บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 714 น้ำเต้าต้นกำเนิดห้าอสูร
ตอนที่ 714: น้ำเต้าต้นกำเนิดห้าอสูร
ตอนที่ 714: น้ำเต้าต้นกำเนิดห้าอสูร
เวิงจิ่วอดพึมพำไม่ได้ “ข้าก็ว่าเขาจะร้ายกาจเพียงไรเชียว”
ความหมายก็คือ ‘แค่นี้หรือ’?
จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยและเหวินซินจ้าวต่างก็งุนงงเล็กน้อย
พวกเขาเองก็คิดว่า ในเมื่อผูซู่หรงช่างแสนมั่นใจ ครานี้เขาคงตระเตรียมความร้ายกาจมาอย่างเต็มเปี่ยม
ทว่า ใครเล่าจะคิดว่าเมื่อเริ่มศึก ซูอี้ไม่กระทั่งจะใช้ดาบคู่ชีพ แต่เขาก็สามารถทำให้อีกฝ่ายหมดทางสู้ได้!
ความย้อนแย้งนี้ใหญ่หลวงเกินไป
ผูซู่หรง อาเหลิ่ง และผูหวยต่างรู้สึกทั้งอับอายและเดือดดาลอย่างไม่อาจบรรยายได้ขึ้นในใจ
พวกเขาไม่แม้แต่จะคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น!
ไม่ว่าจะเป็น ‘วจีวงล้อวิญญาณจันทรา’ หรือ ‘วิชาปลิดวิญญาณ’ ล้วนแต่เป็นสุดยอดมรดกจากเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วงของพวกเขาทั้งสิ้น
โดยเฉพาะ ‘วิชาปลิดวิญญาณ’ นี้คือแก่นมรดกที่ทำให้เผ่าพันธุ์ของพวกเขายืนหยัดสูงส่งในภูมินภาจรัส!
มันเป็นเหมือนวิชาลับประเภทหนึ่งซึ่งเมื่อเรียกใช้ ขอเพียงเป็นผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตจักรพรรดิจะได้รับผลกระทบเป็นแน่
เพราะเหตุนี้เอง จึงเป็นเรื่องต้องห้ามสูงสุดสำหรับเหล่าผู้ฝึกตนจากภูมินภาจรัสเมื่อมาพบยอดฝีมือจากเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วงซึ่งเชี่ยวชาญวิชาลับนี้
ทว่าใครเล่าจะคาด ว่าหนึ่งชายหนุ่มในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณเยี่ยงซูอี้จะไม่สะท้านสะเทือน!
ช่างน่าเหลือเชื่อ
ตู้ม!
เสียงโกรธเกรี้ยวของผูหงเฉียนยังคงดังสะท้อนใต้นภา ซูอี้ก็ชกเขาอีกหมัดแล้ว
อาภรณ์ของเขาสะบัดโบก เยื้องย่างบนเวหารวดเร็วดั่งวายุ ร่างแข็งแกร่งของเขาเปี่ยมกำลังอหังการ แค่มองจากไกล ๆ ก็รู้สึกน่ากลัว
ผูหงเฉียนเองก็ได้ตระหนักอย่างกระจ่างแจ้งว่าวิชาลับที่เล็งเล่นงานวิญญาณและสภาพจิตใจไม่อาจแสดงผลใด ๆ ต่อหน้าซูอี้ได้แม้เพียงน้อย
ทว่า…
วิชาลับอันแข็งแกร่งที่สุดของเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วงของพวกเขาต่างเกี่ยวพันกับวิญญาณและสภาพจิตใจ นี่คือรากฐานการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์พวกเขา
หากทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เหมือนการตัดแขนขา ผนึกพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา!
ยามนี้ ผูหงเฉียน ตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณกรำศึกอดรู้สึกท้อแท้ไร้หนทางไม่ได้
ตู้ม!
หมัดของซูอี้พุ่งเข้ามาอีกครั้งโนเวลพีดีเอฟ
รอยประทับหมัดอันแสนน่าหวาดหวั่นนำพามาซึ่งแสงมหาวิถีสะท้านจิต กดดันจนอากาศระเบิดแตก เมฆาแตกกระจายทุกทิศทาง
ผูหงเฉียนไร้โอกาสให้ขบคิด และทำได้เพียงหลบเลี่ยงสุดกำลัง
ตู้ม!
อึดใจต่อมา ร่างของเขาก็ถูกชกอย่างจังอีกครั้ง ร่างผอมบางเป็นราวกระสอบทรายผุ ๆ แตกหักและโลหิตกระเซ็นโปรยปราย
ช่างน่าเวทนาและน่าอับอาย
ทว่า ถึงอย่างไรเขาก็เป็นตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณ แม้ว่าบาดแผลจะดูสาหัส แต่มันก็เป็นเพียงบาดแผลของเลือดเนื้อ วิถีเต๋าของเขายังอยู่!
เมื่อเห็นซูอี้ชกออกมาอีก ผูหงเฉียนก็เมินสิ้นทุกสิ่ง ตะโกนออกมาดังลั่น “ตาเฒ่าผู้นี้จะไร้หนทางทำอันใดกับเจ้าจริง ๆ หรือ?”
สุ้มเสียงนั้นสั่นสะเทือนทั่วฟ้า
ในขณะเดียวกันที่เสียงนั้นกังวานขึ้น ผูหงเฉียนก็รีบกำหมัด
ฮึ่ม!!
เกิดคลื่นกระเพื่อมของพลังประหลาด พื้นผิวของน้ำเต้ายักษ์สีเหลืองปรากฏลวดลายวิถีสีทองเนืองแน่นประหนึ่งไม้หวายที่บิดสาน เปล่งประกายเจิดจรัส
น้ำเต้ายักษ์สีเหลืองทั้งชิ้นเต็มไปด้วยคลื่นปราณผันผวนอันน่าตกใจ
สวรรค์และโลกาสั่นสะเทือนรุนแรง
ค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนซึ่งปกคลุมนครหลวงจิ๋วติ่งอยู่ดูจะสัมผัสอันตรายได้ มันเริ่มทำงานและแผ่คลื่นพลังออกมายับยั้งทันที
“นี่มันสมบัติอันใดกัน?”
จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยและคนอื่น ๆ ต่างเปลี่ยนสีหน้า
พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันชวนอึดอัดจากน้ำเต้ายักษ์สีเหลือง ทั่วร่างหนาวยะเยือกเหมือนการร่วงสู่ถ้ำน้ำแข็ง
“สมบัติวิญญาณต้นกำเนิด!”
ชายชราตาบอดหน้าถอดสี
สมบัติในวิถีวิญญาณนั้นถูกเรียกว่าสมบัติวิญญาณ
และสมบัติวิญญาณแยกออกเป็นสามประเภท
หนึ่งคือสมบัติวิญญาณทั่วไปซึ่งถูกสลักลวดลายลับแห่งมหาวิถีเอาไว้
สองคือสมบัติวิญญาณคู่ชีพซึ่งถูกบ่มเพาะในอารามวิญญาณมหาวิถีของผู้ฝึกตนราวกับส่วนหนึ่งของร่างกาย
และอีกหนึ่งที่เหลือคือสิ่งที่หายากที่สุด นั่นคือสมบัติวิญญาณต้นกำเนิด!
สมบัติเหล่านี้ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตตามธรรมชาติ บ่มเพาะด้วยปราณวิญญาณทั่วฟ้าดิน ควบรวมมหาวิถีจากโลกหล้า และพวกมันทั้งหลายต่างถือครองพลังเหนือธรรมชาติอันแข็งแกร่งยากคะเน
สมบัติประเภทนี้ หากถูกใช้และหล่อหลอมโดยตัวตนในขอบเขตจักรพรรดิ บ่อยครั้งที่พวกมันจะแข็งแกร่งไร้คู่เปรียบ เหนือล้ำยิ่งกว่าสมบัติทั่ว ๆ ไปอย่างเทียบไม่ได้!
ยามนี้ น้ำเต้ายักษ์สีเหลืองซึ่งถูกใช้โดยผูหงเฉียนนี้ก็คือสมบัติวิญญาณต้นกำเนิด กลิ่นอายของมันน่ากลัวเกินจินตนาการ!
“ไม่คิดเลยว่าเพียงสามหมัด ผู้เฒ่าเฉียนกลับต้องถูกบีบให้ใช้ ‘น้ำเต้าอสูรทองคำ’ เสียแล้ว…”
อาเหลิ่งมีสีหน้าซับซ้อน
น้ำเต้าอสูรทองคำ!
หนึ่งในสมบัติวิญญาณต้นกำเนิดที่สืบทอดต่อกันมาโดยบรรพชนของเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วง ถือกำเนิดจากเถาน้ำเต้าทิพย์ซึ่งงอกใบในช่วงสามพันปี ออกดอกในสามพันปี และออกผลในอีกสามพันปี
หลังบ่มเพาะได้เก้าพันปี ในที่สุดมันก็โตพอจะใช้งาน
สมบัติชิ้นนี้บรรจุอสูรทองคำโดยกำเนิดซึ่งถูกฝึกฝนโดยเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วงไว้ พลังของมันร้ายกาจยิ่งนัก!
“ถึงเวลาจบแล้ว”
ผูซู่หรงพึมพำเบา ๆ
ในขณะเดียวกัน…
เหนือสุญญะ ซูอี้กำหมัดยืนนิ่ง แววตาฉายประกายพิศวง เป็นน้ำเต้าอสูรทองคำ หนึ่งในน้ำเต้าต้นกำเนิดห้าอสูรจริง ๆ เสียด้วย!
น้ำเต้าต้นกำเนิดห้าอสูรที่ว่านี้ก็คือห้าน้ำเต้าที่ก่อเกิดจากเถาน้ำเต้าทิพย์ซึ่งบรรจุพลังเบญจธาตุ นั่นคือทอง ไม้ น้ำ ไฟและดิน
พวกมันแต่ละชิ้นบรรจุหนึ่งในอสูรจากเบญจธาตุ
ดูเหมือนว่าสมบัติวิญญาณต้นกำเนิดเช่นนี้จะไม่ใช่สมบัติวิญญาณในสายตาคนทั่วไปแล้ว
ในอดีตชาติของเขา เมื่อครั้งที่ซูอี้ยังอยู่ในวิถีวิญญาณ เขาเคยสะสมน้ำเต้าอสูรไม้ น้ำเต้าอสูรเพลิง และน้ำเต้าอสูรปฐพีไว้อย่างละชิ้น
ขาดเพียงน้ำเต้าอสูรทองคำและน้ำเต้าอสูรวารี
แม้ว่าหลังจากที่เขาก้าวสู่ขอบเขตจักรพรรดิ เขาก็ยังเสียใจอยู่
ไม่คาดเลยว่าวันนี้ เขาจะได้มาพบน้ำเต้าอสูรทองคำอยู่กับยอดฝีมือจากเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วง!
“กดลง!”
สายไปแล้วหากจะกล่าวสิ่งใด และเมื่อผูหงเฉียนตวาดลั่น น้ำเต้าอสูรทองคำก็พลันส่งเสียงดุจคำราม
หมอกสีทองโปรยปรายออกมาจากปากน้ำเต้า ประหนึ่งก้อนกรวดซึ่งสร้างจากเม็ดทองเทวะ สว่างไสวกระจ่างแจ้ง
นี่คือต้นกำเนิดอสูรทองคำ!
พลังเช่นนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยปราณฆ่าฟันแหลมคม สามารถผ่าบรรพตได้ในเพียงไม่กี่เส้นปราณ!
หากเจือปราณต้นกำเนิดอสูรทองคำเข้าไประหว่างสร้างดาบบิน คุณภาพของมันจะพัฒนาขึ้นอีกมากมาย
วูบ!
หมอกทองคำพวยพุ่งดั่งหมู่เมฆา แปรเปลี่ยนเป็นดาบวิถีสีทองสว่างยาวสิบจั้งบนนภา
เมื่อดาบนี้ฟาดฟันลง ภาพของมันเป็นดั่งน้ำตกสีทองซัดสาดจากสรวง กลบรัศมีทั่วหล้าฟ้าดิน สรรพสิ่งสั่นสะท้านโยกคลอน และดูราวกับจะไม่อาจทานทนต่อปราณทำลายล้างอันน่าหวาดกลัวนี้
ดวงตาทุกคู่เจ็บแปลบ หัวใจสั่นสะท้าน
กระทั่งพวกผูซู่หรงยังหรี่ตาลงอย่างตะลึงโดยไม่รู้ตัว
ครานี้ เมื่อพวกเขามายังมหาทวีปคังชิง เหตุผลที่พวกเขากล้าออกปากว่าขอเพียงจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยรับข้อเสนอ พวกเขาจะสามารถช่วยจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยแก้ปัญหาคำข่มขู่จากมหาอำนาจโบราณเหล่านั้นได้ นั่นก็เพราะผูหงเฉียนและน้ำเต้าอสูรทองคำอยู่ที่นี่!
และยามนี้ ผูหงเฉียนก็ใช้สมบัตินี่มาปราบซูอี้!
ตู้ม!
โลกหล้าสะเทือนไหว อำนาจหยุดยั้งจากค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนสั่นรุนแรง ดูราวกับไม่อาจคงอยู่ได้ต่อไป
ทว่าซูอี้กลับยิ้มในยามนี้
หากใช้สมบัติวิญญาณต้นกำเนิดอื่น ๆ กับเขา เขาก็อาจต้องรับมือมันอย่างสุดกำลัง
…ทว่าเขาสามารถรับมือน้ำเต้าอสูรทองคำได้โดยไม่ต้องลงแรงเลย!
แค่อิงจากประสบการณ์เก่าครั้งปราบสามน้ำเต้าต้นกำเนิดอสูร ไม้ เพลิงและปฐพีในกาลก่อน ก็เกินพอจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าเขาได้แล้ว!!
‘เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนมีผู้ยื่นหมอนอิงให้ยามง่วงเหงากันนะ…’
ซูอี้คิดในใจ
เขาพลันยื่นแขนขวา ห้านิ้วพลิ้วไหวบนอากาศเยี่ยงดีดพิณ แก่นแท้จุดกำเนิดผุดพรายขึ้นรายล้อมราวชั้นกลีบบุปผาแย้มพราย
ทันใดนั้น ตราพันธนาการมากมายก็ควบแน่นขึ้น
เคล็ดวิชาหลอมสมบัติมหาวิถี!
เคล็ดวิชาปราบสมบัตินี้ไม่ได้แข็งแกร่งมาก
ทว่าเมื่อเสริมด้วยแก่นแท้จุดกำเนิด ก็เกินพอที่จะปราบสมบัติวิญญาณต้นกำเนิดเช่นน้ำเต้าอสูรทองนี้
ตู้ม!
เมื่อดาบวิถีสีทองยาวสิบจั้งสับลงมา มันพลันถูกต้านไว้ตรงหน้าซูอี้สามจั้ง
มันเป็นชั้นพลังพันธนาการซึ่งเมื่อถูกฟันใส่ อักขระมนตราก็ระเบิดตูม เปลี่ยนเป็นชั้นพลังดุจตาข่ายใหญ่ที่รัดพันดาบวิถีสีทองเอาไว้
ตามด้วยเสียงระเบิดหนาหูสะท้านไปทั่วนภา
ชั้นผนึกระเบิดออก เปลี่ยนเป็นชั้นพลังเกาะเกี่ยวกับดาบวิถีสีทอง ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ชั้นผ้าพันทับหลาย ๆ ชั้น
เมื่อผนึกพันธนาการสุดท้ายถูกทำลาย พลังของดาบวิถีสีทองก็ถูกหยุดโดยสมบูรณ์ ไม่อาจขยับได้แม้เพียงคืบ
ยามนี้ ซูอี้ใช้ฝ่ามือแตะดาบวิถีสีทอง
ตู้ม!
ดาบวิถีสีทองยาวสิบจั้งเปลี่ยนเป็นพลังปีศาจสีทองขนาดราวกำปั้นราวระเหยหาย กองอยู่ในฝ่ามือซูอี้
“นี่…”
ห่างออกไป ผูหงเฉียนพลันเบิกตากว้างอุทาน “เป็นไปได้เช่นไร!?”
ในขณะเดียวกัน ผูซู่หรงและคนอื่น ๆ ก็เห็นภาพนี้เช่นกัน พวกเขาแต่ละคนต่างเหมือนเห็นผี แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
น้ำเต้าอสูรทองคำมีอำนาจน่ากลัวเพียงไร เหตุใดจึงถูกแก้ทางได้ง่ายดายเพียงนี้?
พวกเขาไม่รู้เลยว่าแก่นแท้จุดกำเนิดของซูอี้นั้นถือครองพลังเบญจธาตุ และเขาก็เคยปราบน้ำเต้าต้นกำเนิดอสูรต่าง ๆ มามากมาย เช่นนั้นจะไม่รู้วิธีจัดการกับพลังเช่นนี้ได้เช่นไร?
“ทำต่อสิ”
ซูอี้กล่าวยิ้ม ๆ
ทันใดนั้น ผูหงเฉียนก็เห็นชัดเจนว่ามีร่องรอย… ความคาดหวังในสายตาซูอี้!
เจ้าเด็กนี่คิดเช่นไรกับสมบัติโบราณประจำเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วงของพวกเขากันนี่?
เหยื่อหรือ?
เนื้อติดมัน?
สีหน้าของผูหงเฉียนซีดขาวด้วยโทสะ เปี่ยมความโกรธ
“ตาเฒ่าผู้นี้อยากเห็นนักว่าเจ้าจะหยุดได้เช่นไร!”
ผูหงเฉียนตะโกน สะบัดแขนเสื้อ นิ้วขยับไหว
ก่อนหน้านี้ ผูหงเฉียนยังออมมืออยู่บ้าง เพราะถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่การเผชิญหน้าแบบเดิมพันชีวิต แค่วัดผลแพ้ชนะและพาเซี่ยชิงหยวนไปเท่านั้น
ทว่ายามนี้ เขาลงมือสุดกำลังอย่างเห็นได้ชัด
วูบ! วูบ!
น้ำเต้าทองคำพ่นปราณปีศาจสีทองออกมาพร้อมเสียงคำรามดั่งคลื่น หลอมเปลี่ยนเป็นดาบอันเจิดจ้าเนืองแน่นกลางเวหา ฟาดสับลงหมายบั่นหัวซูอี้ถี่รัว
ความดุร้ายของมันช่างสะเทือนโลกา!
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูอี้ก็ทำตามขั้นตอนของเคล็ดวิชาหลอมสมบัติมหาวิถี สิบนิ้วยังคงควบแน่นชั้นผนึกอันลึกลับเกินคาดเดาชั้นแล้วชั้นเล่า แผ่มันออกไปทั่วนภาราววงคลื่นกระเพื่อม
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เมื่อชั้นผนึกระเบิดออก ขณะนั้น สายลมบนเวหากู่ร้อง แสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่อง จักรวาลเจิดจ้าจรัสแสง
จากนั้น ภายใต้สายตาเหลือเชื่อของคนทุกผู้
ดาบทองคำที่กระหน่ำฟันเข้าใส่ซูอี้ด้วยอำนาจน่ากลัวเหลือล้ำนี้สามารถสังหารตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณเยี่ยงหวนเทียนซูและเนี่ยหว่านจือได้
ทว่ายามนี้ ดาบวิถีสีทองเหล่านี้กลับหยุดลงกลางอากาศตรงหน้าซูอี้ และถูกรัดพันด้วยผนึกชั้นแล้วชั้นเล่าราวถังหูลู่
นิ่งค้างหนาแน่น
ฟ้าดินประหนึ่งหยุดเคลื่อนไหว สร้างเป็นภาพอันน่าตื่นตะลึงหาใดเหมือน!!