บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1595 หนอนดาวเรืองแสง
บทที่ 1595 หนอนดาวเรืองแสง
กลุ่มคนประมาณสิบกว่าคน พวกเขามาถึงที่นี่ภายใต้การนำของชายชราที่ดูเหมือนปราชญ์ในชุดคลุมสีเหลืองอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเขาเห็นซากปรักหักพังที่เกิดจากการต่อสู้ในรัศมีกว่าแสนลี้ สีหน้าพลันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและจริงจัง
“มีเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเท่านั้น ที่สามารถสร้างพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้!” ชายชราที่เป็นผู้นำกล่าวอย่างเคร่งเครียด
“อาจารย์ลุง ไม่ใช่ท่านบอกว่ามหาเทวาวิญญาณจะกำเนิดขึ้นมาวันนี้หรอกหรือ? ทำไมมันถึงไปเกี่ยวข้องกับขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลได้ล่ะ?” คนอื่น ๆ ต่างสับสนอย่างมาก
ชายชราเสื้อคลุมเหลืองชะงัก จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและหัวเราะอย่างขมขื่น “ข้าจะไปสรุปเรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไรกัน? ทว่าจากร่องรอยที่เหลืออยู่ในสนามรบนี้ ย่อมต้องเป็นขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมหาเทวาวิญญาณที่เพิ่งกำเนิดอย่างไร ข้าเองก็ไม่อาจระบุได้”
ทุกคนล้วนขมวดคิ้ว พวกเขาเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลก
“มาเถิด เราไปรายงานทุกสิ่งที่เห็นให้นิกายทราบ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลหรือมหาเทวาวิญญาณ ทั้งสองต่างก็เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เราจะเข้าไปแทรกแซงได้ทั้งนั้น” ชายชราเสื้อคลุมเหลืองหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจ
สิ้นคำ มิติก็ผันผวน จากนั้นชายชราเสื้อคลุมเหลืองก็พาทุกคนจากไปในทันที
โดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่า มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ และเดินตามหลังพวกเขามาด้วย
…
ในเวลาเดียวกัน
เอกภพจักรวรรดิ
ที่ด้านหน้าของแท่นบูชาโบราณที่เต็มไปด้วยปราณโกลาหล บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในยุคบรรพกาลจำนวนมากนั่งขัดสมาธิอยู่ แต่ละคนต่างครองรัศมีที่เลือนราง ลึกลับ และนิ่งสงบ ราวกับประติมากรรมที่ตั้งตระหง่านอยู่ชั่วนิรันดร์ แม้ผ่านช่วงเวลามานับไม่ถ้วน รัศมีศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นไม่อาจอธิบายได้
เหนือแท่นบูชาโบราณที่เต็มไปด้วยความโกลาหลนั้น ราวกับว่าหนทางแห่งสวรรค์ได้เปิดออก เป็นเส้นทางที่แยกความสับสนวุ่นวายออกจากกัน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคบรรพกาล แผนภูมิที่ดูงดงาม พร่างพราว ยิ่งใหญ่ และอลังการลอยอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนั้น
เทียบอันดับเทวา!
หากเฉินซีอยู่ที่นี่ เขาคงจะสามารถจดจำแผนภูมินี้ได้ในทันที มันปรากฏอยู่บนท้องฟ้าที่สับสนวุ่นวาย ผิวของมันถูกสลักด้วยถ้วยคำโบราณที่มีกลิ่นอายธรรมชาติของเต๋าแฝงไว้
ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าก็กระจายไปทั่วเทียบอันดับเทวาที่นิ่งสงบ และในตำแหน่งที่เก้าสิบเก้าของ เทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณก็ปรากฏชื่อขึ้น
แต่เพียงชั่วพริบตาชื่อนั้นก็หายไป ราวกับว่ามีใครบางคนตัดมันออกจากแผนภูมิด้วยใบมีด
โอม!
หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เทียบอันดับเทวาที่เดิมลอยอยู่อย่างเงียบ ๆ ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และปลดปล่อยรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งออกมา
“หืม?”
“นี่คือ?”
“ผ่านมาตั้งนานหลายปี ทำไมจู่ ๆ เทียบอันดับเทวาถึงได้มีท่าทีผิดปกติไป?” ทันใดนั้น ร่างที่นั่งนิ่งขัดสมาธิอยู่หน้าแท่นบูชาโบราณก็ตื่นตระหนก และลืมตาขึ้น
ทันทีที่ดวงตาเหล่านั้นเปิด โลกทั้งใบก็สว่างไสว ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ตกอยู่ในสภาวะสั่นเทา ราวกับว่าผู้ปกครองสวรรค์และโลกจำนวนมากได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล!
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และเฝ้าดูเทียบอันดับเทวาที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
แต่ร่างทั้งหมดที่เป็นราวผู้ปกครองแห่งสวรรค์และโลกนั้นล้วนเป็นตัวตนพิเศษ พวกเขาคุ้นเคยกับพายุการเปลี่ยนแปลงดี และยังมีประสบการณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ มานับไม่ถ้วน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตา
“เมื่อมันมีท่าทีที่ผิดปกติเช่นนี้ ก็คงหมายความว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” เสียงที่หนักแน่นเหมือนระฆังดังก้อง
“หรือจะมีสมบัติลับปรากฏขึ้นในเอกภพจักรวรรดิ และถูกเทียบอันดับเทวาตรวจพบเข้า?”
“เป็นไปไม่ได้ หากมีสมบัติลับแห่งยุคปรากฏขึ้นจริง การเคลื่อนไหวของเทียบอันดับเทวาคงไม่เรียบง่ายเช่นนี้ จากการคาดเดาของข้า มันเป็นเพราะการปรากฏตัวของตัวตนที่ทรงพลังเกินกว่า พลังของบัญชาเต๋าสวรรค์ในแดนเทพเป็นแน่”
“ช่างยากเกินจะกล่าวจริง ๆ ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ออกคำสั่งให้ส่งคนไปตรวจสอบเสีย และไม่ใช่แค่เอกภพจักรวรรดิเท่านั้น เอกภพอื่น ๆ เองก็จำเป็นต้องตรวจสอบเช่นกัน เพื่อที่เราจะได้สามารถยืนยันได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจใดเกิดขึ้นหรือไม่”
“นั่นก็ดีเหมือนกัน ถ้าเช่นนั้นปล่อยให้เหล่าศิษย์ของนิกายอำนาจเทวะจัดการกับเรื่องนี้เถิด”
“นิกายอำนาจเทวะ?”
“มีปัญหาอะไรหรือ?”
“ช่างมันเถอะ ให้พวกเขาทำ”
บุคคลเหล่านี้สื่อสารกันผ่านกระแสปราณและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็หลับตาลงทีละคน กลับสู่สภาพที่ดูเงียบงันราวกับประติมากรรม
การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ ยังไม่มากเพียงพอที่จะทำให้เกิดทำให้เกิดความวุ่นวายในจิตใจของพวกเขา
…
ในเวลาเดียวกัน บนดาวดวงหนึ่งของดาราจักรกานซู่ ภายในเอกภพจักรวรรดิ
จู่ ๆ พื้นดินก็แตกกระจายออก ก่อนที่ชายร่างสูงจะกระโดดออกมาจากด้านใต้ ผมยาวหนาแผ่สยายคลุมไหล่ ดวงตาราวกับสายฟ้า ส่งรัศมีดุร้ายและเป็นเอกเทศ
“แปลก ทำไมชื่อของข้าที่หายไปจากเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณ ถึงกลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง? ไม่ผิดปกติไปหน่อยหรือนั่น…” ชายคนนั้นเกาหัวและรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ในทะเลแห่งจิตสำนึก มีแผนภูมิที่งดงามและตื่นตาตื่นใจลอยอยู่ที่นั่น และมีคำว่า ‘เฉินซวน อันดับที่เก้าสิบเก้า’ เขียนไว้อย่างชัดเจน
“หรือว่า มีใครบางคนสามารถขัดขวางการตัดสินของเทียบอันดับเทวาได้?” ชายที่มีแซ่เดียวกันกับเฉินซียืนนิ่งและจมดิ่งสู่ภวังค์
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ส่ายหัว จากนั้นก็กลับลงไปใต้พื้นพร้อมกับเสียงดังลั่น
…
เฉินซีไม่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ยามนี้เขาติดตามหลังกลุ่มชายชราชุดเหลือง เดินทางผ่านมิติและอวกาศโดยไม่หยุดพัก
ตลอดทาง ด้วยความช่วยเหลือจากอักขระผนึกเต๋า เฉินซีจึงฟังการสนทนาของอีกฝ่ายได้ทุกรายละเอียด และค้นพบภูมิหลังของคนกลุ่มนี้ในที่สุด
ชายชราเสื้อคลุมสีเหลืองผู้นี้มีนามว่า หยานฉีซิง มาจากกลุ่มอำนาจที่เรียกว่า นิกายกลยุทธ์ ชายหญิงทุกคนที่อยู่ข้างเขาล้วนเป็นศิษย์ของนิกายกลยุทธ์
นิกายกลยุทธ์ตั้งอยู่บนดาวประกายก่อกำเนิดในดาราจักรผาขจี และได้รับการพิจารณาว่าเป็นนิกายอันดับหนึ่งของดาราจักรนี้ โดยมีชื่อเสียงเป็นเพียงรองจากนิกายอันดับหนึ่ง อย่างนิกายศักดิ์สิทธิ์ทุคตินีลโลหิตที่ใหญ่ที่สุดเท่านั้น
หลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว มันก็ทำให้หัวใจของเฉินซีรู้สึกสั่นไหว ตอนนี้มู่โถวกับไจ่จือยังคงอยู่ในสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่เขาถือติดตัวมาด้วย และสัญญาว่าจะช่วยทั้งสองหาอาจารย์ และโอกาสเรียนรู้ฝึกฝน ตอนนี้เขาสามารถส่งทั้งสองเข้าสู่นิกายกลยุทธ์เพื่อหาลู่ทางฝึกฝนได้แล้ว
สำหรับนิกายศักดิ์สิทธิ์ทุคตินีลโลหิตนั้น เฉินซีไม่ได้เก็บมาพิจารณาอีกต่อไป เพราะพวกเขาได้ช่วยเหลือเยี่ยเหยียนไล่ล่าตนมานาน ดังนั้นมันย่อมเป็นการดีกว่าที่จะไม่ข้องเกี่ยวกับคนเหล่านี้
ประกอบกับความจริงที่ว่า เฉินซีเคยสังหารจูต่งถิง หลานชายของผู้เฒ่าจูกังซาน ผู้อาวุโสแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์ทุคตินีลโลหิต และผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ โม่ลี่โฉว
หากเฉินซีส่งมู่โถวกับไจ่จือไปฝึกฝนในนิกายศักดิ์สิทธิ์ทุคตินีลโลหิตจริง ๆ เขาก็คงจะอดกังวลไม่ได้ว่า หากนิกายนั้นสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างตนกับทั้งสอง ผลที่ตามมาย่อมไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสองคนจะทนได้อย่างแน่นอน
“ดูเหมือนว่าการส่งมู่โถวกับไจ่จือไปยังนิกายกลยุทธ์ก็นับเป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก เมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้น ก็คงชดเชยความผิดที่มีอยู่ในใจข้าได้”
เฉินซีครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจติดตามกลุ่มชายชราชุดเหลืองกลับไปที่นิกายกลยุทธ์ จากนั้นค่อยมองหาโอกาสที่จะส่งมู่โถวกับไจ่จือเข้าไปข้างในอย่างปลอดภัย
“ไม่ดีแล้ว! มันคือฝูงหนอนดาวเรืองแสง ทุกคนระวัง!”
เสียงตะโกนที่เคร่งเครียดของหยานฉีซิงดังก้องขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เฉินซีตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิดของตนในทันที
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองไปในระยะไกล และก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หนอนดาวเรืองแสง?
…
กี๊ซ!
เสียงหึ่ง ๆ เจาะทะลุหูดังทั่วท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว พร้อมกันนั้น เงากลุ่มใหญ่ราวกับแสงหลากสีที่ไหลบ่าเข้ามาจากความว่างเปล่าที่ห่างออกไปไกลราวกับกระแสน้ำ
หากมองจากที่ไกล ๆ มันก็ดูราวกับหมอกหลากสี แต่ถ้าได้ลองมองดี ๆ จะสังเกตได้ว่ามันไม่ใช่หมอก แต่เป็นฝูงแมลง!
หนอนเหล่านี้มีขนาดเพียงนิ้วหัวแม่มือเท่านั้น ลำตัวมีสีสันสดใสหลากสี บนหลังมีปีกคู่หนึ่งที่แหลมคม ในขณะที่ดวงตาสีแดงสดราวกับเลือด เขี้ยวที่ยื่นออกมาจากปาก ยิ่งทำให้พวกมันดูดุร้ายมากขึ้น
โครม!
ทุกที่ที่พวกมันผ่านไป ดาวดวงแล้วดวงเล่าเป็นเหมือนผลไม้ที่ถูกแทะ และเต็มไปด้วยรูพรุนทันที ก่อนที่มันจะส่งเสียงดังกึกก้องและแตกออกเป็นชิ้น ๆ
ช่างน่ากลัวยิ่ง ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่มาก แม้แต่การโจมตีเต็มกำลังของเทวารู้แจ้งโลกาทั่วไป ก็ไม่สามารถทำลายดาวดวงหนึ่งได้ในคราวเดียวเช่นนี้ นี้จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฝูงหนอนเหล่านี้น่ากลัวเพียงใด
สิ่งมีชึวิตเหล่านี้คือ หนอนดาวเรืองแสง พวกมันแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และอาศัยอยู่โดยการกลืนกินดาวเคราะห์ แม้ว่าพวกมันจะมีขนาดเล็ก แต่พลังทำลายล้างกลับน่าทึ่งอย่างยิ่ง นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้การจัดการหนอนดาวเรืองแสงยากเป็นพิเศษคือความสามารถในการต้านทานน้ำและไฟ และพลังชีวิตของมันก็อึดมาก เว้นเสียแต่ว่าจะสามารถทำลายวิญญาณของพวกมันได้ ไม่เช่นนั้น มันก็ยากมากที่จะจบทุกสิ่ง ด้วยการทำลายแค่ร่างกายเพียงอย่างเดียว
แน่นอนว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับหนอนเหล่านี้ก็คือ พวกมันเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใหญ่ ทันทีที่พวกมันปรากฏตัว มันจะเป็นราวกับคลื่นแมลงมืดมิดดุจกองทัพตั๊กแตนที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง
ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นฝูงหนอนหลากสีที่ส่งเสียงหวีดร้อง กลุ่มชายชราชุดเหลืองก็หยุดอยู่กับที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก
การปรากฏตัวของหนอนดาวเรืองแสงนั้น แม้แต่ระดับเทวารู้แจ้งวิญญาณเองก็ยังรู้สึกว่ามันยากที่จะรับมือ และหยานฉีซิงเป็นเทวารู้แจ้งวิญญาณเพียงคนเดียวในกลุ่ม ส่วนคนอื่น ๆ นั้นเป็นเพียงเทวารู้แจ้งโลกาเท่านั้น หากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับฝูงหนอนเหล่านั้น ผลลัพธ์ที่ตามมาจะร้ายแรงเพียงใดก็คงเดาได้ไม่ยาก
“ตัวบัดซบพวกนั้นเห็นพวกเราแล้ว เราไม่สามารถเดินหน้าไปต่อได้อีกแล้ว!” หยานฉีซิงกัดฟันและโบกมือ “ล่าถอย!”
คนทั้งกลุ่มต่างหวาดกลัวจนตื่นตระหนก พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะเห็นด้วยทันทีที่ได้ยินคำสั่งนี้
กี๊ซ!
ทว่าเมื่อพวกเขาหันหลังกลับและตั้งใจจะหนี ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้านหลังก็เกิดมิติผันผวนขึ้น จากนั้นหนอนดาวเรืองแสงฝูงใหญ่ก็พุ่งออกมาจากที่นั่น!
ล้อมโจมตีทั้งหน้าและหลัง!
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ การแสดงออกของหยานฉีซิงก็เปลี่ยนไป ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า พวกเขานั้นได้ตกหลุมพรางที่หนอนดาวเรืองแสงเตรียมไว้นานแล้ว!
ทันใดนั้น สีหน้าของทั้งหมดพลันมืดลง พวกเขาทั้งตกใจ หวาดกลัว และโกรธแค้นอย่างยิ่ง ใบหน้าถึงกับซีดเผือดด้วยความกลัวและตื่นตระหนก
ภายใต้การล้อมเช่นนี้ พวกเขาจะหลบหนีด้วยกำลังของตัวเองได้อย่างไร?
วันนี้พวกเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ?
อย่างไรก็ตาม ในยามนี้ไม่มีเวลาเหลือให้พวกเขาได้คิดมากนัก เพราะฝูงหนอนดาวเรืองแสงเริ่มพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทางแล้ว!
“เหล่าศิษย์จงฟังคำสั่ง! ตามข้ามา! แม้ว่าข้าจะต้องเสี่ยงชีวิต ข้าก็จะสังหารเปิดทางให้พวกเจ้า!” หยานฉีซิงดึงหอกสีดำออกมา ในขณะที่เขาตะโกนเสียงดังด้วยสีหน้าเด็ดขาด
“อาจารย์ลุง!” เหล่าศิษย์คนอื่น ๆ รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก พวกเขาเต็มไปด้วยความฮึดสู้ ความหวาดกลัวในใจถูกกวาดล้างไปสิ้น ศิษย์เทวารู้แจ้งโลกาโห่ร้องออกมาด้วยความตั้งใจที่จะสู้และตายไปพร้อมกับหยานฉีซิง
“ฆ่า!” เมื่อเห็นสิ่งนี้หยานฉีซิงก็เต็มไปด้วยความฮึกเหิม ชายชราคำรามเสียงดังก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฝูงหนอน
ฟุ่บ!
ทว่า ในทันทีที่เขาลงมือ แสงที่เยือกเย็นราวกับแสงดาวก็ส่องสว่างขึ้นคั้นระหว่างท้องฟ้าและพื้นโลก กลายร่างเป็นตาข่ายหมอกขนาดใหญ่ พุ่งลงไปยังฝูงหนอนดาวเรืองแสง ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ปลดปล่อยการโจมตีออกมา…
…………….