บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 447 เถาวัลย์กระดูกมังกร
ตอนที่ 447: เถาวัลย์กระดูกมังกร
ตอนที่ 447: เถาวัลย์กระดูกมังกร
ศาลาเก้าดินแดน
ในห้องส่วนตัว
เมื่อมองผ่านทางหน้าต่างจะสามารถเห็นแท่นหยกตรงกลางห้องโถงซึ่งอยู่ไม่ไกล
การประมูลครั้งนี้จะจัดขึ้นบนแท่นหยก
ซูอี้และพวกต่างนั่งลง
เหวินซินจ้าวย่อมนั่งลงข้างซูอี้ โดยมีชิงหยาประกบอยู่อีกด้านหนึ่ง
เมื่อเห็นฉากนี้ในดวงตาของฮั่วอวิ๋นเซิงก็ปวดร้าว เขารู้สึกราวกับทำไหน้ำส้มสายชูคว่ำ*[1] ในใจทั้งรู้สึกเปรี้ยวและหายใจไม่ออก สีหน้าของเขาจึงแข็งทื่อและมืดมน
จางอวิ๋นเทาซึ่งนั่งอยู่ที่มุมห้องมีสีหน้าซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ขณะมองไปยังซูอี้ที่นั่งเคียงข้างเหวินซินจ้าวเป็นครั้งคราว
เมื่อวานซืน เขาได้พ่ายแพ้ต่อซูอี้ลงในสองดาบ ดังนั้นจิตใจเขาจึงยังไม่สามารถหลุดพ้นจากการโจมตีอันหนักหน่วงครั้งนั้นได้
แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อเผชิญหน้ากับซูอี้อีกครั้ง เขาซึ่งเป็นผู้อาวุโสของวังเทพสวรรค์เมฆา ก็ไม่กล้าที่จะวางตัวสูงส่งเช่นเดิมอีกต่อไป
การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า
โดยมีชายชราสวมชุดคลุมนาม ‘เซี่ยงยง’ จากศาลาเก้าดินแดนเป็นประธาน
สมบัติชิ้นแรกที่ถูกนำออกมาทำให้เกิดความคึกคักขึ้นในหมู่ผู้ชมและดึงดูดสายตามากมาย
มันเป็นชิ้นส่วนของกระดูกสัตว์ อบอุ่นราวกับหยก เต็มไปด้วยเปลวไฟสีน้ำเงินจาง ๆ งดงามและลึกลับ และกลิ่นอายของมันช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง
“นี่อะไรน่ะ?”
“ดูเหมือนจะเป็นกระดูกสันหลังของวิหคเทวะ!”
“ช่างเป็นกลิ่นอายสายฟ้าที่น่าทึ่งจริง ๆ สมบัตินี้จะต้องเป็นสมบัติหายากแน่นอน!”
เกิดความโกลาหลในห้องโถง จิตสัมผัสจำนวนมากต่างพุ่งตรงไปยังแท่นหยก
ในเวลานี้ ชายชรานามเซี่ยงยงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ทุกท่าน สมบัตินี้เป็นเสี้ยวกระดูกสันหลังของวิหคอัคคีเพลิงที่ยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ แม้ว่าจะเป็นเพียงเศษเสี้ยว แต่ก็เต็มไปด้วยพลังลึกลับที่เกี่ยวกับเปลวไฟ”
เสี้ยวกระดูกสันหลังของวิหคอัคคีเพลิง!
ทั่วบริเวณเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ฝึกตนหลายคนไม่อาจสงบใจลงได้
การประมูลเพิ่งเริ่มต้น แต่กลับนำสมบัติเช่นนี้โดยไม่ได้วางไว้ในตอนท้ายสุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันน่าประหลาดใจเพียงใด
แม้แต่เหวินซินจ้าวก็อดแปลกใจไม่ได้ “ข้าไม่นึกเลยว่าการประชุมหลิงชวีนี้จะไม่ธรรมดา”
เห็นได้ชัดว่านางประหลาดใจกับสมบัติชิ้นนี้เช่นกัน
“มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่ไม่สมบูรณ์ มันไม่ได้มีค่ามากนัก”
ซูอี้กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
วิหคอัคคีเพลิงสามารถเรียกได้ว่าเป็นนักฆ่าตัวฉกาจ กระดูกสันหลังที่สมบูรณ์ของมันนั้นประทับด้วยวิถีแห่งประกายไฟของมหาวิถีเทวะอันมีค่าอย่างยิ่ง
มีเพียงผู้ฝึกฝนวิถีต้นกำเนิดเท่านั้นที่จะถือกระดูกสันหลังที่ไม่สมบูรณ์เป็นสมบัติ
เมื่อได้ยินคำพูดของซูอี้ ฮั่วอวิ๋นเซิงแทบอยากจะหัวเราะออกมา
นั่นคือกระดูกแห่งชีวิตของวิหคอัคคีเพลิง! แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสมบัติที่ไม่สามารถหาได้ในทั่วอาณาเขตต้าเซี่ย!
“ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าศิษย์พี่เหวินชอบคนขี้โม้เช่นนั้นไปได้อย่างไร”
ฮั่วอวิ๋นเซิงลอบถอนหายใจ
หลังจากเสนอราคาอย่างดุเดือด ในท้ายที่สุดเสี้ยวกระดูกสันหลังของวิหคอัคคีเพลิงนี้ก็ถูกคนใหญ่คนโตในที่นั้นคว้าไปด้วยราคาหินวิญญาณระดับหกจำนวนหนึ่งร้อยสามสิบก้อน
ต่อมาเซี่ยงยงก็ได้หยิบสมบัติหายากออกมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า มีทั้งวัตถุวิญญาณ โอสถวิญญาณ และอาวุธพิเศษที่ไม่คาดคิด
สมบัติทุกชิ้นต่างเป็นสมบัติหายาก เมื่อนำมาประมูล ทั้งหมดจึงถูกขายไปในราคาที่น่าตะลึง ซึ่งทำให้บรรยากาศในงานชุมนุมหลิงชวีสูงขึ้นเรื่อย ๆ
แม้แต่เหวินซินจ้าวกับฮั่วอวิ๋นเซิง ซึ่งเป็นผู้สืบทอดของวังเทพสวรรค์เมฆาต่างก็ลงมือประมูลสมบัติบางส่วน
มีเพียงซูอี้เท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่เฉย ๆ อย่างเกียจคร้าน พลางยกน้ำเต้าขึ้นจิบเป็นครั้งคราว เขาดูเบื่อหน่ายเล็กน้อย
ในบรรดาสมบัติเหล่านั้นมีของดีอยู่บ้างก็จริง แต่สำหรับซูอี้ พวกมันแค่ดูไม่เลวเท่านั้น และไม่สามารถดึงดูดเขาได้
“สหายเต๋าซู หากเจ้าสนใจสมบัติชิ้นใดก็สามารถประมูลมันได้ ถึงเจ้าจะไม่มีเงินเพียงพอ เดี๋ยวข้าให้เจ้ายืมก่อนก็ได้”
ในเวลานี้ ฮั่วอวิ๋นเซิงพลันเปิดปากกล่าวขึ้นยิ้ม ๆ โดยแสร้งทำเป็นใจกว้าง
เขาได้เฝ้าสังเกตซูอี้มาสักพักและเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เคลื่อนไหวจึงคิดไปว่าซูอี้อับอายเกินกว่าจะเข้าร่วมการประมูลด้วย
เหวินซินจ้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามซูอี้ว่า “สหายเต๋าซู เจ้าชมชอบสมบัติชิ้นใดรึ? ข้าจะช่วยเจ้าประมูลเอง”
ซูอี้ส่ายหัวและพูดอย่างผิดหวังเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าข้าขาดเงิน แต่จนถึงตอนนี้… ข้ายังไม่ได้สนใจในสมบัติชิ้นใดเลย”
เหวินซินจ้าวยิ้มพลางว่า “เท่าที่ข้ารู้ สมบัติโบราณชุดนั้นจะถือเป็นงานปิดท้าย และจะถูกจัดขึ้นในตอนท้ายของการประมูล หากเจ้าต้องการประมูลมัน ข้าจะช่วยเหลืออย่างแน่นอน”
เมื่อเห็นฉากนี้ ฮั่วอวิ๋นเซิงก็ตกตะลึง ใบหน้าของเขาเกือบมืดสนิท หัวใจของเขาร้อนรุ่มด้วยความริษยา
เขาไม่ได้คาดว่าการต้องการเย้ยหยันซูอี้จะทำให้เหวินซินเฉาเป็นฝ่ายเสนอตัวเพื่อช่วยอีกฝ่ายเอง!
นี่คือการทุ่มหินใส่เท้าตัวเองอย่างแท้จริง
เมื่อหลิงอวิ๋นเหอ หยวนเหิง และคนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ ก็อดลอบหัวเราะไม่ได้ ฮั่วอวิ๋นเซิงผู้นี้ทำตัวเองแท้ ๆ
ช่างโง่เขลานัก
การประมูลยังคงดำเนินต่อไป
ไม่นานหลังจากนั้น ซูอี้ก็พูดขึ้นว่า “หยวนเหิง เจ้ามาประมูล ‘เถาวัลย์กระดูกมังกร’ ชิ้นนี้”
บนแท่นหยก ภายในถาดในมือของเซี่ยงยงมีเถาวัลย์ยาวเพียงหนึ่งฉื่อสีเทาน้ำตาลที่อุ่นคล้ายหยกอยู่
สมบัตินี้ถือได้ว่าเป็นวัตถุวิญญาณที่หายาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการกลั่นโอสถได้เช่นเดียวกัน
แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้ว มันน่าสนใจน้อยกว่าชิ้นส่วนกระดูกของวิหคอัคคีเพลิงมากนัก ดังนั้นจึงมีคนไม่มากนักที่เข้าร่วมการประมูล และราคาที่เรียกไม่ได้สูงเกินไป
“ขอรับ!”
หยวนเหิงรู้สึกสดชื่น ก่อนจะเข้าร่วมการประมูล
ในท้ายที่สุด หลังจากจ่ายหินวิญญาณระดับหกไปสามสิบชิ้น หยวนเหิงก็ชนะการประมูลเถาวัลย์กระดูกงูได้สำเร็จ
เมื่อคนรับใช้นำเถาวัลย์กระดูกมังกรชิ้นนี้มามอบให้ เหวินซินจ้าวพลันถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ว่า “เจ้าจะทำอย่างไรกับสมบัติชิ้นนี้?”
ซูอี้พูดอย่างสบาย ๆ “เถาวัลย์กระดูกมังกรชิ้นนี้สามารถใช้ซ่อมแซมเก้าอี้หวายของข้าได้ ด้วยวิธีนี้ มันจะอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นฉ่ำในฤดูร้อน ไม่กลัวน้ำและไฟ ไม่เปื้อนสิ่งสกปรก สามารถช่วยชะล้างจิตใจ ทำให้จิตใจสงบ ทั้งยังนั่งสบายมากขึ้น”
เหวินซินจ้าว “…”
ทุกคน “…”
ใช้หินวิญญาณระดับหกสามสิบก้อนเพื่อซ่อมแซมเก้าอี้หวายอย่างนั้นรึ!?
ทุกคนมองหน้ากันอย่างงุนงงเล็กน้อย
ซูอี้เพิกเฉยแล้วใช้นิ้วชี้ต่างมีด ในพริบตาเขาก็กรีดเถาวัลย์กระดูกมังกรออกเป็นกลุ่มเส้นไหมสีเทาที่ใสราวคริสตัล
จากนั้นเขาก็หยิบเก้าอี้หวายที่อยู่ในจี้หยกหอยหิมะออกมา และเริ่มซ่อมแซมมันด้วยเส้นหวายของเถาวัลย์กระดูกมังกร
มองดูท่าทางจดจ่อของเขาแล้ว คล้ายจะไม่ได้สนใจการประมูลที่กำลังดำเนินอยู่เลย
“เหอ ๆ… เขาใช้เถาวัลย์กระดูกมังกรซ่อมเก้าอี้หวายจริง ๆ งั้นเหรอเนี่ย!?”
ดวงตาของฮั่วอวิ๋นเซิงเบิกกว้าง
เขาเกิดในตระกูลฮั่ว และครอบครัวของเขาก็ร่ำรวยมาก ทว่าเขาไม่ได้อวดดีจนยอมเสียหินวิญญาณระดับหกจำนวนสามสิบก้อนเพื่อสร้างเก้าอี้หวายที่สะดวกสบาย…
ฮั่วอวิ๋นเซิง เฉียนเทียนหลง ซุนเฟิง เริ่นโหยวโหย่ว และคนอื่น ๆ ต่างมองดูซูอี้ด้วยความสับสน ชายผู้นี้… เป็นใครกัน!
ต้องรู้ว่าหินวิญญาณระดับหกจำนวนสามสิบก้อน ยังถือเป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับผู้ฝึกฝนวิถีต้นกำเนิด ใครจะยอมหักใจทิ้งมันเพื่อเก้าอี้หวายกัน?
เหวินซินจ้าวนึกสนใจยิ่ง คนอื่น ๆ มาที่การประมูลเพื่อช่วงชิงสมบัติ แต่ดูเหมือนซูอี้จะไม่สนใจเรื่องนั้นเลย
หรือให้พูดก็คือเขาจะสนใจเฉพาะสิ่งที่เขาสนใจเท่านั้น
ในไม่ช้า ซูอี้ก็สร้างเก้าอี้หวายสำเร็จ และแทนที่มันกับเก้าอี้เดิม ก่อนนอนลงอย่างเกียจคร้าน
สบายกว่าเดิมนัก!
ซูอี้หรี่ตาด้วยความพึงพอใจ
หินวิญญาณระดับหกสามสิบก้อนเป็นแค่การเสียเงินเล็กน้อย
ในเวลานี้บนแท่นหยก เซี่ยงยงประกาศว่าจะมีการประมูลสมบัติโบราณชุดต่อไป ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมและทุกคนต่างก็สนใจ
สมบัติโบราณชิ้นแรกคือม้วนหนังสัตว์
มันมีอักษรลับโบราณสลักไว้อย่างแน่นหนา ตามที่เซี่ยงยงกล่าว นี่เป็นทักษะการกลั่นร่างกายแบบโบราณที่เรียกว่า ‘ทักษะร้อยอสรพิษทะยานฟ้า’ ซึ่งลึกลับอย่างยิ่ง
แม้ว่าม้วนหนังสัตว์จะบันทึกถึงเพียงทักษะลับของการฝึกฝนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ แต่พวกมันก็ยังมีคุณค่าที่น่าอัศจรรย์
เพราะนี่เป็นมรดกวิถีวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์!
เมื่อได้ทราบเรื่องทั้งหมดนี้ ผู้ชมก็เดือดพล่าน และเสียงอุทานนับไม่ถ้วนก็ดังขึ้น
ควรรู้ก่อนว่าในอาณาจักรต้าเซี่ย การดำรงอยู่สูงสุดในปัจจุบันคือผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณ โดยตัวตนดังกล่าวก็มีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่มรดกวิถีวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ฝึกตนในโลกนี้คลั่ง!
ในตอนแรกซูอี้ไม่ค่อยแยแส ทักษะที่เขาสอนให้กับเหวินหลิงเสวี่ย ฉาจิ่น ชิงหว่าน หวงเฉียนจวิน หนิงซือฮวาและคนอื่น ๆ แต่ละอันล้วนเหนือกว่าทักษะร้อยอสรพิษทะยานฟ้าที่ไม่สมบูรณ์นี้ทั้งสิ้น
แต่เมื่อเขามองอย่างระมัดระวังครู่หนึ่ง ซูอี้ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
วัสดุของม้วนหนังสัตว์นี้… ประหลาดยิ่ง!
“ราคาเริ่มต้นเท่าไร? วันนี้ถึงตระกูลจะต้องล่มสลาย ข้าก็จะทุ่มสุดตัว!”
ใครบางคนตะโกนขึ้น
“ฮึ่ม อาศัยแค่ภูมิหลังลูกเศรษฐีใหม่ของเจ้ากลับต้องการที่จะได้รับมรดกงั้นรึ? ในความคิดของข้า เจ้ากำลังแสวงความอับอายให้ตัวเอง!”
มีคนกล่าวเยาะเย้ย
ฉากนั้นดุเดือดเลือดพล่าน ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในนั้นไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ และพวกเขาก็ส่งเสียงโห่ร้องเพื่อเสนอราคา
แม้แต่จางอวิ๋นเทา ฮั่วอวิ๋นเซิง หรือคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นเต้นและตัดสินใจเข้าร่วมการประมูลในภายหลัง
บนแท่นหยก เซี่ยงยงกระแอม ก่อนจะโบกมือให้ทุกคนเงียบแล้วกล่าวว่า “ทุกท่าน เจ้าของม้วนหนังสัตว์นี้ไม่ต้องการสิ่งอื่นใด หากต้องการเพียงวิธีที่จะซ่อมแซม ‘ร่างวิญญาณภูต’ เท่านั้น”
ทันใดบรรยากาศที่เคยเดือดพล่านก่อนหน้านี้ก็เงียบสงบลง
ผู้คนที่เดิมตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่จะเคลื่อนไหวก็เงียบกริบ
ร่างวิญญาณภูตจะเกิดขึ้นจากสมบัติจิตวิญญาณที่ทรงพลังอย่างยิ่งบางอย่างเท่านั้น สมบัติเหล่านี้มีทั้งสติปัญญาและจิตวิญญาณ พวกมันล้วนมีเอกลักษณ์ ทรงพลัง และหายากอย่างยิ่ง
ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ไม่เคยพบเห็นสมบัติเช่นนั้นมาก่อน นับประสาอะไรกับเชี่ยวชาญวิธีการซ่อมแซมสมบัติดังกล่าว
“ซ่อมแซมร่างวิญญาณภูต? เป็นไปได้หรือไม่ว่าบุคคลลึกลับที่นำสมบัติโบราณมาประมูลจะมีสมบัติจิตวิญญาณที่เสียหายอยู่?”
ในห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่ง กู่ชางหนิงอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “แม่เฒ่า ท่านเชี่ยวชาญวิธีซ่อมแซมร่างภูตหรือไม่?”
หญิงชราส่ายหัวและกล่าวว่า “วิชาลับเหล่านี้มักจะอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มเต๋าโบราณ แม้แต่ในสามหมื่นปีที่แล้วก็หาได้ยากนัก”
กู่ชางหนิงพ่นลมหายใจ ก่อนเอ่ย “ก็แค่มรดกวิถีวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ ถึงจะประมูลมาไม่ได้ก็ไม่สำคัญอะไร”
ทั่วบริเวณเงียบสงัดและไม่มีใครตอบรับเป็นเวลานาน
เห็นได้ชัดว่าทุกคนในที่นี้ไม่สามารถตอบรับคำขอได้
มีเพียงซูอี้ที่ปรากฏขึ้นรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปาก
เดิมทีเขาลังเลที่จะเข้าร่วมประมูลม้วนหนังสัตว์
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความจำเป็นต้องกังวลสำหรับปัญหาดังกล่าวเลย
[1] น้ำส้มสายชูคว่ำ เป็นการเล่นคำว่าระหว่าง 吃醋 ที่สามารถแปลได้ทั้งคำว่าหึงหวง กับน้ำส้มสายชู