บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 576 บรรพพฤกษ์โครงดารา
ตอนที่ 576: บรรพพฤกษ์โครงดารา
ตอนที่ 576: บรรพพฤกษ์โครงดารา
ฟู่~
ซูอี้ถอนหายใจยาว ๆ พลางมองไปรอบ ๆ สนามรบ
ท้ายที่สุดเขาก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ และเก็บเกี่ยวสินสงครามเองอย่างไม่เต็มใจนัก
“แม้ผู้ครอบครองจะอ่อนแอเกินไป ทว่าทุกสิ่งที่เห็นล้วนเป็นสมบัติ และคงเสียดายหากจะเสียมันไป…”
หลังเก็บสินสงครามเสร็จ ซูอี้ก็เดินตรงไปยังสนามประลองและนั่งลงขัดสมาธิ
เขาหยิบโอสถวิญญาณขึ้นดื่ม หล่อหลอมและฟื้นพลังกายของตนเองพลางมองไปยังดาบขจีบริสุทธิ์
ใบดาบนี้มีรอยร้าว คราบสนิมแดงฉาน
ก่อนหน้านี้ยามมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม มันคือดาบในขอบเขตจักรพรรดิซึ่งมีรูปลักษณ์เลิศล้ำ
ทว่ายามนี้มันเสียหายหนัก พลังของมันอย่างมากก็แข็งแกร่งกว่าสมบัติวิญญาณเหล่านั้น
เหตุผลที่เหตุใดพวกเยี่ยนจิงอวิ๋นไม่อาจสยบดาบเล่มนี้ได้เมื่อกาลก่อนนั่นก็เพราะวิญญาณดาบยังไม่ถูกทำลาย และมันก็มีร่างวิญญาณภูตอันแข็งแกร่งยิ่ง
ประการที่สองคือในสนามประลองนี้ ดาบเล่มนี้สามารถใช้พลังของประตูจองจำที่ไกลออกไปได้ ซึ่งเพียงพอจะหยุดผู้คนในขอบเขตจักรพรรดิ อย่าว่าแต่พวกเยี่ยนจิงอวิ๋นเลย
“โชคดีที่วัตถุดิบเหล่านี้และรูปลักษณ์ของดาบนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าดาบนิลกาฬกลืนฟ้าของข้า ในภายหน้ายามย่างสู่วิถีวิญญาณ ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าคงยากจะทนต่อมหาวิถีแห่งเราได้ ทว่าหลังจากยามที่รอคอยมาถึง เราก็รวมมันเข้ากับดาบขจีบริสุทธิ์นี้ได้”
“เมื่อใช้ดาบขจีบริสุทธิ์เป็นแก่นวัตถุดิบ เราก็จะหลอมดาบวิญญาณแห่งชะตาที่เชื่อมต่อกับหัวใจตนได้…”
ซูอี้ครุ่นคิด
เมื่อก้าวสู่วิถีวิญญาณ เขาก็จะสามารถสร้างอาวุธวิเศษคู่ชีพตนได้
ความแข็งแกร่งของอาวุธวิเศษคู่ชีพสามารถส่งผลต่อการแสดงอำนาจต่อสู้ของผู้ถือครอง
ยามนี้ ด้วยดาบขจีบริสุทธิ์ ยามเมื่อเขาย่างสู่วิถีวิญญาณในภายหน้า เขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันแล้ว
ครึ่งชั่วยามต่อมา
ซูอี้ซึ่งฟื้นตัวจนสมบูรณ์พร้อมยืนขึ้นมองไปยังประตูสำริดที่ปิดอยู่ไกล ๆ
ประตูบานนี้ตั้งอยู่บนอาคมมิติใหญ่มโหฬาร ซึ่งถูกสลักอาคมอักขระเต๋าอันลึกลับซับซ้อนไว้มากมาย ดูน่าขนลุกและเป็นปริศนา
หากใช้จิตสัมผัส จะสามารถรับรู้ได้อย่างกระจ่างแจ้งว่าอำนาจของอาคมมิติถูกบีบอัดอยู่ในประตูสำริดบานนี้ ซึ่งรับกับอาคมอักขระเต๋าอันแน่นขนัด จากนั้นจึงได้ก่อเป็นอำนาจจองจำรุนแรงยิ่ง
พลังจองจำเยี่ยงนี้ มีเพียงผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเท่านั้นที่ทำได้!
ซูอี้คาดการณ์ไว้ว่าการจัดเรียงเหล่านี้น่าจะเกิดจากมือของราชันย์ปีศาจพระสุเมรุเอง
หาไม่ ดาบขจีบริสุทธิ์จะปกป้องที่แห่งนี้ตลอดมาได้เช่นไร?
“ข้าไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับที่แห่งนี้เมื่อกาลก่อน ทำให้ราชันย์ปีศาจพระสุเมรุไม่ลังเลที่จะทิ้งดาบนี้ไว้เฝ้าประตูจากคนนอก…”
ซูอี้ครุ่นคิด จากนั้นพลิกฝ่ามืออีกครั้งพร้อมกับเรียกโลหิตสีทองออกมาหนึ่งหยด แล้วใช้จิตสัมผัสกับมันอย่างใจเย็น
โลหิตสีทองสั่นระริกเล็กน้อย จังหวะวิถีที่อยู่ในนั้นพลุ่งพล่าน เผยพลังชีวิตอันไร้ใดปาน
เหมือนโลหิตสีทองนี้จะถูกกระตุ้นหน่อย ๆ มันพยายามดิ้นหลุดเพื่อพุ่งเข้าใส่ประตูสำริด
“ว่าแล้วเชียว วัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์ชิ้นนี้ต้องอยู่ในประตูจองจำ!”
“หากเป็นเช่นนั้น เหตุที่ราชันย์ปีศาจพระสุเมรุทุ่มเทอำนาจปิดผนึกที่แห่งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาปลดปล่อยวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์นี้หรือ?”
ซูอี้ครุ่นคิด
เขาแน่ใจว่าในประตูจองจำนี้ต้องมีอันตรายเกินหยั่งแฝงอยู่
กระทั่งในยามแรกที่เขามาถึง เขาก็สงสัยว่าปราณหยินวิญญาณเหมันต์ที่ปกคลุมถ้ำใต้ดินจะเกี่ยวข้องกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์ชิ้นนั้น
เพียงแค่ว่าซูอี้ไม่อาจตัดสินได้ว่าอันตรายใดที่ซุกซ่อนอยู่ในประตูจองจำบานนั้น
“หมอกโลหิต ซากดารา หลุมศพมากมาย ประตูจองจำ วัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์… การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจซึ่งเกิดขึ้นที่นี่เมื่อกาลก่อนต้องมากกว่าเพียงถูกการจองจำแห่งยุคมืดครอบคลุมมากนัก…”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ซูอี้ก็ไม่ลังเลอีก เขาเดินไปยังประตูจองจำพร้อมดาบขจีบริสุทธิ์ในมือ
วูบ!
ยามเมื่อซูอี้ยกดาบขจีบริสุทธิ์ในมือขึ้น จู่ ๆ ก็บังเกิดระลอกคลื่นพลิ้วไสวบนประตูจองจำ อาคมอักขระเต๋าลึกลับมากมายขยับยุกยิก และในที่สุดก็เปิดออกช้า ๆ ตรงหน้าซูอี้
ซูอี้ก้าวเข้าไป
ทันใดนั้น ท้องนภาก็หมุนหวือราวก้าวเข้าสู่ประตูแห่งกาลเวลา
เมื่อคลองจักษุของเขาเห็นภาพชัดเจนอีกครา มองแวบแรกเขาก็เห็นมหาพฤกษาต้นหนึ่ง
มหาพฤกษาต้นนี้สูงตระหง่านค้ำสวรรค์ กิ่งก้านของมันแตกสาขาไร้สิ้นสุดราวกับเป็นสิ่งค้ำยันสวรรค์และปฐพี เกินกว่าจินตนาการ
เพียงกิ่งฝอยก็ใหญ่ราวบรรพตยาว!
“นี่คือ?”
ซูอี้หรี่ตาลง
เขาเห็นว่ามหาพฤกษานี้เชื่อมระหว่างผืนฟ้าและแดนดิน ทุกกิ่งแขนงต่างเต็มไปด้วยเศษซากดาราหักพัง และซากดาราหนาแน่น!
ซากดาราแต่ละซากต่างใหญ่โตราวผืนดิน และปกคลุมโดย ‘การจองจำแห่งยุคมืด’ อันให้บรรยากาศมืดมิดลี้ลับ แปลกประหลาดพิศวง
เมื่อเห็นภาพนี้ ซูอี้ก็รู้สึกคุ้นเคยชอบกล
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็พลันจำบางอย่างได้
เขาพลิกฝ่ามือหยิบระฆังทองแดงสีดำออกมาทันที
ระฆังทัณฑ์โลกันต์!
นี่คือสมบัติล้ำค่าซึ่งเสียหายหนักมาแสนนาน แต่เดิมมันคือสมบัติซึ่งแม่ของซูอี้ เยี่ยอวี่เฟยนำติดตัวมาจากโลกอื่น ในภายหลังมันก็ถูกบิดาของเขาซูหงหลี่ควบคุม
สมบัติชิ้นนี้ไม่ได้กลับคืนมาจนกระทั่งซูอี้เอาชนะซูหงหลี่ได้
และยังเป็นยามนั้นเองที่ซูอี้ค้นพบแผนที่ลับบนสมบัติชิ้นนี้
สิ่งที่ถูกวาดบนแผนที่ลับคือภาพต้นไม้ประหลาดที่สูงตระหง่านทะยานเหนือนภาสู่จักรวาลพร่างดาว กิ่งก้านต่างเต็มไปด้วยซากดารา
และบนแผนที่ลับยังมีอักษรลับเทพมารอันสุดโบราณและลึกลับเขียนอยู่หนึ่งบรรทัด
‘ที่มาแห่งคังชิง ความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์’!
ที่มาแห่งคังชิงนั้นย่อมเป็นต้นกำเนิดโลกในมหาทวีปคังชิง เมื่อสามหมื่นปีก่อน การปรากฏของการจองจำแห่งยุคมืด กล่าวกันว่าเกี่ยวพันกับที่มาแห่งคังชิง
ซูอี้เองก็จนปัญญาว่าความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์นี้คืออันใด
ยามนั้น เขาคาดไว้ว่าเหตุผลที่มารดาของเขาเยี่ยอวี่เฟยมาที่มหาทวีปคังชิงพร้อมระฆังทัณฑ์โลกันต์นั้นคงเป็นเพื่อสำรวจ ‘ความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์’ นี้เอง
น่าเสียดายที่เยี่ยอวี่เฟยป่วยตายจากโรคร้ายเสียก่อน
เบาะแสจึงถูกตัด
ทว่ายามนี้ ในประตูจองจำในโลกใต้พิภพของภูเขาพระสุเมรุ ซูอี้ก็ได้เห็นมหาพฤกษาที่แทบเหมือนภาพวาดในแผนที่ลับทุกประการ!
“หรือต้นไม้นี้จะเกี่ยวพันกับที่มาแห่งคังชิง? และยังซ่อนเบาะแสเกี่ยวกับความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์ด้วยหรือ?”
ซูอี้ครุ่นคิดหนัก
เขามาที่นี่เพื่อสืบเบาะแสเกี่ยวกับการจองจำแห่งยุคมืด ทว่าไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มาเห็นภาพเช่นนี้!
เรื่องราว… ดูจะน่าสนใจขึ้นทุกที
ซูอี้ทิ้งความคิดไขว้เขวและมองไปรอบ ๆ ทว่าก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าโลกนี้ดูจะอยู่นอกสุญญะ นอกเสียจากพื้นดินใต้เท้า ทั่วทุกทิศต่างมีเพียงความว่างเปล่าดำมืดไร้ขอบเขต
“ดูเหมือนว่าประตูจองจำเมื่อครู่จะเป็นทางลับสู่สุญญะ และสถานที่ในยามนี้เห็นได้ชัดว่าก็ไม่ใช่โลกใต้พิภพของภูเขาพระสุเมรุ กระทั่งว่า… ไม่น่าจะอยู่ในเกาะเซียนพระสุเมรุอีกต่อไป…”
ซูอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปมอง
เขาเห็นว่าประตูสำริดยังอยู่ที่เดิม เพียงแค่จมอยู่ในความว่างเปล่าเป็นเงาตะคุ่ม
“โชคดีที่อย่างน้อยเราก็กลับได้ หาไม่เราคงถูกขังอยู่ในเมืองผีแห่งนี้ หาทางกลับไม่เจอแน่”
ซูอี้แน่ใจเช่นนั้น
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เขาก็ทะยานไปเบื้องหน้าทันที ตั้งใจจะดูมหาพฤกษาที่ปกคลุมโดยซากดารานี้ใกล้ ๆ
มหาพฤกษานี้แปลกประหลาดและพิเศษอย่างยิ่ง มันใหญ่โตเกินจินตนาการ กิ่งก้านปกคลุมไปด้วยซากดารา ซ้ำยังถูกพลังของการจองจำแห่งยุคมืดฉาบปกคลุม
กระทั่งในอดีตชาติ ซูอี้ยังไม่เคยได้เห็นต้นไม้ที่แปลกเยี่ยงนี้
เสี้ยวชั่วยามผ่านไป
สองเสี้ยวชั่วยามผ่านไป
หลังโผบินอยู่ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดซูอี้ก็เห็นชัดว่ามหาพฤกษานี้หยั่งยากลึกสู่สุญญะ!
กิ่งก้านสาขาเหล่านี้เป็นราวเส้นทางท่องโลกา มันแน่นขนัดเสียจนไม่อาจทราบว่านำไปยังแห่งหนใด พวกมันทั้งหมดต่างปกคลุมด้วยอำนาจลี้ลับดำมืดของการจองจำแห่งยุคมืด
ยิ่งกว่านั้น หลังจากมาถึงบริเวณนี้ บรรยากาศของการจองจำแห่งยุคมืดก็เริ่มแพร่ผ่านสุญญะ ดูราวม่านหมอกสีเทาอันน่าสะพรึงกลัว
ควรทราบว่าอำนาจน่ากลัวเช่นนี้ปกคลุมมหาทวีปคังชิงมาสามหมื่นปี ซ้ำยังทำลายการสืบทอดผู้ฝึกตนโบราณมากมายลงในธารแห่งเวลาอันแสนยาวนาน!
แม้จะแข็งแกร่งเช่นผู้ฝึกตนในขอบเขตจักรพรรดิยังยากมีชีวิตรอด!
ยามนี้ ซูอี้หรี่ตาลงเมื่อสบกับหลุมศพอันเดียวดาย
มีซากศพซากหนึ่งนั่งอยู่หน้าหลุมศพนั้น!