บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ - ตอนที่ 121 Poorest Player
“เธอลองหาเขาดูที่แถวนี้นี่ล่ะ! เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูทางด้านในห้องครัวให้เอง!!”
ในขณะเดียวกันกับที่ทางด้านครอบครัวของนากากำลังช่วยกันรับมือกับเด็กสาวผมสีทองและลูกน้องของเธอกันอยู่นั้น ทางด้านอลิซเองก็ได้พูดสั่งโมโกะเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินลึกเข้าไปด้านในห้องครัวที่ตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงโดยปล่อยโมโกะที่อ่อนแรงเอาไว้ทางด้านห้องนั่งเล่นที่เปลวไฟยังคงลามมาไม่ถึง
ซึ่งนั่นก็ทำให้โมโกะที่มีอาการเหนื่อยอ่อนจากการฝืนใช้พลังวิซในการขับรถกระบะมาเป็นระยะเวลานานได้ตัดสินใจที่จะลองร้องตะโกนออกมาเผื่อว่าคุณพ่อของเธอที่อาจจะยังอยู่ข้างในนี้ได้ยิน
“คุณพ่อ!! คุณพ่ออยู่ไหนคะ!?”
โคร๊ม—!!
“ว๊าย—!?”
เสียงร้องหาคุณพ่อของโมโกะถูกกลบไปด้วยเสียงของคานไม้ที่พังถล่มลงมาข้างๆ ตัวของเธอจนทำให้โมโกะหลุดเสียงร้องออกมาเสียงดัง ซึ่งเสียงร้องด้วยความตกใจของโมโกะนั้นก็เหมือนกับว่าจะทำให้คุณพ่อของเธอได้ยินเข้าเมื่อมีเสียงอันแผ่วเบาของเขาดังแว่วขึ้นมาเบาๆ จากทางด้านในตัวบ้านให้เธอได้ยิน
“ม…โม…โกะ…?”
“คุณพ่อ!? หนูจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหล่ะ!!”
โมโกะที่ได้ยินเสียงของคุณพ่อของเธอดังขึ้นมาจากทางขึ้นบันไดไปชั้นสองของตัวบ้านได้รีบวิ่งลัดเลาะไปตามเสาและคานบ้านที่พังถล่มลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่เกรงกลัวเปลวไฟที่ลุกท่วมไปทั่วบริเวณเลยแม้แต่น้อยก่อนที่เธอจะพบเข้ากับคุณพ่อของเธอที่ถูกทับเอาไว้ด้วยเศษซากปรักหักพังที่พังถล่มลงมาจากชั้นบนจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้เลยอีกทั้งเปลวไฟรอบๆ เองก็กำลังค่อยๆ ลามไปตามเศษไม้ที่ทับถมอยู่บนร่างกายของเขาอีกด้วย
“—-!? ไม่—ไม่ไม่!! คุณพ่ออดทนไว้นะคะ!!”
“ลูกจะเข้ามาข้างในนี้ทำไม! มันอันตรายนะรู้มั้ย!! รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!!”
คุณพ่อของโมโกะที่เห็นลูกสาวของตนเองวิ่งเข้ามาหานั้นได้แต่เบิ่งตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะรีบเอ่ยปากดุลูกสาวของเขาออกมาด้วยความเป็นห่วง แต่ว่าโมโกะที่ได้ยินแบบนั้นก็กลับไม่สนใจคำดุว่าของเขาและรีบวิ่งเข้าไปจัดการโยนเศษอิฐเศษไม้ที่ทับร่างของคุณพ่อของเธอออกไปโดยไม่กลัวว่าเปลวไฟและความร้อนจะลวกมือของเธอ
“คุณพ่อน่ะเงียบไปเถอะค่ะ!! เดี๋ยวหนูจะรีบช่วยคุณพ่อออกมาเดี๋ยวนี้นี่ล่ะ!!”
ครึก…
ถึงแม้ว่าโมโกะจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ว่าหลังจากที่เธอจัดการโยนเศษไม้จำนวนมากออกไปจนร่างกายส่วนบนของคุณพ่อของเธอโผล่พ้นจากเศษซากต่างๆ ออกมาแล้วเธอก็กลับได้พบว่าที่ร่างกายส่วนล่างของเขานั้นได้ถูกเสาขนาดใหญ่ที่มีเปลวไฟลุกท่วมล้มลงมาทับเอาไว้อีกทั้งในเวลาอีกไม่นานเปลวไฟพวกนั้นก็จะลามไปถึงจุดที่เขาอยู่อยู่แล้ว
ซึ่งภาพที่เธอเห็นนั้นก็ได้ทำให้โมโกะกัดฟันแน่นก่อนที่เธอจะตัดสินใจที่จะลองพยายามออกแรงยกมันขึ้นมา
กึก–
“บ้าจริง—”
เสาไม้ที่โมโกะลองพยายามขยับมันดูนั้นแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเนื่องจากว่ามันถูกเสาและคานบ้านอันอื่นๆ ที่พังถล่มลงมาพร้อมๆ กันทับขัดกันเอาไว้ ซึ่งนั่นก็ทำให้คุณพ่อของโมโกะที่เห็นแบบนั้นได้เอ่ยปากเรียกลูกสาวของเขาขึ้นมา
“โมโกะ… โมโกะ หนูฟังพ่อนะ…”
“ไม่ค่ะ! หนูไม่ฟัง!! ขอแค่หนูออกแรงนิดหน่อยเดี๋ยวเสาพวกนี้มันก็ขยับออกไปแล้ว! เสร็จแล้วเดี๋ยวพวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่พร้อมๆ กัน!! เข้าใจมั้ยคะคุณพ่อ!!”
โมโกะที่ได้ยินเสียงอันอ่อนแรงของคุณพ่อของเธอได้ขึ้นเสียงเถียงเขากลับไปในทันทีและพยายามที่จะออกแรงยกเสาอันที่ทับร่างของคุณพ่อของเธอเอาไว้ออกไปอีกครั้งหนึ่ง
กึก–
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
โมโกะที่พยายามเค้นแรงของตัวเองออกมาได้แต่ต้องทรุดลงไปหอบหายใจอย่างหนักหน่วงเพราะว่าที่จริงแล้วตัวเธอที่ฝืนใช้วิซจนเกินขีดจำกัดในการขับรถมานั้นแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงมากพอที่จะเดินเหินไปไหนมาไหนซะด้วยซ้ำ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เธอฝืนอดทนเอาไว้ได้นั้นก็เป็นเพราะความต้องการที่จะช่วยเหลือคุณพ่อของเธอนั่นเอง
“ฮึ๊บ—–”
โมโกะที่เห็นว่าแรงแขนของตัวเองมีไม่มากพอที่จะขยับเสาไม้ออกไปจากร่างของคุณพ่อของเธอได้นั้นได้ตัดสินใจที่จะโถมร่างของตัวเองเข้าใส่เสาไม้เพื่อที่จะได้ใช้แรงจากทั้งร่างกายของตัวเองดันมันออกไปให้พ้นทาง ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ร่างกายของเธอถูกเปลวไฟที่ลุกติดอยู่ตรงส่วนด้านบนของตัวเสาเผาผลาญไปด้วยก็ตามที
ซ่าาาา—
“โมโกะ!? พอเถอะลูก! รีบหนีไปก่อนเร็วเข้า!!”
“ไม่!! หนูไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้!!”
“หยุดเถอะโมโกะ!!”
เสียงของผิวกายของโมโกะที่ถูกเปลวไฟแผดเผาจนเริ่มที่จะส่งกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาได้ทำให้คุณพ่อของเธอพยายามที่จะร้องห้ามปรามออกมา แต่ถึงอย่างนั้นโมโกะก็กลับไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเขาและพยายามที่จะออกแรงดันเสาไม้ที่ล้มทับร่างของคุณพ่อของเธอออกไป
ครึกครึก…
เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายของโมโกะสามารถทำให้เสาไม้ที่ล้มทับร่างของคุณพ่อของเธออยู่เอนล้มไปอีกฝั่งและปลดปล่อยคุณพ่อของเธอออกมาจากซากบ้านได้เป็นผลสำเร็จและนั่นก็ทำให้เธอรีบหันกลับไปหาคุณพ่อของเธอเพื่อที่จะได้พาตัวเขาออกไปจากบ้านหลังนี้ในทันที
“รีบไปกันเถอะค่ะคุณพ่—”
“โมโกะรีบหลบเร็วลูก!!”
แต่ทว่าในขณะที่โมโกะกำลังจะออกแรงฉุดคุณพ่อของเธอขึ้นมาจากพื้นนั้น คุณพ่อของเธอก็ร้องตะโกนออกมาเสียงดังและพุ่งเข้ามาโอบกอดเธอเอาไว้เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าลูกสาวของตนเองไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะขยับร่างกายได้อีกต่อไปแล้วและกำลังจะเอนตัวล้มลงไปก่อนที่ทันใดนั้นเองคานบ้านเหนือหัวของพวกเขาทั้งสองคนจะพังถล่มลงมา
โคร๊ม!!
“คุณพ่อคะ–!?”
โมโกะที่รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ดีๆ โลกก็มืดลงกะทันหันนั้นได้หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะได้พบว่าคุณพ่อของเธอได้ใช้ร่างกายของตนเองปกป้องเพื่อตัวเธอจากคานบ้านที่ถล่มลงมา
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยลูก…”
“ไม่ๆๆ ไม่นะคะคุณพ่อ”
โคร๊ม!
ในขณะที่โมโกะกำลังตื่นตระหนกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันอยู่นั้น อยู่ๆ คานบ้านที่ถล่มลงมาทับร่างของเธอและคุณพ่อเอาไว้ก็ได้ปลิวกระเด็นออกไปด้วยฝ่าเท้าเล็กๆ ของอลิซที่สวมใส่ยูนิตเชสเชียร์ครอบเอาไว้
“ทั้งสองคนไม่เป็นอะไรใช่ม—”
เสียงร้องถามของอลิซได้ชะงักไปกลางคันเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าตรงพื้นที่คุณพ่อของโมโกะล้มตัวลงไปนอนหลังจากที่เขาผละออกมาจากร่างของลูกสาวของตนเองได้มีของเหลวสีแดงค่อยๆ แผ่ขยายออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งนั่นก็คงจะเกิดจากการที่เศษอิฐเศษไม้ที่พังถล่มลงมาเมื่อสักครู่นี้ร่วงหล่นลงมาปักที่แผ่นหลังของเขาเป็นจำนวนมากนั่นเอง
“คุณพ่อคะ!!”
โมโกะที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงได้แต่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอสังเกตเห็นเลือดจำนวนมากที่ไหลรินออกมาจากร่างของคุณพ่อของเธอและพยายามที่ตะเกียกตะกายเข้าไปดูอาการของเขาใกล้ๆ จนทำให้อลิซที่ยื่นอยู่ใกล้ๆ ได้แต่ต้องช่วยพยุงร่างของโมโกะขึ้นมาอย่างเงียบๆ ในขณะที่คุณพ่อของโมโกะเองก็ได้พยายามยกมือขึ้นเพื่อหยิบเอารูปภาพในกรอบรูปอันเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขาเพื่อจ้องมองมันก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมา
“นี่โมโกะ… ดวงตาของลูกน่ะเหมือนกับของคุณแม่เลยนะรู้หรือเปล่า…”
“ก็ต้องรู้อยู่แล้วสิคะ คุณพ่อน่ะพูดเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ จนหนูเบื่อจะแย่อยู่แล้ว…”
“ฮะฮะ… นั่นสินะ… แล้วไหนยังมีเรื่องที่—”
“เรื่องพวกนั้นช่างมันไปก่อนเถอะค่ะ!! ตอนนี้พวกเรารีบหนีออกไปจากที่นี่กันเถอะ!!”
“……..”
คำพูดของโมโกะได้ทำให้คุณพ่อของเธอที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมานิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งเพื่อจ้องมองไปยังลูกสาวของเขาที่มีอาการเหนื่อยอ่อนจนแทบจะหมดสติลงไปได้ทุกเมื่อที่น่าจะเกิดจากอาการขาดแคลนพลังวิซอย่างรุนแรงก่อนที่เขาจะหันไปมองทางด้านอาจารย์อลิซที่มีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดพันอยู่แทบจะเต็มตัวบ่งบอกว่าตัวเธอเองก็เพิ่งจะได้รับบาดเจ็บหนักมาเมื่อไม่นานมานี้
ซึ่งเมื่อเขาได้เห็นสภาพร่างกายของอลิซแล้วเขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเด็กสาวผมสีขาวคงจะไม่สามารถหิ้วลูกสาวของเขาและตัวเขาเองออกไปได้พร้อมๆ กันอย่างแน่นอน และนั่นก็ทำให้เขาสามารถตัดสินใจได้ในทันทีว่าจะให้เด็กสาวผมสีขาวช่วยเหลือใครก่อนเป็นอันดับแรก
“โมโกะ… เอานี่ไปสิ…”
คุณพ่อของโมโกะเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับยื่นกรอบรูปที่เขาถือเอาไว้ไปให้ลูกสาวของเขา ซึ่งภาพที่อยู่ในรูปถ่ายขาวดำนั้นก็คือตัวเขาเองในวัยหนุ่มกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่กำลังโอบอุ้มเด็กทารกหูแมวตัวน้อยในห่อผ้าเอาไว้ในอ้อมแขน
และเมื่อคุณพ่อของโมโกะเห็นว่าลูกสาวของเขายอมยื่นมือออกมารับรูปถ่ายไปแต่โดยดีแล้วเขาก็ได้หันกลับไปมองอลิซอีกครั้งและพยักหน้าให้กับเธอเบาๆ
“อาจารย์อลิซ… ผมฝากโมโกะด้วยนะครับ…”
“……”
ฟุ๊บ—
เด็กสาวผมขาวไม่ได้พูดตอบอะไรเขากลับไปและดึงตัวโมโกะที่เธอพยุงเอาไว้ให้ลุกขึ้นเพื่อลากตัวเด็กสาวหูแมวออกไปจากตัวบ้านที่กำลังลุกไหม้เป็นทะเลเพลิงในทันทีโดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ไม่ไม่!! ปล่อยฉันนะอลิซ!!”
เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—
“โมโกะ…พ่อรักลูกนะ…”
“คุณพ่อคะ!! คุณพ่ออออออ!!”
แกร๊ก—แกร๊ก—–โคร๊ม!!
โมโกะที่ได้ยินคำพูดสั่งเสียของคุณพ่อของเธอได้กรีดร้องออกมาเสียงดังและพยายามที่จะสะบัดตัวเองให้หลุดจากอ้อมแขนของอลิซที่ล็อกตัวเธอเอาไว้อยู่ แต่ว่าทันใดนั้นเองพื้นที่ชั้นที่สองของตัวบ้านก็ได้พังถล่มลงมาอีกครั้งและกลบฝังร่างของคุณพ่อของเธอเอาไว้จนทำให้โมโกะได้แต่ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง
“ม…ไม่…”
“อึ๊ก…”
ในขณะเดียวกัน ทางด้านอลิซที่เพิ่งจะออกแรงเตะคานบ้านจนปลิวกระเด็นไปและต้องมาเจอกับความพยายามดิ้นรนขัดขืนของโมโกะเองก็ได้แต่ต้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อผ้าพันแผลบนแขนข้างซ้ายของเธอได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงทั้งผืนเนื่องจากแผลบนท่อนแขนของเธอถูกเปิดออกอีกครั้งหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้นอลิซก็ไม่ได้มีเวลาให้เจ็บปวดมากนักเพราะว่าในขณะนี้พวกเธอยังหนีออกมาไม่พ้นตัวบ้านเลยซะด้วยซ้ำ
“รีบไปกันเถอะโมโกะ…”
“…….”
“โมโกะ!!”
อลิซที่เห็นว่าโมโกะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกับเสียงเรียกของเธอนั้นได้ร้องขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับพยายามดึงตัวโมโกะให้หันมามองทางเธอ
“……..”
แต่เธอกลับได้พบว่าโมโกะกำลังจ้องมองไปยังบริเวณที่คุณพ่อของเธอนอนอยู่เมื่อสักครู่นี้ด้วยแววตาว่างเปล่าโดยมีน้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสายเหมือนกับว่าเธอไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้เป็นเรื่องจริง
ซึ่งนั่นก็ทำให้อลิซได้แต่ต้องพยายามลากโมโกะที่สติหลุดลอยไปแล้วออกมาจากตัวบ้านที่กำลังลุกเป็นทะเลเพลิงและพร้อมที่จะพังถล่มลงมาได้ทุกเมื่อก่อนโดยที่ไม่ได้พยายามที่จะเรียกสติของโมโกะกลับมาอีก
“อ๊ากกกกกก!!”
“—-!?”
ในทันทีที่อลิซพาตัวโมโกะออกมาจากตัวซากบ้านได้สำเร็จเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากทางด้านในป่าที่อยู่ติดกับตัวบ้านของโมโกะ และเมื่อเธอหันไปมองดูเธอก็ได้พบว่าหนึ่งในทหารรับจ้างของนิลิมเพิ่งจะถูกคมหอกของนายทหารที่แต่งตัวเหมือนกับทหารยามจากเมืองรีมินัสแทงจนทะลุตัวและทรุดลงไปกองกับพื้น ในขณะที่นายทหารคนนั้นเองก็กำลังหันมามองทางพวกเธอพร้อมกับดึงหอกของเขาออกมาจากร่างของทหารรับจ้างคนนั้นก่อนจะเดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆ ด้วยร่างกายที่บาดเจ็บอย่างหนัก
“ชิ— ไม่ทันแล้วสินะ…”
ถึงแม้ว่าอลิซจะรู้ตัวดีว่าสภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้ไม่สมควรที่จะเข้าไปต่อสู้กับใครเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเธอเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นมากนักเพราะว่าในขณะนี้โมโกะเองก็ยังคงนั่งเหม่อมองไปยังซากบ้านของตัวเองที่พังถล่มลงโดยไร้ซึ่งการตอบสนองและตัวเธอที่บาดเจ็บอยู่ก็คงจะไม่สามารถหิ้วตัวโมโกะขึ้นมาเพื่อหลบหนีไปได้ทันอย่างแน่นอน
“ถ้างั้นก็เข้ามา!!!”