บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 448 เสียงจังหวะที่แปลกประหลาด
ตอนที่ 448: เสียงจังหวะที่แปลกประหลาด
ตอนที่ 448: เสียงจังหวะที่แปลกประหลาด
เหวินซินจ้าวพลันเอ่ยกระซิบขอโทษ “สหายเต๋าซู ข้าไม่มีวิธีซ่อมแซมร่างกายวิญญาณภูตได้ คราวนี้… ข้าช่วยเจ้าไม่ได้”
ตอนนี้นางสังเกตเห็นว่าเมื่อครู่ซูอี้ดูสนใจม้วนหนังสัตว์มาก เดิมทีนางวางแผนจะช่วยซูอี้ประมูลสมบัติชิ้นนี้
แต่ไม่คิดเลยว่าเงื่อนไขการประมูลจะหนักหนาเช่นนี้
“ทว่าสหายเต๋าซูไม่ต้องกังวลไป ครั้งต่อไปที่เจ้าสนใจสมบัติใด ๆ ตราบใดสามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน ข้าจะช่วยเหลือเจ้าด้วยเงินทั้งหมดของข้า”
เสียงของเหวินซินจ้าวนุ่มนวล และใบหน้างามราวกับเทพธิดาของนางก็เอาจริงเอาจังยิ่ง
ท่าทางของหญิงสาวนั้นไม่มีใครเทียบได้และนางก็ภาคภูมิใจมาโดยตลอด แต่เมื่อนางปฏิบัติกับซูอี้ตอนนี้ ท่าทางและพฤติกรรมของนางก็อ่อนโยนและเอาใจใส่
เมื่อเห็นฉากนี้ ฮั่วอวิ๋นเซิงที่อยู่ไม่ไกลก็รู้สึกอึดอัดใจและปวดแปลบในอก เขาต้องการแทงซูอี้ให้ตายตอนนี้เลย!
หัวใจของจางอวิ๋นเทา เฉียนเทียนหลง เริ่นโหยวโหย่ว และคนอื่น ๆ เองก็ปั่นป่วนไปครู่หนึ่ง
ในวังเทพสวรรค์เมฆา พวกเขาไม่เคยเห็นเหวินซินจ้าวที่ดูใจดี อ่อนโยน และเอาใจใส่เช่นนี้มาก่อน
ซูอี้ยิ้มและส่ายหัว “มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย”
หลังจากพูดแล้ว เขาก็สั่งการหยวนเหิงว่า “ไปประมูลม้วนหนังสัตว์นั่นมา”
เหวินซินจ้าวตกใจ
คนที่เหลือก็ตกตะลึงเช่นกัน
ซูอี้มีวิธีซ่อมแซมร่างวิญญาณภูตงั้นรึ!?
บนแท่นหยก ชายชราในชุดคลุมเซี่ยงยงเห็นว่าไม่มีการตอบรับเป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าเป็นกรณีนี้ เรามาประมูลสมบัติโบราณกันเถิด”
แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงทุ้มดังขึ้น “เดี๋ยวก่อน เจ้านายของข้าต้องการม้วนหนังสัตว์นี้”
ทันทีที่ถ้อยคำเหล่านี้กล่าวออกมาพลันส่งผลให้ผู้คนตกใจ
“มีคนมีวิธีซ่อมแซมร่างวิญญาณภูตจริง ๆ งั้นรึ?”
“เสียงดังมาจากห้องส่วนตัวที่ศิษย์สืบทอดของวังเทพสวรรค์เมฆาอยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรเป็นเรื่องหลอกลวง”
“ปรากฏว่ายอดฝีมือของวังเทพสวรรค์เมฆาเป็นคนประมูล ไม่น่าแปลกใจเลย…”
เกิดการพูดคุยกันเซ็งแซ่
“วังเทพสวรรค์เมฆามีวิชาลับเช่นนี้อยู่ด้วยรึ? เหตุใดข้าจึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”
หญิงชรานึกสงสัย
สีหน้ากู่ชางหนิงดูแปลก ๆ ขณะเอ่ย “แม่เฒ่า ท่านคิดผิดแล้ว ผู้ประมูลไม่ใช่ศิษย์สืบทอดของวังเทพสวรรค์เมฆา แต่เป็นซูอี้!”
เขาจำเสียงของหยวนเหิงได้ และรู้ด้วยว่าเจ้านายของหยวนเหิงก็คือซูอี้!
“เขาหรือ?”
หญิงชราอดแปลกใจไม่ได้
“อย่างที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ ภูมิหลังของซูอี้นั้นไม่ธรรมดา สิ่งเดียวที่ข้าสงสัยคือเหตุใดเขาจึงต้องการมรดกทางจิตวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์นี้กัน”
กู่ชางหนิงครุ่นคิด
จู่ ๆ หญิงในชุดกระโปรงเรียบหลันซางก็พูดขึ้นว่า “เขาอาจจะชอบม้วนหนังสัตว์นั่นก็ได้ เพราะถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็สามารถคงสภาพไว้ได้หลังจากผ่านการกัดเซาะสามหมื่นปี มันย่อมไม่ใช่สมบัติธรรมดาแน่”
ม่านตาของกู่ชางหนิงหดลง “มันน่าจะเป็นเช่นนี้!”
ดวงตาของหญิงชราเป็นเปล่งประกายแสงสีเงิน ก่อนนางจะมองไปที่ม้วนหนังสัตว์อีกครั้ง
ทันใดนั้น รอยยิ้มขมขื่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง “ม้วนหนังสัตว์นี้ย่อมไม่ธรรมดา ก่อนนี้ข้าสับสนและสนใจเพียงมรดกวิชาลับที่บันทึกไว้บนหนังสัตว์เท่านั้น แต่กลับละเลยตัวม้วนหนังสัตว์ไป”
กู่ชางหนิงอดถามไม่ได้ว่า “แม่เฒ่า ต้นกำเนิดของหนังสัตว์นี้คืออะไรรึ?”
หญิงชรากล่าวว่า “ข้าสงสัยว่าวัสดุหนังสัตว์นี่น่าจะเป็นของ ‘สัตว์ร้ายกลืนมิติสวิ้นหลิง’ เป็นแน่”
สัตว์ร้ายกลืนมิติสวิ้นหลิง!
กู่ชางหนิงสูดหายใจเข้าลึก
เขารู้ดีว่ามันเป็นนักฆ่าตัวฉกาจเพียงใด
“ซูอี้ผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เขาอยู่เพียงขอบเขตไร้เบญจธัญเท่านั้น แต่เขาไม่เพียงเชี่ยวชาญในวิชาลับการซ่อมแซมวิญญาณภูตเท่านั้น ทว่ายังตระหนักถึงที่มาของม้วนหนังสัตว์ด้วย”
หญิงชราถอนหายใจ
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ พนักงานก็ได้เข้าไปในห้องที่ซูอี้และคนอื่น ๆ อยู่ แล้วรับทักษะลับในการซ่อมแซมวิญญาณภูตที่ซูอี้สลักไว้ในแผ่นหยกไป
หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็กลับมา เขานำม้วนหนังสัตว์มาพร้อมกล่าว “ยินดีด้วย ใต้เท้าเจ้าของสมบัติชอบวิธีการลับที่ท่านนำออกมา!”
ดวงตาของเหวินซินจ้าวสว่างไสวและเปล่งประกาย
ฮั่วอวิ๋นเซิง จางอวิ๋นเทา และคนอื่น ๆ มองหน้ากัน หัวใจของพวกเขาสั่นไหว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซูอี้มีทักษะลับเช่นนั้นจริงหรือไม่ ด้วยหากไม่ เช่นนั้นเขาจะได้ม้วนหนังสัตว์นี้มาได้อย่างไร?
“ว้าว พี่ชายซูอี้ ท่านจะน่าทึ่งเกินไปหรือไม่?”
ชิงหยาส่งเสียงร้องอย่างไม่ปิดบัง
เมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของไป๋เวิ่นฉิงก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หยวนเหิงก็ภูมิใจอย่างสุดจะพรรณนาและกล่าวว่า “แม่นางไป๋ไม่จำเป็นต้องตกใจเช่นนี้ เรื่องนี้หาได้สลักสำคัญอะไร”
ไป๋เวิ่นฉิงตะลึง วีรบุรุษทุกคนในสนามพยายามจะหยุด มีเพียงท่านซูอี้เท่านั้นที่ชนะสมบัตินี้ในคราวเดียว ของแบบนี้เรียกว่าไม่สำคัญก็ได้หรือ?
“สหายเต๋าซู เหตุใดจึงชอบวิชาที่ไม่สมบูรณ์นี้กัน?”
เหวินซินจ้าวอดที่จะถามไม่ได้
คนอื่น ๆ เองก็กางหูรอ
ซูอี้หยิบม้วนหนังสัตว์ไว้ขึ้นมาพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “สิ่งที่ข้าชอบคือหนังของสัตว์ร้ายกลืนมิติสวิ้นหลิง แม้ว่าพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของหนังสัตว์นี้จะถูกลบไปนานแล้ว แต่ร่องรอยวิถีบนหนังสัตว์ยังคงอยู่ที่นั่น สำหรับข้า คุณค่านั้นเหนือกว่าวิชาที่ไม่สมบูรณ์มากนัก”
เหวินซินจ้าวและคนอื่น ๆ ต่างตกใจ จากนั้นพวกเขาจึงเข้าใจว่าคุณค่าของม้วนหนังสัตว์นี้ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก
สัตว์ร้ายกลืนมิติสวิ้นหลิง!
ตามบันทึกโบราณ นี่เป็นหนึ่งในนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดในยุคโบราณ มันเกิดมาเพื่อเชี่ยวชาญวิถีสายลมอันลึกลับ สัตว์ร้ายตัวนี้สามารถควบคุมมิติ และเสียงหอนดังไปเหนือสวรรค์ชั้นเก้า ยามมีโทสะสามารถกลืนกินและฉีกกระชากมิติได้!
ไม่ว่าใครก็นึกภาพออกว่าหนังของสัตว์ร้ายตัวนี้จะมีค่าเพียงใด!
ชั่วขณะหนึ่งที่ทุกคนจ้องมองไปที่ซูอี้เปลี่ยนเป็นลุ่มลึก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮั่วอวิ๋นเซิงและพวก สายตากับทักษะที่ซูอี้แสดงทำให้พวกเขาไม่อยากเชื่อได้ว่า นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มในขอบเขตไร้เบญจธัญสามารถครอบครองได้
“ตอนนี้เชิญภูมิใจไปก่อนเถิด หลังการชุมนุมหลิงชวีสิ้นสุดลงเจ้าจะต้องตาย!”
ฮั่วอวิ๋นเซิงลอบกัดฟัน
ในสายตาของเขา ซูอี้ที่โดดเด่นในเวลานี้ทำให้เขายิ่งเกลียดชังมากขึ้นไปอีก
การประมูลยังคงดำเนินต่อไป
เซี่ยงยงหยิบสมบัติโบราณออกมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า รวมทั้งไข่มุกสยบเพลิงหายาก เศษดาบโบราณ และโอสถวิเศษที่มีต้นกำเนิดลึกลับ…
สมบัติโบราณทุกชิ้นทำให้เกิดความตื่นเต้นขึ้นในบริเวณ และเกิดการประมูลรอบแล้วรอบเล่า…
เช่นเดียวกับไข่มุกสยบเพลิง มันเป็นสมบัติฟ้าดินหายาก ซึ่งการพกสมบัตินี้ไปในทะเลเพลิงของอาณาจักรลับแห่งไฟจะทำให้ไม่ต่างจากการเดินบนพื้นดิน
ในท้ายที่สุดสมบัตินี้ถูกกู่ชางหนิงคว้าไปด้วยหินวิญญาณระดับหกสามร้อยก้อน
สำหรับสมบัติโบราณเหล่านี้ ซูอี้เพียงเหลือบมองพวกมันก่อนละสายตาออกมา
สมบัติที่หลงเหลือจากเมื่อสามหมื่นปีก่อนไม่ใช่สมบัติชั้นหนึ่งทั้งหมด และตัวสมบัติก็ไม่จำเป็นต้องมีค่าสำหรับทุกคน
เช่นเดียวกับเศษดาบโบราณ ซึ่งมีกลิ่นอายทำให้ผู้คนตะลึง กลิ่นอายสังหารอันทรงพลังที่ไม่ว่าใครเห็นก็ทราบว่าเศษดาบโบราณนี้มีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่
แต่เมื่อมองแวบเดียว ซูอี้ก็สรุปว่าชิ้นส่วนดาบโบราณนี้ไม่มีค่าแม้แต่น้อย ยกเว้นกลิ่นอายสังหารที่เป็นของผู้ฝึกตนมหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตวงล้อวิญญาณ
แต่ผู้ฝึกตนทั้งหลายจะไปรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?
ไม่เพียงเท่านั้น สมบัตินี้ยังกระตุ้นการเสนอราคาอย่างดุเดือด ซึ่งในท้ายที่สุด ฮั่วอวิ๋นเซิงก็นำ ‘อาวุธลายประกายพฤกษ์มรกต’ อันล้ำค่าขนาดเท่ากำปั้นออกมา ก่อนประมูลเศษของดาบโบราณไปซึ่งดึงดูดความประหลาดใจอย่างมาก
ฮั่วอวิ๋นเซิงค่อนข้างภูมิใจที่สามารถประมูลชนะสมบัติชิ้นนี้ได้
ในเรื่องนี้ ซูอี้อดไม่ได้ที่จะขบขัน
“ทุกท่าน สิ่งที่จะประมูลต่อไปคือสมบัติโบราณชิ้นสุดท้ายของการชุมนุมหลิงชวีครั้งนี้”
คำพูดของเซี่ยงยงแท่นหยกทำให้บรรยากาศของสถานที่แห่งนั้นโกลาหลในทันใด ทุกคนหยุดพูดคุย ก่อนจะมองไป
เมื่อเห็นเช่นนั้น เซี่ยงยงก็หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหยิบกล่องทองแดงขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยพลังผนึกออกมา
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ก่อนที่ตราประทับของกล่องสีทองแดงจะถูกเปิดออก เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจก็ดังขึ้นดุจเสียงกลองดังก้องอยู่ในห้องโถง
“นี่…”
ผู้ฝึกตนบางคนวิญญาณสั่นสะท้าน จิตใจหดหู่ และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
แม้แต่บางคนที่มีการฝึกฝนขั้นสูง หลังจากได้ยินเสียงจังหวะที่แปลกประหลาดและรุนแรงเช่นนี้ เลือดของพวกเขาก็ปั่นป่วนไปครู่หนึ่ง
“นี่คือความผันผวนของพลังครรภ์อสูรนั่นอย่างนั้นหรือ?”
เหวินซินจ้าวเคลื่อนไหว นางแผ่พลังปราณออกมาต้านผลกระทบจากพลังของจังหวะนั้นอย่างเงียบ ๆ
เมื่อมองไปที่ฮั่วอวิ๋นเซิง จางอวิ๋นเทา และคนอื่น ๆ พวกเขาได้แผ่พลังปราณออกมาแล้ว ซึ่งสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป ยามมองไปที่กล่องสีทองแดง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจระคนประหลาดใจ
ซูอี้นอนอย่างเกียจคร้านอยู่บนเก้าอี้หวาย แต่ดวงตาของเขามีประกายประหลาด มองดูเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในครรภ์อสูรดูเหมือนจะตื่นขึ้นแล้ว…
“แม่เฒ่า ท่านเห็นความลับใด ๆ บ้างหรือไม่?”
ดวงตาของกู่ชางหนิงเป็นประกาย
“จากการสัมผัสถึงจังหวะชีวิตนี้ มันมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในครรภ์อสูร ส่วนเรื่องที่มาของครรภ์อสูรนี้กับความลับที่ซ่อนอยู่จะเป็นอะไร เกรงว่าต้องเปิดผนึกกล่องทองแดงนั่นออกเพื่อดูเบาะแส”
หญิงชรากระซิบ ขณะเดียวกันก็มีประกายแสงสีเงินศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของนาง ซึ่งดูน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
กู่ชางหนิงพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงไร้ข้อกังขาว่า “ไม่ว่าราคาจะเท่าไร ข้าจะต้องคว้าครรภ์อสูรนี้มา!”
“พวกเราควรลงมือคว้าครรภ์อสูรนี้มาหรือไม่?”
ในห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่ง บุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงก็หวั่นไหวอย่างมากเช่นกัน
ดวงตาสีฟ้าของหญิงสาวชุดดำฉายแววขี้เล่น และกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงไป พวกเราต้องทำไปทีละอย่าง ในวันนี้สิ่งแรกที่พวกเราต้องทำคือจับตัวเหวินซินจ้าวมา แล้วก็ช่วยเจ้าสังหารซูอี้เพื่อจบปัญหา ส่วนครรภ์อสูรนี้…”
นางหัวเราะอย่างกะทันหัน ใบหน้างดงามและมีเสน่ห์ของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ “มันถูกกำหนดให้เป็นของพวกเรา”
บุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงตกใจและในใจเขานึกสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยไม่รู้ว่าหญิงสางชุดดำไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
“อย่างที่ทุกท่านคิด สิ่งที่ถูกปิดผนึกในกล่องทองแดงนี้คือครรภ์อสูรที่หลงเหลือจากเมื่อสามหมื่นปีก่อน ส่วนความลึกลับของมันนั้นชายชราไม่ทราบชัดเจน แต่เมื่อชายชราจะเปิดผนึกทุกท่านจะทราบเอง”
บนแท่นหยก เซี่ยงยงกล่าวด้วยเสียงต่ำ ร่างกายของเขาตึงเครียดเหงื่อหยดจากหน้าผากของเขาและเห็นได้ชัดว่าเขาได้รับผลกระทบจากเสียงจังหวะนั้น
ครรภ์อสูร!
ทั่วบริเวณเริ่มเงียบสงัดลงเรื่อย ๆ แต่สายตาของผู้ฝึกตนแต่ละคนเปลี่ยนเป็นร้อนแรงสุดขีด สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยการรอคอยและอยากรู้อยากเห็น
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน เซี่ยงยงถอยห่างออกไปหนึ่งจั้งและดึงหยกหรูอี้รูปงูสีดำแปลก ๆ ออกมาจากแขนเสื้อของเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
จากนั้นเขาก็ออกแรงด้วยฝ่ามือ ซึ่งแสงรูปร่างเหมือนงูก็เปล่งออกมา ม่านตางูพลันกลายเป็นสีแดงเข้มแปลกประหลาด
ในขณะนี้เอง ซูอี้ซึ่งนั่งอยู่อย่างเกียจคร้านพลันม่านตาหดลง!