บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ - ตอนที่ 92 Agonizing Empathy
“…….”
แปะ…
ในขณะที่นากาที่รีบเดินออกมาจากห้องเรียนกำลังนั่งใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่บนเก้าอี้ที่ติดอยู่กับราวระเบียงทางเดินนั้น พรีมูล่าที่รีบวิ่งตามพี่ชายของตนออกมาจากห้องก็ได้เดินเข้ามานั่งเบียดอยู่ข้างๆ ตัวเขาพร้อมกับยื่นเอกสารรายชื่อชมรมของเธอที่ไม่มีสัญลักษณ์อะไรถูกระบุเอาไว้เป็นพิเศษมาแปะไว้บนหน้าของนากาและพูดบอกเขาขึ้นมา
“อ่ะ พี่นากาลองเอารายชื่อชมรมไปดูอีกทีสิว่าสนใจชมรมไหนหรือเปล่าน่ะ เอาของหนูนี่ไปดูไป ไม่ต้องไปสนใจที่พี่เอริเขาทำเอาไว้หรอก”
“เฮ้อ… ยื่นมาให้พี่ดีๆ ก็ได้หน่าไม่เห็นต้องเอามาแปะหน้าไว้เลย…”
“แล้วนี่พี่นากาคิดว่าไงบ้างอ่ะ? มีชมรมไหนที่พี่นากาสนใจหรือเปล่าอ่ะ?”
“นั่นสินะ… จะว่าไงดีล่ะ…”
ครืดดด…
ในขณะที่นากากำลังจะพูดตอบพรีมูล่ากลับไปนั้นก็ได้มีเสียงของประตูห้องที่ถูกเลื่อนเปิดออกดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขาเอาไว้ก่อน ซึ่งผู้ที่เปิดประตูออกมานั้นก็คือโมโกะกับคอนแนลนั่นเอง
“อ่ะ ยังอยู่ตรงนี้อยู่แฮะ… นี่นากา ฉันว่าฉันเจอชมรมที่น่าสนใจแล้วล่ะ พวกนายสนใจจะไปดูด้วยกันมั้ยล่ะ?”
“เอ๋? โมโกะจังเจอชมรมที่สนใจแล้วหรอ?”
“อื้ม ก็นิดหน่อยน่ะ แต่ฉันคิดว่าจะลองไปดูก่อนว่ามันเป็นชมรมแบบที่ฉันคิดเอาไว้หรือเปล่าน่ะ… แล้วนี่สรุปว่าทั้งสองคนจะไปด้วยกันหรือเปล่า?”
“อื้มมมมม”
พรีมูล่าที่ถูกโมโกะพูดถามซ้ำขึ้นมานั้นได้แสดงท่าทีลังเลออกมาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองพี่ชายของตนเอง ซึ่งเมื่อพรีมูล่าได้เห็นว่านากาไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อไปกับโมโกะเลยแม้แต่น้อยนั้นเธอก็ได้หันไปพูดบอกปฏิเสธเพื่อนสาวหูแมวของเธอในทันที
“ไม่เอาอ่ะ เพราะว่าเดี๋ยวหนูจะต้องไปดูที่ชมรมอะไรสักอย่างกับพี่นากาเขาอ่ะ”
“เธอจะไปกับโมโกะก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ไป—”
“ม่ายยย~~”
พรีมูล่าพูดแทรกนากาที่กำลังคิดจะพูดไล่เธอไปที่อื่นออกมาในทันทีพร้อมกับดึงแขนนากามากอดเอาไว้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอไม่คิดจะแยกตัวไปจากพี่ชายของตัวเองเป็นอันขาด ซึ่งนั่นก็ทำให้โมโกะที่เป็นคนเอ่ยปากชวนเองถึงกับชะงักไปเล็กน้อย เพราะดูท่าทางแล้วว่าที่นาการีบร้อนออกมาจากห้องจนเป็นสาเหตุให้เอริซาเบธต้องรีบเดินมาบอกให้พวกเธอตามเขาออกมาคงจะเป็นเพราะว่าเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นมาอย่างแน่นอน
“อ—อ่า งั้นก็เอาตามนั้นละกัน เพราะถึงยังไงทั้งสองคนก็คงจะไม่สนใจชมรมสำรวจซากโบราณอยู่แล้วล่ะนะ”
“เอ่อ… ถ้าเกิดว่าเป็นชมรมนั้นล่ะก็ระวังตัวเอาไว้สักหน่อยก็ดีนะครับ เพราะผมเคยได้ยินมาว่าพวกเขาค่อนข้างจะสนใจในตัวโบราณสถานที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ในทะเลมรกตจนถึงขั้นพยายามจะเดินทางเข้าไปในเขตนั้นบ่อยๆ ในช่วงวันหยุดยาวเลยน่ะครับ”
“โอ้ เข้าใจแล้วล่ะ ถ้ายังไงฉันก็ขอตัวก่อนละกันนะ”
โมโกะพูดตอบคอนแนลที่เอ่ยปากเตือนมาด้วยความเป็นห่วงกลับไป ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากขอตัวและเดินหายลงบันไดของอาคารเรียนไป ในขณะที่ทางด้านคอนแนลนั้นกลับยืนมองดูสองพี่น้องที่ตัวติดกันอยู่กับที่จนทำให้นากาต้องเอ่ยปากถามอัศวินหนุ่มคนนี้ขึ้นมา
“แล้วนายล่ะคอนแนล? ไม่มีชมรมที่สนใจอยู่บ้างหรือไง?”
“อืม… คือว่าผมเลือกไม่ถูกน่ะครับ เพราะว่าก่อนหน้านี้ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เข้าร่วมชมรมเหมือนกับคนอื่นๆ เขาเหมือนกัน… ว่าแต่นี่นากาสนใจชมรมไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าน่ะครับ เดี๋ยวผมจะได้นำทางไปแล้วจะได้ถือโอกาสลองสำรวจดูชมรมนั้นดูด้วยเลย”
“ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันด้วยสิ… แต่ว่าก็น่าจะต้องเก็บเอาไปคิดวันหลังล่ะมั้งเพราะว่าวันนี้ฉันโดนเนลเขาเรียกให้ไปเจอกันที่ชมรมน่ะ”
“เนล? คุณเนลคนนั้นที่นากาพูดถามขึ้นมาเมื่อกี้นี้น่ะหรอครับ? นี่ตอนที่พวกนากาไปฝึกกันพรีมูล่าเขาไปเล่นซนจนเผลอทำหุ่นซ้อมของชมรมเขาพังหรือเปล่าครับเนี่ย?”
คอนแนลที่ได้ยินคำพูดของนากานั้นได้พูดถามเขาขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวาดๆ ซึ่งตัวคำถามของเขานั้นก็ถึงกับทำให้พรีมูล่าร้องโวยวายออกมาในทันที
“ไม่ใช่เพราะหนูสักหน่อย! ถึงหนูจะเผลอแช่แข็งหุ่นไม้ไปทีนึงก็เถอะแต่ว่ามันก็ไม่ได้พังสักหน่อยนี่! อีกอย่างนึงพี่เนลเขาเหมือนว่าจะสนใจเรื่องฝีมือดาบของพี่นากาตะหากล่ะ!”
“อ่า… พอดีว่าตอนที่ฝึกฟันดาบอยู่เนลเขาก็เดินเข้ามาทักแล้วก็บอกว่าให้ฉันไปหาเขาที่ห้องชมรมหลังจากที่เสร็จเรื่องในห้องเรียนแล้วน่ะ”
“อ–เอ๋… แบบนั้นเองหรอครับ…”
คอนแนลที่ได้ยินแบบนั้นได้พูดตอบนากากลับไปด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาที่เห็นท่าทางเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดของคอนแนลแบบนั้นได้แต่พูดถามเขาขึ้นมาด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าคอนแนล ไหงทำหน้าแบบนั้นซะล่ะนั่น?”
“นั่นสิ พี่คอนแนลปวดท้องหรอ ถ้าหนูจำไม่ผิดห้องน้ำน่าจะอยู่ตรงนู้นนะ”
“ใช่ซะที่ไหนกันล่ะครับ! แค่ว่า… ถ้าเกิดคุณเนลที่เป็นประธานชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้คนนั้นเรียกนากาไปหลังจากที่เห็นการฝึกของนากาแล้วมันก็น่าจะมีสาเหตุอยู่ไม่กี่อย่างใช่มั้ยล่ะครับ…”
“นี่นายกำลังจะบอกว่าฉันอาจจะกำลังถูกประธานชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้หมายตัวอยู่งั้นหรอ?”
“เอ๋~ แบบนั้นก็เยี่ยมไปเลยไม่ใช่หรือไงอ่ะ เนอะพี่นากา เนอะ~”
พรีมูล่าที่ได้ยินสิ่งที่สองหนุ่มกำลังพูดคุยกันอยู่ได้ส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นที่วิชาดาบมั่วๆ ของพี่ชายของเธอตกเป็นที่ต้องตาของประธานชมรมที่น่าจะมีชื่อเสียงพอตัวในโรงเรียนแห่งนี้ แต่ว่าทางด้านนากาที่พบว่าคอนแนลกำลังมีท่าทีอึกอักเหมือนกับว่ากำลังลังเลอะไรอยู่สักอย่างนั้นก็ได้หรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดถามเพื่อนของตนขึ้นมา
“แต่ดูจากท่าทางของนายแล้วนี่ ท่าทางว่าเนลคนนั้นเขาจะมีปัญหาอะไรสักอย่างงั้นสินะ?”
“มันก็ไม่เชิงว่าเป็นปัญหาหรอกครับ… แต่ถ้าเกิดจากที่พรีมูล่าบอกเอาไว้ว่าเธอเผลอไปแช่แข็งหุ่นไม้เข้าไปก่อนจะเริ่มฝึกแล้วคุณเนลเขาเดินมาทักตอนที่นากากำลังฝึกอยู่พอดีแล้วมันก็…”
“…มันก็คงจะหมายความว่าคนที่อาจจะมีปัญหาไม่ใช่เนลเขาแต่ว่าเป็นตัวฉันเองงั้นสินะ”
“ม—มันก็แค่อาจจะเองนะครับ ที่จริงแล้วคุณเนลเขาอาจจะรู้สึกสนใจในวิชาดาบของนากาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเฉยๆ จนเรียกตัวนากาไปพบก็ได้นะครับ นากาอย่าเพิ่งคิดมากไปเลย”
“นี่พวกพี่พูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันเนี่ย? อธิบายให้หนูเข้าใจด้วยคนสิ!”
พรีมูล่าที่นั่งหันซ้ายหันขวาตามจังหวะคำพูดของเด็กหนุ่มทั้งสองคนมาได้สักพักแล้วนั้นได้ร้องโวยวายขึ้นมาเมื่อพี่ๆ ทั้งสองคนของเธอเหมือนจะใช้คำพูดอ้อมโลกไปมาจนเธอไม่อาจจะทำความเข้าใจได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็ทำให้คอนแนลได้หันมาพูดอธิบายให้เธอฟังในขณะที่ทางด้านนากานั้นก็ได้เอนหลังลงไปกับริมราวระเบียงด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน
“คืออย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าจุดมุ่งหมายและสิ่งที่ชมรมต่างๆ จะให้ความสนใจมันก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวประธานชมรมในสมัยนั้นๆ จะสนใจในเรื่องไหนเป็นพิเศษใช่มั้ยล่ะครับ แล้วในปีที่ผ่านๆ มาเนี่ยชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้มันจะเป็นชมรมที่รวมเรื่องศาสตร์การต่อสู้ต่างๆ นาๆ มาศึกษาเพื่อพัฒนาต่อโดยไม่สนใจว่ามันจะต้องใช้วิซในการออกกระบวนท่าต่างๆ หรือเปล่าน่ะสิครับ…”
“อื้อ! แล้วมันทำไมอ่ะ? พี่คอนแนลก็พูดหยังกะว่าพี่เนลเขาจะสนใจเฉพาะวิชาที่มันจำเป็นจะต้องใช้วิซซะอย่างงั้นอ่ะ”
“……”
“เอ๋ะ? นี่พี่เนลเขาสนใจแต่เรื่องวิชาที่มันใช้วิซเท่านั้นหรอ?”
ถึงแม้ว่าพรีมูล่าจะค่อนข้างที่จะซื่อบื้อและมีนิสัยที่เหมือนกับเด็กแต่ว่าด้วยท่าทีอึกอักของคอนแนลที่แอบเหลือบไปมองทางนากาด้วยท่าทีลำบากใจนั้นก็สามารถที่จะทำให้แม้แต่กระทั่งพรีมูล่าสามารถรู้ตัวขึ้นมาได้บ้าง
“ก็ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้วคุณเนลเขาค่อนข้างจะชื่นชอบแล้วก็หลงใหลในเรื่องของการผสานพลังวิซเข้ากับวิชาต่อสู้เป็นพิเศษน่ะครับ แต่ว่าในปีที่ผ่านๆ มาทางชมรมฝึกซ้อมไม่เคยสนใจอะไรเรื่องนั้นมาก่อนเหมือนกัน ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าที่เขาเข้ามาเชิญนากาไปนั่นมันเป็นเพราะอะไรกันแน่น่ะครับ”
“แต่ที่แน่ๆ ก็คือถ้าเกิดว่าเนลเขาสนใจในเรื่องวิซของฉันล่ะก็ ฉันไม่มีอะไรจะให้เขาหรอกนะ…”
“เอ๋ ไม่หรอกมั้ง! พี่เนลเขาอาจจะแค่ถูกใจฝีมือดาบของพี่นากาก็ได้นะ เพราะหนูเห็นเขามายืนดูตั้งนานแถมยังพูดอะไรยาวเหยียดกับพี่นากาเกี่ยวกับเรื่องดาบด้วยไม่ใช่หรอ!”
พรีมูล่าที่ได้ยินนากาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นั้นได้รีบพูดปลอบพี่ชายของตัวเองออกมาในทันทีก่อนที่เธอจะหันไปแยกเขี้ยวใส่คอนแนลที่เป็นคนพูดเปิดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยท่าทีดุร้ายจนทำให้อัศวินหนุ่มต้องรีบพูดขึ้นมาบ้างเช่นเดียวกัน
“น—นั่นสิครับ! เพราะถึงผมจะพูดแบบนั้นแต่ว่าผมก็ไม่ได้สนิทอะไรกับคุณเนลเขาถึงขั้นรู้นิสัยใจคอกันหรอกนะครับ บางทีเขาอาจจะเข้ามาทักเพราะว่าเห็นนากากำลังฝึกวิชาดาบประจำตัวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่ก็ได้นะครับ”
“อ่า… ถ้าพวกนายพูดแบบนั้นล่ะก็ฉันจะลองไปดูที่ชมรมของเนลเขาสักหน่อยก็ได้แหล่ะ…”
นากาที่ได้ยินทั้งสองคนพูดชมเกี่ยวกับเรื่องของวิชาดาบที่เขาคิดขึ้นมาเองออกมานั้นได้พูดตอบทั้งสองคนกลับไปเบาๆ และตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมชมชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้แบบมีความหวังเล็กน้อยจนทำให้คอนแนลและพรีมูล่าถึงกับทำตัวไม่ถูกที่นากาเปลี่ยนท่าทีไปเร็วขนาดนี้
“ถ—ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะพาไปที่ห้องชมรมให้เองละกันนะครับ แล้วยังไงก็อย่าลืมหยิบอาวุธของตัวเองติดตัวไปกันด้วยนะเพราะไหนๆ ชมรมที่จะไปดูกันมันก็เป็นชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้อยู่แล้วน่ะครับ”
“อ่ะ… ปืนของหนูมันอยู่ในห้องอ่ะ เดี๋ยวขอหนูเข้าไปหยิบแป๊บนึงนะ”
“เรื่องปืนนี่ไม่ต้องก็ได้ครับพรีมูล่า เพราะว่าชมรมฝึกซ้อมของคุณเนลเขาเน้นไปทางการต่อสู้ระยะประชิดมากกว่าน่ะครับ ถ้าเป็นเรื่องปืนหรือว่าอาวุธระยะไกลอื่นๆ นี่ส่วนมากเขาจะแยกออกไปตั้งเป็นชมรมยิงปืนหรือไม่ก็ชมรมยิงธนูที่เป็นชมรมเฉพาะทางไปเลยน่ะครับ”
“เอ๋? ที่นี่มีชมรมยิงปืนด้วยหรอพี่คอนแนล?”
“ครับ แถมชมรมยิงปืนนี่เขาถึงขั้นมีโรงฝึกเฉพาะแยกให้จากชมรมอื่นๆ ด้วยเลยนะครับ ถ้าพรีมูล่าสนใจเดี๋ยวเอาไว้ผมจะลองพาไปดูละกันนะครับ แต่ตอนนี้พวกเรารีบไปที่ชมรมฝึกซ้อมกันก่อนดีกว่า”
“ค่าา~”
พรีมูล่าพูดตอบคอนแนลกลับไปอย่างร่าเริงก่อนที่สองพี่น้องจะทยอยเดินตามหลังคอนแนลลงจากตึกเรียนไป โดยคอนแนลก็ได้เดินนำพวกนากาเดินลึกเข้าไปในตึกเรียนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสนามหญ้าเพื่อที่จะได้เดินออกไปยังส่วนของลานอเนกประสงค์ที่พวกนากาเคยเห็นมาก่อนหน้านี้แล้วในตอนที่มาสอบเข้ากัน
ซึ่งลานอเนกประสงค์นั้นก็เป็นลานกว้างที่ถูกปูด้วยพื้นกระเบื้องทรงสี่เหลี่ยมที่ดูทนทานและสวยงามที่ดูแล้วน่าจะถูกดัดแปลงเป็นเวทีขนาดใหญ่หรือว่าตั้งเต้นท์สำหรับจัดกิจกรรมกันได้อย่างง่ายดายสมกับชื่อของมันและถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยต้นไม้ประดับน้อยใหญ่ให้พวกนักเรียนมานั่งหลบแดดพักเหนื่อยกัน
และคอนแนลก็ได้พาพวกเขาตัดเดินผ่านลานอเนกประสงค์นั้นไปพร้อมกับพูดแนะนำส่วนต่างๆ ของโรงเรียนที่สามารถเห็นได้จากส่วนนี้ไปด้วยอย่างเช่นร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนก่อนที่พวกเขาจะได้เดินเข้าไปยังหมู่อาคารหลังน้อยใหญ่ที่อยู่ถัดไปจากลานกว้างจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าอาคารหลังหนึ่งที่มีป้ายติดเอาไว้ที่หน้าประตูว่าชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้แล้วจึงพูดบอกพวกนากาขึ้นมา
“ที่นี่แหล่ะครับชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้น่ะ”
“งั้นหรอ… ว่าแต่พื้นที่ปูทางเดินแถวนี้นี่มันเหมือนกับที่ใช้ปูลานอเนกประสงค์เลยนี่ ทำไมทางโรงเรียนเขาไม่ทำเป็นพื้นถนนแบบเดียวกับทางเดินริมสนามหญ้าไปเลยล่ะ”
นากาที่กำลังหันไปมองดูรอบๆ อาคารชมรมอยู่นั้นได้พูดถามคอนแนลขึ้นมาด้วยความสงสัย เพราะว่าถนนที่ทอดยาวเข้ามาในส่วนของอาคารชมรมมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัสดุแบบเดียวกับที่ใช้สร้างลานอเนกประสงค์ที่ถึงแม้ว่ามันจะดูทนทานและสวยงามแต่ก็ดูท่าทางว่าจะมีราคาแพงลิบเช่นเดียวกัน
“เรื่องนี้เห็นเขาบอกกันว่าเพราะสมัยก่อนมันไม่มีส่วนของอาคารชมรมแบบนี้น่ะครับ แต่ว่าพอพวกนักเรียนเริ่มตั้งชมรมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ห้องว่างในอาคารเรียนมันก็เริ่มไม่พอกัน ทางโรงเรียนก็เลยต้องแบ่งส่วนหนึ่งของลานอเนกประสงค์มาเป็นที่ตั้งของอาคารชมรมน่ะครับ”
“อ้าว ถ้าเกิดว่าที่ว่างไม่พองั้นทำไมถึงไม่ไปตั้งส่วนของอาคารชมรมแถวๆ สนามหญ้าแทนล่ะ? ทางฝั่งนั้นมันโล่งจะตายไปนี่”
“ก็… นากาน่าจะเห็นสภาพของสนามหญ้าหลังจากการสอบของผมกับซิลเวสเมื่อเช้านี้แล้วใช่มั้ยล่ะครับ… ทางฝั่งสนามหญ้ามันมักจะพังเละแบบนั้นอยู่บ่อยๆ อยู่แล้วทางโรงเรียนเขาก็เลยไม่กล้าเอาอะไรไปสร้างทางด้านนู้นเพราะกลัวว่ามันจะโดนลูกหลงจนต้องมาคอยซ่อมแซมบ่อยๆ ไงล่ะครับ”
“แบบนั้นเองสินะ…”
นากาพูดตอบคอนแนลกลับไปก่อนที่เขาจะยังคงอ้อยอิ่งมองซ้ายขวาดูสภาพแวดล้อมรอบๆ อยู่อีกสักพักหนึ่ง ซึ่งทางด้านพรีมูล่าและคอนแนลนั้นก็ได้ยืนรอให้นากาที่เป็นคนที่ถูกประธานชมรมเรียกตัวมาพบเดินนำเข้าไปก่อน แต่ว่าจนแล้วจนรอดนากาก็ยังไม่ยอมก้าวเท้าเข้าไปสักทีจนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็นพรีมูล่าที่ยืนรอเป็นเวลานานกำลังพองแก้มทำหน้าบูดอยู่เขาถึงได้ยอมเดินเข้าไปเปิดประตูของอาคารชมรมแต่โดยดี
เป๊ง!!
เสียงของอาวุธกระทบกันที่ดังขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่นากาเปิดประตูเข้าไปนั้นได้ทำให้เขาได้เลิกคิ้วด้วยความสงสัยก่อนที่เขาจะได้พบว่าในเวลานี้ที่ด้านในของอาคารชมรมได้มีอัลเบิร์ตและเนลที่เป็นประธานชมรมกำลังฝึกซ้อมการต่อสู้กันอยู่อย่างสมกับชื่อของชมรม
โดยอัลเบิร์ตที่เคยเล่นงานโมโกะได้อย่างอยู่หมัดในระหว่างการสอบเข้านั้นดูเหมือนว่าจะเพิ่งพลาดท่าให้กับเนลไปเมื่อสักครู่นี้และกำลังกลิ้งกระเด็นไปอีกทางหนึ่งอยู่
แต่ถึงแม้ว่าอัลเบิร์ตจะปลิวกระเด็นออกไปแล้วก็ตาม ทางด้านเนลกลับยืนปักหลักอยู่กับที่และเหลือบตามามองผู้มาเยือนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะสะบัดดาบหน้าตาแปลกประหลาดในมือที่มีลักษณะเหมือนดาบหัวตัดคมเดียวที่ตรงบริเวณสันดาบมีความหนากว่าดาบคมเดียวทั่วๆ ไปมากชี้ไปทางด้านหน้าโดยหันด้านคมของมันขึ้นไปทางด้านบน
กริ๊ก—แกร๊ก!
ซึ่งในขณะที่นากากำลังรู้สึกสงสัยอยู่ว่าเนลกำลังพยายามที่จะทำอะไรอยู่นั้น ใบดาบของอาวุธในมือของเนลก็ได้เลื่อนไปทางด้านหน้าเล็กน้อยก่อนที่มันจะดีดด้ามปืนที่ถูกซ่อนเอาไว้ด้านในสันดาบออกมา ซึ่งเนลก็ได้ยื่นมืออีกข้างหนึ่งของเขาไปจับบริเวณสันดาบเอาไว้พร้อมกับขยับมือที่เคยจับด้ามดาบไปจับที่ด้ามปืนที่เพิ่งจะถูกดีดออกมาแทน จนดูราวกับว่าเขากำลังถือปืนยาวอยู่อย่างไรอย่างนั้นก่อนที่เขาจะใช้ใบดาบด้านที่เป็นคมดาบต่างเป้าเล็งและอัดวิซของตนลงไปในอาวุธจนทำให้มันเรืองแสงสีแดงและส่งเสียงเบาๆ ออกมา
ฟวี๊—–
“—!?”
ทางด้านอัลเบิร์ตที่เตรียมพร้อมกระสุนของกลไกปืนที่ถูกซ่อนเอาไว้ในมีดของตนเพราะคิดว่าเนลคงจะพุ่งตามเข้ามาโจมตีเขานั้นได้เบิ่งตากว้างเมื่อเขาพบว่าปลายดาบของเนลที่มีรูขนาดใหญ่พอๆ กับความหนาของมันกำลังส่องแสงสีแดงสว่างจ้าออกมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องรีบเปลี่ยนแผนการที่คิดจะฉวยโอกาสโจมตีทีเผลอของตนไปเป็นการวิ่งหลบหลีกแทนในทันที
“ไม่ทันหรอกน่า!!”
ซู่ม!!
“—-!? / ว๊าย—!? / เหวอ–!?”
ลำแสงสีแดงสว่างจ้าเส้นเล็กๆ ที่พุ่งเฉียดร่างของอัลเบิร์ตไปเพียงเล็กน้อยนั้นได้พุ่งตรงเข้ามาทางกลุ่มของพวกนากาอย่างรวดเร็วจนทำให้พวกเขาหลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ
ฟุ๊บ–
แต่ว่ากระสุนวิซที่พุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วจนดูแล้วแทบจะกลายเป็นลำแสงสีแดงนั้นก็ได้พุ่งลอดผ่านช่องว่างระหว่างนากากับพรีมูล่าและพุ่งออกไปทางด้านนอกผ่านประตูที่ยังคงเปิดคาเอาไว้อยู่โดยที่ไม่ได้ทำอันตรายอันใดให้กับกลุ่มของพวกเขาเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่ามันจะพุ่งเฉี่ยวใบหน้าของนากาไปเพียงเล็กน้อยก็ตามที
ซึ่งความเร็วของกระสุนวิซที่แทบจะกลายเป็นลำแสงสีแดงนั้นก็ถึงกับทำให้นากาได้แต่เบิ่งตากว้างด้วยความตกตะลึง เพราะว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันนั้นรวดเร็วซะยิ่งกว่ากระสุนวิซธาตุไฟจากปืนกลเบาของโมโกะที่เป็นกระสุนจริงเสียอีกทั้งๆ ที่เขามั่นใจว่ามันเป็นเพียงแค่กระสุนสำหรับฝึกซ้อมเท่านั้น จนทำให้นากาที่คิดว่าตัวเองฝึกซ้อมหนักขึ้นหลังจากที่เขาถูกพิเน๊ะคว้าข้อมือเอาไว้ได้โดยไม่ทันตั้งตัวในวันสอบเข้าถึงกับเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย เพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะสามารถตั้งรับหรือว่าหลบหลีกลำแสงสีแดงเมื่อสักครู่นี้ได้ทันหรือไม่
“แค่นี้ก็น่าจะรู้ผลกันแล้วล่ะมั้งอัลเบิร์ต เผื่อว่านายจะไม่ทันสังเกตนะว่าเมื่อกี้นี้ฉันจงใจยิงพลาดเพื่อไม่ให้แขกของฉันโดนลูกหลงน่ะ”
“เฮ้อ… ก็รู้อยู่แล้วล่ะน่า… ในเมื่อคู่กรณีของนายมาแล้วงั้นฉันก็ขอตัวก่อนละกัน นี่ฉันอุตส่าห์โดดคาบชมรมมาเป็นคู่มือฆ่าเวลาให้นายเลยนะเนี่ย อย่าลืมซะล่ะ”
อัลเบิร์ตที่รู้ตัวดีว่าเนลตั้งใจจะยิงลำแสงพลาดเมื่อสักครู่นี้นั้นได้แต่พูดบ่นออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันไปมองผู้มาเยือนทั้งสามแล้วจึงพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
“ที่นายบอกว่าไปเจอคนน่าสนใจมานี่อย่าบอกนะว่าหมายถึงเจ้าพวกหน้าใหม่กับเจ้าขาตั้งแว่นเดินได้นี่น่ะ?”
“ที่ฉันนัดมามีแค่สองพี่น้องนี่ต่างหากล่ะ ส่วนคอนแนลเขาน่าจะนำทางสองคนนี้มาเฉยๆ ล่ะมั้ง เพราะฉันได้ยินมาว่าพวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะมาสมัครเข้าเรียนแล้วนี่”
“ก็ตามนั้นแหล่ะครับ ผมรู้จักกับพวกนากาเขามาก่อนตอนที่ได้ไปค้างอยู่ที่บ้านของคุณเอริกะตั้งหนึ่งสัปดาห์ก็เลยอาสาที่จะนำทางมาที่นี่ให้น่ะครับ”
“เหอะ ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันขอตัวก่อนละกัน ส่วนเจ้าตาตั้งแว่น… ฉันว่าเดี๋ยวพวกเรามีเรื่องจะต้องคุยกันสักหน่อยแล้วล่ะมั้ง”
อัลเบิร์ตที่ถูกคอนแนลพูดอวดใส่อีกครั้งหนึ่งนั้นได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจนัก ก่อนที่เขาจะพูดขู่คอนแนลขึ้นมาและเดินตรงออกจากอาคารชมรมไปเพื่อกลับไปยังตึกเรียน ในขณะที่ทางด้านเนลที่เพิ่งจะยิงลำแสงตัดผ่านกลุ่มของนากาไปเมื่อสักครู่นั้นก็ได้เอ่ยปากพูดสอบถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“ว่าแต่นี่ไม่มีใครเป็นอะไรใช่มั้ย ถึงฉันจะมั่นใจว่านัดเมื่อกี้มันเป็นกระสุนฝึกก็เถอะ แต่ว่าพอหน้าตามันเหมือนกับกระสุนจริงขนาดนั้นฉันก็ชักจะไม่แน่ใจสักเท่าไหร่แล้วน่ะ”
“ไอนัดตะกี้นี้มันกระสุนฝึกหรอ? หนูว่ามันแรงกว่าปืนของหนูตั้งหลายเท่าเลยนะ!!”
“อันนั้นมันน่าจะเป็นเพราะว่าคุณเนลเขาใช้วิธีการควบแน่นพลังวิซเพื่อใช้ยิงออกไปมันก็เลยดูอลังการจนดูเหมือนว่าจะรุนแรงกว่าปืนของพรีมูล่าที่เป็นปืนแบบที่ใช้หัวกระสุนน่ะครับ อีกอย่างนึงก็ถ้าจะให้เทียบเรื่องความเสียหายจริงๆ ผมว่ากระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่าน่าจะใช้จัดการศัตรูได้ดีกว่าอยู่ดีนะครับ”
“มันก็ต้องแน่อยู่แล้วสิ เพราะว่ากระสุนวิซแบบปกตินี่นอกจากเรื่องที่ว่ามันเร็วกว่ากระสุนน้ำแข็งแล้วด้านอื่นๆ มันก็ด้อยกว่าทั้งหมดเลยนั่นแหล่ะ ขอแค่รวมพลังวิซไปป้องกันตรงจุดที่จะถูกยิงเอาไว้ความรุนแรงมันก็โดนลดทอนลงไปตั้งเยอะแล้ว ไม่เหมือนกับพวกกระสุนน้ำแข็งที่โดนเข้าไปทีก็มีน้ำแข็งเกาะหรือว่ากระสุนดินที่มีหัวกระสุนฝังเข้าไปในร่างกายหรอก”
“แค่รวมวิซเอาไว้ตรงจุดที่จะถูกยิงก็ป้องกันได้ง่ายๆ แล้วงั้นหรอ…”
นากาที่ได้ยินเนลพูดบ่นถึงจุดด้อยของกระสุนวิซธรรมดาๆ ออกมานั้นได้แต่พูดพึมพำออกมาเบาๆ เพราะว่าถ้าฟังจากที่เนลพูดขึ้นมาแล้วล่ะก็การรับมือลำแสงกระสุนวิซเมื่อสักครู่มันก็ฟังดูง่ายดายอย่างที่อีกฝ่ายพูดออกมาจริงๆ ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าคนที่ตกเป็นเป้าหมายของลำแสงนั้นจะเป็นเด็กหนุ่มที่ไร้ซึ่งพลังวิซเฉกเช่นเดียวกับตัวนากานั่นเอง
ซึ่งในขณะที่นากากำลังก้มหน้าใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่นั้น ทางด้านเนลก็ได้เดินตรงเข้ามาหาพวกเขาใกล้ๆ เพื่อที่จะได้พูดคุยกันได้สะดวกๆ ก่อนที่ทันใดนั้นเองเขาจะหันไปมองทางด้านพรีมูล่าด้วยความสงสัยเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงวิซที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเด็กสาวผมสีชมพูคนนี้เข้า
“หืม…”
“พี่เนลมองหนูทำไมอ่ะ? มีไรติดหน้าหนูอยู่หรอ?”
“เดี๋ยวสิ… วิซธาตุน้ำแข็งที่ฉันสัมผัสได้ที่หุ่นซ้อมนั่นมันเป็นของเธอหรอกหรอเนี่ย?”
“เอ๋ะ?”
พรีมูล่าที่ได้ยินคำพูดของเนลได้ส่งเสียงของออกมาด้วยความแปลกใจเพราะเธอคิดตามคำพูดของอีกฝ่ายไม่ทันเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเนลก็กลับนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่เขาจะเหลือบไปมองนากาที่เหมือนว่าจะกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ชั่วขณะแล้วจึงหันกลับไปพูดกับพรีมูล่าต่อ
“ไม่ผิดแน่ ตอนแรกฉันก็นึกว่าวิซที่หลงเหลืออยู่ที่หุ่นซ้อมนั่นมันเป็นของพี่ชายเธอซะอีก แต่ว่าสัมผัสแบบนั้นมันเป็นแบบเดียวกับวิซของเธอไม่ผิดแน่ๆ ล่ะ”
“เอ๋? พี่เนลรู้ได้ไงอ่ะ?”
“ถ้าผมจำไม่ผิดคุณเนลเขามีความสามารถในการสัมผัสพลังวิซที่แผ่ออกมาจากร่างกายของคนอื่นได้ดีกว่าคนทั่วไปอยู่นิดหน่อยน่ะครับ”
“ก็ตามที่คอนแนลเขาบอกมานั่นล่ะ แต่ว่าเรื่องของฉันนั่นช่างมันไปก่อนเถอะ ตอนนี้เธอกับพี่ชายมีชมรมแล้วหรือยังล่ะ ถ้าเกิดว่ายังไม่มี พวกเธอสนใจจะมาเข้าชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้ของฉันมั้ย?”
“ห–หะ ฉันด้วยหรอ?”
นากาที่ได้ยินเนลเอ่ยปากพูดชวนพรีมูล่าและตัวเขาเองให้มาเข้าร่วมชมรมนั้นได้หลุดออกมาจากห้วงความคิดของตัวเองและพูดถามเนลกลับไปด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเนลนั้นก็ได้หันกลับมาพยักหน้าให้กับนากาทีหนึ่งแล้วจึงพูดยืนยันออกมาอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น
“มันก็แน่อยู่แล้วสิ! น้องสาวของนายมีวิซธาตุน้ำแข็งแบบนี้ใครจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ล่ะจริงมั้ย ส่วนนายเองนอกจากความสามารถในด้านวิชาดาบแล้วก็ยังมีความสามารถในการควบคุมวิซระดับสูงจนสามารถควบคุมวิซในร่างกายไม่ให้แผ่ออกมาอย่างเสียเปล่าได้เลยไม่ใช่หรือไง!”
“อ—เอ่อ… จะให้อธิบายยังไงดีล่ะเนี่ย… คือว่าที่จริงแล้วฉัน…”
นากาที่ถูกเนลพูดชมขึ้นมานั้นได้มีท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดเพราะดูท่าทางแล้วว่าการที่ตัวเขาไม่มีวิซในร่างกายเลยนั้นจะทำให้อีกฝ่ายที่สามารถสัมผัสวิซของคนอื่นได้เข้าใจผิดไปไกลเสียแล้ว
ซึ่งในขณะที่นากากำลังลังเลอยู่ว่าจะพูดบอกเนลที่เพิ่งจะได้พบเจอกันในวันนี้ไปตามตรงเลยดีหรือไม่นั้น ทางด้านพรีมูล่าที่เห็นพี่ชายของตัวเองมีท่าทีลำบากใจก็ได้ตัดสินใจที่จะช่วยเขาปกปิดเรื่องที่เขาไม่มีพลังวิซในร่างกายเลยแม้แต่น้อยขึ้นมาในทันที
“อ่ะ— ใช่แล้วล่ะ ที่จริงพี่นากาเขาก็มีวิซธาตุน้ำแข็งเหมือนกันกับหนูนั่นแหล่ะ!!”
“ด—เดี๋ยวก่อนสิครับพรีมูล่า—-”
กรึก—กรึก—
คอนแนลที่คิดขึ้นมาได้ว่าพรีมูล่ากำลังวางแผนจะทำอะไรอยู่นั้นได้รีบร้องห้ามเด็กสาวผมชมพูขึ้นมาในทันที แต่ว่าการกระทำของเขาก็ช้าเกินไปสักเล็กน้อยเพราะว่าในขณะนี้ได้มีโล่น้ำแข็งปรากฏขึ้นมาจากคริสตัลวิซสีขาวที่ติดอยู่กับถุงมือของนากาเข้าซะแล้ว
ซึ่งการที่อยู่ๆ ก็มีโล่น้ำแข็งปรากฏขึ้นมาอยู่บนอุปกรณ์ของนากานั้นก็ทำให้เนลที่เพ่งสมาธิไปกับการตรวจสอบวิซของนากาอยู่จนไม่ได้สนใจวิซของคนอื่นเลยแม้แต่น้อยถึงกับตกตะลึงไปอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าเขาสัมผัสไม่ได้เลยว่าเด็กหนุ่มผมดำตรงหน้าใช้วิซของตนเองออกมาตั้งแต่ตอนไหนกันแน่
“ธาตุน้ำแข็งจริงๆ ด้วย! แถมยังใช้ออกมาได้โดยที่ฉันไม่ทันสังเกตเห็นอีกต่างหาก สุดยอดมาก!!”
“……”
กรึก…
นากาที่ได้พบว่ามีโล่น้ำแข็งปรากฏขึ้นมาบนถุงมือของตัวเองนั้นได้แต่กำหมัดและกัดฟันแน่นโดยไม่อาจหาคิดหาคำพูดอะไรออกมาได้ เพราะว่าเมื่อสักครู่นี้เขาได้ตัดสินใจที่จะพูดบอกความจริงกับเนลไปแล้วเพราะว่าเขาไม่ต้องการที่จะให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดและตั้งความหวังกับสิ่งที่เขาไม่สามารถมอบให้ได้ ในขณะที่ทางด้านพรีมูล่านั้นก็ยังคงไม่รู้สึกตัวว่าสิ่งที่เธอทำลงไปไม่ใช่สิ่งที่พี่ชายของเธอต้องการและยังคงพูดเจื้อยแจ้วเพื่อช่วยเขาปกปิดอยู่ต่อไป
“ใช่มั้ยล่ะ~ พี่นากาเขารำคาญที่คนอื่นๆ มาสนใจเพราะว่าพี่เขามีวิซธาตุน้ำแข็งก็เลยฝึกจนสามารถ… เอิ่มมมม… เรียกว่าอะไรนะ…. ปกปิดพลังวิซได้อย่—-”
“พรีมูล่า!!”
“—!?”
พรีมูล่าที่ถูกพี่ชายของตัวเองตวาดขึ้นมาเสียงดังนั้นได้สะดุ้งเฮือกและรีบหันกลับไปมองทางนากาในทันทีก่อนที่เธอจะพบว่านากานั้นไม่ได้มีท่าทีดีใจกับสิ่งที่เธอทำลงไปเลยแม้แต่น้อย
“พี่ขอโทษ…”
ซึ่งทางด้านตัวนากาเองที่เผลอหลุดตวาดพรีมูล่าขึ้นมานั้นก็ได้แต่หลบตาไปมองทางอื่นด้วยความรู้สึกผิดเพราะเขาเองก็รู้ตัวดีว่าที่พรีมูล่าทำลงไปนั้นก็เป็นเพราะว่าเธอหวังดีและอยากจะหาทางช่วยเหลือเขาเพียงแค่นั้น
“ยังไงก็ขอบใจมากนะพรีมูล่า…”
นากาฝืนยิ้มออกมาและยกมือขึ้นมาลูบหัวของพรีมูล่าที่กำลังยืนหน้าซีดตัวสั่นน้อยๆ อยู่เพราะว่าเธอเริ่มที่จะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองคงจะตัดสินใจผิดพลาดไป และพยายามที่จะเอ่ยปากขอโทษพี่ชายของตัวเองออกมา
“พ…พี่นากา ห—หนู—-”
“เนล เรื่องชมรมของนายนี่ฉันขอเวลาคิดสักพักนึงก่อนละกันนะ เพราะฉันอยากให้นายได้เห็นฝีมือจริงๆ ของฉันก่อนที่นายจะตัดสินใจรับฉันเข้าร่วมชมรมน่ะ…”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็เรามาลองสู้กั—”
“ไม่ใช่ตอนนี้!! ขอโทษที… ฉันหมายถึงว่าอย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่วันนี้น่ะ… เอาเป็นว่าเดี๋ยวเอาไว้โอกาสหน้าพวกเราค่อยมาลองประมือกันจริงๆ จังๆ ก็แล้วกัน…”
นากาพูดตอบเนลกลับไปก่อนที่เขาจะหันหลังกลับและเดินตรงออกไปจากโรงฝึกของชมรมในทันทีโดยไม่ร้องเรียกหรือว่าหยุดรอคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็ทำให้พรีมูล่าที่เห็นท่าทางผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดของนากาได้ตัดสินใจที่จะรีบวิ่งตามเขาไปในทันที
“อ่ะ— เดี๋ยวก่อนสิพี่นากา!”
“เดี๋ยวก่อนครับพรีมูล่า! ตอนนี้ปล่อยนากาเขาไปก่อนเถอะครับ!”
“เอ๋!? ไหงพี่คอนแนลพูดแบบนั้นอ่ะ!? พี่นากาเขากำลัง—-”
“เชื่อผมเถอะครับ! ถ้าเกิดว่าพรีมูล่าตามนากาเขาไปตอนนี้ก็มีแต่จะทำให้เรื่องมันแย่ลงซะเปล่าๆ นะครับ!!”
“ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้เลยนะพี่คอนแนล!!”
พรีมูล่าที่ถูกคอนแนลล็อกแขนเอาไว้นั้นได้พยายามที่จะดิ้นให้หลุดออกจากการจับกุมอย่างรุนแรง แต่ว่าเธอก็ไม่อาจจะสะบัดตัวเองให้หลุดออกมาจากเงื้อมมือของคอนแนลได้ ทำให้เธอได้แต่มองดูพี่ชายของตนเดินหายไปจนลับสายตา ในขณะที่ทางด้านเนลนั้นก็ได้แต่พูดถามคอนแนลที่ดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่าพรีมูล่าขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก
“เอ่อ… เมื่อกี้นี้ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าน่ะ…?”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเนลหรอกครับ แค่ว่านากาเขา… มีปัญหาเรื่องวิซนิดหน่อยที่ผมเองก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากนักเหมือนกันน่ะครับ”
“งั้นหรอ…”
“ให้ตายสิ…”
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นากาเดินหนีออกมาจากอาคารชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้นั้น ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ห่างจากอาคารชมรมไปไม่ไกลสักเท่าไหร่นักก็ได้มีเสียงของอลิซพูดบ่นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจในขณะที่เธอได้เฝ้ามองดูนากามาตั้งแต่ที่เขาเดินออกมาจากอาคารชมรมจนกระทั่งไปทรุดตัวนั่งอยู่คนเดียวในมุมหนึ่งของลานอเนกประสงค์ที่เขาคิดว่าคงจะไม่มีใครเห็นตัวเขาได้ง่ายๆ ด้วยท่าทีท้อแท้
“นี่น่ะหรอที่เธอบอกว่าถ้าเป็นเอริกะก็น่าจะคอยเฝ้าดูอยู่อย่างเงียบๆ น่ะยัยจิ้งจอกเอ๊ย…”