บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1363 การตายของสุริยันที่เจิดจ้า
บทที่ 1363 การตายของสุริยันที่เจิดจ้า
สำหรับสืออวี๋และราชันเซียนทั้งหก พวกเขาประหลาดใจเมื่อได้ยินการคุกคามอันเกรี้ยวกราดของจั่วชิวคง แต่ในทางกลับกันพวกเขาก็รู้สึกขบขันยิ่งกว่า
เห็นได้ชัดว่าไอ้สารเลวน้อยคนนี้กำลังหวาดกลัวจนหัวหด!
คนผู้นี้ไม่รู้ว่าเฉินซีไม่ได้เป็นเพียงศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเท่านั้น แต่ยังเป็นศิษย์เขาเทพพยากรณ์ด้วย
แม้ว่าตัวตนของเฉินซีจะถูกเพิกเฉย แต่เมื่อถูกคุกคาม ราชันเซียนทั้งหกจะนิ่งเฉยได้อย่างไร?
อันที่จริงตระกูลจั่วชิวนั้นแข็งแกร่งมาก ในฐานะหนึ่งในเจ็ดตระกูลโบราณที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นกองกำลังโบราณชั้นนำของภพเซียน แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งสักเพียงใด ตระกูลจั่วชิวจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาเทพพยากรณ์ได้อย่างไร? แล้วมันจะน่ากลัวกว่าตำหนักเต๋าหนี่หวาหรือไม่?
สำหรับมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยา และผางตู่ พวกเขาเป็นตัวแทนของกองกำลังซากโบราณสถานแรกกำเนิด แม้ตอนนี้พวกเขาจะเหมือนตัวคนเดียว แต่ถึงอย่างไรก็เป็นราชันเซียน!
แล้วตระกูลจั่วชิวจะสามารถจัดการราชันเซียนทั้งสี่พร้อมกันได้หรือ?
หากราชันเซียนรัตติกาลรู้เรื่องนี้ แล้วนางจะนิ่งเฉยหรือไม่?
แม้ว่าทั้งหมดนี้จะถูกมองข้ามไป แต่เฉินซีก็ครอบครองผลวิญญาณเต๋าถึงสิบเอ็ดลูก หากเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำลายล้างตระกูลจั่วชิวโดยใช้ผลวิญญาณเต๋าเป็นข้อแลกเปลี่ยน เช่นนั้นก็ย่อมได้รับความช่วยเหลือจากราชันเซียนอย่างแน่นอน!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จั่วชิวคงที่ข่มขู่เฉินซีอย่างเดือดดาลจึงดูน่าสมเพชเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีเพียงคนโง่ที่ถูกครอบงำด้วยความโกรธเท่านั้นที่กระทำเรื่องสิ้นคิดเช่นนี้
ดังนั้นแววตาที่พวกเขาจ้องมองจั่วชิวคงจึงเจือแววสมเพช เหมือนกำลังมองดูคนงี่เง่า
การถูกจดจ้องด้วยสายตาเหล่านี้เป็นเหมือนกับกระบี่นับล้านทิ่มแทงหัวใจ และทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของจั่วชิวคงกลายเป็นดุร้ายบิดเบี้ยว
หนึ่งในสุริยันอันเจิดจ้าและเป็นทายาทสายตรงของตระกูลจั่วชิว ไหนเลยจะต้องทนทรมานกับความอัปยศอดสูเช่นนี้?
ไม่เคยเลยสักครั้ง!
นี่คือเหตุผลที่จั่วชิวคงโกรธสุดขีด และสูญเสียการควบคุมตนเอง เพราะหากเป็นยามปกติ ก็คงจะโจมตีด้วยความโกรธและฆ่าทุกคนที่กล้าเยาะเย้ยเขา
แต่น่าเสียดายที่เขากำลังเผชิญหน้ากับราชันเซียนทั้งหก!
จึงทำได้เพียงกัดฟันอดกลั้น แม้จะต้องเสียใจและอับอายสุดขั้วหัวใจ
ไอ้สารเลว! ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าคงจะสับไอ้เด็กนี่เป็นพัน ๆ ชิ้น จากนั้นเผากระดูกของมัน โปรยขี้เถาทิ้งตั้งแต่ในภพมนุษย์ไปตั้งนานแล้ว! ถ้าข้าทำเช่นนั้นตั้งแต่แรก วันนี้ก็คงไม่ต้องทนทุกข์กับความอัปยศเช่นนี้!
จั่วชิวคงคำรามอยู่ในใจขณะจ้องเฉินซีเขม็ง แววตาทอประกายวาวโรจน์
จั่วชิวหลิงหงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความสิ้นหวังปรากฏบนใบหน้าเลือนราง
เขามีชีวิตอยู่มาเนิ่นนานจนไม่อาจนับ ดังนั้นจะไม่สามารถแยกแยะได้อย่างไรว่าเฉินซีนั้นได้ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ และไม่ใช่แค่การบ่มเพาะ แต่รวมถึงความสัมพันธ์ที่ชายหนุ่มมีก็เพียงพอที่จะคุกคาม
ตระกูลจั่วชิวอย่างใหญ่หลวง
น่าเสียดาย!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เป็นเพราะจั่วชิวเสวี่ย ข้าจึงไว้ชีวิตเจ้าเด็กนี่ และพลาดโอกาสกำจัดปัญหาไปแล้ว…
ความคิดเหล่านี้แวบขึ้นมาในใจของจั่วชิวหลิงหง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ
…
“คงเอ๋อร์ ลุงของเจ้ายังไม่บรรลุเต๋าและกลายเป็นเทพ ดังนั้นข้าคงต้องผิดต่อเจ้าแล้ว…” ทันใดนั้น เสียงของจั่วชิวหลิงหงก็ดังขึ้นในหูของจั่วชิวคง สิ่งนี้ทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อย ความโกรธแค้นและความเกลียดชังพวยพุ่ง จากนั้นหัวใจก็กระตูกวูบ เมื่อมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแล่นเข้าสู่หัวใจ
“ท่านลุง ท่าน…” กล่าวยังไม่ทันจบ จู่ ๆ จั่วชิวหลิงหงพลันกู่ร้องยาวออกมา จากนั้นร่างของจั่วชิวหลิงหงก็วูบไหว และพุ่งเข้าหาเฉินซีที่ยืนอยู่ในระยะไกล
ครืน!
แสงอันศักดิ์สิทธิ์ปะทุออกมาจากร่างของจั่วชิวหลิงหง ฝ่ามือที่ปกคลุมด้วยกฎแห่งราชันเซียนอันน่าสะพรึงกลัว ทันทีที่เขาโจมตี พื้นที่ใกล้เคียงก็สั่นสะเทือนจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ และตกอยู่ในความปั่นป่วนยุ่งเหยิง ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบมืดมัว พลังฝ่ามือนี้น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง
การต่อสู้ปะทุขึ้นทันที!
ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกใด ๆ เพราะเขาได้คาดการณ์สิ่งนี้ไว้แล้ว
“ฮึ่ม!” สืออวี๋เตรียมพร้อมมานานแล้ว จิตสังหารลุกโชนในดวงตา จากนั้นก็เหยียดแขนขวาออกไป และกางนิ้วทั้งห้าออกเป็นฝ่ามือที่ดูราวกับจะบดขยี้ท้องฟ้า ซึ่งทุก ๆ นิ้วก็ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นของมิติที่ทับซ้อนกัน และทุก ๆ ชั้นก็มีโลกที่กำลังก่อตัวขึ้น มันคือมหาเต๋าของมิติและเวลา!
ปัง!
การโจมตีปะทะกันเหมือนภูเขาศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนถาโถมลงมา พื้นดินสั่นสะเทือน ท้องฟ้ามืดมัว จากนั้นรอยแยกและหลุมดำที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏในระยะสองแสนห้าหมื่นลี้
ฟิ่ว!
ทว่าหลังจากจั่วชิวหลิงหงทำการโจมตีนี้ เขาก็ล่าถอยกลับอย่างรุนแรง จากนั้นก็เงื้อมือขึ้นเพื่อฉีกมิติออกจากกัน และเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติหนีไปอย่างเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด โดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ
ถึงขนาดทิ้งจั่วชิวคงไว้ด้วยซ้ำ!
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ประสบการณ์การต่อสู้ของจั่วชิวหลิงหงนั้นโชกโชนเพียงใดในฐานะราชันเซียน เขาโจมตีเฉินซีอย่างสิ้นหวัง แต่แท้จริงแล้วก็เพื่อเปิดจังหวะให้ตัวเองหนีไปได้เท่านั้น
ยิ่งกว่านั้น เพื่อรักษาชีวิตของตน เขายังทิ้งจั่วชิวคงซึ่งเป็นทายาทสายตรงของตระกูลจั่วชิวไว้เบื้องหลัง!
สีหน้าของจั่วชิวคงซีดลงถนัดตา
เฉินซีก็ตกตะลึงเช่นกัน
มีเพียงสืออวี๋และเซียงหลิวหลีเท่านั้นที่คาดการณ์ไว้แล้ว ในทันทีที่จั่วชิวหลิงหงหนีไป ทั้งสองก็รีบแยกย้ายออกไปตามล่า!
ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!
ในชั่วพริบตา ราชันเซียนทั้งสองทำการเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติและหายไป
แม้แต่เฉินซีก็ไม่สามารถตอบสนองต่อความเร็วนี้ได้ เมื่อหายจากอาการตกใจ สืออวี๋ เซียงหลิวหลี และจั่วชิวหลิงหงก็หายตัวไปจากจุดนั้นแล้ว
นี่เป็นเรื่องปกติมาก การเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติของราชันเซียนเพียงครั้งเดียวก็สามารถท่องไปทั่วทวีปได้ ดังนั้นการไล่ล่าและการต่อสู้ระหว่างราชันเซียน จึงเหนือจินตนาการของเฉินซีไปไกล
สีหน้าของจั่วชิวคงไม่น่าดูอย่างยิ่ง ดูเหมือนกำลังหวาดกลัวจนหัวหด และยืนตัวแข็งอยู่ที่นั่น ในขณะที่จิตใจสับสนวุ่นวาย
นี่ข้า… ถูก… ถูกท่านลุงทอดทิ้งจริง ๆ หรือ?
ความรู้สึกที่ถูกญาติสนิททรยศและทอดทิ้ง ทำให้จั่วชิวคงแทบเป็นบ้า!
ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ เขาได้ประสบกับความอัปยศเป็นครั้งแรกในชีวิต และตอนนี้ยังถูกญาติทรยศเป็นครั้งแรก
ผลกระทบที่รุนแรงสองครั้งติดกัน ทำให้จิตใจของเขาแทบแตกสลาย
ทำไมเรื่องเช่นนี้ถึงเกิดขึ้น?
ทำไม
ทำไม!
เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งในใจเหมือนคนบ้า อีกทั้งยังโกรธแค้น เกลียดชัง ไม่พอใจ หวาดกลัว… ความรู้สึกที่ซับซ้อนทั้งหมดนี้ปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟ ซึ่งกระทบต่อจิตใจและความคิดอย่างรุนแรง
ใบหน้าบิดเบี้ยวเปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง ในขณะที่ดวงตาก็แทบจะถลนออกมาด้วยความโกรธ ทั้งร่างกายยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่รุนแรงและคลุ้มคลั่ง
หากเป็นคนที่ไม่รู้ทราบข้อเท็จจริง ก็คงจะรู้สึกเห็นใจจั่วชิวคงไม่น้อย แต่ไม่ใช่กับเฉินซี มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์และคนอื่น ๆ
“เฉินซี! ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า! ไอ้สารเลว! ไอ้เศษสวะ! ข้าจะฆ่าเจ้า!” จั่วชิวคงรู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง และตระหนักดีว่าไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดในวันนี้ จิตใจของเขาแตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ เขาคำรามอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งเข้าหาเฉินซี!
มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์แค่นเสียงเย็น และตั้งใจที่จะลงมือ แต่เฉินซีหยุดเขาไว้ “ให้ข้าจัดการเถอะ”
พูดจบเฉินซีก็ทะยานไปในอากาศ มือของชายหนุ่มเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว เงื้อขึ้นตบหน้าจั่วชิวคงจัง ๆ
พรูด!
จั่วชิวคงมาถึงอย่างรวดเร็วและจากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาถูกตบจนกระเด็น เลือดสด ๆ ไหลรินออกมาจากปากพร้อมกับฟันบางส่วน
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะแม้จั่วชิวคงจะเป็นหนึ่งในเจ็ดสุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียน แต่การบ่มเพาะยังอยู่ที่ขอบเขตเซียนทองคำเท่านั้น ในขณะที่เฉินซีนั่นอยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์!
“นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน? เศษสวะจากภพมนุษย์อย่างเจ้า จะเหนือกว่าข้าได้อย่างไรกัน!?” เห็นได้ชัดว่าจั่วชิวคงถูกความโกรธครอบงำจนสูญเสียเหตุผลไปโดยสิ้นเชิง การโจมตีของเฉินซีไม่เพียงไม่สามารถเตือนสติเขาได้เท่านั้น แต่ยังทำให้คนบ้าคลั่งมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงพุ่งเข้าหาเฉินซีอีกครั้ง
ภาพตรงหน้าทำให้มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ และคนอื่น ๆ มองเขาด้วยความสมเพช
ปัง!
จั่วชิวคงถูกซัดจนกระเด็นอีกครั้ง กระดูกแตกหักจนนับไม่ถ้วน ทั้งยังโชกไปด้วยเลือด และอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง ซึ่งดูเลวร้ายยิ่งกว่าขอทานบนท้องถนนเสียอีก
ในขณะนี้ หากมีคนจากตระกูลจั่วชิวอยู่ที่นี่ ก็อาจจำหน้าทายาทของผู้นำตระกูลคนนี้ไม่ได้เลย
“ข้าจะฆ่าเจ้า ฆ่าเจ้า!!!” จั่วชิวคงพุ่งเข้ามาอีกครั้ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ความเกลียดชังที่มีต่อเฉินซีนั้นมากเพียงใด
ปัง!
เฉินซีโบกมืออย่างสบาย ๆ และซัดจั่วชิวคงจนกระเด็นอีกครั้ง การโจมตีครั้งนี้ทำให้กลิ่นอายของจั่วชิวคงตกอยู่ในความปั่นป่วน ร่างกระแทกลงบนถนนในเมืองคนบาป ทำให้ฝุ่นผงฟุ้งกระจายไปในอากาศ
คราวนี้จั่วชิวคงไม่สามารถยืนขึ้นได้อีก ใบหน้าบวมช้ำ ผิวปริแตก ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด บาดเจ็บสาหัสคล้ายจะสิ้นใจในทุกขณะ
ร่างของเฉินซีวูบไหวและยืนอยู่ตรงหน้าจั่วชิวคง เขามองร่างบนพื้นด้วยสีหน้าสงบและไม่แยแส เหมือนกำลังมองดูซากศพคนตาย
ในตอนนี้ เฉินซีหวนนึกถึงปู่ของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว นึกถึงคนในตระกูลเฉินที่ถูกสังหารจนสิ้น และนึกถึงบิดามารดาที่หายตัวไปหลายปี…
ความโกรธแค้นที่อัดแน่นอยู่ในใจ แฝงไปด้วยความโศกเศร้าอย่างไร้ขอบเขต!
“ฮ่า ฮ่า… ฮ่า ฮ่า… ข้าเสียใจจริง ๆ… ทำไมตอนนั้นข้าถึงไม่… ฆ่าเจ้าไปซะ!?” จั่วชิวคงจ้องมองเฉินซีด้วยสายตาคับแค้น และหอบหายใจรวยริน “น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว มันสายเกินไป…”
เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี่ ทันใดนั้นเปลวไฟอันโหดเหี้ยมก็ลุกโชนอยู่ในดวงตาแดงก่ำ และคำรามอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธ “เฉินซี ข้าขอสาปแช่งเจ้า อย่าได้ตายดี!”
ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง ก่อนที่เขาจะทันได้ขยับ ทันใดนั้นเกลียวคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็เกิดขึ้นจากร่างกายของจั่วชิวคง ตัวคนคล้ายกลายเป็นภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ
ไม่ได้การ!
ร่างของเฉินซีวูบไหว และเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติโดยสัญชาตญาณ
ตูม!
เสียงระเบิดอันน่าตกตะลึงดังขึ้น พลังระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากร่างของจั่วชิวคง พุ่งขึ้นไปบนฟ้า กลุ่มควันก่อตัวเป็นรูปเห็ดขนาดมหึมา มันสั่นสะเทือนเมฆและลมที่อยู่รอบ ๆ ไม่ว่าจะอาคาร ถนน พื้นที่ใกล้เคียง… ทุกอย่างล้วนแตกสลายเป็นผุยผง!
จั่วชิวคง หนึ่งในเจ็ดสุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียน และทายาทสายตรงของตระกูลจั่วชิว ได้เลือกที่จะปลิดชีพตัวเอง!
ใบหน้าของเฉินซีพลันมืดมน
เดิมทีเฉินซีตั้งใจจะใช้ชีวิตของจั่วชิวคง เพื่อพาจั่วชิวเสวี่ยแม่ของตนกลับมา แต่คาดไม่ถึงเลยว่า จั่วชิวคงจะยอมระเบิดพลีชีพดีกว่ายอมให้ตนเองถูกจับเป็นเครื่องต่อรอง
ฟิ่ว!
คลื่นพลังผันผวนเกิดขึ้นในอวกาศ พร้อมกับร่างของสืออวี๋และเซียงหลิวหลีที่เดินออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น สืออวี๋ยังถือหัวอยู่ในมือ น่าตกใจที่มันคือหัวของจั่วชิวหลิงหง!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ราชันเซียนแห่งตระกูลจั่วชิว จั่วชิวหลิงหงได้ถูกส่งลงนรกไปแล้ว! หากข่าวนี้ไปถึงหูของตระกูลจั่วชิว มันก็จะทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่อย่างแน่นอน