บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 821: แขกต่างคน แต่จุดประสงค์เดียวกัน
ตอนที่ 821: แขกต่างคน แต่จุดประสงค์เดียวกัน
ตอนที่ 821: แขกต่างคน แต่จุดประสงค์เดียวกัน
เตาโลหิตโตวเทียน!
ซูอี้กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดสมบัติชิ้นนี้จึงตกมาอยู่ในมือพวกเจ้าได้?”
ตามที่เขารู้มา เตาโลหิตโตวเทียนเป็นสมบัติล้ำค่ามากชิ้นหนึ่งของ ‘หุบเขาอสูรโลกา’ ซึ่งเป็นขุมกำลังวิถีอสูรระดับสุดยอดของเก้ามหาแดนดิน มีอานุภาพล้ำฟ้า สามารถใช้เลือดล้างแม่น้ำและภูเขา หลอมละลายหมื่นวิญญาณ
อาศัยสมบัติชิ้นนี้ หุบเขาอสูรโลกาหลอมวิญญาณโลหิตกับวิญญาณรบของมหาจักรพรรดิไปไม่รู้เท่าใดต่อเท่าใด เรียกได้ว่าเป็นศาสตราอสูรอันเลื่องชื่อชิ้นหนึ่งของวิถีอสูรมหาแดนดิน
‘หอแต้มทอง’ แห่งมหาแดนดินเคยทำการจัดอันดับสมบัติล้ำของวิถีอสูร เข้าใจว่าเตาโลหิตโตวเทียนสามารถจัดให้เป็นสมบัติอสูรขั้นลึกล้ำระดับสูงได้ ทว่าเนื่องด้วยกรรมแห่งการฆ่าหนักเกินไป โดนสวรรค์ลงโทษได้ง่าย หอแต้มทองจึงประเมินสมบัติชิ้นนี้ไม่ค่อยจะดีนัก
“นายของข้าเป็นผู้นำกลับมาขอรับ บอกว่าไปต่อสู้กับอสูรเฒ่าตนหนึ่งของภูเขาอสูรโลกามา สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้เป็นของที่รวบมาได้”
ผู้ดูแลร้านกล่าวรายงานตามความเป็นจริง “และก็เป็นเพราะการต่อสู้ในครั้งนี้เช่นกัน สมบัติชิ้นนี้ถูกนายท่านทำลายจนเสียหายหนักจนญาณแตกกระเซ็น อานุภาพไม่รุนแรงเหมือนในอดีต ด้วยเหตุนี้จึงถูกนายท่านทิ้งไว้ในร้านขอรับ”
“ที่แท้ก็เป็นผู้หญิงบ้าคนนั้น…”
มุมปากของซูอี้กระตุก
เขารู้นิสัยของเจ้าของร้านแห่งนี้เป็นอย่างดี พอเกิดดีเดือดขึ้นมา คนขวางฆ่าคน พระขวางฆ่าพระได้เลย ทั่วทั้งแดนสวรรค์ ไม่มีใครที่นางไม่กล้าหาเรื่องด้วย
ผู้ดูแลร้านกล่าวต่อ “ถึงแม้สมบัติชิ้นนี้จะได้รับความเสียหาย แต่หากใช้ขจัดสิ่งชั่ว ทำลายเคราะห์ภัย กลับได้ผลอย่างไม่คาดคิด เพราะอย่างไรเสีย สมบัติชิ้นนี้เดิมทีก็เป็นอาวุธอสูร ฆ่าแกงและดูดกลืนเลือดกับวิญญาณดับของศัตรูมามาก หากว่าใช้เป็นเครื่องขจัดสิ่งชั่ว เหมาะสมมากขอรับ”
ดังคำกล่าวที่ว่าใช้พิษล้างพิษนั่นเอง!
ซูอี้พยักหน้าตัดสินใจ “โคมไฟดอกบัวอาญากับเตาโลหิตโตวเทียน ข้าเอาสองสิ่งนี้”
ไม่ต้องรอว่าผู้ดูแลร้านจะเห็นด้วยหรือไม่ ลูกตุ้มน้ำหนักก็ขยับตัว
สวบ! สวบ!
กล่องทองเหลืองปิดสนิทสองกล่องก็ปรากฏบนแท่นชำระเงิน
“ใต้เท้าซูโปรดรับไว้ด้วยขอรับ!”
แก้มของผู้ดูแลร้านกระตุกอย่างแรง หัวใจมีเลือดหยด เจ้าพวกล้างผลาญ ยังไม่ทันได้ต่อรองราคากันเลย เหตุใดจึงมอบสมบัติล้ำค่าให้ฝ่ายตรงข้ามเสียแล้วเล่า!?
ทว่าทันใด ผู้ดูแลร้านก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา พูดพร้อมกับทำหน้าเอียงอาย “สมบัติสองชิ้นนี้ถือเสียว่าเป็นน้ำใจจากพวกเรา ใต้เท้าซูโปรดรับไว้ด้วย เชื่อว่านายท่านทราบเรื่องนี้แล้วจะต้องดีใจมากที่พวกเราทำเช่นนี้”
ชุยจิ๋งเหยี่ยนมองดูภาพเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยความตะลึง
สมบัติสองชิ้นนี้ ชิ้นหนึ่งมาจากหลวงจีนซ่อนใบ อีกชิ้นหนึ่งมาจากหุบเขาอสูรโลกา ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าหายากที่สามารถทำให้ผู้เป็นจักรพรรดิถึงกับน้ำลายไหลได้ ให้กันง่าย ๆ …แบบนี้เลยหรือ!?
ชุยจิ๋งเหยี่ยนถึงกับตบแก้มตัวเอง เกือบจะเข้าใจว่าตัวเองกำลังฝันไป
“ข้าไม่อยากจะเอาเปรียบร้านของพวกเจ้า และไม่อยากจะติดสินน้ำใจของนายเจ้าด้วย”
ซูอี้พูดพลางพลิกมือหยิบกล่องหยกใบหนึ่งออกมาวางไว้บนแท่นชำระเงิน “ในนี้คือเมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิด จำนำไว้ที่เจ้าก่อน ภายในเวลาร้อยปีข้าจะกลับมาไถ่คืน”
เมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิด!
ผู้ดูแลร้านสูดปาก สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ อยู่ในเก้ามหาแดนดินก็ยังถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งปฐพีที่หาพบได้ยากมาก
เมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิดเป็นเมล็ดพันธุ์วัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์ ซึ่งอุบัติ ณ แหล่งกำเนิดโลก ไม่อาจครอบครองได้ง่าย ๆ!
‘วัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์’ ที่ว่านี้พัฒนามาจากเมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิด มีแหล่งกำเนิดมหาวิถีกับจังหวะวิถีโดยกำเนิด มีความแยบยลเกินจะคาดเดา
ดังเช่น ‘ต้นปฐวีร่ายรำ’ ที่ปลูกอยู่ใน ‘แดนบูรพาน้อย’ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของวิถีพุทธในเก้ามหาแดนดินก็เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์
ต้นไม้นี้ ‘กิ่งก้านเต็มไปด้วยริ้ววิถี หนึ่งใบหนึ่งโพธิสัตว์’ ได้รับการขนานนามว่าต้นไม้เทวะอันดับหนึ่งของวิถีพุทธ ติดอันดับที่เจ็ดใน ‘ทำเนียบวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์ปฐมสวรรค์มหาแดนดิน’!
เมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิดนี้นอกจากจะสามารถงอกวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์อย่าง ‘ต้นปฐวีร่ายรำ’ ได้ ยังสามารถพัฒนาไปเป็นศาสตราเทวะโดยกำเนิดได้อีกด้วย
ศาสตราเทวะโดยกำเนิดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่สุดในเก้ามหาแดนดินก็คือดาบคู่ใจ ‘สามชุ่นสะบั้นใจสวรรค์’ ของซูอี้เมื่อในอดีตชาติ
เวลานี้ ติดอันดับสามใน ‘ทำเนียบวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์ปฐมสวรรค์มหาแดนดิน’!
กล่าวง่าย ๆ ก็คือมูลค่าของเมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิดหนึ่งเมล็ดเหนือกว่ามูลค่าของโคมไฟดอกบัวอาญากับเตาโลหิตโตวเทียนรวมกัน!
ชุยจิ๋งเหยี่ยนก็ตกใจมากเช่นกัน ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ในตัวของซูอี้นอกจากจะมีเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงแล้ว ยังมีสิ่งล้ำค่าหายากเช่นนี้อีก
“ใต้เท้าซู สมบัติชิ้นนี้ล้ำค่ามากเกินไป พวกเรา…”
ผู้ดูแลร้านทำท่าอึดอัดอยากจะปฏิเสธ
ซูอี้กล่าว “ข้าบอกแล้ว ภายในหนึ่งร้อยปีจะกลับมาไถ่คืน ไม่ต้องการเอาเปรียบร้านของเจ้า”
เขาได้เมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิดเมล็ดนี้มาจากตอนที่อยู่แคว้นอวี้ผิงแห่งอาณาจักรต้าเซี่ย คล้ายกับเก็บตกโชคอันยิ่งใหญ่มาได้ จึงเก็บไว้กับตัวมาโดยตลอด
สาเหตุที่นำออกมาจำนำ เหตุผลนั้นง่ายมาก การเพาะเลี้ยงเมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิดจะต้องมีเคล็ดลับเฉพาะ ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจและระยะเวลาที่ยาวนาน ต้องทุ่มเทวัสดุเพาะเลี้ยงอันล้ำค่าในปริมาณมหาศาล!
แม้กระทั่งกลุ่มขุมกำลังโบราณในเก้ามหาแดนดินเหล่านั้น หากต้องการจะบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์วิถีโดยกำเนิดสักเมล็ดก็ยังต้องเตรียมตัวเป็นเวลานาน ต้องมีการเตรียมตัวกันก่อนล่วงหน้า
สำหรับซูอี้ในเวลานี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้มันในช่วงเวลาอันสั้นนี้ สู้นำมาออกมาจำนำยังจะดีเสียกว่า
ผู้ดูแลร้านพูดจายิ้มแย้ม “ได้ ถ้าเช่นนั้นร้านของข้าจะช่วยเก็บรักษาของสิ่งนี้แทนใต้เท้าซูชั่วคราว”
พูดจบ ก็เก็บกล่องหยกใบนั้นด้วยความทะนุถนอม
ซูอี้สะบัดแขนเสื้อเก็บกล่องทองเหลืองสองใบนั้น
ชุยจิ๋งเหยี่ยนพลันถามขึ้นมา “พี่ซู ที่นี่คือร้านรับจำนำที่เล่าขานกันใช่หรือไม่?”
ซูอี้หัวเราะขึ้นมา “เจ้าเพิ่งจะรู้ตัวตอนนี้เองหรือ? โง่จริง”
ชุยจิ๋งเหยี่ยนไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย กลับพูดด้วยความตื่นเต้น “จริง ๆ ด้วย หากว่าเป็นเช่นนี้ ข้าก็สามารถจำนำสินค้าเพื่อแลกซื้อสมบัติล้ำค่าได้น่ะสิ?”
ผู้ดูแลร้านลูบหนวด ยิ้มพลางกล่าว “แน่นอนอยู่แล้ว”
ชุยจิ๋งเหยี่ยนกลั้นความตื่นเต้นในใจเอาไว้ กล่าว “อืม ให้เวลาข้าได้คิดสักครู่ สมบัติที่ข้าต้องการมีเยอะแยะเต็มไปหมด…”
ซูอี้ชายตามองไปที่ระฆัง และกล่าวคำ “สมบัติชิ้นนี้ชื่อว่าระฆังสยบใจ สามารถเข้าไปในจิตใจของเจ้า สัมผัสความคิดที่ใกล้เคียงกับใจเจ้าที่สุด เจ้าให้มันช่วยเจ้าเลือกได้”
เพิ่งพูดจบ ระฆังสยบใจก็ส่งเสียงหวานใสออกมา “แม่นางต้องการจะลองหรือไม่?”
ดวงตางามของชุยจิ๋งเหยี่ยนเป็นประกาย พยักหน้าติดต่อกัน
พลันเสียงระฆังก้องกังวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เข้าไปถึงหูของชุยจิ๋งเหยี่ยนแล้วคล้ายกับก้อนหินร่วงหล่นลงกลางทะเลใจ เกิดเป็นรอยคลื่นขึ้น
“เป็นอย่างไร?”
สายตาของซูอี้กับผู้ดูแลร้านต่างก็จ้องไปที่ระฆังสยบใจ
ระฆังสยบใจกลับนิ่งเงียบไป
นานมาก มันจึงกล่าวขึ้นมา “ใต้เท้าซู ระดับวิถีของแม่นางท่านนี้อยู่ในชั้นวิถีวิญญาณ และถือได้ว่าเก่งกาจมาก เพียงแต่… สมบัติในร้านที่เหมาะสมกับแม่นางท่านนี้กลับมีน้อยมาก…”
เสียงเล็กลงไปทุกทีราวกับรู้สึกผิด
ชุยจิ๋งเหยี่ยนรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา กล่าวเบา ๆ “ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”
ซูอี้อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะกล่าวขึ้น “ข้าคิดว่า สิ่งที่เหมาะสมกับเจ้าที่มีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น”
“คืออะไรหรือ?” ชุยจิ๋งเหยี่ยนถาม
“ขยันฝึกตน” ซูอี้กล่าว “เจ้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลชุย มีทุกอย่างพร้อมสรรพ และได้รับการสืบทอดครบถ้วน สิ่งเดียวที่ขาดไปก็คือความขยันในการฝึกตน”
ชุยจิ๋งเหยี่ยนนิ่งตะลึง เบะปากกล่าว “ข้ารู้อยู่แล้ว”
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน พลันเสียงของระฆังสยบใจก็ดังขึ้น “ผู้ดูแลร้าน แขกทั้งหลายมากันแล้ว”
โดยสัญชาตญาณ ผู้ดูแลร้านเบนสายตามองไปที่ซูอี้ และกล่าว “ใต้เท้าซู ร้านของพวกเราจะเปิดทำการแล้วขอรับ หากว่าท่านไม่รีบร้อนกลับ ช่วยข้าดูหน่อยได้ไหมขอรับ?”
เห็นได้ชัดว่ากำลังพูดอ้อมค้อม ความหมายของคำที่กล่าวมานี้ก็คือ หากว่าไม่มีธุระอื่นแล้วก็รีบกลับไปเสีย
แต่ซูอี้กลับพยักหน้ากล่าว “ได้ ข้าอยู่ต่ออีกหน่อย”
รอยยิ้มของผู้ดูแลร้านกระด้างไปจนแลดูฝืน ๆ กล่าว “เป็นเช่นนั้นได้ดีที่สุดขอรับ”
“เอาล่ะ ข้ากับแม่นางจิ๋งเหยี่ยนจะหลบกันไปก่อน พวกเจ้าสามารถต้อนรับแขกได้แล้ว”
ซูอี้ลุกขึ้นพาชุยจิ๋งเหยี่ยนมายังมุมร้านที่มืดมิด
ที่นี่มีพลังต้องห้ามลึกลับบดบัง ไม่ว่าใครเข้ามา ไม่มีทางรู้ว่าเขากับชุยจิ๋งเหยี่ยนก็อยู่ด้วย
เห็นเช่นนี้แล้ว ผู้ดูแลร้านสาวเท้าก้าวใหญ่ ๆ เดินออกมาจากร้าน
อย่างรวดเร็ว เขาก็พาแขกคนหนึ่งเดินเข้ามา
คน ๆ นี้เป็นผู้ชายในชุดกี่เพ้ายาวสีเทาสวมหมวกใบลาน พอเข้ามาก็ก้มศีรษะแสดงความคารวะพลางกล่าว “ข้ามาในครั้งนี้เพราะต้องการจะแลกซื้อสมบัติกับทางร้าน”
ผู้ดูแลร้านยืนอยู่ด้านหลังแท่นชำระเงิน ยิ้มอ่อนโยนพลางกล่าว “ไม่ทราบว่าสมบัติประเภทใด?”
ผู้ชายสวมหมวกใบลานกล่าว “สามารถสยบและควบคุมวิญญาณชั่วร้ายได้ ดีที่สุดต้องเป็นสมบัติลับระดับจักรพรรดิ”
ผู้ดูแลร้านตะลึง นึกถึงสมบัติล้ำค่าสองชิ้นที่ทำการค้าขายกับซูอี้เมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสมบัติที่สามารถสยบและควบคุมวิญญาณชั่วร้ายได้เหมือนกัน!
เป็นความบังเอิญเช่นนั้นหรือ?
ขณะที่กำลังครุ่นคิด ผู้ดูแลร้านส่ายหน้าพลางกล่าว “ขออภัย สมบัติเช่นนี้ร้านของข้าไม่มีแล้ว”
“ไม่มีแล้ว?”
ผู้ชายสวมหมวกใบลานตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับไม่อยากจะเชื่อ “แต่เหตุใดจึงได้ยินมาว่าเมื่อก่อนนานมากแล้วหลวงจีนซ่อนใบแห่งแดนบูรพาน้อยเคยนำโคมไฟดอกบัวอาญาสวรรค์มาจำนำที่ร้านของพวกเจ้าเล่า?”
ผู้ดูแลร้านหรี่ตาเล็กน้อย พลันยิ้มพร้อมกับกล่าว “สมบัติชิ้นนี้ถูกคนอื่นแลกซื้อไปแล้วขอรับ”
“ใครเป็นคนแลกกัน?”
ผู้ชายสวมหมวกใบลานถาม
ผู้ดูแลร้านเพียงแค่ยิ้มไม่ตอบความ
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายสวมหมวกใบลานรู้กฎของทางร้านดี จึงกล่าวขอโทษ “ขออภัย ข้าเสียมารยาทไป”
ผู้ดูแลร้านถาม “ท่านยังต้องการสิ่งอื่นอีกหรือไม่?”
ผู้ชายสวมหมวกใบลานตอบ “ข้ารู้ ตามกฎของร้าน ในเมื่อมาแล้ว จะต้องทำการแลกเปลี่ยนจึงจะได้ ขอเรียนถามสหายเต๋า ที่แห่งนี้มีสมบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มกัน หลบหนี หรือยกระดับกำลังการต่อสู้หรือไม่?”
ผู้ดูแลร้านยิ้มพลางพยักหน้า “มีขอรับ!”
ในที่สุด ผู้ชายสวมหมวกใบลานก็ใช้สมบัติขั้นจักรพรรดิชิ้นหนึ่งแลกซื้อเปลี่ยนกับชุดรบสำหรับป้องกันตัว จากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกไป
เห็นภาพทั้งหมดนี้แล้ว ชุยจิ๋งเหยี่ยนก็อดส่งกระแสเสียงกล่าวไม่ได้ “พี่ซู เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าจุดมุ่งหมายในการมาที่นี่ของคน ๆ นี้เหมือนกับพี่ซูเลยเล่า?”
สายตาของซูอี้เกิดประกาย ก่อนกล่าว “ถึงแม้คน ๆ นี้จะอำพรางใบหน้าและพลังของตัวเอง แต่สามารถมั่นใจได้ว่าจะต้องเป็นคนระดับจักรพรรดิคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย สาเหตุที่เขาต้องการแลกซื้อโคมไฟดอกบัวอาญาสวรรค์ เกรงว่าคงจะเกี่ยวข้องกับตระกูลชุยของพวกเจ้า หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าคน ๆ นี้มาจากขุมกำลังเผ่าโบราณอย่างตระกูลชวี ตระกูลหง หรือตระกูลตั้นไถ เป็นต้น”
ชุยจิ๋งเหยี่ยนตกใจ กล่าวแบบไม่อยากจะเชื่อ “รู้ได้เช่นใด?”
ซูอี้โพล่งออกมา “จิตใต้สำนึกบอก”
ชุยจิ๋งเหยี่ยน “…”
เวลานี้ ผู้ดูแลร้านพาแขกอีกคนเดินเข้ามา
ครั้งนี้เป็นผู้หญิงสวมชุดกี่เพ้ายาวสีดำคลุมมิดชิด โผล่ให้เห็นแค่ดวงตางามงดเท่านั้น ทว่าสายตากลับเย็นยะเยือกประดุจน้ำแข็ง
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ ผู้หญิงคนนี้กับผู้ชายสวมหมวกใบลานคนนั้นมีจุดประสงค์เดียวกัน โดยต่างก็ต้องการจะซื้อสมบัติที่สามารถควบคุมและสยบวิญญาณชั่วร้ายได้
อีกทั้งนางระบุด้วยว่าต้องการจะแลกซื้อโคมไฟดอกบัวอาญาสวรรค์!
เวลานี้ แม้กระทั่งผู้ดูแลร้าน ระฆังสยบใจ ตาชั่งดุลยพินิจ กับลูกคิดดารารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเข้าแล้ว
เหตุใดแขกในคืนนี้จึงมาเพื่อสมบัติแบบเดียวกับของใต้เท้าซู?