บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 659 มหาภัยพิบัตินี้จึงคู่ควรกับข้า ซูเสวียนจวิน
- Home
- บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
- ตอนที่ 659 มหาภัยพิบัตินี้จึงคู่ควรกับข้า ซูเสวียนจวิน
ตอนที่ 659: มหาภัยพิบัตินี้จึงคู่ควรกับข้า ซูเสวียนจวิน
ตอนที่ 659: มหาภัยพิบัตินี้จึงคู่ควรกับข้า ซูเสวียนจวิน
บนทะเลวิญญาณโกลาหล
ราตรีมืดมิดอับแสง เสียงฟ้าผ่าดังก้องอยู่ไกล ๆ บนท้องฟ้าเป็นพัก ๆ
ซูอี้ยืนกลางอากาศ ดื่มสุราพลางแหงนมองดูดวงดาว ชุดยาวสีเขียวสะบัดพรึบ ๆ ท่ามกลางลมทะเล
หนิงซือฮวากับคนอื่น ๆ ยืนห่างไปไม่ไกลนัก ต่างก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เสียงสายฟ้าฟาดดังกึกก้อง ราวกับขุนเขาใหญ่หลายลูกพุ่งชนใส่กันบนฟ้า อานุภาพแห่งสวรรค์ที่ทำให้จิตใจของทุก ๆ คนเกิดแรงกดดันแผ่กระจายไปทั่วใต้หล้า
จิตใจของแต่ละคนสั่นสะท้าน รู้สึกราวกับหายใจไม่ออก
“นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
“ใครจะไปรู้เล่า”
“ฟ้าดินแปรเปลี่ยน…”
เสียงกระซิบดังขึ้น แต่ละคนพูดคุยกันด้วยความหวาดวิตกและสงสัย
“อย่าได้ตื่นตระหนกไป นี่คือโชคชะตายิ่งใหญ่ที่หาพบไม่ได้ง่าย ๆ อีกประเดี๋ยวก็มาดูกันว่าพวกเจ้าจะสามารถไขว่คว้ามาได้มากน้อยเพียงใด”
ซูอี้ส่งเสียงพูดเนิบ ๆ
เขาสันนิษฐานสาเหตุความเปลี่ยนแปลงในคืนนี้ออกตั้งนานแล้ว และตระหนักดีว่าต้นกำเนิดแห่งคังชิงเกิดความเปลี่ยนแปลง พลังแหล่งที่มามหาวิถีอันยิ่งใหญ่เหลือคณาจะปรากฏขึ้นในคืนนี้!
“โชคชะตายิ่งใหญ่?”
ดวงตาของทุกคนลุกวาว แสดงสีหน้าตั้งตารอ
เวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละน้อย
บนท้องฟ้าที่ไกลออกไป เสียงกึกก้องของมหาวิถีซึ่งคล้ายกับเสียงฟ้าผ่าส่งเสียงดังรุนแรงมากขึ้นทุกที กลิ่นอายแห่งความกดดันที่อัดตัวอยู่ท่ามกลางฟ้าดินเริ่มเข้มข้นตามไปด้วย
ทั่วทั้งมหาทวีปคังชิง ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตน หรือว่าสิ่งมีชีวิตบนโลก ล้วนตื่นตระหนกต่อความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้
แม้กระทั่งเหล่าภูตผีอสูรปีศาจที่พักอาศัยอยู่ในป่าลึกก็ยังร้อนรน ทั้งรอคอย และตั้งความหวัง
ทันใดนั้นเอง…
โครม!
เสียงดังกึกก้องยากจะพรรณนาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นบนฟากฟ้าของมหาทวีปคังชิง
ชั่วขณะนั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกต่างก็ตื่นตระหนก สีหน้าเปลี่ยน
ในสายตาของคนที่มีระดับการฝึกตนสูงส่ง ล้วนมองเห็นว่าบนท้องฟ้าที่ห่างไกลออกไปนั้น มีพลังแหล่งกำเนิดมหาวิถีที่ยิ่งใหญ่ประดุจคลื่นยักษ์ ลักษณะคล้ายกับสะเก็ดแสงแห่งดวงดาวอันระยิบระยับพร่างพราย กำลังพุ่งลงมายังมหาทวีปคังชิง
แสงสว่างระยิบระยับทำให้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มราวกับน้ำหมึกสว่างเจิดจ้าขึ้นมา
ราวกับว่าความมืดถูกขับไล่ให้หายไป แสงสว่างส่องมายังโลกมนุษย์!
“สวรรค์!”
“นี่…”
“หรือว่าแสงสว่างแห่งโลกกว้างมาถึงแล้ว?”
ทุกหนแห่งในใต้หล้าเกิดเสียงอุทานนับไม่ถ้วน
ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าใดที่ตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อนี้
มองดูให้ดี สะเก็ดแสงมหาวิถีเหล่านั้นราวกับดาวตกที่มีขนาดแตกต่างกันไป สว่างเจิดจ้าบาดตา เฉิดฉายเป็นประกาย
บ้างส่องสว่างเจิดจ้าราวกับแสงตะวัน
บ้างสลัวอับแสงประดุจแสงไฟอ่อน ๆ
บ้างมีลักษณะคล้ายกับงูตัวยาว ๆ ประมาณพันจั้ง
พลังแหล่งกำเนิดที่สะสมกันจนเป็นสะเก็ดแสงมหาวิถีเหล่านั้นก็มีความแตกต่างกันออกไป
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ผู้ฝึกตนในโลกนี้ก็ยังพากันกรูออกมา พยายามใช้วิธีการแต่ละอย่างที่มีไล่ล่าโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ราวกับคนเสียสติ!
ขุมกำลังเก่าแก่บางกลุ่มถึงกับใช้ค่ายกลที่เตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า หยิบเอาอาวุธลับออกมาเพื่อเก็บสะสมโชคชะตายิ่งใหญ่ที่ร่วงลงมาจากสวรรค์
เหมือนดังที่ซูอี้กล่าวไว้ โชคชะตายิ่งใหญ่ครั้งนี้เป็นของสรรพชีวิตทั้งหมดบนมหาทวีปคังชิง เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
“โชคชะตายิ่งใหญ่เช่นนี้ จะปล่อยให้เสียไปเปล่า ๆ ไม่ได้ ไปกัน!”
มือหนึ่งของซูอี้ถือน้ำเต้า อีกมือหนึ่งชักดาบนิลกาฬกลืนฟ้าแล้วโยนขึ้นไป
สวบ!
ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เงาสัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนตัวดาบในทันใด นั่นคือวิญญาณของนกกระจอกเพลิงยมโลก
เพียงแค่กะพริบตาไม่กี่ที ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าก็พุ่งไปยังท้องฟ้าที่ไกลออกไป นกกระจอกเพลิงยมโลกเริ่มดูดกลืนสะเก็ดแสงมหาวิถีซึ่งมีลักษณะคล้ายกับดาวตกด้วยความบ้าคลั่ง
ขณะเดียวกันนั้นเอง ซูอี้เป่าปาก
พลังแห่งกลิ่นอายแหล่งกำเนิดอันกลมกลืนปรากฏขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจพรรณนาได้ เมื่อสะเก็ดแสงเคลื่อนตัว กลิ่นอายมหาวิถีอันยิ่งใหญ่ก็แผ่กระจายออกมา
เมล็ดพันธุ์แห่งคังชิง!
“โฉบ!”
ซูอี้ขับเคลื่อนพลัง ส่งเสียงดังราวกับเสียงฟ้าผ่า ชูเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงขึ้น
ครืน!
ชั่วขณะนั้น พวกของหนิงซือฮวารู้สึกบาดตายิ่งนัก
รู้สึกราวกับดวงตะวันยิ่งใหญ่ถูกชูขึ้น แสงสว่างเจิดจ้าไร้ขอบเขต!
ถัดจากนั้น เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็อุบัติขึ้น…
บนท้องฟ้าที่ไกลออกไป เวลานี้สะเก็ดแสงมหาวิถีที่คล้ายกับดาวตกจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับถูกดึงดูดให้มารวมกัน ร่องวิถีที่ร่วงหล่นพลันเกิดความเปลี่ยนแปลง ก่อนจะพุ่งลงมายังทะเลวิญญาณโกลาหลทางนี้!
มองดูไกล ๆ สะเก็ดแสงคล้ายกับดวงดาวกำลังร่วงหล่นลนมหาสมุทร!
นั่นคือภาพอันน่าตื่นตะลึง
สะเก็ดแสงมหาวิถีงดงามหลากสีสัน เจิดจรัสพร่างพราว ทะเลวิญญาณโกลาหลอันยิ่งใหญ่ถูกย้อมด้วยสะเก็ดแสงสีขาวจนสว่างเจิดจ้า
พวกของหนิงซือฮวานิ่งตะลึงอยู่ตรงนั้น จิตใจมีแต่ความครั่นคร้าม
สิ่งนี้… ต่างอะไรจากสิ่งมหัศจรรย์กัน!?
“ยังจะมัวตะลึงอะไรอีก รีบไปเก็บแหล่งกำเนิดมหาวิถีเร็ว”
เสียงราบเรียบของซูอี้ดังขึ้นกลางอากาศ
ทุก ๆ คนราวกับตื่นจากฝัน เริ่มออกไปเก็บกัน
สวบ!
เหวินหลิงเสวี่ยโฉบออกไป เอื้อมมือออกไปคว้าสะเก็ดแสงมหาวิถีในระยะบริเวณจั้งกว่า ๆ
“อุ่นสบายเหลือเกิน…”
ความเคลิบเคลิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าใสสะอาดของหญิงสาว รู้สึกว่าทั้งในและนอกร่างดื่มด่ำไปกับกระแสมหาวิถีอันอบอุ่น ทั่วทุกอณูผิวได้รับการบำรุง แม้กระทั่งระดับการฝึกตนในตัวก็ยังได้รับการชะล้างและเลื่อนระดับขึ้น
“มหัศจรรย์เหลือเกิน!”
“ความอิ่มตัว… ในระดับการฝึกตนของข้าหายไปแล้ว…”
“สวรรค์ นี่มันพลังอันใดกัน?”
เสียงร้องตื่นเต้นดังขึ้น หนิงซือฮวา อิงเชวีย หยวนเหิง ไป๋เวิ่นฉิง และฉาจิ่นที่กำลังเก็บรวบรวมพลังแหล่งกำเนิดมหาวิถีต่างก็แสดงสีหน้าปีติยินดีและตื่นเต้นออกมา
บนกลางอากาศ ซูอี้มองเห็นภาพเช่นนี้แล้วถึงกับหัวเราะขึ้นมา
แหล่งกำเนิดโลกของมหาทวีปคังชิง เดิมทีสะสมไว้ซึ่งกลิ่นอายมหาวิถีอันบริสุทธิ์ดั้งเดิมเป็นที่สุด ปราณวิญญาณแห่งฟ้าดินจึงไม่อาจเปรียบได้กับพลังเช่นนั้นได้เป็นธรรมดา
อย่าว่าแต่ผู้ฝึกตนเลย แม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปในโลกนี้ก็ยังสามารถรับผลดีอันยิ่งใหญ่จากพลังนี้ได้เช่นเดียวกัน!
ภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังแหล่งกำเนิดเช่นนี้ ต้นไม้ใบหญ้าในป่าเขาก็ยังมีความสดชื่นเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเช่นกัน
“หลังจากคืนนี้ ไม่รู้ว่าจะมีผู้บรรลุขอบเขตเพิ่มขึ้นอีกมากมายเท่าใด และไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าใดที่มีความก้าวหน้าในมหาวิถี…”
ซูอี้กล่าวกับตัวเอง
มือหนึ่งของเขาชูเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิง สะเก็ดแสงมหาวิถีทั่วท้องฟ้าถาโถมเข้ามาจากรอบทิศทาง บ้างร่วงหล่นลงบนผิวน้ำ บ้างถูกพวกของหนิงซือฮวาเก็บมาได้
ทว่าส่วนใหญ่แล้วล้วนถูกเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงดูดกลืน!
บนท้องฟ้าที่ไกลออกไป ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าส่งเสียงร้องไม่หยุดด้วยความยินดี ควบคู่ไปกับเงาของนกกระจอกเพลิงยมโลกที่กำลังดูดกลืนสะเก็ดแสงมหาวิถี
คิดสักครู่ ซูอี้ก็หยิบครรภ์อสูรออกมา “เจ้าเต่าน้อย ถึงแม้โชคชะตานี้จะยิ่งใหญ่ แต่เจ้าอย่าได้โลภไป พอประมาณแล้วก็จงหยุด มิเช่นนั้น มีแต่จะเป็นผลร้ายต่อเจ้าผู้เริ่มฝึกตนใหม่”
เสียงเคารพศรัทธาของเสวียนหนิงดังขึ้นจากครรภ์อสูร “ศิษย์จะทำตามคำสั่งของอาจารย์!”
วูบ!
ครรภ์อสูรส่องแสง ชั่วขณะหายใจเข้าและออก ก็ได้ดูดสะเก็ดแสงมหาวิถีจากรอบด้านเข้าสู่ครรภ์อสูร
ซูอี้ดื่มสุราไปอึกหนึ่ง จากนั้นรอคอยอย่างสงบ
สะเก็ดแสงมหาวิถีส่องกระทบบนตัวของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทันใดก็เงียบเสียงและหายลับไป
พลังแหล่งต้นกำเนิดมหาวิถีเช่นนี้ถูกเขาเก็บสะสมไว้ในร่าง ไม่ได้ทำการกลั่นสกัด
ความเป็นจริงแล้ว ต่อให้กลั่นสกัดก็ไร้ประโยชน์
ระดับการฝึกตนของเขาในตอนนี้ ถึงขั้นสมบูรณ์แบบตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีแหล่งต้นกำเนิดมหาวิถีเช่นนี้มาหล่อเลี้ยง
ทว่า…
สิ่งที่คนอื่นไม่รู้ก็คือ ในคืนนี้ ซูอี้รู้สึกได้ถึงโอกาสแห่งการบรรลุขอบเขต!
“วันที่สองเดือนสอง มังกรแหงนหน้า ฟ้าดินพรั่นพรึง สรรพชีวิตฟื้นคืน และคืนนี้ สำหรับข้าซูเสวียนจวินแล้ว เป็นจุดผกผันเปลี่ยนแปลงบนมหาวิถีเช่นกัน”
“สภาวะจิตของข้าไร้ซึ่งพันธะใด ๆ อีก พร้อมสมบูรณ์ไร้ช่องโหว่ ระดับการฝึกของข้าก็ถึงขั้นสุดยอดของขอบเขตนี้แล้วเช่นกัน อดีตชาติในช่วงเวลาเดียวกันไม่อาจเทียบได้อีก”
“ตอนนี้มีโชคชะตาแห่งฟ้ามาเกื้อหนุน ต่อให้ครั้งนี้มหาภัยพิบัติใหญ่แปรเปลี่ยนวิญญาณจะน่ากลัวเพียงใด ก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวอีก…”
ซูอี้คิด
กลิ่นอายในตัวเขาสงบและเยือกเย็นลง
เวลาผ่านพ้นไป
เพียงแค่ครึ่งเค่อ แสงมหาวิถีบนท้องฟ้าที่ไกลออกไปเริ่มลดน้อยลง
สำหรับเรื่องนี้ ซูอี้ไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย
แสงสว่างแห่งโลกกว้างที่แท้จริงยังคงมาไม่ถึง ตอนนี้เป็นเพียงแค่พลังยิ่งใหญ่ของแหล่งที่มาคังชิง ที่ย้อนกลับมาดูแลโลกก็เท่านั้น
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ สะเก็ดแสงมหาวิถีที่ครอบคลุมไปทั่วมหาทวีปคังชิงในครั้งนี้ก็มีอิทธิพลเพียงพอที่จะแปรเปลี่ยนชะตาชีวิตของสรรพชีวิตมากมายในใต้หล้า!
หืม?
ฉับพลัน ซูอี้ก็เบนสายตามองไปที่ขอบฟ้าอันห่างไกล
เงาสีดำราวกับหมึกกำลังเคลื่อนตัวมาอย่างช้า ๆ เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ พลังยิ่งใหญ่ที่สามารถบดบังแสงตะวันและจันทราก็ครอบคลุมไปทั่วผืนแผ่นฟ้า
นั่นคือเมฆามหาภัยพิบัติอันหนักหน่วง!
สะเก็ดแสงมหาวิถีที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าไม่หยุดหย่อนนั้นถูกบดบังไปสิ้น ถูกเมฆามหาภัยพิบัติสีดำอันหนักหน่วงบดบังหายไป
ขณะเดียวกัน กลิ่นอายมหาภัยพิบัติอันน่ากลัวแบบทำลายล้างก็ปกคลุมไปทั่วแผ่นฟ้าบนทะเลวิญญาณโกลาหล
โลกอันกว้างใหญ่ราวกับร่วงหล่นลงสู่ความมืดมิดแห่งวันโลกดับ!
“นี่…”
หนิงซือฮวากับคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นตระหนก หยุดเก็บสะเก็ดแสงมหาวิถีอย่างพร้อมเพรียงกัน
พวกเขาตัวแข็งทื่อ สีหน้าเปลี่ยนไป
เมฆามหาภัยพิบัติบนท้องฟ้านั้นดูราวกับไร้สุ้มไร้เสียง ทว่ากลิ่นอายภัยพิบัติแห่งการทำลายล้างที่ไร้รูปร่างเช่นนั้นกลับกดดันจนทำให้จิตวิญญาณและร่างกายจิตใจของพวกเขาสั่นสะท้าน หนาววาบไปทั้งตัว
“นี่คือมหาภัยพิบัติของข้า ไม่ต้องตื่นตระหนกไป พวกเจ้าหลบเข้าไปอยู่ในซากมรดกหอเซียนดาบกันก่อน”
กลางอากาศ เสียงราบเรียบของซูอี้ก็ดังขึ้น
ขณะที่พูด เขายื่นมือออกไปคว้า
ชิ้ง!
ดาบนิลกาฬกลืนฟ้ากลายร่างเป็นแสงดักจับสะเก็ดแสงมหาวิถีบนท้องฟ้าร่วงหล่นไปอยู่ในมือของซูอี้ จากนั้นก็ถูกเก็บกลับเข้าไป
เห็นเช่นนี้แล้ว พวกของหนิงซือฮวาต่างก็รีบถอยกลับไปโดยเร็ว ไม่รอช้าอีก
“เต่าน้อย กลับมา”
ซูอี้ออกคำสั่ง
“ศิษย์ขออวยพรให้อาจารย์ผ่านพ้นมหาภัยพิบัติไปได้ และเข้าสู่หนทางแห่งขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ!”
เสียงเคารพนบนอบของเสวียนหนิงดังมาจากครรภ์อสูร
ซูอี้หัวเราะ จากนั้นก็อ้าปาก
ครรภ์อสูรกลายร่างเป็นดวงไฟในทันใด และกลับเข้าไปในตันเถียนเปิดทวารอีกครั้ง พร้อมกับเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงที่อยู่ในมือของซูอี้
จากนั้น เขาก็กระโดดขึ้นสู่ฟากฟ้า รอคอยต่อไป
บนท้องฟ้า มหาภัยพิบัติเมฆารวมตัวกันไม่หยุด และยิ่งทวีความหนักหน่วงเพิ่มมากขึ้น เปรียบดั่งภูเขาสีดำที่สุมทับกัน ปิดผนึกท้องฟ้าในบริเวณนั้นจนแน่นหนา
กลิ่นอายภัยพิบัติแห่งการทำลายล้างอย่างไร้ขอบเขตกดทับจนอากาศแปรปรวน ทะเลวิญญาณโกลาหลอันกว้างใหญ่ตกสู่บรรยากาศที่น่าหวาดกลัว
ใต้ท้องฟ้า ชุดที่ซูอี้ใส่โบกสะบัดเสียงดังพรึบ ๆ ในดวงตาลุ่มลึกผุดประกายคาดไม่ถึงออกมา
ฉับพลัน อาการคาดไม่ถึงนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยความยินดีแห่งการรอคอยมานาน
มหาภัยพิบัติแห่งการแปรเปลี่ยนวิญญาณครั้งนี้ ถือได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ในประสบการณ์หนึ่งแสนแปดพันปีก่อนของเขา ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าระหว่างที่ผ่านมหาภัยพิบัติมีผู้ใดเจอกับมหาภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
ภายในกลิ่นอายภัยพิบัตินั้นยังแฝงไปด้วยรสชาติต้องห้าม!
เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากการรับรู้ของซูอี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่านี่ก็เป็นสิ่งที่เขารอคอยมานานเช่นกัน!
ตอนที่ออกจากอาณาจักรต้าเซี่ย เขาก็ตระหนักแล้วว่ามหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ตัวเองจะต้องเผชิญนั้นไม่อาจคาดคะเนได้
และทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าข้อสันนิษฐานที่เขามีเมื่อก่อนหน้านี้ถูกต้องทุกประการ
“หากว่ามหาภัยพิบัตินี้ธรรมดาจนเกินไป ยังจะมีอะไรให้น่ารอคอยอีก?”
ซูอี้เงยหน้าขึ้นดื่มสุราในน้ำเต้าจนหมด จากนั้นโยนมันทิ้ง
“มีแต่มหาภัยพิบัติใหญ่เช่นนี้เท่านั้นจึงจะคู่ควรกับข้า ซูเสวียนจวิน ไม่เสียแรงที่ข้ากลับชาติมาฝึกตนใหม่อีกครั้ง!”