บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 578 เวิ้งเก้าดารา ที่มาแห่งคังชิง
ตอนที่ 578: เวิ้งเก้าดารา ที่มาแห่งคังชิง
ตอนที่ 578: เวิ้งเก้าดารา ที่มาแห่งคังชิง
“ดูเหมือนว่าหากข้าไม่สยบเจ้านกกระจอกน้อยนี่ก่อน เกรงว่าเจ้าคงไม่ร่วมมือดี ๆ”
ซูอี้กระซิบ
นกกระจอกสีเทาบนกิ่งไม้ไกลออกไปตบปีกหัวเราะลั่น “เจ้ามดน้อย เสียงไม่ใช่เบานะ ไม่กลัวสายลมเฉือนลิ้นหรือไร?”
ชิ้ง!
เสียงยังคงกังวาน ทว่าปราณดาบสายหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ฟาดฟันใส่นกกระจอกสีเทา
นกกระจอกสีเทาพลันกรีดร้อง หลบไปด้านข้าง ปราณดาบเฉี่ยวปีกของมันอย่างน่าหวาดเสียว ก่อนจะฟันใส่กิ่งด้านหนึ่ง
กิ่งไม้นั้นแข็งเหลือล้ำอย่างน่าแปลกใจ กระทั่งปราณดาบของซูอี้ยังไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนได้แม้เพียงนิด
นกกระจอกสีเทายืนอย่างมั่นคง แผดเสียง “เจ้าหนุ่ม วิถียุทธ์ยังไม่แข็งกล้า แต่ยังกล้าโจมตีข้าผู้ยิ่งใหญ่นี้!”
ซูอี้กล่าวลอย ๆ “หากเจ้ามีฝีมือจริง ไฉนจึงหลบซ่อน?”
เขาเองก็แปลกใจเช่นกัน การหลบลี้ของนกกระจอกสีเทาตัวนี้รวดเร็วเหลือเชื่อราวเคลื่อนย้ายพริบตา
“ผู้ยิ่งใหญ่ก็แค่รังเกียจจะต่อสู้กับมดเช่นเจ้า หากลงมือจริง อย่าว่าแต่เจ้าเลย ต่อให้ผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิมา ข้าดีดนิ้วก็ตายแล้ว!”
นกกระจอกสีเทาเย่อหยิ่งจองหอง ไม่มีขอบเขตจักรพรรดิในสายตา
ซูอี้ไร้อารมณ์จะมาคุยกับนก เขาเตรียมโจมตี
ทันใดนั้น นกกระจอกสีเทาก็ร้องเรียกกะทันหัน “ช้าก่อนผู้ฝึกตนเอ๋ย เราควรถือความสงบสุขเป็นสำคัญ อย่าต่อสู้กันในที่พักอาศัย เพื่อคนรุ่นเยาว์ผู้ไม่รู้ความ ข้าผู้นี้จะตอบคำถามบางข้อของเจ้าให้อย่างเมตตา บอกข้าสิว่าอยากรู้เรื่องใด?”
“เปลี่ยนใจแล้วหรือ?”
ซูอี้ยิ้มนิด ๆ ทว่าก็ไม่สนใจจะมากความกับนก เขาถามว่า “บอกข้ามาก่อน เหตุใดจึงลอบโจมตีข้า”
นกกระจอกสีเทาครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดอย่างมีชนักติดหลัง “ข้าผู้นี้ก็แค่ทดสอบเจ้า”
ริมฝีปากของซูอี้พ่นออกมาหนึ่งคำ “โม้”
นกกระจอกสีเทาโกรธเกรี้ยวและเหมือนจะพูดบางอย่าง ทว่ามันก็ยั้งปากไว้ได้ทัน แค่นเสียงอย่างเย็นชา “ข้าไม่ใส่ใจความเห็นผู้น้อยเช่นเจ้าหรอก”
ซูอี้กล่าว “เช่นนั้นหรือ ข้าก็ไม่มีเวลาให้นกกระจอกน้อยเช่นเจ้าเพ้อเจ้อเช่นกัน จากนี้ ข้าถามเจ้าตอบ อย่าเฉไฉ หาไม่ อย่าหาว่าข้าหยาบคายแล้วกัน”
นกกระจอกสีเทา “…”
ครู่ต่อมา มันก็สูดหายใจลึก ๆ และพูดอู้อี้ “ช่างมันเถิด ถามมา!”
ซูอี้ถาม “ก่อนหน้านี้ เหตุใดเจ้าจึงจับตัวแม่นางโต้วโค่ว?”
นกกระจอกสีเทาตอบ “ข้าอยากหาใครสักคนมาถามคำถามเกี่ยวกับโลกภายนอก”
ซูอี้ครุ่นคิดลึกล้ำ “เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ได้จากที่นี่ไปนานแล้วหรือ?
นกกระจอกสีเทากล่าวอย่างหงุดหงิด “อย่าถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องเช่นนี้ได้หรือไม่?”
ซูอี้ไม่ใส่ใจ กล่าวว่า “ที่นี่คือหนใด?”
นกกระจอกสีเทาหัวเราะแปลก ๆ อย่างน่าเตะ ก่อนจะกล่าวว่า “น่าสนใจ เจ้ามาถึงที่แห่งนี้ได้โดยเปิดประตูจองจำของหยวนหมอเทียน ทว่ากลับไม่รู้ว่าคือที่แห่งใด… คนรุ่นหลังเช่นเจ้าเขลาไม่รู้เรื่องเช่นนี้หรือ?”
ซูอี้มองมันพลางกล่าวว่า “ความอดทนข้ามีจำกัด จงบอกมาเสีย”
นกกระจอกสีเทาสีหน้าค้าง พลางพึมพำ “ไยจึงถือจริงถือจังมากนักเล่า? หากไม่ใช่เพราะคำสาบานดั้งเดิม และเจ้ายังกล้าพูดเช่นนี้ ข้าผู้ยิ่งใหญ่นี้คงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว!”
เมื่อเห็นสีหน้าซูอี้ดูไม่ค่อยดี นกกระจอกสีเทาก็รีบกล่าวว่า “ที่แห่งนี้คือ ‘เวิ้งเก้าดารา’ หรือที่เจ้าเรียกว่า ‘บ่อโบราณโกลาหล’ ในมหาทวีปคังชิงนั่นอย่างไรเล่า”
เวิ้งเก้าดารา?
บ่อโบราณโกลาหล?
หัวใจของซูอี้สั่นสะท้าน
นี่คือคราแรกที่ได้ยินนามเวิ้งเก้าดารา ทว่าเขาเคยได้ยินชื่อ ‘บ่อโบราณโกลาหล’ มาก่อน
จากข่าวลือ ในบ่อโบราณโกลาหลมีแหล่งกำเนิดแห่งมหาทวีปคังชิงอยู่ ซึ่งก็คือที่มาแห่งคังชิง! ต้นกำเนิดแห่งคังชิง!!
เมื่อสามหมื่นปีก่อน มีจักรพรรดิผู้หนึ่งบุกไปยังบ่อโบราณโกลาหลและเปิดผนึกลึกลับ ทำให้พลังของการจองจำแห่งยุคมืดปะทุออกมาจากบ่อโบราณโกลาหลและกวาดสู่โลกหล้า ปกคลุมมหาทวีปคังชิงมาเนิ่นนานสามหมื่นปี!
เพราะเหตุนี้เอง ทุกคนจึงเชื่อว่าบ่อโบราณโกลาหลคือต้นกำเนิดของการจองจำแห่งยุคมืด
และจากคำกล่าวของนกกระจอกสีเทา แผ่นดินที่เขากำลังยืนอยู่ในยามนี้ก็คือบ่อโบราณโกลาหล!
ซูอี้จะไม่ตกใจกับเรื่องนี้ได้เช่นไร?
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูอี้ก็ถามว่า “ที่นี่มีแหล่งกำเนิดแห่งมหาทวีปคังชิงฝังอยู่หรือ?”
นกกระจอกสีเทากล่าว “ถูกต้อง”
ซูอี้มองไปรอบ ๆ และในที่สุดก็มองไปทางบรรพพฤกษ์เปี่ยมด้วยซากดารา “นี่หรือ?”
“ยังนับว่าตาถึงอยู่บ้าง”
นกกระจอกสีเทากล่าว “หากมันไม่ได้อยู่ที่นี่ในช่วงสามหมื่นปีนี้ มหาทวีปคังชิงคงพังทลายโดยพายุดวงดาวนอกอาณาเขตไปแล้ว!”
ซูอี้หรี่ตาลงเล็กน้อย และในที่สุดก็เข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…”
หากสิ่งที่นกกระจอกสีเทากล่าวเป็นจริง เช่นนั้นบรรพพฤกษ์อันเต็มไปด้วยซากดาราซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นร่องรอยที่เหลือจากสงครามนี้ก็กีดขวางพายุดารานอกเขตแดนอยู่!
กระทั่งซากดาราที่ลอยอยู่เหนือภูเขาพระสุเมรุและโลกใต้พิภพก็คงมาจากที่มาเดียวกัน
จากประสบการณ์ในอดีตชาติของซูอี้ เขาย่อมกระจ่างแก่ใจว่าหากมีโลกใดประสบ ‘หายนะ’ ต้นกำเนิดแห่งโลกนั้นจะตอบโต้โดยสัญชาตญาณ
เรื่องนี้คล้ายคลึงกับความขัดแย้งระหว่างกฎเกณฑ์แห่งโลก เมื่อจุดกำเนิดแห่งโลกถูกทำลาย เช่นนั้นโลกก็จะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์
ทว่า ซูอี้ไม่ได้คาดคิดว่าโลกเช่นมหาทวีปคังชิงซึ่งมีขุมพลังในขอบเขตจักรพรรดิมากมายจะประสบหายนะเช่นนี้!
ซูอี้ถาม “ที่มาของพายุดารานั้นคืออันใด?”
นกกระจอกสีเทากลอกตากล่าว “ไม่ใช่บอกเจ้าแล้วหรือ พายุดารานั้นมาจากจักรวาลพร่างดาวเบื้องนอก”
ซูอี้ไม่ใส่ใจปากเสีย ๆ ของนกกระจอกสีเทา แววตาของเขาวูบไหวยามเมื่อจำสิ่งหนึ่งขึ้นได้
หรือพายุดารานี้จะเป็น ‘อันตรายใหญ่ยิ่ง’ ลึกเข้าไปในจักรวาลพร่างดาวที่ราชันย์ปีศาจพระสุเมรุหมายถึง?
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูอี้ก็ถามว่า “ราชันย์ปีศาจพระสุเมรุตายที่นี่ได้เช่นไร?”
“เจ้าพูดถึงเจ้าลิงน้อยนั่นอยู่สินะ แต่เดิมเขาเป็นร่างวิญญาณที่เกิดจากโขดหินภายในต้นกำเนิดแห่งคังชิง เป็นจิตอารักษ์ซึ่งที่มาแห่งคังชิงให้การยอมรับ”
เสียงของนกกระจอกสีเทาต่ำลงกะทันหัน อารมณ์ของเขาดูเศร้าใจเล็กน้อย “น่าเสียดาย เมื่อสามหมื่นปีก่อน พายุดารามากะทันหันเกินไป ขนาดมหาพฤกษานี้ยังเสียหายหนัก อย่าว่าแต่วานรน้อยนั่นเลย ข้าพยายามกล่อมเขาให้จากไป ทว่าเขาไม่ยอมฟัง ดึงดันจะสู้จนตัวตาย สุดท้าย… เฮ้อ!”
เสียงของนกกระจอกสีเทาเปี่ยมความเศร้าและจนใจ
เมื่อซูอี้ได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาก็ซาบซึ้ง พลางกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น พลังของการจองจำแห่งยุคมืดก็มาพร้อมกับพายุดารานั่นหรือ?”
นกกระจอกสีเทาพยักหน้า ก่อนจะตอบว่า “ไม่ได้โง่นี่ ที่เจ้าเรียกว่าการจองจำแห่งยุคมืดนั่น แท้จริงแล้วเป็นหายนะมหาวิถีอย่างหนึ่ง ซึ่งพลังทำลายล้างในพายุดารานี้สามารถกัดกร่อนทำลายกฎเกณฑ์ มหาวิถีและต้นกำเนิดแห่งโลกได้”
“หากมหาพฤกษานี่ไม่ได้ปกปักษ์อยู่ ณ ที่แห่งนี้ มหาทวีปคังชิงคงสูญสิ้นไปแสนนานแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอดชีวิตภายใต้การจองจำแห่งยุคมืดมาจนบัดนี้”
หลังฟังจบ ซูอี้ก็ตกสู่ภวังค์ครุ่นคิด
คำพูดของนกกระจอกสีเทาแก้ปมมากมายในใจของเขา ในที่สุดเขาก็เข้าใจความลับเบื้องหลังการจองจำแห่งยุคมืด และต้นกำเนิดแห่งคังชิง บ่อโบราณโกลาหล
เรื่องมากมายสามารถคาดเดาได้จากสิ่งนี้
เมื่อสามหมื่นปีก่อน มหาทวีปคังชิงตกเป็นเป้าโจมตีของพายุดาราจากนอกดินแดน ซึ่งทำให้การจองจำแห่งยุคมืดปกคลุมโลกหล้า ส่งผลให้ปราณวิญญาณขาดแคลน มหาวิถีเสียหาย
ในช่วงกาลต่อมา ผู้ฝึกตนเหล่านั้นไม่ตายก็จากมหาทวีปคังชิงไปเพื่อหาแหล่งพำนักใหม่
ในลักษณะเดียวกัน หายนะครั้งนี้สร้างรอยร้าวขึ้นมากมายในผนังกั้นมิติของมหาทวีปคังชิง จึงเปิดโอกาสให้ผู้ฝึกตนจากโลกอื่นข้ามมายังมหาทวีปคังชิงได้!
“ผู้น้อยเอ๋ย เจ้าอยู่แค่ในขอบเขตรวบรวมดารา รู้ความลับเหล่านี้ไปจะมีประโยชน์อันใด? ข้าผู้ยิ่งใหญ่นี้แนะนำเจ้าอย่าได้คิดไม่ลืมหูลืมตา เหตุการณ์สำคัญอันเกี่ยวข้องกับโลกนี้ไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า”
ซูอี้ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ในขณะที่นกกระจอกสีเทากล่าวอย่างหัวโบราณด้วยน้ำเสียงดูแคลน “เกิดเป็นคน จะยิ่งใหญ่คับฟ้าเกินไปไม่ได้!”
ซูอี้มองเจ้านกปากเสีย เมินคำพูดเหล่านั้นไปสิ้น จากนั้นจึงกล่าวคำออก “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งใดคือที่มาแห่งคังชิง ความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์?”
นกกระจอกสีเทาตะลึง ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้ายังรู้เรื่องพวกนี้ด้วยหรือ?”
ซูอี้มองมันพลางกล่าว “สิ่งที่ข้าต้องการคือคำตอบ”
นกกระจอกสีเทาหัวเราะพลางกล่าว “คำตอบนั้นง่ายมาก นี่คือเวิ้งเก้าดารา จุดกำเนิดที่มาแห่งคังชิง ส่วนความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์ที่ว่านั่นคือ ผู้ใดที่สามารถทำความเข้าใจและควบคุมที่มาแห่งคังชิง ก็จะก้าวสู่การขอบเขตจักรพรรดิ เป็นจักรพรรดิแห่งแดนดินได้!”
ซูอี้ตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เขาเคยคิดว่า ‘ความลับแห่งจักรพรรดิเก้าสมบูรณ์’ นี้จะมีความลับน่าตกใจมากมาย ใครเล่าจะคิดว่าที่แท้มันก็แค่หนึ่งเส้นทางสู่ขอบเขตจักรพรรดิ
เมื่อเห็นซูอี้เงียบไป นกกระจอกสีเทาก็อดกล่าวอย่างเหิมเกริมราวผู้ชนะไม่ได้ว่า “กระไรหรือ? ไม่เคยได้ยิน ถึงขอบเขตจักรพรรดิหรือไร? นั่นสินะ เจ้าก็แค่ผู้น้อยในขอบเขตรวบรวมดารา ยังคงล่องลอยอยู่ในวิถีต้นกำเนิด เจ้าจะรู้ถึงขอบเขตจักรพรรดิผู้สูงส่งที่สุดในวิถีลึกล้ำได้เช่นไร?”
ปากของซูอี้กระตุก เป็นแค่นกกระจอกน้อย แต่กลับกล้าพูดว่าซูเสวียนจวินไม่เข้าใจขอบเขตจักรพรรดิ…
หากคำพูดนี้หลุดไปในเก้ามหาแดนดิน เกรงว่ามันคงกลายเป็นเรื่องตลกที่สุดในโลกไป
“ผู้น้อยเอ๋ย อย่าได้ท้อใจ แม้ว่าขอบเขตจักรพรรดิจะแสนห่างไกลจากเจ้า เจ้าอาจจะไม่ได้แตะต้องมันเลยชั่วชีวิต แต่เจ้าก็ภูมิใจได้ว่าอย่างน้อยเจ้าก็รู้จักมันแล้ว และในโลกนี้ ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่… ฮี่ ๆ พวกเขาไม่แม้กระทั่งจะรู้ว่าวิถีลึกล้ำมีกี่ขอบเขตด้วยซ้ำ!”
แววตาของนกกระจอกสีเทาช่างเหยียดหยาม ราวดูแคลนสรรพชีวิตทั้งมวล
เมื่อเห็นนกกระจอกสีเทาอยากอวดภูมิ ซูอี้ก็อดนวดคิ้วพูดขัดไม่ได้ “เอาล่ะ ข้าจะถามว่า นี่เลือดผู้ใด?”
เขาพลิกข้อมือ
วูบ!
สายเส้นโลหิตสีทองปรากฏขึ้น
นกกระจอกสีเทาอึ้ง ก่อนจะกล่าวอย่างเดือดดาล “เหอ ที่แท้ก็เป็นเจ้าที่แทงอาคังก่อนหน้านี้ เป็นเจ้า!”
“อาคังที่เจ้าพูดถึงคือมหาพฤกษานี้หรือไม่?”
ซูอี้จ้องมองมหาพฤกษาอันเต็มไปด้วยซากดารา สัมผัสได้ว่าโลหิตทองคำในมือสั่นไหวรุนแรง กระเหี้ยนกระหือรืออยากทะยานไปหามหาพฤกษา
ยามนี้เองที่ซูอี้ตระหนักว่าการคาดเดาเก่าก่อนของเขาไม่ได้ผิดเพี้ยน โลหิตนี้มาจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์จริง ๆ
ทว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์นี้แตกต่างมาก มันคือมหาพฤกษาซึ่งแปรเปลี่ยนมาจากแหล่งกำเนิดแห่งมหาทวีปคังชิง!
“ไม่สิ ด้วยการฝึกฝนต่ำเตี้ยอย่างเจ้า จะทำร้ายอาคังได้เช่นไร?”
ทันใดนั้น นกกระจอกสีเทาก็ตระหนักถึงบางสิ่งและมุ่ยหน้า “เว้นแต่…”
แววตาซูอี้ผิดแปลกเล็กน้อย และกล่าวออกมาอย่างแฝงความนัย “ยามนี้ข้าก็สงสัยขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน…”