บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 780: วิญญาณรบแข็งกล้า
ตอนที่ 780: วิญญาณรบแข็งกล้า
เมื่อเห็นสัตว์ดุร้ายตัวนี้แล้ว ซูอี้ก็เผยรอยยิ้มชื่นชมออกมา พลางกล่าว “เจ้าตัวน้อย เมื่อพบเจ้าในวันนี้ การที่เจ้าสามารถจำข้าได้ ข้าคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ”
ยืนประจันหน้าศีรษะขนาดใหญ่เท่าภูเขาของสัตว์ร้ายตัวนั้นแล้ว เขาแลดูตัวเล็กกะจ้อยร่อยราวกับมดตะนอย แต่กลับเรียกสัตว์ร้ายตัวนั้นว่าเจ้าตัวน้อย ช่างประหลาดนัก
ทว่าสัตว์ร้ายตัวนั้นกลับสะบัดหัวด้วยความตื่นเต้น ส่งเสียงแสดงความปีติยินดีออกมา “ถึงแม้รูปลักษณะภายนอกของนายท่านจะเปลี่ยนไป แต่ยังคงงามสง่าเหมือนเดิม! ยิ่งไปกว่านั้น ในโลกนี้มีแต่นายท่านคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ‘วจนะลับจิตวิญญาณ’ ของเผ่าสัตว์เหวลึก เป็นไปได้เช่นใดที่จะจำนายท่านไม่ได้?”
เสียงนั้นแหบแต่หนักหน่วง
ซูอี้พยักหน้า
สัตว์เหวลึกเป็นสัตว์วิญญาณโดยกำเนิดที่หาพบได้ยากในทะเลทุกข์ เกิดขึ้นท่ามกลางพลังดั้งเดิมของเหวลึกใต้ทะเล เกิดมาเพื่อควบคุม ‘วจนะลับจิตวิญญาณ’
อาศัยความรอบรู้ในด้านนี้ สัตว์เหวลึกจึงสามารถขบคิดและรับรู้พลังมหาวิถีของฟ้าดินได้ จากนั้นจึงนำมากระตุ้นระดับวิถีของตัวเองให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
เมื่ออดีตชาติตอนที่เขาสยบสัตว์เหวลึกตัวนี้ที่ทะเลทุกข์ เป็นเพราะความอยากรู้จึงเคยทำความเข้าใจในวจนะลับจิตวิญญาณ
และในวันนี้ตอนที่เดินบนสะพานหยกซึ่งผ่านไปยังยอดเขาสารทฤดู ซูอี้ต้องการจะใช้วจนะลับจิตวิญญาณนี้เพื่อสำรวจตรวจตราโดยรอบ
ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเพียงแค่ครู่เดียวสัตว์เหวลึกก็จำเขาได้
ซูอี้พินิจดูสัตว์เหวลึกสักครู่ จากนั้นขมวดคิ้วกล่าว “หลายปีผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดระดับการฝึกตนของเจ้ายังคงอยู่ในขั้นหยั่งเห็นลึกล้ำ?”
เมื่อชาติก่อนตอนที่เขาสยบสัตว์ตัวนี้เป็นเวลาเมื่อสามหมื่นปีมาแล้ว!
ทว่าเวลาผ่านไปสามหมื่นปีแล้ว ความสามารถของสัตว์เหวลึกกลับดูเหมือนไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก เห็นได้ชัดว่าเกิดความผิดปกติขึ้นแล้ว
สัตว์เหวลึกตอบ “มีเรื่องที่นายท่านไม่ทราบ อวิ๋นจื่ออิงไม่ไหวเลยจริง ๆ เมื่อก่อนตอนที่บรรลุขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำ เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด”
“ตอนสุดท้าย เป็นเพราะข้ามอบระดับวิถีดั้งเดิมให้ไปกว่าครึ่งจึงช่วยให้เขาผ่านพ้นพิบัติฟ้าครั้งนั้นมาได้ ช่วยให้เขาแสวงวิถีสู่ขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำได้อย่างราบรื่น”
“แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้ข้าเสียพลังต้นกำเนิดไปมาก จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนจึงพอจะฟื้นฟูกลับมาได้บ้าง”
ซูอี้ฟังแล้วกล่าวขึ้นมา “เจ้าช่างมีน้ำใจ ยังกล้าไปช่วยอวิ๋นจื่ออิงต้านทานพิบัติฟ้ารู้แจ้งล้ำลึกของเขา”
อวิ๋นจื่ออิงก็คือ ‘จักรพรรดิปรภพม่วงนิลกาฬ’ ทูตข้ามนทีของโถงหลงลืม
สัตว์เหวลึกกล่าว “ตอนนั้น นายท่านเคยให้ข้าติดตามรับใช้และฝึกตนข้างกายอวิ๋นจื่ออิง ข้าจดจำอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าเขาใกล้จะดับสิ้นเพราะเคราะห์ภัย จึงไม่อาจทนดูดายได้”
พูดเช่นนี้ก็หมายความว่าที่เขาช่วยอวิ๋นจื่ออิงก็เพราะเห็นแก่หน้าของซูอี้นั่นเอง!
“แต่อวิ๋นจื่ออิงก็ไม่เลวเลย หลายปีมานี้ เขาเก็บรวบรวมสมบัติล้ำค่ามากมายมาช่วยรักษา ‘แผลวิถี’ ให้แก่ข้า ถือว่ายังคงมีจิตใจที่ดีงาม”
สัตว์เหวลึกพูดเสริมขึ้นมา
ซูอี้หัวเราะและกล่าว “ตอนนี้เขาอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ใช่หรือไม่?”
สัตว์เหวลึกส่ายหน้า ก่อนกล่าว “เมื่อประมาณสิบปีก่อน อวิ๋นจื่ออิงได้ยินว่ามีเรือสีดำลึกลับลำหนึ่งผุดขึ้นกลางทะเลทุกข์ เขาจึงนั่งไม่ติดอีก และรีบออกเดินทางไปในทันที จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่กลับมา และก็ไม่ได้ส่งข่าวคราวกลับมาด้วย”
เรือสีดำนั่นอีกแล้ว!
ซูอี้เลิกคิ้วขึ้น กล่าว “เจ้ารู้หรือที่มาของเรือสีดำนั่นหรือไม่?”
สัตว์เหวลึกเป็นสัตว์วิญญาณโดยกำเนิดที่เกิดกลางทะเลทุกข์ เมื่อนานมากแล้วเคยเป็นใหญ่อยู่ในน่านน้ำ เทียบกับเหล่าผู้ฝึกตนในโลกกว้างเหล่านั้นแล้ว มันเข้าใจสภาพของทะเลทุกข์มากอย่างไม่ต้องสงสัย
“เรียนนายท่านตามตรง ข้าก็เพิ่งเคยได้ยินเรื่องเรือประหลาดเป็นครั้งแรกเช่นกัน”
สัตว์เหวลึกพูดต่อ “แต่ข้ามั่นใจได้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เรือลึกลับลำนั้นไม่เคยปรากฏในทะเลทุกข์มาก่อนอย่างแน่นอน”
ซูอี้กล่าวพลางใช้ความคิด “กล่าวมาเช่นนี้ก็แสดงว่าเรือลึกลับลำนี้มีที่มาที่ไปที่ไม่ธรรมดา”
ฉับพลันเขาก็ไม่คิดมากอีก จากนั้นเบนสายตามองไปที่ปากทางเข้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือน และกล่าวคำออก “ตอนนี้ที่ตรงนั้นมีใครอยู่หรือไม่?”
สัตว์เหวลึกตอบ “เรียนนายท่าน เมื่อหลายร้อยปีก่อน ทูตข้ามนทีม่ออู๋เหินเข้าไปในดินแดนแห่ง ‘แหล่งกำเนิดแม่น้ำลืมเลือน’ ซึ่งอยู่ใต้ชั้นเก้าของถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือนเพื่อปิดตัวฝึกตน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมาขอรับ”
สัตว์เหวลึกที่กล่าวได้ว่ามีความดุร้ายที่สุดในโลกตัวนี้เมื่อมาอยู่ต่อหน้าซูอี้แล้วกลับแสดงความเคารพนบนอบเชื่อฟังออกมา
ราวกับว่าขอเพียงซูอี้ถาม เขาสามารถบอกความลับทุกอย่างของโถงหลงลืมให้ซูอี้ได้รับรู้…
“ม่ออู๋เหิน? หมายถึงเจ้าโถงคนที่เก้าของโถงหลงลืมคนนั้นน่ะหรือ?”
ซูอี้นึกขึ้นได้
สัตว์เหวลึกตอบ “นายท่านกล่าวไม่ผิด ก็คือเขา เขาเป็นศิษย์น้องของอวิ๋นจื่ออิง เมื่อนานมากแล้วได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าโถงไปเป็นทูตข้ามนที หลายปีมานี้สงบใจฝึกตน ไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ ในโลกหล้าอีก”
ซูอี้ลูบคางพลางกล่าว “หลายปีมานี้ ผู้แข็งแกร่งที่เคยบุกถึงชั้นที่สามคือใคร?”
ถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำเลือนรางเป็นสถานที่ต้องห้ามของโถงหลงลืม ขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่สำหรับทดสอบอีกด้วย
ใต้ถ้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แบ่งออกเป็นโลกลึกลับเก้าชั้น นับตั้งแต่บรรพกาลจนถึงตอนนี้ ผู้ฝึกตนของโถงหลงลืมได้ทิ้งพลังหลอมประทับมหาวิถีมากมายไว้ในแดนลึกลับชั้นที่เก้า จนกลายเป็นด่านทดสอบในแต่ละแห่ง
สามชั้นแรก สำหรับผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณสามขอบเขตใหญ่
ชั้นที่สี่ถึงชั้นที่หก สำหรับจักรพรรดิที่มีระดับการฝึกตนขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย และขั้นสมบูรณ์
ชั้นที่เจ็ดถึงชั้นที่เก้า สำหรับจักรพรรดิที่มีระดับการฝึกตนขอบเขตรู้แจ้งล้ำลึกขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย และขั้นสมบูรณ์
ใต้ชั้นที่เก้าคือดินแดนต้นกำเนิดสำหรับบุกเบิกก่อตั้งโถงหลงลืมหรือเรียกว่า…แหล่งกำเนิดแม่น้ำลืมเลือน!
กล่าวง่าย ๆ ก็คือแหล่งกำเนิดแม่น้ำลืมเลือนกระจายอยู่ในพลังคลุมเครือโดยกำเนิด
สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในคือ ‘วิถีแห่งแม่น้ำลืมเลือน’ ที่มีความเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ
ควบคุมพลังมหาวิถีเช่นนี้ได้จึงจะสามารถฝึกเคล็ดวิชาสืบทอดระดับสูงของโถงหลงลืมได้ เวลาที่ต่อสู้กับศัตรู เก่งถนัดในการลบล้างความทรงจำของฝ่ายตรงข้าม บังคับควบคุมจิตใจคน!
เวลานี้ ดินแดนลึกลับสำหรับทดสอบชั้นที่สามที่ซูอี้กล่าวถึงเป็นด่านทดสอบของมหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตวงล้อวิญญาณ
นับแต่บรรพกาลมาจนถึงปัจจุบัน ตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณคนใดก็ตามที่เคยบุกเข้าด่านนี้จะทิ้งผลงานการต่อสู้ของตัวเองเอาไว้
‘ผู้แข็งแกร่งที่สุด’ ก็คือผู้ที่สามารถผ่านด่านทดสอบของดินแดนลึกลับชั้นที่สามโดยใช้เวลาน้อยที่สุดนั่นเอง
“เรียนนายท่าน ในรอบระยะหนึ่งพันปีมานี้ บันทึกผู้แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนลึกลับชั้นที่สามคือหยวนหลินหนิงผู้เป็นนักบวชลำดับสามของโถงหลงลืม ซึ่งถูกบันทึกไว้เมื่อสามร้อยปีก่อน”
สัตว์เหวลึกกล่าวอย่างรวดเร็ว “แม่นางน้อยคนนี้ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งเค่อเท่านั้นก็สามารถเอาชนะพลังหลอมประทับมหาวิถีทั้งหมดภายในดินแดนลึกลับชั้นที่สามได้ จนถึงปัจจุบันผลงานการต่อสู้นี้ก็ยังไม่มีใครทำลายได้ กล่าวได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในขอบเขตวงล้อวิญญาณของโถงหลงลืมในรอบพันปี”
“แน่นอน เมื่อสองร้อยปีก่อน นางพิสูจน์เต๋าจนกลายเป็นจักรพรรดิไปแล้ว หากพูดถึงอายุ ถือได้ว่าเป็นจักรพรรดิที่อายุน้อยที่สุดของโถงหลงลืม ฝึกตนจนถึงตอนนี้มีอายุเพียงหนึ่งพันสามร้อยปีเท่านั้น”
ฟังแล้วซูอี้ถึงกับตะลึง หยวนหลินหนิง?
เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้หญิงที่มีนิสัยสันโดษเย็นชาเช่นนั้น ที่แท้แล้วยังเคยเป็นตัวตนอันดับหนึ่งในขอบเขตวงล้อวิญญาณของโถงหลงลืม บันทึกที่นางได้สร้างไว้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทำลายลงได้!
‘มิน่าเล่าเมื่อเทียบกับตัวตนในขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำคนอื่น ๆ แล้วพลังในตัวนางยังไม่ถึงกับยิ่งใหญ่นัก ที่แท้เป็นเพราะเพิ่งแสวงวิถีขอบเขตจักรพรรดิเมื่อสองร้อยปีแค่นั้น ย้อนคำนวณขึ้นไป นางคงจะยังไม่ทำสิ่งนั้น…’
ซูอี้แอบคิด
หนทางแห่งวิถีลึกล้ำแต่ละก้าวมีแต่ความยากลำบาก
ต้องการจะก้าวไปข้างหน้าสักก้าวต้องทุ่มเทกายใจและเวลาอันยาวนาน
และนี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ว่าเพราะเหตุใดตัวตนจักรพรรดิปิดตนแต่ละครั้งจึงใช้เวลานานนับร้อยนับพันปี
นอกเสียจากว่าจะเจอโชคยิ่งใหญ่ที่หาพบได้ยาก การฝึกตนจึงสามารถบรรลุได้อย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้น บนหนทางการฝึกของจักรพรรดิล้วนต้องใช้เวลาเนิ่นนานทั้งสิ้น
ซูอี้ไม่ได้คิดต่อไปอีก จากนั้นก็กล่าวกำชับเสียงเบา “ให้ยันต์ส่งข้อความแก่ข้าสักชิ้น ข้าจะไปชั้นที่สี่สักหน่อย”
“ขอรับ!”
ขณะที่สัตว์เหวลึกตอบ ได้เกิดประกายแสงผุดขึ้นในปาก จากนั้นก็กลายเป็นยันต์ข้อความสีเงินร่วงหล่นลงบนฝ่ามือของซูอี้
ถือสิ่งนี้ไว้ในมือ ซูอี้ก็สามารถเดินทางอยู่ในโลกแห่งดินแดนลึกลับเก้าชั้นของถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือนได้ ต่อให้เจอกับภัยอันตราย เพียงแต่ขยับยันต์แผ่นนี้ก็สามารถดึงตัวออกจากภัยอันตรายได้
“เจ้าจงเฝ้าอยู่ตรงนี้ หากว่ามีใครมา ช่วยข้าขวางไว้ก่อน”
ซูอี้เก็บยันต์ส่งข้อความ
สัตว์เหวลึกรับคำหนักแน่น “ขอรับ!”
ร่างสูงโปร่งของซูอี้เดินเข้าสู่ทางเข้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือนที่ดำมืดมิดภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพนบนอบของสัตว์เหวลึก ไม่ช้าก็หายลับไปไม่เห็นอีก
——
ดินแดนลึกลับชั้นที่หนึ่งของถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือน
แผ่นดินตรงนี้อึมครึมขมุกขมัว ทุกหนแห่งมีแต่ฝุ่นเขรอะ ไร้ชีวิตชีวาราวกับเป็นโลกที่รกร้าง
ตามแรงผันผวนของมิติ
สวบ!
ร่างของซูอี้ปรากฏอยู่กลางอากาศ
“ยังคงเหมือนเดิม เปลี่ยนไปไม่มาก”
ซูอี้กวาดตามองดูรอบ ๆ
ชาติก่อนตอนที่เขามาเป็นแขกของโถงหลงลืม อวิ๋นจื่ออิงเคยพาไปชมแหล่งกำเนิดแม่น้ำลืมเลือนที่อยู่ใต้ชั้นเก้าของถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือน ซูอี้จึงคุ้นเคยกับที่นี่เป็นธรรมดา
ครืน!
ทันใด เกิดเสียงมหาวิถีดังกึกก้องขึ้น
กลางอากาศที่ไกลออกไปมีแสงสว่างสาดส่องลงมาเป็นลำ ๆ จากนั้นก็กลายเป็นร่างอันเลือนราง
ทั้งหมดนี้เป็นร่างที่กลายตัวจากตราประทับหลอมมหาวิถี!
หรือเรียกว่า ‘วิญญาณรบแข็งกล้า’
เหล่านี้เป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณระดับสุดยอดที่ถูกเก็บรักษาในโถงหลงลืมมานานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โดยทั่วไปแล้วหากผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณต้องการจะผ่านด่านนี้ จะต้องเอาชนะวิญญาณรบแข็งกล้าทั้งหมดที่กระจายอยู่ในโลกแดนลึกลับชั้นที่หนึ่ง
ทว่าจุดมุ่งหมายของซูอี้ไม่ใช่สิ่งนี้
เมื่อเขาผลักดันส่งถ่ายยันต์ข้อความเข้าไป ในช่วงเวลาถัดมาจึงผ่านแดนลึกลับชั้นที่หนึ่งกับชั้นที่สองไปได้อย่างรวดเร็ว จนมาถึงแดนลึกลับชั้นที่สาม
ด่านทดสอบของที่นี่จัดขึ้นเพื่อผู้ฝึกตนขอบเขตวงล้อวิญญาณ
วิญญาณรบแข็งกล้าที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตวงล้อวิญญาณระดับสุดยอดที่ถูกเก็บรักษาไว้ในโถงหลงลืมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน!
หากต้องการจะผ่านด่านนี้จะต้องเอาชนะวิญญาณรบแข็งกล้าทั้งหมดของโลกภูมิแห่งนี้
“ก็ได้ ลองดูว่าด้วยระดับวิถีของข้าในตอนนี้ ต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใดจึงจะสามารถผ่านด่านนี้ไปได้”
มาถึงตรงนี้ ซูอี้ครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายยังคงตัดสินใจจะผ่านด่านนี้ก่อน จากนั้นค่อยไปที่ชั้นที่ห้าก็ยังไม่สาย
ขณะที่ซูอี้กำลังครุ่นคิด ฉับพลันมีเสียงดังกึกก้องเสียงหนึ่งดังขึ้น
บนท้องฟ้าที่ไกลออกไป แสงสว่างมหาวิถีสาดส่องลงมากลายเป็นร่างอันเลือนรางหลายร่าง และแต่ละร่างล้วนมีพลังอันแข็งแกร่งของคนในขอบเขตวงล้อวิญญาณปกคลุม
วิญญาณรบแข็งกล้าเหล่านี้นอกจากจะไม่มีจิตใจและชีวิตแล้ว ไม่มีอะไรต่างไปจากผู้แข็งแกร่งในขอบเขตวงล้อวิญญาณที่แท้จริงเลย
อีกทั้ง พลังในตัวยังน่ากลัวมากด้วย!
ซูอี้ผู้ไม่เคยมองตัวตนขอบเขตวงล้อวิญญาณอยู่ในสายตามาก่อนตั้งแต่ตอนที่อยู่มหาทวีปคังชิง เมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ เขาก็แล้วอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าคาดหวังออกมา!!