บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 786: หนึ่งดาบปราบจักรพรรดิพ่าย
ตอนที่ 786: หนึ่งดาบปราบจักรพรรดิพ่าย
หยวนหลินหนิงฝึกฝนหนึ่งในมรดกสูงสุดของโถงหลงลืม ‘คัมภีร์เพลิงยมโลกนภาเหมันต์’ ซึ่งควบคุมเพลิงน้ำแข็งยมโลกชั้นหนึ่งในภูมิมืดมิด และสามารถแช่แข็งทั่วเขตคาม สังหารสรรพสิ่งได้ด้วยหนึ่งการโจมตี
หลังจากขึ้นเป็นจักรพรรดิ นางก็ได้สมญา ‘จักรพรรดิโลกันตร์อเวจี’
ชุยจิ๋งเหยี่ยนและชายชราตาบอดต่างตกใจ
นี่คือพลังของตัวตนในขอบเขตจักรพรรดิ!
เพียงไม่กี่การโจมตีก็เหมือนเทพผู้ควบคุมโลกหล้า เผยอำนาจเกินหยั่งวัด
ลำแสงดาบฟาดฟันออกมา…
เปรี้ยง!
ชั้นน้ำแข็งหนาซึ่งปกคลุมร่างของซูอี้พลันระเบิดออก
แทบจะในยามเดียวกัน ดาบนิลกาฬบริสุทธิ์ก็ทะยานสู่ฟ้า คมดาบดูราวนทีสวรรค์ไหลย้อน ต้านทานลำแสงดาบสีขาวหิมะซึ่งฟาดฟันเข้ามา
เปรี๊ยะ!
ลำแสงดาบสามจั้งแตกออกเป็นสองท่อน
ปราณดาบไร้เทียมทานซึ่งซูอี้ได้สำแดงออกมาดูราวมังกรโกรธาพลิกผืนสมุทร พื้นที่รายล้อมต่างสั่นสะเทือน ทลายชั้นน้ำแข็งกลับสู่ปกติ
เหมือนดั่งหนึ่งดาบสั่งพสุธาร่ายรำ ทำลายชั้นน้ำแข็งหนาพันจั้ง!
ภาพที่ปรากฏทำให้ทั้งชุยจิ๋งเหยี่ยนและชายชราตาบอดตกตะลึง
หลี่ฉางชิงตะลึงอึ้ง หนึ่งการโจมตีจากตัวตนในขอบเขตจักรพรรดิน่าจะสามารถสังหารตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณได้โดยง่ายแล้ว ทว่ามันกลับถูกดาบของซูอี้ทำลายทิ้ง!
หยวนหลินหนิงอดใจสั่นไม่ได้
การโจมตีนี้ นางไม่ได้ยั้งมือ และใช้พลังที่แท้จริงแห่งจักรพรรดิเข้าโจมตี แม้นางจะไม่ได้ใช้พลังเต็มฝีมือ แต่พลังนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนในวิถีวิญญาณทั่วโลกหล้าจะต้านทานได้!
ทว่าโชคร้าย ซูอี้ทำลายมันลงได้
ไร้หลบหลีก ไร้บาดแผล หนึ่งดาบฟาดฟันสิ้นหวัง!
สิ่งนี้ย่อมเหลือเชื่อโดยไม่ต้องสงสัย
วูบ!
หมอกสีขาวจากหิมะและน้ำแข็งปกคลุมโลกหล้านภากาศ
ในขณะเดียวกัน ซูอี้ได้ก้าวสู่อากาศ และฟาดฟันดาบเข้าใส่หยวนหลินหนิงแล้ว
การวางตนของเขาเย่อหยิ่งอหังการ ดูประหนึ่งเทพเซียนถือดาบบนฟากฟ้า เขาอยู่ในวิถีวิญญาณเท่านั้น ทว่าพลังที่แสดงออกมากลับทำให้พิภพสะเทือนสั่น!
ควับ!
หนึ่งดาบฟาดฟันดุจเป็นตายตาลปัตร ลำแสงดาบจรัสฟ้าจรดแดนเหมือนดั่งตะวันรุ่งฟ้า ผู้คนไม่อาจลืมตามอง
“เป็นวิชาดาบที่น่ากลัวนัก!”
ม่านตาของหยวนหลินหนิงหดตัว ใบหน้างามเปลี่ยนผันเล็กน้อย แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
เนื่องจากวิชาดาบระดับนี้ดูไม่เหมือนสิ่งที่สามารถถูกแสดงออกได้ในตัวตนขอบเขตสยายวิญญาณเลย มันกระทั่งทำให้ผิวกายตัวตนจักรพรรดิเช่นนางเจ็บแปลบนิด ๆ!
“สยบ!”
หยวนหลินหนิงกำมือทั้งสองเข้าด้วยกัน
บงกชเพลิงน้ำแข็งขนาดสิบจั้งพลันปรากฏขึ้นบนอากาศ ยามเมื่อมันหมุนวน เพลิงกาฬเย็นยะเยือกก็โปรยปราย
เคล็ดวิชาภูตผีข้ามแม่น้ำหลงลืม!
หนึ่งในเก้ามรดกแห่งโถงหลงลืม เมื่อสำแดงออกจะส่งผลระงับวิญญาณสะกดจิตใจ เปี่ยมไปด้วยอำนาจฆ่าฟันไร้ใดเปรียบ
เมื่อถูกโจมตี วิญญาณจะบาดเจ็บสาหัส และในสถานการณ์แย่ที่สุด สภาพจิตใจจะพังทลาย กลายเป็นศพเดินได้เหมือนหุ่นเชิด!
ทว่า…
เมื่อปราณดาบฟาดฟันออก บงกชเพลิงน้ำแข็งสิบจั้งก็สั่นไหวรุนแรง และจากนั้น กลีบดอกก็ระเบิดดุจประทัด สุดท้ายพวกมันก็ถูกฉีกจากกัน โปรยปรายดุจพิรุณ
ตู้ม!
อากาศกระเพื่อมไหว เมฆหมอกเคลื่อนพลิ้ว
ชายชราตาบอดและชุยจิ๋งเหยี่ยนตะลึงอึ้งกับที่ ความตะลึงในใจไม่อาจกล่าวเป็นคำพูด
เพราะถึงอย่างไร ในอดีต ไม่ว่าซูอี้จะแข็งแกร่งเพียงไร เขาก็ไร้เทียมทานเพียงในวิถีวิญญาณ
ทว่ายามนี้แตกต่างออกไป เมื่อเผชิญปราณดาบที่เขาฟาดฟัน จักรพรรดิเยี่ยงหยวนหลินหนิงกลับไม่อาจหยุดได้ด้วยเคล็ดวิชา!
เรื่องนี้ช่างน่าตกใจ!
ตู้ม!
ปราณดาบพลิกผันเป็นตายฟาดฟันใส่หยวนหลินหนิง ไม่ได้ลดทอนแรงลงแม้แต่น้อย
ยามนี้ คิ้วของหยวนหลินหนิงขมวดเข้าหากัน นางฟาดฝ่ามือใส่อากาศสุดแรงเพื่อทำลายปราณดาบสามจั้งตรงหน้านาง
ทว่าซูอี้โจมตีอีกครา โดยไม่มอบโอกาสให้นางพักหายใจ
ฉับ! ฉัวะ! ควับ!
ปราณดาบสายแล้วสายเล่าทะยานเวหา เจิดจรัสเฉิดฉาย งดงามดุจแสงอรุณส่องหล้า ทรงพลังดุจธารดาราจากสรวงสวรรค์ชั้นเก้าเคลื่อนเหนือพิภพ ยิ่งใหญ่ไร้ประมาณดุจจักรวาลพร่างดาว
ทุกปราณดาบล้วนแสดงความยิ่งใหญ่แข็งแกร่งในอำนาจของซูอี้อย่างชัดเจน
จิตต่อสู้เอ่อล้นทั่วร่างของเขา
ตู้ม! ตู้ม!
ท้องนภามืดมิด ตะวันจันทราหม่นรัศมี ศิลาพฤกษารอบข้างถูกป่นเป็นธุลี ภาวะดาบพลุ่งพล่านกลางหาว เกิดเป็นเส้นแสงพาดทแยงสับไปมาเหนือแดนดิน
และภายใต้การโจมตีนี้ หยวนหลินหนิงก็ไม่กล้ายั้งมือ นางตอบโต้กลับสุดกำลัง!
เพลิงเย็นเฉียบปรากฏขึ้นรอบร่างอรชร สารพัดเคล็ดวิชาลี้ลับเกินคาดเดาปรากฏ ณ ปลายนิ้ว
พลังระดับนี้ แม้จะเป็นจักรพรรดิในขอบเขตเดียวกันก็ไม่กล้ามองข้าม อย่าว่าแต่ตัวตนใต้จักรพรรดิเลย
สงครามก่อกำเนิด
นี่คือการประลองความต่างของความแข็งแกร่ง และระดับขอบเขตของทั้งสองก็แตกต่างกันเกินไป
ผู้ที่ไม่รู้มาก่อนย่อมคิดว่าศึกนี้ไร้สิ่งใดให้ลุ้น และต้องจบด้วยชัยชนะของหยวนหลินหนิงเป็นแน่
ทว่า สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ…
หยวนหลินหนิงถูกปราบลงนับแต่เริ่มศึก!
ไม่ว่านางจะใช้เคล็ดวิชาสารพัดเพียงไร ทั้งหมดต่างถูกภาวะดาบอันน่าตื่นกลัวของซูอี้สยบทำลายสิ้น
ในทางกลับกัน ยิ่งต่อสู้ นางก็ยิ่งถูกกำราบ!
“นี่มัน…”
ดวงตาของหลี่ฉางชิงเบิกกว้าง สมองมึนงง
ตัวตนเบื้องใต้ขอบเขตจักรพรรดิต่างเป็นเช่นมด
นับแต่โบราณกาล แทบไม่มีผู้ใดใต้ขอบเขตจักรพรรดิสามารถทะยานฟ้า หาญท้าทายจักรพรรดิได้!
หลี่ฉางชิงยังคงคำได้ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีมหาปราชญ์สวรรค์ในขอบเขตวงล้อวิญญาณอันชั่วร้ายยิ่งนักนามสวินจื่อม่ออยู่ในวังธารเหลือง
ในศึกหนึ่ง คนผู้นี้ถูกจักรพรรดิในขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำไล่ล่าสังหาร และในที่สุดก็หนีออกมาได้ ทันทีที่ข่าวแพร่กระจาย โลกหล้าก็ตกตะลึง
ทุกคนในโลกชื่นชมสวินจื่อม่อที่กล้าท้าทายสวรรค์ เพราะถึงอย่างไร ในฐานะผู้ฝึกตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณ การที่เขาสามารถเอาตัวรอดจากจักรพรรดิได้นั้น มีคนเพียงหยิบมือในโลกที่ทำได้
ทว่ายามนี้ ชายหนุ่มผู้หนึ่งจากมหาทวีปคังชิง ไม่เพียงสามารถประมือกับจักรพรรดิได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถปราบจักรพรรดิได้อีกด้วย!
น่ากลัวยิ่งนัก!
ควรค่าจดจำว่าความต่างระหว่างขอบเขตสยายวิญญาณและขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำนั้นไม่ได้ห่างกันเพียงสองขอบเขตใหญ่ แต่ยังมีความต่างมหาศาลจากสองวิถีด้วย
น่าเหลือเชื่อมากพอแล้วที่เขาสามารถต่อกรกับจักรพรรดิได้ หากเรื่องนี้แพร่งพราย คงทำให้ทั่วโลกาและประวัติศาสตร์ตะลึงงันเป็นแน่
ทว่ายามนี้ ซูอี้ไม่ได้กำลังต่อสู้ แต่กำลังปราบจักรพรรดิ!!
สิ่งนี้ทำให้ความรู้ความเข้าใจของหลี่ฉางชิงถูกล้มล้าง ไม่กล้ากระทั่งจะจินตนาการว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นบนโลกด้วย!
ผลก็คือ บุคคลเช่นหลี่ฉางชิงผู้ผ่านร้อนหนาวแปรผันมากมายบนโลกายังอดตะลึงพรึงเพริดอยู่กับที่ไม่ได้
ไม่เพียงแค่เขา แต่ชุยจิ๋งเหยี่ยนและชายชราตาบอดเองก็อึ้งดุจได้เห็นปาฏิหาริย์ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนสำแดงอยู่ตรงหน้า!
ทันใดนั้นเอง
หยวนหลินหนิงหยิบกระสวยบินสีขาวหิมะออกมา
สิ่งนี้คือสมบัติวิญญาณคู่ชีพของนาง นาม ‘กระสวยวิญญาณพันมายา’ ซึ่งสร้างจากผลึกน้ำแข็งแม่น้ำหลงลืมสามหมื่นจิน ผสมด้วยวัตถุดิบหายากมากกว่าสามร้อยชนิด และนางก็ขอให้เฟิงฉือ อาจารย์ของนางสร้างมันด้วยตนเอง อำนาจความแข็งแกร่งของมันเหนือวิถีเต๋าทั่วไป
สิ่งที่หายากที่สุดคือสมบัติชิ้นนี้ นอกจากอำนาจวิเศษในการตรึงจิตสะกดวิญญาณแล้ว อำนาจฆ่าฟันของมันยังกล่าวได้ว่าน่าตกใจ มันรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนางมานาน และจวบยามนี้ก็สังหารศัตรูมานับไม่ถ้วน
ยามนี้ เมื่อหยวนหลินหนิงใช้สมบัติชิ้นนี้ มันก็ดึงสถานการณ์กลับมาให้นางได้บ้าง และไม่ถูกกดข่มโดยสมบูรณ์เยี่ยงกาลก่อน
ทว่าในครู่สั้น ๆ ถัดมา ความได้เปรียบซึ่งเพิ่งถูกชิงกลับมาส่วนหนึ่งก็หายไปภายใต้การโจมตีของซูอี้
มันยังผลักหยวนหลินหนิงกลับสู่สถานการณ์ตึงมือเหมือนเช่นเก่าด้วย!
ซูอี้แข็งแกร่งเกินไป ดาบของเขาฟาดฟันดุจพายุคลั่ง รวดเร็วแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมทุกการฟาดฟัน อำนาจต่อสู้เช่นนี้ไม่อาจชี้วัดโดยใช้มาตรฐานของวิถีวิญญาณได้อีกต่อไป
“เป็นไปไม่ได้ ไฉนเขาจึงแข็งแกร่งเพียงนี้!?”
หัวใจของหยวนหลินหนิงพลิกคว่ำ ใบหน้างามเปลี่ยนสี ยามนี้นางสัมผัสได้ว่าความรู้ความเข้าใจในการฝึกฝนวิถีเต๋าถูกทำร้ายรุนแรง
ในฐานะจักรพรรดิ ความรู้และประสบการณ์ของนางย่อมเหนือล้ำกว่าธรรมดามากนัก
ทว่ามันไม่อาจจินตนาการได้ ต่อให้ต้องหัวระเบิดก็ตามที ว่าตัวตนในขอบเขตสยายวิญญาณจะสามารถปราบจักรพรรดิเยี่ยงนางในการดวลซึ่งหน้า และใช้เพียงกำลังของตนเองเท่านั้นเยี่ยงนี้!
หากเรื่องแพร่งพรายออกไป เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดเชื่อ
เคร้ง!!
ทันใดนั้น เสียงฟาดฟันสนั่นฟ้าก็ดังขึ้น
กระสวยวิญญาณพันมายาถูกดาบของซูอี้ฟาดกระเด็น และปราณดาบอันไม่ได้ลดทอนกำลังก็กระชั้นเข้าใส่หยวนหลินหนิง
จักรพรรดิโลกันตร์อเวจีโซเซภายใต้สายตาโลกกล้า เกือบถูกกระแทกร่วงจากอากาศ
แย่แล้ว!
สีหน้าของหยวนหลินหนิงแปรเปลี่ยนมหันต์ และเมื่อนางตระหนักว่าอารมณ์ไม่เสถียร นางก็ถูกซูอี้ฉวยโอกาสจากช่องโหว่ที่นางเผย
ฉัวะ!
พิรุณดาบโปรยปรายทั่วสารทิศหนาแน่น ปราณฆ่าฟันรุนแรงไร้เทียบถล่มสุญญะจนเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วน
หยวนหลินหนิงต่อสู้โต้ตอบเขาแทบจะด้วยสัญชาตญาณ
ท้ายที่สุด แม้จะป้องกันการโจมตีอันน่ากลัวนี้ได้ ทว่าอาภรณ์ของนางก็ถูกฟาดฟันรุ่งริ่ง ผิวพรรณขาวดุจหิมะปรากฏแผลน่าตกใจ โลหิตพรั่งพรู
นี่ทำให้หยวนหลินหนิงฉุนโกรธ ทว่าก็หวาดหวั่นอย่างไม่อาจช่วยได้
หรือครั้งนี้ นางจะต้องพ่ายด้วยมือของตัวตนในขอบเขตสยายวิญญาณจริง ๆ!?
ทันใดนั้นเอง…
ชิ้ง!
ซูอี้ซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบจั้งหยุดมือ เก็บดาบนิลกาฬบริสุทธิ์ในมือ ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “เจ้ายังไม่ได้ควบรวมกฎเกณฑ์ในวิถีลึกล้ำ ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นจักรพรรดิที่แท้จริง ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า หากสู้ต่อ คงไม่อาจกลับสู่ฟากฟ้าได้”
เขาเข้าใจถ่องแท้ถึงอำนาจต่อสู้ของหยวนหลินหนิง อย่างมากนางก็เทียบเท่าได้กับวิญญาณรบแปดตนซึ่งปรากฏในบททดสอบที่สี่ในถ้ำศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำลืมเลือน
ก่อนหน้าคืนก่อน เขาอาจจะยังต้องกระเสือกกระสนรับมือกับหยวนหลินหนิง และจะบาดเจ็บอย่างไม่อาจเลี่ยงแน่นอน
ทว่าหลังเข้ารับการทดสอบเมื่อคืน เขาก็ได้รับการขัดเกลาเสริมแกร่ง เปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดอ่อนและเห็นได้ชัดมากมายหลายจุด
ยามนี้ ต่อให้เขาต้องเข้ารับบททดสอบที่สี่อีกครั้ง เขาก็จะสามารถเอาชนะวิญญาณรบแข็งกล้าแปดเก้าตนได้สบาย ๆ!
ทั่วหล้านภาสวรรค์ยังคงสะท้านสะเทือน เมฆหมอกยังไม่สลายดี
เมื่อซูอี้เก็บดาบและกล่าวเช่นนั้น ไม่ว่าชุยจิ๋งเหยี่ยน ชายชราตาบอดหรือหลี่ฉางชิง พวกเขาก็ยังอยู่ในสภาวะมึนงง
และเมื่อวาจาของซูอี้สะท้อนทั่วผืนหล้า หยวนหลินหนิงผู้เปี่ยมโทสะและความตะลึงก็สั่นสะท้านไม่หยุดราวสะเทือนใจไม่อาจรับไหว ร่างของนางชะงักกับที่
ใบหน้าของนางซีดขาว ดวงตาเลื่อนลอย อับจนหนทาง!
การถูกปราบถึงจุดนี้โดยชายหนุ่มผู้หนึ่งในขอบเขตสยายวิญญาณ เรื่องสะเทือนใจเช่นนี้ใหญ่โตเกินไปจริง ๆ สำหรับจักรพรรดิสักคน
อิงจากปฏิทินของมหาทวีปคังชิง วันนี้คือวันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนห้า
ในวันที่สองหลังซูอี้กลับสู่ภูมิมืดมิด ไกลจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไน่เหอสามพันลี้ เขาได้ใช้หนึ่งดาบปราบจักรพรรดิหยวนหลินหนิงแพ้พ่าย!