บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1197 เต๋าแห่งการควบคุมกระบี่
บทที่ 1197 เต๋าแห่งการควบคุมกระบี่
บทที่ 1197 เต๋าแห่งการควบคุมกระบี่
ผนึกข้อจำกัดถูกลบออก เซวียนเจิ้นที่หมดสติถูกย้ายออกไป
ขณะที่ทุกคนมองดูอาการบาดเจ็บที่ปกคลุมทั่วร่าง ท่าทางของหลิวอี่หมิงและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ความสามารถของผู้เยี่ยมยุทธ์สามารถตัดสินได้ด้วยการการลงมือเพียงครั้งเดียว
เฉินซีใช้การโจมตีเพียงครั้งเดียวเพื่อเอาชนะเซวียนเจิ้น เพราะเหตุนี้ จึงทำให้คนผู้นี้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกัน เหล่าศิษย์อาวุโสต่างประหลาดใจ งุนงง และไม่มั่นใจอีกต่อไป
สายตาของเฉินซีเปรียบเสมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมาอย่างเย็นชา “ใครต้องการประลองกับข้า เชิญก้าวออกมา”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน รู้สึกลังเลอย่างยิ่ง
ผลลัพธ์ของเซวียนเจิ้น ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าใจความสามารถที่แท้จริงของเฉินซีได้ จึงไม่มีใครกล้ายอมรับการท้าทายอย่างหุนหันพลันแล่นอีก
“อะไรกัน? พวกเจ้าวางแผนเพื่อพาข้ามาที่นี่ แต่พวกเจ้ากลับไม่มีความกล้าที่จะประลองกับข้า?” รอยยิ้มดูถูกและเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเฉินซี
โอม~
ทันใดนั้น ร่องรอยของเสียงพึมพำประหลาด เล็ดลอดออกมาจากตราดาราม่วงของตน จำนวนแต้มดาราเปลี่ยนแปลง มันเพิ่มขึ้นถึงเจ็ดหมื่นแต้มดารา
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีตกตะลึง ขณะมองไปยังชายชราผมขาวที่อยู่ด้านข้าง
ชายชราดูเหมือนจะเข้าใจความนัยนี้ เขายิ้มพร้อมกับอธิบายว่า “ทางสำนักจะหักแต้มดาราสามส่วนที่ได้รับจากฝ่ายที่ชนะเมื่อสิ้นสุดการประลองทุกครั้ง”
มุมปากของเฉินซีกระตุก แต่ไม่ได้กล่าวอะไร
“อะไรกัน? ไม่ใช่ว่าฝ่ายบำเพ็ญเต๋ามีกฎที่ไม่ได้กล่าวถึงในสำนักศึกษา และเป็นกฎที่ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อสยบความภาคภูมิใจของศิษย์ใหม่? ในเมื่อข้ายืนอยู่ตรงนี้แล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ลงมือเล่า?” เฉินซีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครตอบรับคำท้าประลองของตน
มันเป็นการยั่วยุทางอ้อม ทำให้ใบหน้าของศิษย์อาวุโสเหล่านี้กลายเป็นหมองคล้ำ เพราะตั้งแต่เมื่อใดที่ศิษย์ใหม่ถึงกล้าจองหองต่อหน้าพวกเขา?
“เช่นนั้นข้าจะขอคำชี้แนะจากทักษะอันยอดเยี่ยมของศิษย์น้องเฉินซีเอง!” ทันใดนั้น ถังอิงก็ยืนขึ้น
“หนึ่งแสนแต้มดารา?” เฉินซีถาม
“ไม่ แต้มดาราเป็นเพียงการเดิมพันเพื่อเพิ่มอรรถรส ดังนั้นข้าจะเดิมพันแต้มดาราเพียงหนึ่งหมื่นแต้มเท่านั้น” ถังอิงส่ายศีรษะ เขาไม่ได้หุนหันพลันแล่นเหมือนเซวียนเจิ้น
“ตกลง” เฉินซีพยักหน้า
…
โอม~
ข้อจำกัดในสภาพแวดล้อมของลานประลองถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง ในขณะที่เฉินซีและถังอิงยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในลานประลอง
“ศิษย์พี่ถังอิง เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เขาเข้าใกล้ขอบเขตเซียนทองคำแแล้ว และมักระงับการบ่มเพาะของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อทะลวงผ่านก่อนการสอบของสำนักศึกษาฝ่ายใน และขึ้นสู่ห้าสิบอันดับแรกของเทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์ เมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหว มันก็น่าจะเพียงแล้วที่จะจัดการกับเจ้าเด็กคนนี้”
“แน่นอน ในบรรดาเซียนลึกลับในสำนักศึกษาฝ่ายนอก ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของศิษย์พี่ถังอิงสามารถติดในยี่สิบอันดับแรกได้สบาย ๆ ดังนั้นการจัดการกับศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในสำนักจึงไม่ใช่เรื่องยาก”
“ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าเฉินซีปกปิดความสามารถขอตัวเองไว้อย่างลึกซึ้ง เขาอาจเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามก็ได้”
เหล่าศิษย์อาวุโสต่างพูดคุยกัน น้ำเสียงและท่าทางระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเริ่มให้ความสำคัญกับเฉินซีอย่างจริงจัง หลังจากเซวียนเจิ้นพ่ายแพ้
“ชนะ! ชนะ! เจ้าต้องชนะ!”
ที่นอกลานประลอง กู่เยวหมิงและเหลียงเริ่นมองสหายตนจากระยะไกล นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรง ทั้งคู่พ่ายแพ้ยับเยิน หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธเคืองต่อศิษย์อาวุโสเหล่านี้
พวกเขาเป็นศิษย์ใหม่เช่นเดียวกับเฉินซี เมื่อเห็นศิษย์อาวุโสกำลังทำตาม ‘ธรรมเนียม’ และพยายามสอนบทเรียนให้กับศิษย์ใหม่ทุกคน พวกเขาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเฉินซีจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแก้แค้นให้พวกตนเท่านั้น แต่ยังแบกเกียรติยศของเหล่าศิษย์ใหม่ทุกคนไว้ด้วย
ปัง!
การต่อสู้ปะทุขึ้นในลานประลอง
ชู่ว!
ร่างของถังอิงสว่างวาบ และทิ้งภาพติดตาไว้เบื้องหลัง เขาสร้างระยะห่างระหว่างตัวเองกับเฉินซีอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน กระบี่บิน 81 เล่มพุ่งออกมาจากรอบกาย พวกมันโบยบิน หมุนวนอยู่รอบตัวเขา พร้อมเปล่งแสงเยียบเย็นออกมา
“กระบี่โลหิตแสวงสวรรค์!”
กระบี่บินที่มีกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็ฉีกกระชากความว่างเปล่าออกจากกัน ทำให้ท้องฟ้าครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีแดงเลือดน่าสยดสยอง
“ศิษย์พี่ถังอิงใช้ท่ากระบี่โลหิตแสวงสวรรค์ตั้งแต่การโจมตีแรก ดูเหมือนว่าเขาจะมองว่าเฉินซีเป็นศัตรูตัวฉกาจ จึงเลือกใช้กระบวนท่าไม้ตายเช่นนี้!” ศิษย์อาวุโสที่ชมการต่อสู้ในระยะไกลตื่นตกใจ
กระบี่บินฉีกผ่านท้องฟ้า ทุกที่ที่มันผ่าน ดูเหมือนกองทัพโลหิตเหล็กกำลังบดขยี้ แสงสีแดงฉานเรืองรอง จิตสังหารพุ่งสู่ท้องฟ้า เสียงของการต่อสู้ดังก้องแผ่วเบา พร้อมกับเสียงตะโกนและเสียงกลองศึก
“เต๋าแห่งการควบคุมกระบี่…”
การควบคุมกระบี่และการใช้กระบี่เป็นสองวิถีในเต๋าแห่งกระบี่ พวกมันบรรลุเป้าหมายเดียวกันด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน การใช้กระบี่เน้นความแข็งแกร่งในการต่อสู้โดยรวม ในขณะที่การควบคุมกระบี่เป็นการควบคุมด้วยจิตวิญญาณ แต่ไม่มีความแตกต่างในด้านความเหนือกว่าระหว่างทั้งสอง
ชายหนุ่มยังคงสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ยิ่งกว่านั้น ไม่แม้แต่จะหยิบอาวุธของตนออกมา ทำเพียงเหวี่ยงฝ่ามือเรียวงามเบา ๆ
ฟิ่ว!
ปราณกระบี่พรั่งพรูด้วยสายน้ำจนดูเหมือนเข็มปัก พวกมันกลายเป็นกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากพัดผ่านฟากฟ้า
“จงฟาดฟัน!” ท่าทางอาฆาตปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของถังอิง พลางตะโกนด้วยเสียงน่ากลัว
กระบี่บินที่มีประกายแสงสีเลือดนั้นไม่ถอยแม้แต่น้อย ขณะฟันตรงไปยังฝ่ายตรงข้าม ปราณกระบี่ที่พรั่งพรูด้วยสายน้ำดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นหยดน้ำเล็ก ๆ ขดตัวรอบกระบี่บิน
การพยายามตัดน้ำให้ขาดด้วยคมกระบี่ มีแต่จะทำให้น้ำไหลเร็วขึ้นเท่านั้น!
น้ำจะถูกตัดขาดได้อย่างไร?
นี่คือรูปลักษณ์ของกฎแห่งวารี ไม่ว่าการโจมตีจะน่าเกรงขามและดุร้ายเพียงใด มันก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้เมื่อเผชิญกับปราณกระบี่ที่โปรยปรายดั่งสายฝน
“เด็กคนนี้รับมือยากจริง ๆ!”
“เขาไม่ได้ใช้แม้แต่สมบัติอมตะ แต่ก็สามารถป้องกันการโจมตีของศิษย์พี่ถังอิงได้ ดูเหมือนเฉินซีคนนี้จะแตกต่างจากศิษย์ใหม่คนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด”
คิ้วของเหล่าศิษย์อาวุโส ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ทุกคนต่างรู้สึกว่าเฉินซีรับมือได้ยากยิ่ง
“มันเป็นกฎแห่งวารีที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ” ถังอิงกลับไม่แปลกใจเมื่อเห็นฉากนี้ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก กลิ่นอายน่าเกรงขามในร่างกายเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันเพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง!
“ศิษย์น้องเฉินซี รับกระบวนท่า หมื่นกระบี่แทงหัวใจ!” ถังอิงตะโกนเสียงดัง กระบี่ทั้ง 81 เล่มที่อยู่รอบกาย แต่ละเล่มล้วนมีแสงสีเลือดเรืองรอง ขณะพุ่งผ่านผืนฟ้าตรงไปยังฝ่ายตรงข้าม
ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!
กระบี่ทั้ง 81 เล่มนี้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และทิ้งภาพติดตามากมายไว้เบื้องหลัง พวกมันพลุ่งพล่านด้วยกลิ่นอายกระหายเลือด กระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนเข้าบดขยี้เฉินซี! อานุภาพของพวกมันเป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
“จงควบแน่น!” ชายหนุ่มตะโกนอย่างเย็นชา
ทุกรูขุมขนบนร่างเปล่งแสงเรืองรอง จากนั้นก็กลายเป็นกระแสปราณกระบี่ธาตุน้ำ พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะควบแน่นเป็นกระแสน้ำวนเล็ก ๆ จำนวนมาก
กระแสน้ำวนของปราณกระบี่ทุกอัน เป็นเหมือนดวงตาของพายุ
กระแสน้ำวนของปราณกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนถาโถมออกไป ทันใดนั้นมันก็กลืนปราณกระบี่สีแดงเลือดที่ปกคลุมท้องฟ้าทั้งหมด ก่อนจะแยกย้ายและถล่มพวกมัน แม้แต่กระบี่ทั้ง 81 เล่มก็ยังถูกตรึงด้วยอยู่ในกระแสน้ำวน ทำให้พวกมันหยุดอยู่กลางอากาศ และไม่สามารถดิ้นรนให้เป็นอิสระได้
นี่คือมรดกขั้นสมบูรณ์ของเคล็ดกระบี่วารี เฉินซีสามารถใช้กระบวนท่าที่ลึกล้ำได้หลากหลายตามต้องการ ไม่ต่างจากปรมาจารย์ชั้นยอด
ฟู่! ฟู่! ฟู่! ฟู่!
ปราณกระบี่ธาตุน้ำขดตัวเข้าด้วยกันและปะทะกับปราณกระบี่สีแดงเลือด พวกมันระเบิดคลื่นเสียงราวฟ้าลั่น อานุภาพอันไร้ขอบเขตทำให้อากาศสั่นสะท้าน ฟ้าดินถูกปคลุมอยู่ในเงามืด
“ไม่ได้การ!” สีหน้าของถังอิงซีดลง ไม่ว่าจะออกแรงเพียงใด ก็ไม่สามารถควบคุมกระบี่ทั้ง 81 เล่มได้ ดังนั้นเขาจึงพ่นแก่นโลหิตออกมาเต็มปาก ทำให้กลิ่นอายในร่างกายพลุ่งพล่าน
“จงเป็นอิสระ!”
ปัง!
ทันใดนั้น กระบี่ทั้ง 81 เล่มก็เปล่งแสงส่องสว่างไปยังเก้าชั้นฟ้า และพวกมันพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากการพันธนาการของปราณกระบี่ธาตุน้ำ ก่อนที่จะกลับคืนสู่การควบคุมของถังอิงอีกครั้ง
“ไป!”
สีหน้าของเฉินซีนั้นสงบไม่เปลี่ยนแปลง แล้วเอ่ยออกมาเบา ๆ
ฟิ่ว!
ปราณกระบี่ธาตุน้ำที่ปกคลุมท้องฟ้า จู่ ๆ ก็ระเบิดอย่างต่อเนื่อง พวกมันก็กลายเป็นหยดน้ำโปร่งแสงและผลึกจำนวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้าหาถังอิงอย่างดุเดือดราวกับพายุฝน
น้ำทุกหยดมีพลังมหาศาลที่สามารถบดขยี้ภูเขาจนแหลกเป็นผุยผง!
เมื่อหยดน้ำที่ปกคลุมท้องฟ้าพุ่งลงมา แรงกดดันของมันก็สามารถบดขยี้ฟ้าดินได้
“ไม่ได้การ!” ที่ด้านนอกลานประลอง หลิวอี่หมิงและศิษย์อาวุโสคนอื่น ๆ เป็นต้องอุทานด้วยความตกใจ
ในสายตาของพวกเขา น้ำทุกหยดมีพลังน่าหวั่นใจและอันตรายถึงชีวิต!
ครืน!
หลังจากการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง กระบี่ทั้ง 81 เล่มไม่ต่างจากใบไม้แห้งพวกมันถูกกวาดออกไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!?” สีหน้าของถังอิงเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ขณะกระอักเลือดออกมา กระบี่บินได้เชื่อมโยงกับหัวใจและความคิดของเขา ดังนั้นการโจมตีครั้งนี้จึงส่งผลกระทบกับตนโดยตรง
นี่เป็นข้อเสียของเต๋าแห่งการควบคุมกระบี่ แม้ว่ามันจะดูน่าเกรงขาม แต่เมื่อถูกปราบปราม ผลกระทบจะย้อนกลับเข้าหาร่างกาย และหัวใจอย่างรุนแรงอย่างยิ่ง
“ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!” เมื่อเขาเห็นหยดน้ำที่ปกคลุมท้องฟ้าราวกับพายุฝนกำลังจะมาถึงตัว ถังอิงไม่กล้าลังเลและตะโกนเสียงดัง
โอม!
ข้อจำกัดถูกเปิดใช้งาน และส่งถังอิงออกจากลานประลองในช่วงเวลาวิกฤตนี้
หยดน้ำที่ปกคลุมท้องฟ้าพลันหยุดชะงัก ก่อนจะหายไปเช่นกัน สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การควบคุมของเฉินซีต่อกฎแห่งวารีได้บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว จึงสามารถควบคุมมันได้ตามต้องการ
“เฉินซีคือผู้ชนะ!” ชายชราผมขาวทำหน้าที่ของตนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เขาประกาศผลออกมาเสียงดัง
ที่ด้านนอกลานประลอง สีหน้าของถังอิงซีดเซียวจนน่าสยดสยอง ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น ร่องรอยความหวาดกลัวยังคงประทับอยู่ที่หว่างคิ้ว เห็นได้ชัดว่ายังรู้สึกหวาดกลัว เพราะหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีก่อนหน้านี้ได้ ผลที่ตามมาจะต้องเลวร้ายอย่างแน่นอน
“เขาแพ้ ศิษย์พี่ถังอิงแพ้แล้วจริง ๆ…” เหล่าศิษย์อาวุโสต่างตกตะลึง และไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง
การต่อสู้ระหว่างเซียน มักจะเป็นการต่อสู้ที่มีชีวิตและความตายเป็นเดิมพัน
การพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว อาจจบลงด้วยความตาย
โชคดีที่สิ่งนี้อยู่ภายในลานบำเพ็ญเต๋า หากเป็นในโลกภายนอก ร่างของถังอิงคงถูกทิ่มแทงจนพรุนไปนานแล้ว
“เขาอยู่บนวิถีของเซียนกระบี่ ข้าก็เช่นกัน” ถังอิงไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้
“แต่การต่อสู้ภายในลานบำเพ็ญเต๋าก็ยุติธรรมอย่างยิ่งเช่นกัน หรือว่าการบ่มเพาะของเขาในเต๋าแห่งกระบี่จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าของข้าจริง ๆ”
ถังอิงจะรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายได้บรรลุถึงระดับปรมาจารย์แห่งกระบี่ และแตะระดับเซียนกระบี่แล้ว
ระดับเซียนกระบี่ เป็นระดับสูงสุดอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่สามารถไปถึงระดับนี้นั้นหาได้ยากยิ่ง เช่นเดียวกับขนวิหคอมตะและเขากิเลน แน่นอน ศิษย์ทุกคนในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าล้วนเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบ ย่อมมีคนที่บรรลุถึงระดับนี้ แต่ไม่ใช่ถังอิง
การบ่มเพาะปัจจุบันในเต๋าแห่งกระบี่ เพิ่งบรรลุถึงระดับปรมาจารย์ และไม่เข้าใกล้ระดับปรมาจารย์สูงสุดด้วยซ้ำ
ดังนั้นในแง่ของการบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ เฉินซีจึงเหนือกว่า
ในแง่ของเคล็ดวิชากระบี่ เคล็ดกระบี่วารี มรดกที่เฉินซีได้รับมาจากยันต์เทวะอนันต์ ได้สรุปกฎแห่งวารีจนสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
ในแง่ของการบ่มเพาะ เฉินซีก็อยู่ในขอบเขตเซียนลึกลับขั้นสูงเช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้น รากฐานของชายหนุ่มยังแข็งแกร่งมาก จนเหนือกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นร้อยเท่า
ในแง่ของประสบการณ์การต่อสู้ เฉินซีคือตัวตนที่ดุร้ายซึ่งเข่นฆ่าเปิดทางจากภพมนุษย์เพื่อมาถึงภพเซียน ดังนั้นประสบการณ์การต่อสู้จึงมีมากมายจนถังอิงไม่สามารถเทียบเคียงได้
เช่นนั้นถังอิงจะไม่พ่ายแพ้ได้อย่างไร?