บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 924: ข้าเปรียบได้กับผู้ชี้ชะตา
ตอนที่ 924: ข้าเปรียบได้กับผู้ชี้ชะตา
เมื่อซูอี้ขยับมือขวาลงมา ศิลาหลุมศพที่ตั้งตระหง่านอยู่นิ่ง ๆ มาเป็นเวลาหมื่นปี พลันเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมาน้อย ๆ ผิวนอกมีแสงวิถีลึกลับส่องสว่าง
ชั่วครู่เดียว ราวกับมีลวดลายมหาวิถีจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนศิลาหลุมศพ จากนั้นเสียงวิถีโบราณก็ดังขึ้นป็นพัก ๆ บนผืนแผ่นดินอันรกร้างว่างเปล่าและเหน็บหนาวแห่งนี้
นี่คือ…
ผู้ชายชุดดำหรี่ตาลงในทันใด สายตาหยิ่งทะนงในตอนแรกผุดประกายตื่นตระหนกและสงสัยออกมา
ผู้ชายชุดดำไม่รอช้าเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน
เอื๊อก!
แขนเสื้อของเขาพองลม ในฝ่ามือข้างขวา พลังวิถีสลับซับซ้อนสีเทาผุดออกมากลายเป็นภาวะดาบยาวสามฉื่อ
ฉึบ! ฉึบ!
ภาวะดาบยาวเพียงแค่สามฉื่อ แต่พอปรากฏขึ้นมา สุญญะโดยรอบพลันแตกออกราวกับกระจกที่มีรอยร้าวทั่วบาน
เมื่อผู้ชายชุดดำกำลังจะฟันดาบ ๆ นี้ออกไป
ชั่วอึดใจ ฟ้าดินก็มืดครึ้มลง กลิ่นอายพลังภัยพิบัติอันน่ากลัวก็แผ่กระจายเป็นวงกว้างราวกับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร ราวกับเทพผู้ยิ่งใหญ่ลงโทษแผ่นดิน!
อีกาเก้ามืดมิดขนลุกเพราะหวาดกลัว มันขับเคลื่อนระดับการฝึกตนเพื่อต้านทานอานุภาพดาบที่น่ากลัวเช่นนั้นโดยสัญชาตญาณ แต่ก็ยังคงรู้สึกหายใจไม่ออกอยู่ดี
“นี่คือพลังเช่นใดกัน?”
ปีศาจเฒ่าคิ้วขาวตื่นตระหนก จากนั้นมันก็กลายร่างเป็นลำแสงและหนีออกไปไกล อีกทั้งตั้งใจว่าจะแหวกอากาศเพื่อหลบหนี
ภาวะดาบเช่นนี้ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน ราวกับอานุภาพสวรรค์ลงมาเยี่ยมเยือน!
ครืน!
ภาวะดาบสามฉื่อพุ่งตรงไปหาซูอี้
รวดเร็วจนคาดไม่ถึง เร็วไวราวกับหายตัว
เมื่ออยู่ห่างจากซูอี้สามจั้ง ภาวะดาบสามฉื่อเล่มนั้นก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับปลาน้อยที่กำลังกระเสือกกระสนแหวกว่ายอยู่ในน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง
หืม?
ผู้ชายชุดดำรู้สึกหนังตากระตุก
จากนั้นเขาก็เห็นพลังวิถีอันไร้รูปร่างปรากฏขึ้นบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ กลายเป็นมือขนาดใหญ่มหึมาครอบลงมา
คล้ายกับมือของสวรรค์กำลังกดทับลงบนโลก
ปัง!!!
ภาวะดาบสามฉื่อแตกกระจุยกลายเป็นชิ้นน้อยดั่งกระดาษเปื่อยยุ่ย
“เป็นไปได้ย่างไร?”
ในที่สุดผู้ชายชุดดำก็ตระหนักถึงปัญหา
เดิมทีเขาเข้าใจว่าตัวตนขอบเขตวงล้อวิญญาณอย่างซูอี้ต้องถูกพลังไร้รูปร่างที่ปกคลุมผืนแผ่นดินแห่งนี้กดทับไปด้วย
ทว่าจนกระทั่งถึงเวลานี้ ผู้ชายชุดดำจึงพบว่าความเป็นจริงกับสิ่งที่เขาคาดเดาไว้นั้นมันตรงกันข้ามกัน
พลังแห่งกฎเกณฑ์ไร้รูปร่างที่ปกคลุมเขตต้องห้ามในบริเวณนี้ทั้งหมดกลับถูกซูอี้บงการเสียอยู่หมัด!
แต่เสียดาย เมื่อรู้สึกได้ถึงจุดนี้ ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว
“คุกเข่าลง”
เสียงราบเรียบของซูอี้ดังขึ้น
มือใหญ่มหึมานั้นกดทับอากาศจนเกิดเสียงดังกึกก้อง บดทับลงไปที่ตัวของผู้ชายชุดดำ
กลิ่นอายอันตรายถึงแก่ชีวิตราวกับมีดที่คมกริบ ทิ่มแทงจนสีหน้าของผู้ชายชุดดำเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขาสูดหายใจเข้าอย่างแรง สองมือประสานเป็นรูปสัญลักษณ์ บนร่างที่ผ่ายผอมปรากฏร่างอวตารที่มีความสูงถึงเก้าจั้ง
ร่างอวตารราวกับสร้างขึ้นจากหยกศักดิ์สิทธิ์สีดำ มันมีสามเนตร แปดกร มือแต่ละข้างถือแสงสมบัติต่างกันไปแปดชิ้น ได้แก่ มีด ดาบ หยกหรูอี้ ระฆัง ตราประทับวิถี แส้นักพรต บรรทัดหยก และโคมไฟ
พลังทำลายล้างสีเทาคล้ายกับควันหมอกพลุ่งพล่านอยู่บนร่างอวตารสูงเก้าจั้ง ทำให้อานุภาพของร่างอวตารนี้มีความน่ากลัวจนถึงขั้นคาดไม่ถึง
เคล็ดวิชาสุดยอดที่เต็มไปด้วยความกลิ่นอายมหาวิถีแห่งการทำลายล้าง
“ทลาย!”
ผู้ชายชุดดำร้องตะโกนออกมา พร้อมกับควงแขนทั้งแปดไปด้วย ฉับพลันสมบัติรูปร่างประหลาดทั้งแปดชิ้นก็ปล่อยพลังภัยพิบัติสะท้านฟ้าออกมา จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่มือขนาดใหญ่มหึมาที่กำลังกดทับลงมาอย่างแรง
ครืน…!!
ฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างแรง ป่าเขาลำเนาไพรสั่นหวั่นไหว
ภายใต้สายตาไม่อยากจะเชื่อของอีกาเก้ามืดมิดกับปีศาจเฒ่าคิ้วขาว ร่างอวตารสูงเก้าจั้งของผู้ชายชุดดำกลับถูกมือใหญ่มหึมาของซูอี้กดทับจนทรุดตัวลงไปเรื่อย ๆ
ทุก ๆ การทรุดตัว ร่างของผู้ชายชุดดำก็จะสั่นระริกมากขึ้น สีหน้าของเขาซีดลงไปทุกที
เมื่อร่างอวตารทั้งหมดทรุดตัวลง ผู้ชายชุดดำจึงไม่อาจต้านทานแรงกดทับเช่นนั้นได้อีก ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลง หัวเข่าทั้งสองกระแทกกับพื้น
แม้กระทั่งหัวสองก็ยังถูกกดติดกับพื้น ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาได้อีก!
แผ่นดินสั่นสะเทือน
ปีศาจเฒ่าคิ้วขาวตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นจึงปรบมือกล่าวด้วยความยินดี “ท่าสุนัขกินมูล เยี่ยมไปเลย! ผู้น้อยรู้มานานแล้วว่า เสือกระดาษเช่นนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของใต้เท้าซูได้อย่างไร? ตอนนี้ได้มาเห็น ข้าก็รู้สึกว่าแม้แต่เสือกระดาษก็ยังไม่คู่ควร!”
ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แท้จริงแล้วเขายังแอบปาดเหงื่อโล่งอก โชคดีที่เมื่อสักครู่ไม่ได้ตกใจกลัวจนหนีไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้น ต้องถูกใต้เท้าซูคิดบัญชีย้อนหลังเป็นแน่!
อีกาเก้ามืดมิดถึงกับตกตะลึงจนนิ่งงันราวกับถูกฟ้าผ่ากลางสมอง
ก่อนหน้านี้ มันยังพูดท้าทายและดูถูกว่าอยากจะดูนักว่าชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดแล้วมีระดับการฝึกตนเพียงแค่ขอบเขตวงล้อวิญญาณจะสามารถอวดดีได้สักกี่น้ำ
ทว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ผู้ลงทัณฑ์ที่เขามองว่าเป็นคนหนุนหลังก็ถูกฝ่ามือซัดติดกับพื้น จนหน้าเป็นรอยกระดำกระด่าง อับอายขายหน้าไม่มีเหลือ!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน ควันฝุ่นคละเคล้า
ผู้ชายชุดสีดำไอออกมาเป็นเลือด เขารู้สึกอับอายจนอยากตาย
“เปิด!”
เขาแผดเสียงออกมาจากริมฝีปาก กลิ่นอายพลังพิบัติทำลายล้างแตกระเบิดออกจากตัวของเขา
อานุภาพที่รุนแรงถึงเพียงนั้น เพียงพอที่จะฆ่าผู้เป็นจักรพรรดิขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำได้อย่างง่ายดาย!
ภายใต้การกดทับของกำลังแห่งฝ่ามือของซูอี้ การดิ้นรนกระเสือกกระสนของผู้ชายชุดดำในเวลานี้จึงแลดูอ่อนกำลัง และยิ่งเขาดิ้นรนก็ยิ่งทำให้เขาพลังที่กดทับตัวทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
เพียงแค่ไม่กี่พริบตา ผิวบนตัวเขาก็เกิดเป็นรอยแตกร้าว เลือดสด ๆ ไหลย้อย กระดูกในตัวเกิดบดหักอย่างแรงจนหน้าของเขาบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด
“ข้าเคยบอกแล้ว สถานที่ต้องห้ามแห่งนี้ ข้าก็คือผู้ชี้ชะตา”
ซูอี้ยืนมือไพล่หลัง ส่งเสียงราบเรียบ “อย่าว่าแต่ตัวตนเล็ก ๆ ขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำขั้นสมบูรณ์อย่างเจ้าเลย และไม่ต้องพูดถึงพลัง ‘จองจำแห่งยุคมืด’ ที่เจ้ามีด้วย ทั้งหมดล้วนอยู่ในความควบคุมของข้าทั้งสิ้น”
คำกล่าวทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ชายชุดดำรู้ได้ในที่สุดว่าสภาพของตนเองย่ำแย่เพียงใด เขากล่าวเสียงแตกพร่า “มิน่าเล่า ในชาตินี้ เจ้าซูเสวียนจวินผู้มีระดับการฝึกตนเพียงแค่ขอบเขตวงล้อวิญญาณถึงกล้าผยองไม่รู้จักหวาดกลัว ที่แท้เจ้าก็ควบคุมพลังศิลาหลุมศพแผ่นนั้นไว้ได้แล้ว!”
เขาเข้าใจแล้ว
เข้าใจถ่องแท้แล้ว!
คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่ซูเสวียนจวิน แต่เป็นศิลาหลุมศพที่ตั้งตระหง่านในสถานที่ต้องห้ามประจำเมืองมรณะทั้งเมืองแผ่นนี้!
และซูเสวียนจวินในตอนนี้ ก็สามารถควบคุมพลังของศิลาหลุมศพแผ่นนั้นได้อย่างง่ายดาย!
ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ซูเสวียนจวินกล่าวมานั้นไม่ผิด ณ สถานที่ต้องห้ามตรงนี้ เขาก็คือผู้ชี้ชะตา!!
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…”
อีกาเก้ามืดมิดก็เข้าใจได้ในทันทีเช่นกัน ความหวาดกลัวและตื่นตระหนกอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นมาในหัวใจ มันรู้สึกตัวว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว ฉับพลันมันกระพือปีกหลบหนี
แม้กระทั่งผู้ลงทัณฑ์ก็ยังถูกกดข่มอย่างง่ายดาย นับประสาอะไรกับมัน?
ตอนนี้ มันอยากจะหนีไปให้ไกล ๆ เหลือเกิน!
“อีกาน้อย เจ้าเคยรับปากว่า จะเด็ดหัวของตัวเองลงมาให้ข้าเตะ เก็บรักษามันไว้จะดีกว่า”
คำพูดเรียบง่ายยังคงดังกึกก้อง
ซูอี้เอื้อมมือออกมาคว้า พลังวิถีกลายเป็นมือขนาดใหญ่ และจับปีกที่กำลังกระพือของอีกาเก้ามืดมิดอย่างง่ายดาย
“ตัวประหลาดซู ข้ากับเจ้าไม่เคยมีความแค้นต่อกัน เหตุใดเจ้าจึงต้องทำเป็นศัตรูกับข้าในทุกเรื่อง?”
อีกามืดมิดหวีดร้องด้วยความตกใจ
“อย่าเสแสร้ง หลักแพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?”
ซูอี้งอนิ้วเคาะหัวของอีกาเก้ามืดมิดไปทีหนึ่ง
อีกาเก้ามืดมิดเวียนหัวตาลาย มันร้องด้วยความโกรธ “ตัวประหลาดซู แน่จริงก็ฆ่าข้าเสียเลยสิ ดูสิว่าข้าจะร้องสักแอะหรือไม่!”
“อีกาน้อย ตัวตนเช่นเจ้ายังอยากจะตายในเงื้อมมือข้าอีกหรือ? เหลวไหลสิ้นดี!”
ไม่ไกลนัก ปีศาจเฒ่าคิ้วขาวเขยิบเข้ามาใกล้ และใช้น้ำเสียงดุกล่าวต่อว่าอีกาเก้ามืดมิด จากนั้นหันหน้ามาขออนุญาตจากซูอี้ “ใต้เท้าซู ให้ผู้น้อยจัดการฆ่าอีกาน้อยตัวนี้ดีกว่า จะได้ไม่เปื้อนมือของท่าน”
เขาทำหน้าตาประจบประแจงว่านอนสอนง่ายและเชื่อฟังเสียเหลือเกิน
“ตาเฒ่าคิ้วขาว เจ้านี่มัน…”
อีกาเก้ามืดมิดโกรธจนอยากจะอ้าปากด่า แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ อีกาเก้ามืดมิดก็สลบไปตามแรงดีดของซูอี้
“เจ้าคอยดูมันไปก่อน”
ซูอี้ใช้พลังของศิลาหลุมศพแผ่นนั้นกักขังระดับวิถีของมันไว้ จากนั้นโยนไปให้ปีศาจเฒ่าคิ้วขาว
“น้อมรับบัญชาของใต้เท้าซู!”
ปีศาจเฒ่าคิ้วขาวก้มหัวรับบัญชา เขารู้สึกวางใจลงได้แล้วเช่นกัน
เขารู้ว่า ซูอี้ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องที่เมื่อสักครู่ตนเองตกใจจนอยากจะหนีไป
‘ย่อมใช่อยู่แล้ว ด้วยจิตใจที่กว้างขวางของใต้เท้าซู จะเอาเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มากดดันตาเฒ่าอย่างข้าได้อย่างไร?’
ปีศาจเฒ่าคิ้วขาวแอบพึมพำในใจ
“ตอนนี้ สามารถคุยกันดี ๆ ได้หรือยัง?”
ซูอี้ก้าวเดินมาข้างหน้า พลางก้มมองดูผู้ชายชุดดำที่ถูกกดให้คุกเข่าอยู่ตรงหน้า
ผืนแผ่นดินตรงนี้เต็มไปด้วยพลังกฎเกณฑ์ที่น่ากลัว ทว่าต่อหน้าซูอี้กลับเชื่อฟังอ่อนโยนราวกับบ่าวที่เจอกับนาย
“สหายเต๋าซูอยากจะคุยเรื่องอันใด?”
ผู้ชายชุดดำสงบใจเย็นลงมาแล้วอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็ไม่คิดจะดิ้นรนอีก
“คุยกันเรื่องหอเก้าสวรรค์ของเจ้า”
ซูอี้ตอบโดยไม่ต้องคิดนาน
ผู้ชายชุดดำหรี่ตาและเงียบเสียงลงในทันใด