บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 741 ข้าพิฆาตมหาภัยพิบัติฟ้าท่ามกลางโลกมนุษย์
- Home
- บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
- ตอนที่ 741 ข้าพิฆาตมหาภัยพิบัติฟ้าท่ามกลางโลกมนุษย์
ตอนที่ 741: ข้าพิฆาตมหาภัยพิบัติฟ้าท่ามกลางโลกมนุษย์
ตอนที่ 741: ข้าพิฆาตมหาภัยพิบัติฟ้าท่ามกลางโลกมนุษย์
ก่อนหน้านี้ ภัยอันตรายที่ซูอี้ประสบทำให้ทุก ๆ คนต่างก็พากันหวาดหวั่น
ผู้ฝึกตนจำนวนมากถึงกับเข้าใจไปว่าครั้งนี้ซูอี้คงยากจะหนีภัยแห่งมหาภัยพิบัติพ้น
เพราะอย่างไรเสีย นอกจากผู้แข็งแกร่งในขอบเขตวงล้อวิญญาณถึงสิบคนร่วมมือกัน ยังมีมหาภัยพิบัติสวรรค์ที่ซัดลงมาจากฟากฟ้า ภายใต้การบุกโจมตีซ้ำซ้อนเช่นนี้ หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์คงยากนักจะต้านทานไหว
แต่ทว่า…
ผลกลับไม่เป็นไปตามที่คาดคิด
เมื่อซูอี้รับมือ ลำพังเพียงแค่สะบัดแขนเสื้อก็สามารถทลายวิชาบุกโจมตีที่กระจายไปทั่วฟ้าได้ เพียงแค่เอื้อมมือไปก็จับมหาภัยพิบัติแสงมหาวิถีไว้ได้!
ความสง่างามเช่นนั้น เปรียบดังผู้เป็นเทพ!
“นี่…”
พวกของหวนซั่งหลินกับพวกของเซี่ยจือเป่ยถึงกับแข็งทื่อ ตาเบิกกว้าง
พวกของหวังจงหยางสูดปากอย่างแรง ความตื่นตระหนกผุดขึ้นจนเต็มใบหน้า ไม่คาดคิดเลยว่าซูอี้ที่เพิ่งมีระดับการฝึกตนเพียงแค่ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณจะทำได้ถึงขั้นนี้
“มองเห็นแล้วหรือยัง ก่อนหน้านี้ที่ข้าต่อสู้กับเขา ยอมแพ้เป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดแล้ว”
ผูเจวี๋ยพึมพำ
เขาก็ตะลึงกับภาพเหตุการณ์นี้เช่นกัน
ผู้แข็งแกร่งจากเผ่าจิ้งจอกบุหลันม่วงอย่างพวกผูซู่หรงต่างก็มองหน้ากัน ในใจมีแต่ความตื่นตระหนก
จักรพรรดิเซี่ยกับพวกเหวินซินจ้าวต่างก็แอบโล่งใจ
มีแค่เฒ่าบอดคนเดียวเท่านั้นที่พร่ำพรรณนา “คนในโลกนี้ ไหนเลยจะเข้าใจถึงความร้ายกาจของคุณชายซู…”
——
เอื๊อก!
กลางอากาศ มหาภัยพิบัติแสงเจิดจ้าที่ถูกซูอี้จับสะบัดตัวอย่างรุนแรงราวกับมังกรขนาดใหญ่ ปล่อยกลิ่นอายมหาภัยพิบัติเคราะห์อันรุนแรงราวกับต้องการจะทำลายล้างสรรพสิ่งออกมา
ไม่ว่าตัวตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณคนใดมาเจอมหาภัยพิบัติใหญ่ต้องห้ามเช่นนี้ เพียงแค่โดนจู่โจมเช่นนี้ครั้งเดียวก็ร่างแตกวิญญาณดับแล้ว ไม่มีทางต้านทานไว้ได้
ทว่าตามแรงบีบของมือซูอี้
ครืน!
ฉับพลันมหาภัยพิบัติแสงเจิดจ้าราวกับน้ำตกขนาดใหญ่ก็แตกระเบิดกลายเป็นสะเก็ดแสงกระจายไปทั่วฟ้า
และสะเก็ดแสงทั่วฟ้าก็ถูกดูดซับจนหมดไปในพริบตาตามแรงดูดซับพลังบนตัวซูอี้
ภาพเหตุการณ์อลังการณ์เช่นนี้เป็นที่ตื่นตะลึงของคนทั้งหมดอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าใดที่ถึงกับตาค้างโนเวลพีดีเอฟ
“เร็วเข้า รบกวนเขา ทำลายภาวะจิตของเขา!”
หวังจงหยางส่งเสียงแผดร้อง
เขาซัดฝ่ามือติด ๆ กัน ระฆังปีศาจปลิดวิญญาณส่งเสียงดังกึกก้องราวกับเสียงฝูงปีศาจแผดคำราม คลื่นเสียงสีดำเดือดระห่ำซัดไปที่ซูอี้ราวกับคลื่นลูกใหญ่ในมหาสมุทร
ในเวลาเดียวกันนี้เอง พวกของหวนซั่งหลินกับพวกของเซี่ยจือเป่ยก็ลงมือพร้อม ๆ กัน!
ครืน! ครืน!
แสงไฟลุกโชน เสียงวิถีลั่นแดนสวรรค์
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นตัวตนวงล้อวิญญาณของขุมกำลังใด ล้วนลงมือพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเพื่อรบกวนและขัดขวางการผ่านมหาภัยพิบัติของซูอี้
ทว่า ปฏิบัติการของพวกเขาเป็นไปอย่างระมัดระวัง และต่างก็ยืนอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้จุดที่ซูอี้ผ่านมหาภัยพิบัติ
ต่อให้วิชาและสมบัติล้ำค่าที่แสดงออกมาจะโดนพลังมหาภัยพิบัติฟ้าบดขยี้ก็ไม่มีผลกระทบต่อตัวของพวกเขา!
ฟ้าดินระส่ำระสาย
เครื่องสังหารอันไร้เทียมทานกับแสงที่สว่างเจิดจ้าเดือดดาลโหมกระหน่ำราวกับต้องการจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
เมฆามหาภัยพิบัติที่ไกลออกไป ท่ามกลางเกลียวคลื่นอัสนีมีมหาภัยพิบัติแสงซัดลงมาอีกครั้ง!
ครืน!
มหาภัยพิบัติแสงนั้นสีสันฉูดฉาดเจิดจรัสเรืองรอง ราวกับมีดประหารกำลังร่วงหล่นจากฟากฟ้าฟันลงมายังโลกมนุษย์ ซึ่งเต็มไปด้วยอานุภาพอันน่าพรั่นพรึง ดูน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
ชั่วขณะนี้ หัวใจของทุก ๆ คนราวกับถูกบีบอย่างแรง ไม่มีผู้ใดที่หน้าไม่ถอดสี
เวลานี้ตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณที่กล่าวได้ว่าเป็นผู้สุดยอดในโลกกว้างทั้งหมดลงมือจัดการกับซูอี้เพียงคนเดียว มองดูไกล ๆ แล้วภาพเหตุการณ์เช่นนั้นให้ความรู้สึกสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูก
ถามใจตัวเองดูให้ดี ในสถานการณ์ที่ไม่มีตัวตนขอบเขตจักรพรรดิแสดงตนออกมาเช่นนี้ ใครกันจะสามารถต้านทานการปิดล้อมโจมตีเช่นนี้ได้?
ยิ่งไปกว่านั้น ซูอี้ยังต้องเผชิญหน้ากับมหาภัยพิบัติใหญ่ต้องห้ามของโลกกว้างอีกด้วย!
ชั่วขณะนี้เอง…
สายตาของซูอี้แสดงความคมกริบออกมา ดวงตาลุ่มลึกคู่นั้นไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ
ทว่าระดับวิถีในตัวเขากลับถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่
ร่างสูงโปร่งของเขาส่งแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นไปสูงถึงหมื่นจั้งในฉับพลัน!
ราวกับดาบเปล่งประกายพุ่งทะลุถึงสวรรค์ชั้นเก้า ภาวะดาบคมกริบพุ่งแทงทะลุไปรอบด้านด้วยความบ้าระห่ำดุจดั่งคลื่นยักษ์ที่น่ากลัว
เขารอมหาภัยพิบัตินี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว
และเข้าใจความลี้ลับของมหาภัยพิบัตินี้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้วเช่นกัน
ไหนเลยจะรอช้าและลังเลอยู่อีก?
ครืน!
ร่างของซูอี้ยืดขยาย ฉับพลันเอื้อมมือไปกด
พลังแห่งมหาวิถีที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่แฝงไปด้วยภาวะวิถีเริ่มมีสีสันราวกับแสงตะวันยามพลบค่ำเล็ดลอดออกมาจากง่ามนิ้วมือ
ฝ่ามือที่กินบริเวณสิบจั้งรวมตัวกัน คงไว้ซึ่งพละกำลังอันแข็งแกร่งและหนักหน่วง กดทับอากาศลงมาอย่างดุดัน
ชั่วขณะนี้เอง ราวกับมีเทพเซียนดึกดำบรรพ์ลงมาจากสวรรค์ ต้องการจะกดทับภูเขาไพรพนาบนโลกมนุษย์!
นับตั้งแต่ซูอี้ย่างก้าวสู่หนทางแห่งวิถีวิญญาณจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงระดับวิถีทั้งหมดออกมาโดยไม่มีการปกปิดแต่อย่างใด
เห็นได้ว่าภายใต้การโจมตี สภาพอากาศแปรปรวน แสงประกายเจิดจ้าถาโถมเข้าหา
เคล็ดวิชาและสมบัติล้ำค่าที่ผู้ฝึกตนขอบเขตวงล้อวิญญาณแสดงออกมาแตกสลายไปกลางอากาศราวกับฟองสบู่ที่บอบบาง
ฝ่ามือเดียวทลายหมื่นเคล็ดวิชา ไร้ซึ่งศัตรูจะต้านทาน!
นี่คือภาพที่น่าตื่นตะลึงภาพหนึ่ง
มองไปไกล ๆ ซูอี้เป็นประหนึ่งเซียนบนสวรรค์ เพียงแค่ซัดฝ่ามือออกมาก็สามารถทลายพลังแห่งการปิดล้อมของฝ่ายศัตรูให้ย่อยยับลงไปได้!
ทว่ายังไม่ทันที่คนอื่นจะตั้งตัว…
ครืน!
มหาภัยพิบัติแสงอัสนีที่คล้ายกับมีดประหารก็ฟันลงบนตัวของซูอี้อย่างแรง
แสงสว่างจ้ากลบกลืนร่างของซูอี้กับอากาศในจุดที่เขายืน มหาภัยพิบัติแสงโหมกระหน่ำ ปล่อยกลิ่นอายการทำลายล้างที่น่ากลัวอย่างที่สุดออกมา
ฟ้าดินในแถบนั้นกลายเป็นสีขาว
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน สีหน้าเปลี่ยนในทันใด
“เทพเซียนซู… ถูกฟ้าผ่าตายแล้วเช่นนั้นหรือ?”
“เป็นไปได้อย่างไร….”
เสียงร้องตื่นตระหนกดังขึ้นรอบด้าน ทุกอย่างโกลาหล
พวกของหวนซั่งหลิน พวกของเซี่ยจือเป่ย และพวกของหวังจงหยางต่างพากันโล่งใจ
ก่อนหน้านี้ การบุกโจมตีของพวกเขาถูกซูอี้ซัดทลายลงไปในฝ่ามือเดียวทำให้พวกเขาหวาดกลัวกันมาก
แต่ยังดีที่การบุกโจมตีนี้ของพวกเขาสร้างผลกระทบต่อการผ่านมหาภัยพิบัติของซูอี้ ทำให้ซูอี้ถูกทัณฑ์อสนีบาตผ่าโดนตัวอย่างจัง!
“ผู้เก่งกาจแห่งโลกกว้าง กลับต้องเจอมหาภัยพิบัติซัดเพราะเมล็ดพันธุ์คังชิง ช่างน่าเสียดายจริง ๆ”
หวังจงหยางรำพึง ทว่าบนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี
“ในที่สุดคนแซ่ซูก็ตายสักที…”
หวนซั่งหลินพึมพำด้วยความปีติยินดีราวกับยกหินออกจากอก
ความแข็งแกร่งของกำลังการต่อสู้ที่ซูอี้แสดงออกมาเมื่อก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขาต่างก็รู้สึกหนาวสะท้าน ไม่อาจคาดคิดได้ว่าหากปล่อยให้ซูอี้ผ่านมหาภัยพิบัติได้สำเร็จจนย่างสู่ขอบเขตสยายวิญญาณแล้วจะมีระดับวิถีที่น่ากลัวเพียงใด
แต่ยังดีที่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้น
หนทางการต่อสู้มหัศจรรย์ที่เรียกได้ว่าไม่เคยแพ้ของซูอี้ใกล้จะจบสิ้นอยู่ตรงนี้แล้ว!
“เตรียมตัวให้ดี เมื่อทัณฑ์อสนีบาตสลายตัว รีบไปแย่งเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงมา!”
เซี่ยจือเป่ยส่งกระแสเสียงปราณสั่งกำชับคนอื่น ๆ ข้างกาย
สายตาของเขาจับจ้องไปยังจุดที่ถูกแสงมหาภัยพิบัติกลืนหายไปเพื่อรอคอยโอกาส
การตายของซูอี้อยู่ในความคาดหมายของพวกเขา เพราะอย่างไรเสียเจอมหาภัยพิบัติใหญ่เช่นนี้และยังมีศัตรูคอยจับจ้องอยู่ใกล้ ๆ อีก หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นคงไม่มีทางรอดอื่นอีก
ในสายตาของเซี่ยจือเป่ย การแย่งชิงกันในวันนี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การตายของซูอี้คือการเปิดฉากการแย่งชิงกัน
การแย่งชิงเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงในลำดับถัดมาต่างหากจึงจะเป็นเรื่องใหญ่!
“ศิษย์พี่ซู…”
ใบหน้างดงามของเหวินซินจ้าวขาวซีด ไร้สีเลือด
ทัณฑ์อสนีบาตที่คล้ายกับมีดประหารมหาวิถีฟันโดนตัวซูอี้ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้หัวใจของแม่สาวน้อยแตกยับเยิน
พวกของจักรพรรดิเซี่ยกับเวิงจิ่วมือเท้าเย็นไปหมด
ทว่าเวลานี้เอง เฒ่าบอดกลับฉีกยิ้มออกมา พลางกล่าวหยอกล้อ “แม่นางซินจ้าว ถึงแม้ตาของเฒ่าบอดจะมองไม่เห็น แต่สามารถรู้สึกได้ว่าคุณชายซูไม่ได้เจอเคราะห์ภัย เหตุใดเจ้ากลับแสดงความเสียใจถึงเพียงนี้?”
เหวินซินจ้าวตะลึง
พวกของจักรพรรดิเซี่ยกับเวิงจิ่วก็ตะลึงเช่นกัน
หรือว่า…
และในขณะนี้เอง ครืน…!
เสียงระเบิดสะท้านฟ้าสะเทือนดินก็ดังขึ้น
ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองดูด้วยความไม่อยากจะเชื่อของทุกคน เวลานี้พวกเขามองเห็นมหาภัยพิบัติแสงเจิดจ้าที่กลืนกินร่างของซูอี้เกิดเสียงระเบิดรุนแรงขึ้นราวกับหิมะกำลังถล่ม
จากนั้น ร่างสูงโปร่งของซูอี้ก็ปรากฏขึ้น!
ชุดคลุมสีเขียวยาวของเขาโบกสะบัด ผมดำขลับปล่อยสยาย พลังมหาวิถีที่ขับเคลื่อนไปทั่วร่างกลายเป็นเกลียวคลื่นดูดกลืนมหาภัยพิบัติแสงที่แตกสลายจนหมดสิ้น
“ไม่ตาย?!”
“สวรรค์!”
“นี่…”
ทุกคนตื่นตระหนกระส่ำระสาย เสียงร้องอุทานดังไปทั่ว
เวลานี้ทุก ๆ คนจึงมองเห็นชัดเจนแล้วว่าซูอี้ไม่เพียงแต่ไม่ได้ประสบเคราะห์ภัย แม้กระทั่งบาดแผลบนตัวก็ยังไม่มี
ทุกอย่างอยู่พร้อมสมบูรณ์!
อีกทั้ง หากสังเกตดูให้ดี พลังของซูอี้ในเวลานี้ยังแกร่งกว่าเมื่อก่อนหน้านี้มากเสียด้วย!
ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าใดกันที่ตะลึงแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
ผู้ใดจะคาดคิดว่าซูอี้ที่ทุกคนต่างก็นึกว่าตายไปแล้วจะทลายมหาภัยพิบัติแสงและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม?
ทั้งหมดนี้ราวกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์!
“ให้ตายสิ!”
รอยยิ้มบนหน้าของหวังจงหยางแข็งกระด้าง ทั้งตื่นตระหนกทั้งโกรธและโมโห
“เช่นนี้แล้วก็ยังฆ่าซูอี้ไม่ตาย!?”
หวนซั่งหลินก็งงเช่นกัน เบิกตาโตราวกับถูกฟ้าผ่า
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ได้…”
พวกของเซี่ยจือเป่ยแต่ละคนแสดงสีหน้าราวกับเห็นผีออกมา พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารออย่างเต็มที่เพื่อจะแย่งเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิง
แต่ใครจะคาดคิดว่าซูอี้ไม่เพียงแต่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ทั้งยังสมบูรณ์พร้อมทุกประการอีกด้วย!!
“ดีจังเลย!”
เหวินซินจ้าวร้องตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
พวกของจักรพรรดิเซี่ยกับเวิงจิ่วพากันโล่งใจ
คนเราเกิดมาในโลก เรื่องที่ดีที่สุดไม่มีอะไรมากไปกว่าตกใจกลัวไปเอง!
เฒ่าบอดไม่ได้หัวเราะเยาะ ถึงแม้พวกของเหวินซินจ้าวจะแสดงอาการวิตกจริตออกมาจนแลดูขาดสติไปสักหน่อย
ทว่าเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของซูอี้อย่างแท้จริง
ดังคำกล่าวที่ว่าเป็นห่วงจนว้าวุ่น
แน่นอน เช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าเฒ่าบอดไม่สนใจความปลอดภัยของซูอี้ แต่เป็นเพราะเขารู้ว่ามหาภัยพิบัติเคราะห์เช่นนี้ไม่อาจทำอะไรซูอี้ได้!
ใต้ท้องนภา
ซูอี้มองเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของแต่ละคนในเหตุการณ์อย่างชัดเจน เขาอดส่ายหน้าหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
จากนั้น เขาก็เบนสายตามองไปยังท้องฟ้า
“ควรจะสิ้นสุดได้แล้ว”
ซูอี้พูดเบา ๆ
นั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลาเจ็ดวัน เขาพินิจพิเคราะห์เรื่องหนึ่งมาโดยตลอด และสุดท้ายจึงมั่นใจว่าเมื่อมหาภัยพิบัติใหญ่แห่งขอบเขตสยายวิญญาณของตนเองในครั้งนี้เต็มไปด้วยอานุภาพต้องห้าม ถ้าเช่นนั้นต่อให้ระดับวิถีของตนเองร้ายกาจสักแค่ไหนก็ไม่อาจบรรลุมหาภัยพิบัติไปได้
สาเหตุนั้นง่ายมาก จุดมุ่งหมายของมหาภัยพิบัติใหญ่เช่นนี้ก็เพื่อฆ่าตัวเขาให้ตาย ไม่มีทางให้หนทางรอดอื่นใดแก่เขาอย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้ ซูอี้ได้ยืนยันข้อสันนิษฐานนี้แล้ว
ครืน!
บนฟ้า เมฆทัณฑ์เดือดพล่าน เกลียวคลื่นอัสนีทวีความน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ มหาภัยพิบัติแสงอันเจิดจ้าเริงระบำ กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างเช่นนั้นทำให้ตัวตนในขอบเขตสยายวิญญาณที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง!
ไม่รู้จริง ๆ ว่านี่เป็นมหาภัยพิบัติใหญ่อันใดกัน เหตุใดจึงได้พิสดารและผิดปกติได้ถึงเพียงนี้
และเวลานี้เอง ผู้คนทั้งหลายมองเห็นภาพที่ไม่อาจจะลืมได้ตลอดชีวิต…
กลางอากาศ คนหนุ่มชุดเขียวยื่นมือขวาออกไป ฝ่ามือประดุจดาบ ฟันขึ้นไปบนฟ้า
สวบ!
พลังดาบฟันขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ไปถึงเมฆทัณฑ์ที่อยู่ไกลออกไปในฉับพลัน
ฟ้าดินสงบแน่นิ่ง สรรพสิ่งเงียบงัน
เมฆทัณฑ์สีดำที่ครอบคลุมไปทั่วอาณาบริเวณหมื่นจั้งเกิดรอยร้าวพลันแตกสลาย
เกลียวคลื่นอัสนีของเมฆทัณฑ์ที่อยู่ไกลออกไปถูกแบ่งเป็นสองส่วน แสงมหาภัยพิบัติอันน่ากลัวที่สั่งสมอยู่ภายในแตกสลาย พลันร่วงหล่นสู่โลกมนุษย์
ราวกับดาบเดียวเปิดประตูสวรรค์ ทลายมหาภัยพิบัติฟ้าแห่งโลกกว้าง!
ใต้ท้องฟ้า มือหนึ่งของคนหนุ่มไพล่หลัง อีกมือหนึ่งยกน้ำเต้าจิบสุราขึ้นดื่มดุจดังเทพเซียน!