บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1353 โซ่ความทุกข์ยากจากสวรรค์
บทที่ 1353 โซ่ความทุกข์ยากจากสวรรค์
กระจกปฐพีไร้ขอบเขต!
สมบัติศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวและทรงพลังที่สืบทอดจากยุคบรรพกาล มันสามารถทำให้การทำงานของสวรรค์ตกสู่ความโกลาหล ปกปิดกรรม และควบแน่นมิติกระจกจำนวนมาก
มิติกระจกเหล่านี้อัศจรรย์อย่างยิ่ง พวกมันสามารถเปลี่ยนการโจมตีทั้งหมดให้เป็นแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งภัยพิบัติ ดังนั้นยิ่งการโจมตีของคู่ต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นเท่าใด แสงศักดิ์สิทธิ์แห่งภัยพิบัติก็จะรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในตอนที่พวกสืออวี๋ตกอยู่ในค่ายกลศักดิ์สิทธิ์พินาศเต๋าแห่งเก้าวิบัติสวรรค์ ซุ่ยเหรินถิงได้ใช้กระจกนี้เพื่อกักขังพวกเขา ซึ่งเกือบจะคร่าชีวิตพวกเขาได้สำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ากระจกบานนี้น่ากลัวเพียงใด?
เจี้ยงหลิงเซียวถือแส้โบยเทวาไว้ในมือ พลางควบแน่นมิติกระจกด้วยกระจกปฐพีไร้ขอบเขต ปิดกั้นทางหินปินในระยะสองพันห้าร้อยลี้ไว้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้สีหน้าของคนอื่น ๆ เปลี่ยนเป็นเครียดขึงทันที
โครม!
ซุนอู๋เหิ่นไม่รู้ว่ากระจกปฐพีไร้ขอบเขตนั้นน่ายำเกรงเพียงใด เขาฟาดกระบองไปในแนวนอน มันเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวอันไร้ขอบเขตขณะกระแทกมิติกระจกอย่างรุนแรง และทำให้สวรรค์สั่นสะเทือน
ฟิ่ว!
น่าเสียดายที่การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแต่ไม่สามารถเขย่ามิติกระจกได้เท่านั้น มันแปรเปลี่ยนเป็นเกลียวแสงวิบัติศักดิ์สิทธิ์สะท้อนกลับอย่างรุนแรง
โครม!
มันสั่นคลอนจนซุนอู๋เหิ่นต้องเซถอยไปสองสามก้าว ใบหน้าไม่น่าดูอย่างยิ่ง
สถานการณ์ปัจจุบันไม่มั่นคง เนตรทัณฑ์สวรรค์กำลังควบแน่นเป็นรูปร่างในท้องฟ้าที่วุ่นวายเหนือหัว และเมื่อมันเริ่มการโจมตี จะไม่มีใครรอดชีวิตได้แม้แต่คนเดียว
แต่ทางหนีกลับถูกเจี้ยงหลิงเซียวขัดขวางไว้ด้วยกระจกปฐพีไร้ขอบเขต ดังนั้น ถึงแม้พวกเขาจะสามารถฆ่าเจี้ยงหลิงเซียวได้ แต่เนตรทัณฑ์สวรรค์ก็น่าจะโจมตีได้แล้วในเวลานั้น!
หากวัดกันเพียงขั้นพลัง ตัวตนที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะราชันเซียน ย่อมสามารถตัดสินผลการต่อสู้ได้ในชั่วพริบตา
ทว่าตอนนี้เนตรทัณฑ์สวรรค์เปรียบเสมือนดาบคมกริบที่ห้อยอยู่เหนือหัวของพวกเขา ไม่อาจเสียเวลาไปได้มากกว่านี้แล้ว!
ความจริง ไม่มีใครคาดคิดว่าซุ่ยเหรินถิงและเจี้ยงหลิงเซียวจะพกสมบัติล้ำค่ามากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะธงวิญญาณราชาศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นสุดยอดสมบัติของนิกายอำนาจเทวะ
หากรู้ล่วงหน้า สืออวี๋และเซียงหลิวหลีจะเตรียมสุดยอดสมบัติศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ มาด้วยอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวนำไปสู่ข้อผิดพลาดมากมาย และไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะคร่ำครวญเสียใจ
เมื่อการโจมตีของซุนอู๋เหิ่นถูกสะท้อนกลับไป สืออวี๋ก็ตัดสินใจทันที เขากล่าวผ่านกระแสปราณเพื่อสั่งให้ราชันเซียนคนอื่น ๆ โจมตีเจี้ยงหลิงเซียวด้วยกำลังทั้งหมดที่มี พลางเหลือบมองเฉินซี และกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยเสียงหนักแน่น “น้องเฉินซี โปรดให้ข้ายืมกระบี่เต๋าวิบัติด้วย!”
กระบี่เต๋าวิบัติตอบโต้พลังงานแห่งความหายนะเป็นพิเศษ!
เมื่อหลายปีก่อน นิกายอำนาจเทวะได้วางแผนต่อต้านดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล เนื่องจากกระบี่เต๋าวิบัติที่อยู่ในครอบครองของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลได้ก่อให้เกิดภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อพลังงานแห่งความหายนะที่สืบทอดมาในนิกายอำนาจเทวะ
ดังนั้นกระบี่เต๋าวิบัติเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการกับกระจกปฐพีไร้ขอบเขต
ทว่าเฉินซีกลับเหมือนไม่ได้ยินเสียงของสืออวี๋แม้แต่น้อย ชายหนุ่มยืนนิ่งพลางจ้องมองไปยังท้องฟ้าที่วุ่นวายเบื้องบน
“น้องเฉินซี!” หัวใจของสืออวี๋กระตุกวูบ เขาคิดว่าจิตวิญญาณของอีกฝ่ายถูกลากออกไปโดยเนตรทัณฑ์สวรรค์ จึงยกมือขึ้นหมายช่วยเหลือเฉินซี
โครม!
ทันใดนั้นดวงตาลึกลับ เฉยเมย และไร้อารมณ์บนท้องฟ้าที่วุ่นวายก็หยุดเคลื่อนไหวและเปิดออกฉับพลัน พร้อมกับสายโซ่ศักดิ์สิทธิ์สีดำที่เคลื่อนลงมา!
มันเหมือนกับสายฟ้าสีดำ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
คล้ายโซ่ของทวยเทพที่ใช้ล่ามนักโทษ และมันตั้งใจจะล่ามโซ่ทุกสรรพสิ่งของโลกหล้า!
เมื่อมันตกลงมาจากกลางอากาศ โลกทั้งโลกก็ตกอยู่ในสภาวะแห่งความหวาดกลัวอย่างใหญ่หลวง อวกาศหยุดนิ่งในขณะที่เวลาชะงัก ฝุ่น แสง เมฆ หมอก… ทุกสิ่งตกอยู่ในความเงียบงัน
เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้ราชันเซียนทุกคนที่โจมตีเจี้ยงหลิงเซียวตกใจ พวกเขาหยุดเคลื่อนไหว ม่านตาหดตัว และรู้สึกหวาดกลัวราวกับว่าวิญญาณกำลังออกจากร่าง
มันคือตรวนทัณฑ์สวรรค์!
เมื่อถูกโจมตี ไม่ต้องกล่าวถึงราชันเซียน แม้แต่เทพบรรกาลก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตายได้!
กาลเวลาคล้ายหยุดนิ่ง
ซุ่ยเหรินถิงถือธงวิญญาณราชาศักดิ์สิทธิ์ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่เย็นชาและไร้อารมณ์
เจี้ยงหลิงเซียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในทางกลับกัน สืออวี๋ เซียงหลิวหลี มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยา และผางตู่ เผยสีหน้าประหลาดใจ
หวด!
ท่ามกลางสภาวะหยุดนิ่งอย่างแปลกประหลาดนี้ โซ่สีดำได้ทะยานลงมา!
ทุกอย่างดูเหมือน…ไม่อาจหลบเลี่ยงได้…
ความไม่เต็มใจและความสิ้นหวังอันหนาแน่นพุ่งเข้ามาในหัวใจของทุกคน ดวงตาเบิกกว้าง พวกเขากำลังพยายามดิ้นรนอยู่บนเส้นด้าย
โครม!
ทว่าทันใดนั้น เฉินซีที่ยืนนิ่งอยู่นานก็เริ่มเคลื่อนไหว!
ร่างสูงใหญ่สั่นสะเทือนด้วยความผันผวนที่รุนแรงและคลุมเครือ ใบหน้าหล่อเหลาปกคลุมไปด้วยสีหน้าไม่แยแสและสงบ มีเพียงดวงตาสีดำที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธที่โหดเหี้ยมจนดูเหมือนสามารถเผาสวรรค์ทั้งเก้าได้!
ร่างของชายหนุ่มวับวาบก่อนที่จะปรากฏตัวกลางอากาศ จากนั้นก็ทุบหมัดใส่ตรวนทัณฑ์สวรรค์
รูม่านตาของทุกคนก็เบิกกว้างแทบถลน!
นั่นเขา… บินหรือ?
ที่แห่งนี้คือเทวาคารบรรลุเทพที่ถูกปกคลุมด้วยข้อจำกัดอันศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะเป็นราชันเซียนก็ยังทำได้เพียงเดินเท้า ไม่อาจบินหรือเคลื่อนย้ายมิติได้
แต่ตอนนี้เฉินซีคนนี้ได้ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว!
ทั้งยังพุ่งเข้าสู่ตรวนทัณฑ์สวรรค์…
หรือเขาตั้งใจที่จะต่อต้านตรวนทัณฑ์สวรรค์?
เหตุการณ์นี้น่าเหลือเชื่อเกินไป ทำให้สืออวี๋และคนอื่น ๆ หยุดเขาไม่ทัน ทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างประหม่า โดยเฉพาะเซียงหลิวหลีที่ทนดูไม่ได้!
เพราะมันคือตรวนทัณฑ์สวรรค์!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แม้แต่เทพบรรพกาลยังเกรงกลัว ดังนั้นตัวตนเซียนปราชญ์อย่างเฉินซีจะสามารถต้านทานได้อย่างไร
“คนโง่เขลาไม่มีความกลัวจริง ๆ” ดวงตาของซุ่ยเหรินถิงหรี่ลง เมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเฉินซีชัดเต็มสองตา เขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความรังเกียจ ราวกับกำลังเฝ้าดูการตายของมดปลวก
การกระทำทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเชื่องช้าและเนิ่นนาน แต่จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงชั่วพริบตา หมัดของเฉินซีปะทะกับตรวนทัณฑ์สวรรค์!
โครม!
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวและยิ่งใหญ่สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และโลก การปะทะกันทำให้เกิดปรากฏการณ์มากมาย เช่น สวรรค์และโลกพังทลาย เทพอสูรร่ำไห้ เลือดไหลริน ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่เหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวและคลุมเครือของเหล่าทวยเทพที่ตะโกนก้องในขณะที่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ทรุดตัวลงก็ปรากฏตัวขึ้น
พลังที่เกิดจากการโจมตีครั้งนี้ทำให้โลกตกตะลึง ราชันเซียนทั้งหมดตัวสั่นเทาเพราะรัศมีที่สง่างาม
และเฉินซียังมีชีวิตอยู่!
กลางอากาศ ร่างของชายหนุ่มปรากฏขึ้นภายในฝุ่นและสิ่งสกปรก ร่างสูงใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยความผันผวนที่น่ากลัว รุนแรง แปลกประหลาด และคลุมเครือ ผมยาวพลิ้วไหว ทั้งร่างกายราวกับหอกที่ดูเหมือนจะตั้งใจจะแทงทะลุท้องฟ้า!
ในทางกลับกัน ตรวนทัณฑ์สวรรค์ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เห็นได้ชัดว่า เฉินซีได้ทำลายตรวนทัณฑ์สวรรค์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
“นี่…” สืออวี๋ เซียงหลิวหลี และมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ เบิกตากว้างขณะจ้องมองเฉินซีอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เพราะพวกเขาตระหนักดีว่าเฉินซีเป็นเพียงเซียนปราชญ์ ไม่ได้อยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นด้วยซ้ำ แต่กลับสามารถทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และขัดขวางตรวนทัณฑ์สวรรค์ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขาเหล่าราชันเซียน หากไม่ได้เห็นมันด้วยสองตาของตัวเอง จะมีใครกล้าเชื่อเรื่องนี้?
“เด็กคนนี้คือใคร?”
“หรือเขาจะเป็นไพ่ตายที่ตำหนักเต๋าหนี่หวานำมา?”
“ข้าจำได้ว่าเด็กคนนี้อยู่ที่ขอบเขตเซียนทองคำตอนอยู่นอกตำหนักบรรลุเทพ!”
ซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยา และผางตู่ตกตะลึง เหตุการณ์นี้น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง
“บ้าเอ๊ย! เป็นไปได้อย่างไร?” ในอีกด้านหนึ่ง เจี้ยงหลิงเซียว และซุ่ยเหรินถิงต่างตกตะลึง รอยยิ้มเหยียดหยามเย็นชาบนใบหน้าแข็งค้างในทันที รูม่านตาขยายออก เพื่อนตัวน้อยที่ไม่ได้อยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนขัดขวางตรวนทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างไร?
เฉินซีไม่คิดสนใจ ชายหนุ่มยืนอยู่กลางอากาศขณะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จ้องมองดวงตาลึกลับ เฉยเมย และไร้อารมณ์ที่ลอยอยู่บนฟ้า
เหล่าราชันเซียนตกตะลึง หรือว่าเด็กคนนี้… สามารถต้านทานเนตรทัณฑ์สวรรค์ได้จริง?
แย่แล้ว!
ก่อนที่พวกเขาจะฟื้นคืนสติ ร่างสูงใหญ่ก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง ชายหนุ่มพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยแสงเรืองแสงที่คลุมเครือจำนวนนับไม่ถ้วน และปะทุด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต
โครม!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ตรวนทัณฑ์สวรรค์อีกอันหนึ่งก็ลงมาจากเนตรทัณฑ์สวรรค์ มันเหมือนกับโซ่ของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ที่ตั้งใจจะกำจัดตัวแปรอย่างเฉินซีออกไป
ชายหนุ่มไม่หวั่นเกรง หมัดของเขาโปร่งแสงและชัดเจนราวกับหยก มันเต็มไปด้วยพลังที่คลุมเครือและแปลกประหลาดเมื่อพบกับตรวนทัณฑ์สวรรค์อีกครั้ง เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้น คล้ายตั้งใจเปิดกรงที่เปรียบดั่งสวรรค์และโลกเพื่อต่อสู้เพื่ออำนาจสูงสุดด้วยเต๋าแห่งสวรรค์!
หมอกโกลาหลบนท้องฟ้าเหนือเทวาคารบรรลุเทพพลุ่งพล่าน สวรรค์และโลกดูเหมือนจะพังทลาย ยิ่งไปกว่านั้น ฝุ่นยังฟุ้งกระจายเข้าสู่สวรรค์ทั้งเก้าในขณะที่แสงเจิดจ้าส่องสว่างไปรอบ ๆ
ก่อนที่เรื่องทั้งหมดนี้จะสงบลง เนตรทัณฑ์สวรรค์ดูเหมือนจะกำลังพิโรธ รูม่านตาของมันหมุนวนเหมือนสายฟ้าสีดำ และจักรวาลอันพร่ามัวปรากฏภายในนั้น
โซ่ศักดิ์สิทธิ์สีดำหนาและใหญ่จำนวนมากฟาดลงมาอย่างดุเดือด
เนตรทัณฑ์สวรรค์นี้น่าเกรงขามอย่างยิ่ง ตรวนทัณฑ์สวรรค์ทุกเส้นมีกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวเพื่อบดขยี้ทวยเทพและพันธนาการมหาเต๋า และแม้แต่ราชันเซียนก็ไม่กล้ารับพลังอันหนักหน่วงของมัน
ทว่าไม่ใช่เฉินซี รัศมีแปลกประหลาดและคลุมเครือที่ปกคลุมทั่วทั้งร่างสั่นสะเทือนราวกับสายฟ้า ทำให้ท้องฟ้าแยกออกจากกัน หมัดฉีกผ่านผืนนภาและแบกรับพลังอันศักดิ์สิทธิ์สูงสุดขณะปะทะกับตรวนทัณฑ์สวรรค์อีกครั้ง
ทันใดนั้น โลกก็เต็มไปด้วยเสียงกึกก้อง แสงศักดิ์สิทธิ์และเลือดหลั่งริน ท้องฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ เหล่ามหาเต๋าดูเหมือนจะพังทลายจากการปะทะครั้งนี้
ราวกับวันสิ้นโลกได้มาถึง!
การชนกันแบบนี้ไม่อาจอธิบายได้ว่าเป็นเพียงความน่ากลัว
แม้จะเป็นสืออวี๋หรือคนอื่นๆ ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์นี้ น่ากลัวยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างทวยเทพเสียอีก!
ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงขณะนี้ จะมีใครสามารถต้านทานพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ได้?
แม้แต่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลก็ยังต้องตาภายใต้เนตรทัณฑ์สวรรค์ และนั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเนตรทัณฑ์สวรรค์นั้นน่ากลัวเพียงใด
แต่ตอนนี้เฉินซีกลับสามารถต้านทานมันได้จริง ๆ และต่อสู้กับมันเหนือสวรรค์ทั้งเก้า ราชันเซียนทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้จะไม่รู้สึกสะเทือนใจได้อย่างไร?
หากให้ไปแทนที่เฉินซี พวกเขาสามารถพูดได้เลยว่าตนไม่อาจทำสิ่งนี้ได้!