กี่ดีดนิ้วเท่านั้น ก็มีผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่สิบกว่าคนถูกสังหารตายคาที่
เหลือเพียงแค่หกเจ็ดคนที่แทบตกใจจนหวาดกลัวอย่างสุดขีด แต่ละคนกระตุ้นวิชาลับของตัวเอง และเริ่มหนีไป
ทว่าทั้งหมดนี้กลับเปล่าประโยชน์
ร่างของซูอี้ราวกับหายวับไปมา ทุกครั้งที่มีผู้ฝึกตนหนีออกไปไกล เขาก็จะตวัดดาบออกไป สังหารศัตรูที่ห่างออกไปพันจั้ง อย่างคล่องแคล่วและเด็ดขาด
ท่าทางดูผ่อนคลายราวกับสับแตงหั่นผัก!
“ข้ายอมสวามิภักดิ์ จะให้ข้าเป็นทาสเป็นคนรับใช้อะไรก็ได้!”
หญิงสาวงดงามผู้หนึ่งแผดเสียงตะโกนออกมา หวาดกลัวเป็นอย่างมาก ดูน่าสงสารนัก
แต่ช่างน่าเสียดาย สายตาของซูอี้เย็นชาขึ้นมาทันที จากนั้นก็สังหารนางอย่างไม่มีความลังเล
หลังจากที่หญิงสาวผู้นี้ถูกสังหาร ในบริเวณนี้ก็เหลือเพียงแค่ฮูหยินเมี่ยวหัวกับชายชราผมเทาสวมชุดสีดำ
เมื่อเห็นทั้งหมดนี้กับตา หลิงอวิ๋นเหอที่อยู่ไกล ๆ พลันนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น รู้สึกสั่นกลัว มือไม้เย็นเฉียบ
ก่อนหน้านี้ เขายังมีกะจิตกะใจในการดูความชุลมุน อยากรู้ว่าซูอี้จะคลี่คลายการจู่โจมนี้อย่างไร
ทว่ายามนี้ เมื่อเห็นเหล่าตัวตนที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งแห่งต้าฉู่ กลับรู้สึกเหมือนสุนัขที่ยืนอยู่กลางถนน หลังจากซูอี้พลิกสถานการณ์ทำลายจนพินาศ มันก็ทำให้หลิงอวิ๋นเหอลืมตัวเสียกิริยาอย่างมาก และมิอาจสงบลงได้
พลังที่ซูอี้แสดงออกมาน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว
ทำให้คนอย่างหลิงอวิ๋นเหออดรู้สึกถึงความตกใจและหวาดผวาไม่ได้!
“ไอ้มารผจญ ข้ากับเจ้ามาสู้กัน!”
พลันมีเสียงตะโกนดังก้องขึ้นมาในบริเวณทันที แววตาของชายชราผมเทาสวมชุดดำวาวโรจน์ พลังทั่วร่างราวกับถูกเผาไหม้ แสดงวิชาต้องห้ามทำลายตัวเอง หมายทำลายศัตรูไปพร้อมกับตัวเอง!
ทว่าร่างของเขามาได้เพียงครึ่งทาง ก็ถูกซูอี้ใช้ฝ่ามือตบลงไป คล้ายกับกระดาษเปียกที่ต้านทานไม่ไหว ร่างกายและจิตวิญญาณถูกทำลายไปพร้อมกัน เลือดแดงฉานสาดกระเด็นออกมาดั่งน้ำตก
ก่อนหน้านี้ ชายชราผู้นี้ยังเคยด่าซูอี้ หยวนเหิง และชิงหว่าน ประณามว่าพวกเขาสมคบคิดกัน เป็นคนที่แย่พอ ๆ กัน และรนหาที่ตาย
ทว่ายามนี้ ตัวเขากลับเป็นเหมือนกับไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา ถูกสังหารตายคาที่ ที่ตลกก็คือสู้ไม่ได้เลย
“ตาเจ้าแล้ว”
แววตาเย็นชาของซูอี้มองไปทางฮูหยินเมี่ยวหัว
ผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่ที่มาด้วยกันกับนางในคืนนี้ ต่างถูกสังหารไปจนสิ้น ยามนี้เหลือแค่นางเพียงคนเดียวเท่านั้น!